พี่น้องที่รัก
"นี่คือกายของเรา......
นี่คือโลหิตของเรา" นี่คือถ้อยคำที่พระเยซูเจ้าตรัสขณะทานเลี้ยงอาหารค่ำครั้งสุดท้ายกับบรรดาศิษย์ของพระองค์
และ เรานำมากล่าวทุกครั้งในเฉลิมฉลองพิธีบูชาขอบพระคุณ ในพระวรสารของนักบุญมาร์โกได้บันทึกข้อความนี้ไว้อย่างสวยงามในบันทึกเรื่องการจัดงานเลี้ยงปัสกาของบรรดาศิษย์ของพระเยซู
และนี่แหละคือมรดกที่ยิ่งใหญ่ที่พระเยซูเจ้าประทานให้กับเรา
เพื่อพระศาสนจักรจะนำมารื้อฟื้นให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ
โดยเฉพาะในวันนี้ซึ่งเป็นวันสมโภชพระกายและพระโลหิตของพระเยซูคริสตเจ้า
พี่น้องที่รักวันนี้เราจัดงานฉลองศีลมหาสนิท
ซึ่งได้แก่พระกายและพระโลหิตของพระเยซูเจ้านั้นอย่างยิ่งใหญ่ประจำปีของเรา
วันนี้เรามีโอกาสได้แสดงออกภายนอกอย่างเป็นทางการ
เพื่อถวายเกียรติและถวายคารวะองค์พระเยซูเจ้าที่ประทับอยู่ในศีลมหาสนิท
ประเพณีในการแห่ศีลมหาสนิท
และถวายความเคารพต่อศีลมหาสนิทนี้เป็นประเพณีที่มีคุณค่าและงดงามยิ่ง
เพราะการแห่แหนเป็นการแสดงออกที่ชัดเจนที่สุดถึงความเชื่อศรัทธา ความเคารพยกย่อง
ที่เรามีต่อองค์พระเยซูเจ้า
การถวายคารวะต่อศีลมหาสนิทนี้
เราแสดงออกภายนอกด้วยการคุกเข่าลง ถวายเกียรติแด่ศีลมหาสนิท
ซึ่งเท่ากับเราถวายเกียรติแด่องค์พระเยซูเจ้าพระองค์เอง
เพราะพระองค์เสด็จมาประทับอยู่ท่ามกลางชาวเรา
เราจึงสมควรที่จะแสดงการให้เกียรติยกย่องพระองค์ด้วย การย่อเข่าลง
กราบนมัสการพระองค์ โดยไม่เห็นแก่ความยากลำบาก ความร้อนกายอันเนื่องมาจากอุณหภูมิของสภาวะอากาศ
รวมไปถึงการไม่มีอาการรังเกียจรังงอนที่จะคุกเข่าลงบนพื้นถนน
เพราะพระเยซูทรงเกียรติและเราคริสตชนให้ความสำคัญสูงสุดกับพระองค์จริงๆ
ยิ่งเราย่อเข่าลงติดพื้นเท่าใด เราก้มศีรษะโค้งคำนับพระองค์มากเท่าใด
เราก็ถวายเกียรติ และยกพระองค์ให้สูงขึ้นเท่านั้น
"เราจะประทับอยู่กับท่านเสมอไป
ตราบจนสิ้นพิภพ" พระเยซูเคยตรัสเอาไว้
กับบรรดาศิษย์เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับศิษย์ทุกคนว่าพระองค์จะไม่ทอดทิ้งศิษย์ของพระองค์ไปไหนเสีย
หนทางหนึ่งของพระเยซูที่ประทับอยู่กับเราคริสตชนก็คือ พระองค์อยู่กับเราในศีลมหาสนิท
คำมั่นสัญญานี้เป็นจริงเสมอ ทุกครั้งที่พระสงฆ์ประกอบพิธีบูชาขอบพระคุณ และ
เสกศีลมหาสนิทบนพระแท่นบูชา ก็หมายถึงพระเยซูอยู่กับเราเสมอไป
ขอให้การแห่ศีลมหาสนิทในวันนี้
เป็นโอกาสที่พระเจ้าจะทรงเพิ่มพูนความเชื่อที่มั่นคงในจิตใจของเราทุกคนให้มากขึ้น
และ ความเชื่อศรัทธาต่อศีลมหาสนิทนี้แหละเป็นเครื่องบ่งชี้สถานะความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระเจ้าว่า
เรารักและผูกพันกับพระองค์มากเท่าใด ขอให้ทุกครั้งที่เราเข้าไปรับศีลมหาสนิทนั้น
เป็นโอกาสที่เราจะแสดงออกถึงความรักความซาบซึ้งที่เรามีต่อคำมั่นสัญญายิ่งใหญ่ที่พระเยซูเจ้าทรงประทานให้กับเรา
เสมอไปครับ
พ่อสุพจน์
................................................................................................................................
พี่น้องที่รัก
วันนี้ในอดีต เราฉลอง
“วันฉลองพระคริสตกายา” ซึ่งโดยปกติจะต้องอยู่ภายหลังจากที่เราฉลองสมโภชพระตรีเอกภาพ
และที่เราจำได้เสมอคือ ในทุกๆ วันฉลองพระคริสตวรกาย
หรือการฉลองพระกายและพระโลหิตของพระคริสตเจ้านี้ เป็นวันที่เราจะตื่นเต้นกับการเตรียมเด็กๆ
เพื่อฝึกให้เขาโปรยดอกไม้ พวกเขาจะแต่งชุดสีขาว ถือกระเช้าดอกไม้
และขณะแห่ศีลมหาสนิทหลังบูชามิสซา เด็กๆ
จะโปรยดอกไม้ลาดทางพระดำเนินของพระคริสตเจ้าที่ปรากฏในรูปศีลมหาสนิท
ซึ่งเป็นการแสดงออกซึ่งความเคารพต่อพระกายของพระคริสตเจ้าอย่างสูงสุด
โดยปกติเราเรียกกันติดปากว่า
“วันนี้เป็นวันโปรยดอกไม้” แน่นอนที่สุดวันนี้เป็นวันสมโภชความเชื่ออันสูงสุดประการหนึ่งของเราคริสตชน
ความเชื่อในองค์พระเยซูเจ้า
ความเชื่อในการประทับอยู่ของพระองค์อย่างใกล้ชิดกับเรามนุษย์
ในแผ่นปังและในน้ำองุ่นที่เปลี่ยนเป็นพระกายและพระโลหิตของพระคริสตเจ้า
เราคริสตชนมีความเคารพอย่างสูงสุดต่อพระกายของพระคริสตเจ้า
ต่อการประทับอยู่ของพระองค์ในศีลมหาสนิท บทภาวนาของพระสงฆ์ได้ภาวนาว่า “ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ได้ประทานศีลศักดิ์สิทธิ์อันน่าพิศวงนี้
เป็นอนุสรณ์ระลึกถึงพระทรมานของพระองค์ ขอโปรดให้ข้าพเจ้าทั้งหลาย
เคารพสักการะพระวรกายและพระโลหิตของพระองค์เพื่อสมจะได้รับผลแห่งการกอบกู้ตลอดไป”
ดังนั้น วันนี้
พระศาสนจักรจึงเชิญชวนสมโภชด้วยความเคารพสักการะต่อพระกายของพระคริสตเจ้า
เราทุกคนมีความเชื่อแน่ว่า
พระกายของพระองค์นี้เป็นเครื่องหมายแห่งความรักและความรอดพ้น
เป็นเครื่องหมายแห่งความรักอันถาวรที่พระองค์ประทานให้กับเรา
พระกายและพระโลหิตของพระองค์
ซึ่งปรากฏภายนอกเป็นเครื่องหมายด้วยแผ่นปังและน้ำองุ่นนั้น
พระองค์ประทานให้เป็นอาหารหล่อเลี้ยงวิญญาณของคริสตชน เป็นอาหารทรงชีวิตที่เราคริสตชนทุกคนกระหายหาและมีความปรารถนาจะได้รับพระกายศักดิ์สิทธิ์นี้ ศีลมหาสนิทครั้งแรกของเราช่างนำความสุข
หรือความภูมิใจมาให้ชีวิตมากเพียงใด พี่น้องคงจะมีประสบการณ์เช่นเดียวกัน
พี่น้องลองพิจารณาถึงเวลาที่เราได้เตรียมตัว เพื่อรับพระกายของพระองค์ครั้งแรกสิว่า
วันที่เรารับศีลมหาสนิทครั้งแรกนั้นเรามีความตื่นเต้น
และเราได้พยายามเตรียมตัวอย่างดี ทั้งภายในและภายนอกเพียงใด “พระองค์จะเป็นพระเจ้าของเราตลอดไป และเราจะเป็นประชากรของพระองค์ตลอดไปเช่นกัน”
เครื่องหมายสำคัญคือ พระจะปกปักษ์รักษาเราและเราจะถือตามพระบัญญัติของพระองค์
เดินในหนทางแห่งบัญญัติของพระองค์จนตลอดชีวิต
พระเยซูเจ้าประทานอาหารทรงชีวิตแก่บรรดาผู้เชื่อในพระองค์
อาหารนั้นคือพระองค์เอง พระองค์ตรัสว่า “จงรับไปกินเถิด
นี่เป็นกายของเรา” และยังตรัสอีกว่า “นี่คือโลหิตของเรา
เป็นโลหิตแห่งพันธสัญญา ซึ่งจะต้องหลั่งเพื่อคนเป็นอันมาก” ด้วยพระวาจานี้ทำให้เราเห็นความสอดคล้องกันอย่างชัดเจน
และเป็นความเกี่ยวเนื่องกันของพันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่
พระเจ้ากับประชากรของพระองค์เห็นคู่สัญญาที่สำคัญ พระองค์เป็นพระเจ้าของเขา
และพวกเขาเป็นประชากรของพระองค์เราแน่ใจได้ว่า พระโลหิตของพระเยซูเจ้าเป็นโลหิตแห่งพันธสัญญาที่หลั่งเพื่อคนเป็นอันมาก
ซึ่งหมายความว่า เรามนุษย์รอดพ้นจากความตายตลอดนิรันดร
และได้รับชีวิตนิรันดรโดยพระโลหิตของพระองค์จึงมีค่าสูงสุดสมกับที่พระศาสนจักรให้ความเคารพเสมอมา
ดังนั้น จากพระวาจาของพระเจ้า และจากเนื้อหาของการสมโภชวันนี้
จึงเป็นการสมควรที่เราจะแห่ศีลมหาสนิท ที่เราจะโปรยดอกไม้
เพราะศีลมหาสนิทนี้คือพระกายและพระโลหิตของพระคริสตเจ้า
เป็นเครื่องหมายแห่งพันธสัญญาและเป็นอาหารศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งการเดินทางในชีวิตคริสตชน
ให้เราแสดงความเคารพต่อพระองค์ด้วยชีวิตของเราทั้งครบอย่างแท้จริง
ขอให้การแห่ศีลนี้
เป็นเครื่องหมายสำหรับเราซึ่งเป็นประชากรของพระเจ้าที่ดำเนินชีวิตในพระบัญญัติและพระแบบฉบับของพระองค์
และที่สำคัญด้วยอาหารทิพย์แห่งชีวิตคือ พระวรกายศักดิ์สิทธิ์ของพระคริสตเจ้า
พ่อพงษ์เกษม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น