พี่น้องที่รัก
เมื่อวันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน
คือเมื่อเสาร์สัปดาห์ที่แล้ว
วัดเซนต์หลุยส์ของเราได้รับเกียรติให้เป็นสถานที่จัดการเข้าเงียบสำหรับสัตบุรุษที่สังกัดวัดในเขต
1 โอกาสปีศักดิ์สิทธิ์ ปีติมหาการุญ
เพื่อเป็นโอกาสให้พี่น้องสัตบุรุษได้มาร่วมกันพิจารณาไตร่ตรอง
เรื่องของพระคุณการุณย์ที่พระศาสนจักรประทานให้เป็นพิเศษในปีศักดิ์สิทธิ์นี้ ซึ่งประเด็นนี้เราได้รับความกรุณาจากคุณพ่อชาญชัย
ทิวไผ่งาม มาช่วยให้ความกระจ่างกับเรา นอกจากนี้เรายังได้รับฟังเรื่องกลุ่มวิถีคริสตชน
โดยคุณพ่อเชษฐา ไชยเดช เราได้มีโอกาสภาวนาร่วมกัน รำพึงไตร่ตรอง และ
เฝ้าศีลมหาสนิทตลอดครึ่งวัน และช่วงสุดท้ายคุณพ่อสานิจ สถะวีรวงส์
เป็นประธานในพิธีบูชาขอบพระคุณ และให้ข้อคิด
แม้ว่าแรกทีเดียวจากการสำรวจจำนวนของผู้มีความประสงค์จะมาร่วมในการเข้าเงียบดังกล่าวมีจำนวนประมาณเพียงร้อยคนเท่านั้น
แต่ถึงเวลาจริงแล้วพบว่าพี่น้องมาร่วมกันมากกว่าที่คาดหวังไว้
โดยมีจำนวนทั้งสิ้นกว่า 160 ท่านเลยทีเดียว
นับเป็นข้อบ่งชี้สำคัญถึงความเชื่อความศรัทธาที่พี่น้องมีนั้นมั่นคงเข้มแข็งเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ดี เขต 1 ยังคงจะมีการจัดการเข้าเงียบในลักษณะนี้อีกสองครั้ง
ที่วัดแม่พระลูกประคำกาลหว่าร์ และ วัดพระกุมารเยซู กิโลเมตร 8 ถนนบางนาตราด วันเวลาแน่นอนพ่อจะแจ้งให้พี่น้องทราบอีกครั้งครับ
วันอาทิตย์สัปดาห์นี้ เป็นวันสมโภช
นักบุญที่เป็นเสาหลักสำคัญของพระศาสนจักรสององค์ คือ นักบุญเปโตร และ นักบุญเปาโล
นักบุญทั้งสองท่านเป็นผู้บุกเบิกยุคแรกของพระศาสนจักรคาทอลิก
นักบุญเปโตรมีบทบาทในการประกาศข่าวดีให้กับชาวยิว และ
ทำหน้าที่เป็นผู้สืบตำแหน่งการปกครองพระศาสนจักรต่อจากพระเยซูเจ้าผู้ทรงเป็นผู้ก่อตั้งพระศาสนจักรขึ้น
ส่วนนักบุญเปาโล ท่านเป็นธรรมทูตประกาศข่าวดีของพระเยซูให้กับคนต่างศาสนาในดินแดนที่กว้างไกลออกไป
นักบุญทั้งสองท่านจึงเป็นธรรมทูตที่บุกเบิกอย่างแท้จริง
เป็นผู้วางรากฐานพระศาสนจักรให้มั่นคงตราบจนถึงทุกวันนี้
ในโอกาสนี้พ่อขอแสดงความยินดีกับพี่น้องที่มีนามนักบุญเปโตรและนักบุญเปาโลเป็นองค์อุปถัมภ์ทุกท่านนะครับ
พ่อขอถือโอกาสนี้แสดงความยินดีกับคุณพ่อผู้มีนามนักบุญเปโตรเป็นองค์อุปถัมภ์
ที่ร่วมทำงานอภิบาลในเขตวัดของเราคือ คุณพ่อเปโตร กรณ์ อดิเรกวุฒิกุล
คุณพ่อเปโตรสมภพ เรืองวุฒิชนะพืช
และคุณพ่อเปาโล สุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์ ส่วนตัวพ่อเองก็มีนามนักบุญเปโตรเป็นองค์อุปถัมภ์เหมือนกันครับ
ขอแบบอย่างของท่านนักบุญเปโตร และ
นักบุญเปาโลเป็นแบบอย่างแห่งความเชื่อที่มั่นคงเข้มแข็งสำหรับเราทุกๆคนในการดำเนินชีวิตเลียนแบบท่านนักบุญทั้งสองครับ
พ่อสุพจน์
........................................................................................................
พี่น้องที่รัก
ท่านคือศิลา และบนศิลานี้
เราจะตั้งพระศาสนจักรของเรา ประตูนรกจะไม่มีวันชนะพระศาสนจักรได้ คำที่ใช้ในต้นฉบับภาษากรีกคือ
“ท่านคือ
‘เปตรอส’ และบน ‘เปตรา’
นี้ เราจะตั้งพระศาสนจักรของเรา” (มธ16:18) คำกรีก“เปตรอส” (Petros) คือ “เปโตร” เป็นชื่อเฉพาะ ไม่มีคำแปลอื่น ส่วน “เปตรา” (petra) แปลว่า “ศิลา”
สอดคล้องกับความเชื่อของชาวยิวซึ่งถือว่า“ศิลา”
คือองค์พระเป็นเจ้าเอง “พระองค์ทรงเป็นศิลา
พระราชกิจของพระองค์ก็ดีพร้อม” (ฉธบ32:4)“บรรดาศัตรูน่าจะเข้าใจว่า พระผู้ปกป้องเขาไม่เหมือนเรา
ซึ่งเป็นศิลาแห่งอิสราเอล” (ฉธบ32:31) “ไม่มีผู้ใดศักดิ์สิทธิ์เหมือนพระยาห์เวห์ ไม่มีศิลาใดเหมือนพระเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย”
(1ซมอ2:2) “ใครเล่าเป็นพระเจ้านอกจากพระยาห์เวห์
ใครเล่าเป็นหลักศิลาถ้าไม่ใช่พระเจ้าของเรา” (สดด18:2,
31)“บรรดาอัครสาวกและประกาศกเป็นรากฐาน
มีพระคริสตเยซูทรงเป็นศิลาหัวมุม” (อฟ2:20) “รากฐานที่วางไว้แล้วนี้คือพระเยซูคริสตเจ้าและไม่มีใครวางรากฐานอื่นได้อีก”
(1คร3:11)“จงเข้าไปเฝ้าพระองค์ผู้ทรงเป็นศิลาทรงชีวิต
ซึ่งมนุษย์ละทิ้งไป แต่พระเจ้าทรงเลือกสรรไว้และมีค่าประเสริฐ
ดังที่มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า “เราเลือกศิลาประเสริฐและวางไว้ในนครศิโยนเป็นศิลาหัวมุม
ทุกคนที่มีความเชื่อในศิลานี้จะไม่ต้องอับอายเลย’” (1 ปต2:4,6) พระเยซูคริสตเจ้าทรงเป็น
“ศิลาหัวมุม” และทรงเป็นรากฐานแท้จริงของพระศาสนจักร หากปราศจากพระองค์
พระศาสนจักรย่อมไม่อาจตั้งอยู่ได้ เปโตร คือ “ศิลา” แต่ไม่ใช่ “ศิลาหัวมุม” ท่านคือ
“ศิลาแรก” ของพระศาสนาจักรซึ่งพระองค์กำลังสถาปนาขึ้น
เพราะว่าท่านเป็น “มนุษย์คนแรก” ที่รู้และเชื่อว่าพระเยซูเจ้าคือพระคริสตเจ้า
บุตรของพระเจ้าผู้ทรงชีวิต(มธ16:16) ท่านจึงเป็นรากฐาน
และเป็นเสมือนเชื้อแป้งที่ทำให้มีสมาชิกคนอื่นตามมาอีกมากมายทุกยุคทุกสมัย ส่วนผู้ก่อตั้งและเป็น
“ศิลาหัวมุม” ของพระศาสนจักรคือ
องค์พระเยซูคริสตเจ้าเอง เรายิ่งต้องรักพระเยซูเจ้าผู้ทรงเป็นศิลาหัวมุม ให้มากขึ้นเท่านั้น
ชีวิตของเราจึงเป็นเครื่องบูชา การต่อสู้ การวิ่งให้ถึงเส้นชัยเราคิดว่าเราเป็นใคร
บัดนี้เรารู้แน่ว่า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าแท้ ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอด แล้วเราจะไปหาใครอีก
เป็นพระองค์ที่ทรงช่วยฉุดเราออกจากปากสิงโต ออกจากคมดาบ และมหันต์ภัย
ความเชื่อต้องตั้งมั่น คงอยู่ และสืบทอดต่อ ๆไปในอนาคต อันเป็นรากฐานของวัด
และพระศาสนจักร บนพื้นฐานของความรอดซึ่งประตูนรกไม่มีวันชนะได้
เพราะเรามีพระเยซูบุตรพระเจ้าผู้ทรงชีวิตอยู่กับเรา และพระศาสนจักร
พ่อพงษ์เกษม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น