วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2558

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน 2015

พี่น้องที่รัก
            เมื่อวันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน คือเมื่อเสาร์สัปดาห์ที่แล้ว วัดเซนต์หลุยส์ของเราได้รับเกียรติให้เป็นสถานที่จัดการเข้าเงียบสำหรับสัตบุรุษที่สังกัดวัดในเขต 1 โอกาสปีศักดิ์สิทธิ์ ปีติมหาการุญ เพื่อเป็นโอกาสให้พี่น้องสัตบุรุษได้มาร่วมกันพิจารณาไตร่ตรอง เรื่องของพระคุณการุณย์ที่พระศาสนจักรประทานให้เป็นพิเศษในปีศักดิ์สิทธิ์นี้ ซึ่งประเด็นนี้เราได้รับความกรุณาจากคุณพ่อชาญชัย ทิวไผ่งาม มาช่วยให้ความกระจ่างกับเรา นอกจากนี้เรายังได้รับฟังเรื่องกลุ่มวิถีคริสตชน โดยคุณพ่อเชษฐา ไชยเดช เราได้มีโอกาสภาวนาร่วมกัน รำพึงไตร่ตรอง และ เฝ้าศีลมหาสนิทตลอดครึ่งวัน และช่วงสุดท้ายคุณพ่อสานิจ สถะวีรวงส์ เป็นประธานในพิธีบูชาขอบพระคุณ และให้ข้อคิด แม้ว่าแรกทีเดียวจากการสำรวจจำนวนของผู้มีความประสงค์จะมาร่วมในการเข้าเงียบดังกล่าวมีจำนวนประมาณเพียงร้อยคนเท่านั้น แต่ถึงเวลาจริงแล้วพบว่าพี่น้องมาร่วมกันมากกว่าที่คาดหวังไว้ โดยมีจำนวนทั้งสิ้นกว่า 160 ท่านเลยทีเดียว นับเป็นข้อบ่งชี้สำคัญถึงความเชื่อความศรัทธาที่พี่น้องมีนั้นมั่นคงเข้มแข็งเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ดี เขต 1 ยังคงจะมีการจัดการเข้าเงียบในลักษณะนี้อีกสองครั้ง ที่วัดแม่พระลูกประคำกาลหว่าร์ และ วัดพระกุมารเยซู กิโลเมตร 8 ถนนบางนาตราด วันเวลาแน่นอนพ่อจะแจ้งให้พี่น้องทราบอีกครั้งครับ
            วันอาทิตย์สัปดาห์นี้ เป็นวันสมโภช นักบุญที่เป็นเสาหลักสำคัญของพระศาสนจักรสององค์ คือ นักบุญเปโตร และ นักบุญเปาโล นักบุญทั้งสองท่านเป็นผู้บุกเบิกยุคแรกของพระศาสนจักรคาทอลิก นักบุญเปโตรมีบทบาทในการประกาศข่าวดีให้กับชาวยิว และ ทำหน้าที่เป็นผู้สืบตำแหน่งการปกครองพระศาสนจักรต่อจากพระเยซูเจ้าผู้ทรงเป็นผู้ก่อตั้งพระศาสนจักรขึ้น ส่วนนักบุญเปาโล ท่านเป็นธรรมทูตประกาศข่าวดีของพระเยซูให้กับคนต่างศาสนาในดินแดนที่กว้างไกลออกไป นักบุญทั้งสองท่านจึงเป็นธรรมทูตที่บุกเบิกอย่างแท้จริง เป็นผู้วางรากฐานพระศาสนจักรให้มั่นคงตราบจนถึงทุกวันนี้  ในโอกาสนี้พ่อขอแสดงความยินดีกับพี่น้องที่มีนามนักบุญเปโตรและนักบุญเปาโลเป็นองค์อุปถัมภ์ทุกท่านนะครับ พ่อขอถือโอกาสนี้แสดงความยินดีกับคุณพ่อผู้มีนามนักบุญเปโตรเป็นองค์อุปถัมภ์ ที่ร่วมทำงานอภิบาลในเขตวัดของเราคือ คุณพ่อเปโตร กรณ์ อดิเรกวุฒิกุล คุณพ่อเปโตรสมภพ เรืองวุฒิชนะพืช  และคุณพ่อเปาโล สุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์ ส่วนตัวพ่อเองก็มีนามนักบุญเปโตรเป็นองค์อุปถัมภ์เหมือนกันครับ ขอแบบอย่างของท่านนักบุญเปโตร และ นักบุญเปาโลเป็นแบบอย่างแห่งความเชื่อที่มั่นคงเข้มแข็งสำหรับเราทุกๆคนในการดำเนินชีวิตเลียนแบบท่านนักบุญทั้งสองครับ

พ่อสุพจน์
........................................................................................................
พี่น้องที่รัก
ท่านคือศิลา และบนศิลานี้ เราจะตั้งพระศาสนจักรของเรา ประตูนรกจะไม่มีวันชนะพระศาสนจักรได้ คำที่ใช้ในต้นฉบับภาษากรีกคือ ท่านคือ เปตรอสและบน เปตรานี้ เราจะตั้งพระศาสนจักรของเรา” (มธ16:18) คำกรีกเปตรอส” (Petros) คือ เปโตรเป็นชื่อเฉพาะ ไม่มีคำแปลอื่น ส่วน เปตรา” (petra) แปลว่า ศิลาสอดคล้องกับความเชื่อของชาวยิวซึ่งถือว่าศิลาคือองค์พระเป็นเจ้าเองพระองค์ทรงเป็นศิลา พระราชกิจของพระองค์ก็ดีพร้อม” (ฉธบ32:4)“บรรดาศัตรูน่าจะเข้าใจว่า พระผู้ปกป้องเขาไม่เหมือนเรา ซึ่งเป็นศิลาแห่งอิสราเอล” (ฉธบ32:31) “ไม่มีผู้ใดศักดิ์สิทธิ์เหมือนพระยาห์เวห์ ไม่มีศิลาใดเหมือนพระเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย” (1ซมอ2:2) “ใครเล่าเป็นพระเจ้านอกจากพระยาห์เวห์ ใครเล่าเป็นหลักศิลาถ้าไม่ใช่พระเจ้าของเรา” (สดด18:2, 31)“บรรดาอัครสาวกและประกาศกเป็นรากฐาน มีพระคริสตเยซูทรงเป็นศิลาหัวมุม” (อฟ2:20) “รากฐานที่วางไว้แล้วนี้คือพระเยซูคริสตเจ้าและไม่มีใครวางรากฐานอื่นได้อีก” (1คร3:11)“จงเข้าไปเฝ้าพระองค์ผู้ทรงเป็นศิลาทรงชีวิต ซึ่งมนุษย์ละทิ้งไป แต่พระเจ้าทรงเลือกสรรไว้และมีค่าประเสริฐ
ดังที่มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า “เราเลือกศิลาประเสริฐและวางไว้ในนครศิโยนเป็นศิลาหัวมุม ทุกคนที่มีความเชื่อในศิลานี้จะไม่ต้องอับอายเลย’” (1 ปต2:4,6) พระเยซูคริสตเจ้าทรงเป็น ศิลาหัวมุมและทรงเป็นรากฐานแท้จริงของพระศาสนจักร  หากปราศจากพระองค์ พระศาสนจักรย่อมไม่อาจตั้งอยู่ได้ เปโตร คือ ศิลาแต่ไม่ใช่ ศิลาหัวมุมท่านคือ ศิลาแรกของพระศาสนาจักรซึ่งพระองค์กำลังสถาปนาขึ้น เพราะว่าท่านเป็น มนุษย์คนแรกที่รู้และเชื่อว่าพระเยซูเจ้าคือพระคริสตเจ้า บุตรของพระเจ้าผู้ทรงชีวิต(มธ16:16) ท่านจึงเป็นรากฐาน และเป็นเสมือนเชื้อแป้งที่ทำให้มีสมาชิกคนอื่นตามมาอีกมากมายทุกยุคทุกสมัย ส่วนผู้ก่อตั้งและเป็น ศิลาหัวมุมของพระศาสนจักรคือ องค์พระเยซูคริสตเจ้าเอง เรายิ่งต้องรักพระเยซูเจ้าผู้ทรงเป็นศิลาหัวมุม ให้มากขึ้นเท่านั้น ชีวิตของเราจึงเป็นเครื่องบูชา การต่อสู้ การวิ่งให้ถึงเส้นชัยเราคิดว่าเราเป็นใคร บัดนี้เรารู้แน่ว่า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าแท้ ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอด แล้วเราจะไปหาใครอีก เป็นพระองค์ที่ทรงช่วยฉุดเราออกจากปากสิงโต ออกจากคมดาบ และมหันต์ภัย ความเชื่อต้องตั้งมั่น คงอยู่ และสืบทอดต่อ ๆไปในอนาคต อันเป็นรากฐานของวัด และพระศาสนจักร บนพื้นฐานของความรอดซึ่งประตูนรกไม่มีวันชนะได้ เพราะเรามีพระเยซูบุตรพระเจ้าผู้ทรงชีวิตอยู่กับเรา และพระศาสนจักร

พ่อพงษ์เกษม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น