พี่น้องที่รัก
พระศาสนจักรคาทอลิกเล็งเห็นความสำคัญ และพระพรยิ่งใหญ่ที่พระจิตเจ้าโปรดประทานให้กับสมาชิกของพระศาสนจักรทุก
ๆ คน โดยเฉพาะพระพรและความสามารถมากมายที่พระองค์ประทานให้กับฆราวาสแต่ละคน
พระเจ้าพระองค์ปรารถนาให้สมาชิกของพระศาสนจักรทุกคน ทั้งพระสงฆ์ นักบวชชายหญิง และฆราวาส
ได้นำพระพรนั้นมาแบ่งปันกันเพื่อเป็นปัจจัยส่งเสริมให้พระอาณาจักรของพระเจ้า
ซึ่งเป็นอาณาจักรแห่งความรัก ความเมตตา การช่วยเหลือแบ่งปันกันนี้ ได้เจริญงอกงาม แผ่ขยายไปสู่มวลประชากรของพระเจ้าเท่าที่สามารถ
ด้วยเหตุนี้พระศาสนจักรคาทอลิกจึงส่งเสริมให้ทุกคนได้แบ่งปันพระพรของพระองค์ให้กับกันและกัน
ด้วยการเชิญชวนให้ฆราวาสได้มีส่วนร่วมในพันธกิจของพระศาสนจักรร่วมมือกันในกลุ่มองค์กรต่างๆของพระศาสนจักรอย่างมีชีวิตชีวา
เพื่อความดีส่วนรวมของทุก ๆ คน
วันนี้พ่อขอเกริ่นนำกับพี่น้อง
เพื่อร้องขอให้พี่น้องทุกท่านโปรดพิจารณาที่จะแบ่งปันพระพรที่พระเจ้าประทานให้นั้นด้วยการเริ่มก้าวออกมาสมัครเป็นตัวแทนของพี่น้องสัตบุรุษเพื่อรับเลือกตั้งเป็นคณะกรรมการสภาภิบาลวัด
ชุดใหม่ สืบต่อจากคณะกรรมการสภาภิบาลวัดเซนต์หลุยส์ชุดเดิม ซึ่งหมดวาระลง
โดยที่เรามีกรอบเวลาที่จะดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้
14-30 มิถุนายน
2015 ประกาศรับสมัครผู้ลงรับเลือกตั้งเป็นกรรมการสภาภิบาล
5-19 กรกฎาคม 2015 ติดประกาศรายนามผู้รับสมัครรับเลือกตั้งฯ
26
กรกฎาคม 2015 วันเลือกตั้งฯ
2
สิงหาคม 2015 ประกาศผลการเลือกตั้ง
พ่อจึงเห็นว่าโอกาสนี้เป็นโอกาสที่พี่น้องสัตบุรุษจะได้เข้ามามีส่วนในการแบ่งปันเวลา
ความสามารถ ความคิด และพระพรต่าง ๆ ที่พระเจ้าโปรดประทานให้นั้น
เพื่อร่วมกันรับใช้พระประสงค์ของพระเจ้า ทดแทนพระคุณของพระองค์ เพื่อนำความดีงามมาสู่ชุมชนแห่งความเชื่อของวัดเซนต์หลุยส์ของเรา
อันจะเป็นประโยชน์ต่อครอบครัวทุกครอบครัว บุตรหลานของเรา และคริสตชนทุกท่านที่มาร่วมชุมนุมกันภาวนาเป็นประจำที่วัดแห่งนี้
ดังนั้นขอพี่น้องได้ช่วยกัน แนะนำ ชักจูง ชักชวน บุคคลที่เห็นว่าเหมาะสม และสมควรที่จะมาเป็นตัวแทนของพี่น้อง
เพื่อร่วมกันเป็นคณะกรรมการสภาภิบาลวัดเซนต์หลุยส์ชุดใหม่ ที่จะมีวาระการทำงาน 3
ปี นับจากวันประกาศรายชื่อคณะกรรมการสภาภิบาลชุดใหม่เป็นต้นไปครับ
สำหรับผู้สนใจสมัครเป็นผู้ลงรับเลือกตั้งเป็นกรรมการสภาภิบาลขอรับใบสมัครเพื่อกรอกรายละเอียดได้ที่คุณพ่อเจ้าวัดตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นเดือนมิถุนายนครับ
ขอบคุณครับ
พ่อสุพจน์
..........................................................................................................
พี่น้องที่รัก
ท่านผู้นี้เป็นใครหนอ
ลมและทะเลจึงเชื่อฟังเช่นนี้ พระคริสตเจ้าทรงเป็นผู้ใดสำหรับเรา
ตกใจกลัวเช่นนี้ทำไม ท่านยังไม่มีความเชื่อหรือ ย้ำคำของพระเยซูเจ้าแรงๆว่า “ทำไมพวกเขาต้องตกใจและตื่นกลัว”
กลัวคืออะไร คือความเชื่อที่ขาดไป
ความเชื่อที่บรรดาศิษย์ต้องเชื่อในพระบุคคลของพระองค์ คือมีพระองค์ไม่ควรต้องกลัวสิ่งใด
นั่นคือประเด็นสำคัญที่สุด“ความเชื่อ เชื่อในพระเยซู” (Faith หรือ Believe
in Jesus)พระวรสารดูเหมือนกำลังบอกกับเราว่า พายุหรือแม้แต่ความตาย
ไม่ได้รบกวนพระองค์ คือ ถ้าได้มีพระองค์อยู่ อันที่จริง
ไม่มีอะไรต้องกลัวเราได้เห็นพลังอำนาจของพระเยซูเจ้าจริงๆ “พระองค์จึงทรงลุกขึ้น
บังคับลม ตรัสสั่งทะเลว่า “เงียบซิ จงสงบลงเถิด” ลมก็หยุด ท้องทะเลราบเรียบอย่างยิ่ง” ไม่ใช่เพียงทะเลบ้าคลั่งนั้นจะสงบลงธรรมดาเมื่อพระองค์สั่งให้เงียบและ
สงบ... แต่พระคัมภีร์เขียนชัด “ท้องทะเลราบเรียบอย่างยิ่ง”แบบนี้ต้องเรียกว่า “จบเลย”ทะเลที่บ้าคลั่ง
สงบนิ่งเลยเพียงตรัสคำเดียว...ทำไมพระวาจาของพระเจ้านั้นจึงมีพลังและมีค่ายิ่งสำหรับเราคริสตชน
“ถ้าเรารักพระวาจา เชื่อมั่นในพระวาจาในพระคัมภีร์..ชีวิตเรามาถูกทางจริงๆ” จากหนังสือโยบ พระเจ้าทรงปิดประตูขังทะเลไว้
ทรงกำหนดขอบเขตและความคลื่นคะนองไว้ และนักบุญเปาโลได้เสริมว่า
ความเชื่อเป็นการตายต่อตนเอง และให้พระเจ้าเข้ามามีชีวิตอยู่ในตนเอง มิใช่มาตรฐานของมนุษย์แต่ของพระเจ้า
พระเจ้าตรัสพระวาจา” การสร้างจึงเกิดขึ้น“พระเยซูคือพระวาจาของพระเจ้า” ที่ทรงพลังและอำนาจทุกอย่างจริงๆไม่ว่าพายุชีวิตของเราจะยิ่งใหญ่เพียงใดในชีวิตเรา
แม้ว่าจะ “ยิ่งกว่าทะเล” ก็ไม่เป็นไรครับ
เรามีพระเจ้าพระบิดา เรามีพระวาจาของพระองค์คือพระบุตรพระเยซูคริสตเจ้า เราก็ “ไม่ต้องกลัวอะไรอีกเลยครับ แม้ชีวิตเรามนุษย์มีความกลัว
แต่ขอพระองค์เสริมกำลังเราด้วยพระวาจาของพระองค์”รักในพระวาจาของพระเจ้าทำในสิ่งที่เราได้อ่านในพระคัมภีร์
รักพระวาจา ประกาศพระวาจา เชื่อในพระองค์มากขึ้นเสมอ รักพระองค์มากขึ้นทุกวัน
นั่นคือพลังและชีวิตของเราครับ เราจะไม่ผิดหวังในพระเจ้าแต่จะสงบสุขตลอดไป
พ่อพงษ์เกษม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น