พี่น้องที่รัก
เราปฏิเสธไม่ได้ว่า
ชีวิตสังคมเมืองในยุคปัจจุบัน ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปรวดเร็วมากจากอดีต
เราคงพอจำได้ว่า เมื่อก่อนเราเคยใช้เตาถ่านหุงข้าว ปรุงอาหาร ต้มน้ำร้อน ฯลฯ
เราเคยจำได้ว่า กว่าจะใช้ความร้อนจากเตาในการปรุงอาหาร ต้มน้ำได้นั้น เราต้องใช้เวลาในการเตรียมเตา
จุดไฟ ใส่ถ่านหุงข้าว รอให้ถ่านร้อน ถึงจะจัดการหุงต้ม หรือ ประกอบอาหารได้
ซึ่งแน่นอนใช้เวลาพอสมควร สำหรับแม่ครัว จะเตรียมอาหารให้สมาชิกในบ้านทานแต่ละมื้อ
ต้องใช้เวลานับชั่วโมง หรือ หลายชั่วโมง บางทีกว่าน้ำในกาจะเดือด
ก็มีเวลาไปทำอะไรได้อีกตั้งหลายอย่าง
เดี๋ยวนี้ภาพการเตรียมอาหารแบบดั้งเดิมนั้นสำหรับชีวิตในเมืองเรียกว่าหาดูได้ยากแล้ว
เพราะเรามีทั้งเตาแก๊ส เตาไฟฟ้า และ
อุปกรณ์ช่วยเตรียมอาหารที่สะดวกและใช้เวลาน้อยลงไปกว่าเมื่อก่อนมากทีเดียว
ชีวิตเราสะดวกสบายกว่าแต่ก่อนมากมาย อุปกรณ์รุ่นใหม่ๆ มีคุณภาพขึ้น ดีขึ้น
ช่วยเราประหยัดเวลาไปได้มากมาย
แต่น่าแปลกตรงที่ว่า
ยิ่งเรามีความสะดวกสบายเท่าไร เราก็ยิ่งกล่าวว่า "ไม่มีเวลา"
บ่อยขึ้นเท่านั้น
แม้ชีวิตเราจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ช่วยทำงานแทนเรามากมาย
เราน่าจะมีเวลาเหลือมากขึ้น ว่างมากขึ้น แต่เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า
เวลาของเราหายไปไหนหมด ทำให้เราต้องอุทานกับตัวเอง หรือ กับคนอื่นเสมอๆว่า
ไม่มีเวลา เราใช้คำๆนี้มาเป็นเหตุผลอ้างอิงกับผู้คนรอบข้างในเวลาที่เราได้รับการเรียกร้องให้ทำบางสิ่งบางอย่าง
เช่นกิจกรรมสำหรับหมู่คณะ ครอบครัว ญาติพี่น้อง หรือ บุคคลอื่นๆ
คำว่าไม่มีเวลาจึงเป็นคำอ้างอิงที่ช่วยเราให้รู้สึกดีขึ้นบ้าง
ในยามที่มโนธรรมของเราติเตียนเรา ว่าเรามีเวลามากมายสำหรับสิ่งที่เราสนใจ
สิ่งที่เราชอบ แต่เรากลับไม่ยอมจัดสรรเวลาเพื่อบุคคลอื่นเท่าที่ควร
หลายครั้งคำว่าไม่มีเวลาก็นำมาใช้เป็นเหตุผลอ้างอิงเช่นกันกับชีวิตฝ่ายจิตของเรา
โดยเฉพาะในเรื่องการสวดภาวนา การปฏิบัติศาสนกิจ ตามหน้าที่คริสตชนที่ดี
เทศกาลมหาพรตนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่เราสมควรหวนกลับมา
จัดลำดับความสำคัญของการใช้เวลาในชีวิตของเราเสียใหม่
ให้เราหันมาทบทวนว่าเราได้ให้เวลาสำหรับการภาวนาเท่าที่ควรหรือไม่
ให้เราหันมาทบทวนดูว่า เราได้ให้เวลาสำหรับการทำกิจศรัทธาต่างๆเพื่อบำรุงจิตใจ และ
เพื่อพระพรเหนือธรรมชาติสำหรับชีวิตฝ่ายวิญญาณของเราอย่างเหมาะสมหรือไม่
เทศกาลมหาพรตนี้ขอให้เราหันมาให้ความสำคัญกับการภาวนาเป็นพิเศษ
เช่นการสวดภาวนาเช้า การสวดภาวนาค่ำ การเดินรูป 14 ภาค
การสวดลูกประคำ และ การมาถึงวัดเพื่อร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณแต่เนิ่นๆ
สิ่งต่างๆเหล่านี้คือกิจการที่เป็นรูปธรรมที่เราสามารถปฏิบัติได้
เป็นการแสดงออกภายนอกว่า เทศกาลมหาพรตมีความหมายต่อชีวิตของเราจริงๆ
พ่อสุพจน์
.........................................................................................
พระคาร์ดินัลองค์ที่
2 ของประเทศไทย
เป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่ง เมื่อพระอัครสังฆราช ฟรังซิสเซเวียร์
เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช พระสังฆราชของเราได้รับการสถาปนาเป็นพระคาร์ดินัล
ตามการประกาศของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ณ กรุงวาติกัน ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
คริสตชนชาวไทย และเป็นพิเศษอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ รวมไปถึงเราทุกคนจึงมีความยินดี
โมทนาคุณพระเป็นเจ้า สำหรับพระพรของพระเจ้าที่มีต่อเราทุกคน…
ดังนั้น โอกาสพิเศษนี้เอง เชิญชวนพี่น้องทุกท่านจะได้ร่วมใจกันภาวนาเพื่อพระสังฆราชของเราและร่วมแสดงความยินดีในพิธีฉลองพระสมณศักดิ์ของพระคาร์ดินัล
ฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช
ซึ่งจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 14 มีนาคม 2015 ณ หอประชุมนักบุญยอห์น ปอล ที่
2 โรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์ อ.สามพราน จ.นครปฐม
โดยมีกำหนดการ
ดังนี้
09.00
น.
การแสดงความยินดีจากคณะ หน่วยงาน องค์กร ต่างๆ
10.30 น. พิธีบูชาขอบพระคุณ
12.00 น. รับประทานอาหารเที่ยงร่วมกัน
คพ.วิทยา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น