พี่น้องที่รัก
ในขณะที่เรากำลังเตรียมตัวฉลองเทศกาลปัสกาที่จะมาถึงนี้
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสได้ให้ข้อคิดกับเราว่า ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เราจะฟื้นฟูสิ่งที่เราได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ในขณะที่เราได้รับศีลล้างบาป
ให้เราก้าวไปในสังคมเหมือนอย่างที่พระเยซูเจ้าเคยทำ
ด้วยการทำชีวิตของเราทั้งครบให้เป็นเครื่องหมายแห่งความรักสำหรับเพื่อนพี่น้องรอบข้างเรา
โดยเฉพาะบุคคลที่อ่อนแอที่สุด และ ขัดสนที่สุด
ให้เราทำชีวิตเราให้เป็นพระตำหนักที่พระเจ้าประทับอยู่เสมอ
และเปิดชีวิตเราให้ผู้คนที่พบปะกับเราให้เขาได้มีโอกาสพบกับพระเยซูเจ้าผู้ประทับอยู่ในตัวเรา
เช่นนี้แหละคือการทำชีวิตของเราเป็นประจักษ์พยานที่มีชีวิตถึงองค์พระคริสตเจ้า
สิ่งที่เราควรถามตัวเราเสมอก็คือว่า
แล้วพระเจ้าจะรู้สึกว่าพระองค์ประทับอยู่ที่บ้านของพระองค์ในชีวิตของเราหรือไม่?
เราเปิดโอกาสให้พระองค์เข้ามาชำระจิตใจของเราให้สะอาดหรือไม่?
เราให้พระองค์ขจัดสิ่งสกปรกต่างๆในจิตใจของเราออกไปหรือไม่
สิ่งเหล่านั้นอาจเป็น ความอิจฉาตาร้อน จิตใจที่มัวเมาในโลกวัตถุ การนินทาว่าร้าย
การดูถูกเหยียดหยามผู้อื่น เป็นต้น เราควรถามตัวเราเองอีกว่า
เราจะให้พระเยซูเข้ามาทำให้ใจเราบริสุทธิ์มากขึ้นได้ไหม? เราเชื่อไหมว่าพระองค์จะชำระเราให้สะอาดด้วยความอ่อนโยน
ด้วยความเมตตา ด้วยความรัก
พระองค์จะใช้ความเมตตาเป็นหนทางในการชำระเราให้บริสุทธิ์
ขอให้เราเปิดโอกาสให้พระองค์ชำระเราให้บริสุทธิ์ยิ่งขึ้นเถิด
วันนี้วัดเซนต์หลุยส์ของเรายินดีต้อนรับ
พระคาร์ดินัล พระสมณทูต พระสังฆราชจากสังฆมณฑลต่างๆ ตัวแทนของคณะสงฆ์ นักบวชชายหญิง
กลุ่มองค์กรฆราวาส
รวมถึงพี่น้องสัตบุรุษทุกท่านที่มาร่วมในพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณที่จัดขึ้นในเวลา 17.30
น. ของวันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม
ในโอกาสครบรอบสองปี ของพระสมณสมัยของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส
โอกาสครบรอบเป็นปีที่สองของการครองสมณสมัยของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส
ให้เราร่วมใจกันภาวนาวอนขอพระพรจากพระเจ้าเพื่อองค์สมเด็จพระสันตะปาปาของเราเป็นพิเศษ
เพื่อขอให้พระองค์มีพระพลานามัยสมบูรณ์ มีจิตใจที่เข้มแข็ง มีแสงสว่างส่องนำทาง
มีปรีชาญาณที่จะเทศน์สอนคริสตชนทั่วโลกให้ดำรงอยู่ในหนทางแห่งการเป็นลูกที่ดีของพระเจ้า
ขอพระเจ้าทรงสนับสนุนค้ำชูองค์สมเด็จพระสันตะปาปา
ให้สามารถนำพานาวาแห่งพระศาสนจักรให้ปลอดภัย ในท่ามกลางทะเลที่ปั่นป่วน
ในท่ามกลางปัญหามากมายของโลก ในท่ามกลางความรุนแรงที่มนุษย์นำมาใช้ประหัตประหารกัน
เพื่อให้พระศาสนจักรคาทอลิกดำรงคงมั่นอยู่ในสันติสุขและการคุ้มครองรักษาของพระเจ้าเสมอ
พ่อสุพจน์
...............................................................................
สัปดาห์ที่
5 เทศกาลมหาพรต
คนไทยเรารับประทานข้าวเป็นอาหารหลัก แต่กว่าข้าวจะเป็นข้าวที่เม็ดสวยๆ
ให้เรารับประทานได้ จะต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน
กว่าจะเป็นเมล็ดข้าวที่ให้ชีวิตได้ ข้าวจะต้องยอมให้ตัวเองตายถึง 5 ครั้ง
ครั้งแรกเวลาชาวนาหว่านเมล็ด มันต้องยอมตัวเองให้เน่าเปื่อย
ก่อนที่รากของมันจะแทงออกมาเพื่อเกิดเป็นลำต้น ต่อจากนั้น เมื่อข้าวโตเต็มที่
ชาวนาก็จะมาเกี่ยวไป
มันก็ต้องยอมตายเป็นครั้งที่สอง หลังจากนั้นชาวนาก็จะนำข้าวที่เกี่ยวไปนวด
เอาเปลือกออกและก็นำข้าวนั้นไปต้ม
เวลาที่ข้าวอยู่ในหม้อต้ม มันก็ต้องยอมให้ตัวเองถูกต้มจนสุก
เมื่อสุกแล้ว
ครั้งสุดท้ายเพื่อจะทำหน้าที่ของมันอย่างครบครัน มันต้องยอมตัวเองถูกทำลาย นั่นคือ
ยอมให้มนุษย์กินมันเข้าไป เพื่อทำให้มนุษย์เติบโตและมีชีวิต และนี่ก็คือ
ข้อคิดจากธรรมชาติที่ยอมให้ตัวเองตายเพื่อจะได้ก่อเกิดชีวิตใหม่ กว่าข้าวจะทำหน้าที่ครบ
ก็ต้องยอมย่อยสลายตัวเองถึง 5 ครั้ง ยอมเน่า ยอมโดนตัด
ยอมถูกกะเทาะเปลือก ยอมถูกต้ม และที่สุดยอมให้มนุษย์กิน….!!
เมื่อย้อนกลับมามองดูชีวิตของเรา
บางทีเราก็รู้สึกว่าชีวิตมันยากลำบาก มีอุปสรรค มีความทุกข์ มีความกังวลใจ ไม่จบสิ้นเสียที
อย่าว่าแต่ 5
ครั้งเหมือนข้าวเลย บางทีปัญหาอุปสรรคอาจจะมีนับไม่ถ้วน
บทสรุปจึงตอกย้ำบทนำข้างต้นว่า เมล็ดข้าวย่อมตายเพื่อให้ชีวิตแก่มนุษย์ฉันใด
คนเราก็ต้องยอมรับความทุกข์เพื่อสร้างโอกาสให้ผู้อื่นฉันนั้น
พระวาจาของพระเจ้าในวันนี้สอนเราว่า “ถ้าเมล็ดข้าวไม่ได้ตกลงในดินและตายไป
มันก็จะเป็นเพียงเมล็ดเดียวเท่านั้น แต่ถ้ามันตาย มันก็จะบังเกิดผลมากมาย”
พี่น้องที่รัก… ชีวิตเราจะมีคุณค่าและมีความหมายก็ต่อเมื่อเราเริ่มเสียสละเพื่อผู้อื่น
และนี่คือเหตุผลที่พระเจ้าทรงลงมารับสภาพมนุษย์ มนุษย์มีความทุกข์หรือ พระเจ้าลงมาและรับความทุกข์นั้นด้วย
และทรงเปลี่ยนความทุกข์ให้เป็นความชื่นชมยินดี เปลี่ยนกางเขนให้เป็นชัยชนะ
เปลี่ยนเสียงร้องไห้ให้เป็นเสียงหัวเราะ
ดังนั้น…พี่น้องครับ
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในชีวิตเรา ขอให้เราอย่าทิ้งพระ อย่าทิ้งความเชื่อ
พี่น้องมาวัด มาหาพระ มาสรรเสริญ ขอบพระคุณ และขอพรพระเจ้า ดีแล้ว
ดังเช่นวัดของเรา พี่น้องมากันเต็มวัด เต็มเกือบทุกรอบ นั่นแสดงว่าพระเจ้ายังสำคัญเสมอสำหรับชีวิตของเรา
ดังนั้นขอให้เราได้ปฏิบัติสิ่งที่ดีเช่นนี้เรื่อยไป
พระเจ้าจะได้อวยพรชีวิตเราตลอดไปเช่นเดียวกันครับ
คพ.วิทยา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น