พี่น้องที่รัก
คริสตชนชาวไทยยังดีใจกันไม่หาย
จากการที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประกาศแต่งตั้งพระคาร์ดินัลใหม่เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา
ซึ่งในจำนวนนี้มีรายชื่อของพระคุณเจ้าเกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช ปรากฏอยู่ด้วย
นับเป็นความปลาบปลื้มใจเป็นล้นพ้นของคริสตชนชาวไทยกันอีกครั้งหนึ่ง
หลังจากที่เราเคยมีความยินดียิ่งใหญ่เช่นนี้มาแล้วกับพระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย
กิจบุญชู ครั้งหนึ่งมาแล้ว ในคราวนี้นอกเหนือจากจะมีพระคาร์ดินัลใหม่จากประเทศไทย
ก็ทราบว่ามี พระคาร์ดินัลใหม่จากประเทศเมียนมาร์ และประเทศเวียตนามด้วย
แสดงให้เห็นว่า
พระศาสนจักรกำลังเปิดกว้างเพื่อให้ภาพของพระศาสนจักรคาทอลิกมีความเป็นสากลมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
พี่น้องหลายท่านตัดสินใจจะร่วมเดินทางไปในพิธีสถาปนาพระคาร์ดินัลใหม่ที่จะจัดขึ้นในวันที่
14 กุมภาพันธ์
ที่กรุงโรมก็เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้มีส่วนร่วมในพิธีที่สำคัญยิ่งครั้งนี้ครับ
ในส่วนของวัดเซนต์หลุยส์ของเราจะมีคุณพ่อพงษ์เกษม และ คุณพ่อวิทยาร่วมเดินทางไปด้วยครับ
ขอให้ทุกท่านที่เดินทางไปแสวงบุญครั้งนี้ อิ่มบุญกันทั่วหน้านะครับ
แล้วเอาบุญมาฝากพ่อบ้างนะครับ
พ่อสุพจน์
ความมหัศจรรย์ของพิธีบูชาขอบพระคุณ
(ต่อจากคราวที่แล้ว)
บทที่
6
พระสงฆ์
- เหล่าทูตสวรรค์ของพระเจ้าบนแผ่นดินนี้
ถ้าเราเข้าใจเรื่องศักดิ์ศรีเหนือธรรมชาติของศักดิ์สงฆ์แล้ว
จะทำให้เราเข้าถึงบุญบารมีที่ยิ่งใหญ่ของพิธีบูชาขอบพระคุณมากยิ่งขึ้น
นักบุญมรณะสักขีอิกญาซีอุสกล่าวว่า
ศักดิ์สงฆ์มีศักดิ์ศรีสูงส่งมากกว่าศักดิ์ศรีของสิ่งสร้างใด ๆ ของพระเจ้า
นักบุญเอแฟรม
เรียกศักดิ์สงฆ์ว่า เป็นศักดิ์ศรีที่ยิ่งใหญ่ไม่มีขอบเขต
นักบุญยอห์น
แคสเซียน นักเทววิทยาชาวฝรั่งเศส กล่าวว่า
พระสงฆ์ของพระเจ้าได้รับการยกย่องสรรเสริญเหนือบรรดาศักดิ์ใดๆในโลก
เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า
พระสันตะปาปาอินโนเซนต์ที่3
กล่าวว่า พระสงฆ์เป็นคนกลางระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์
รองลงมาจากพระเจ้า แต่เหนือมนุษย์
นักบุญเดนิส
เรียกพระสงฆ์ว่า บุรุษจากสวรรค์ และเรียกศักดิ์สงฆ์ว่า ศักดิ์ศรีจากสวรรค์
นักบุญเอแฟรม
กล่าวว่า พระพรแห่งศักดิ์ศรีแห่งความเป็นสงฆ์อยู่เหนือความเข้าใจทั้งมวลของเรา
ด้วยเหตุนี้
นักบุญยอห์น คริสซอสตอม กล่าวว่าใครก็ตามที่ให้เกียรติพระสงฆ์ก็ให้เกียรติพระคริสตเจ้า
ใครก็ตามที่ไม่ให้เกียรติพระสงฆ์ ก็ไม่ให้เกียรติพระคริสตเจ้า
นักบุญอัมโบรส
กล่าวว่า หน้าที่การงานของพระสงฆ์ เป็นหน้าที่การงานจากสวรรค์
นักบุญฟรังซิส เดอ
ซาลส์ หลังจากที่ท่านได้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์แล้ว ท่านรับรู้ได้ว่า ในขณะที่ท่านกำลังจะเดินผ่านประตูออกไป
ท่านหยุดยืนอยู่ที่ประตูเพื่อให้ผู้อื่นผ่านออกไปก่อน
มีคนถามท่านว่าทำไม่ท่านถึงหยุดชะงัก
ท่านตอบว่าพระเจ้าโปรดอนุญาตให้ท่านได้เห็นการปรากฏอยู่ของเทวทูตรักษาตัวของท่าน
ซึ่งก่อนหน้าที่ท่านจะได้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์ เทวทูตนั้นจะยืนอยู่ข้างขวาของท่านและนำหน้าท่านไป
แต่เมื่อท่านได้รับศีลบวชแล้ว
เทวทูตนั้นจะมาอยู่เบื้องซ้ายของท่านและปฏิเสธที่จะเดินนำหน้าท่านอีกต่อไป
ดังนั้นการที่ท่านหยุดยืนที่ประตูเป็นเพียงการหยอกล้อกันระหว่างท่านกับเทวทูตนั้นเอง (ยังมีต่อ)
............................................................................................................................
สัปดาห์ที่
2 เทศกาลธรรมดา
“นานมาแล้ว
มีหม้อชา ลายครามที่สวยงามมากใบหนึ่ง
ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบและเชิดหน้าชูตาของคนเป็นเจ้าของมาก
แต่ด้วยความเปราะบางของมันทำให้เจ้าของนำออกมาใช้เฉพาะโอกาสพิเศษ
เพื่อรับรองแขกคนสำคัญเท่านั้น แล้ววันหนึ่งคนใช้ที่สะเพร่าได้ทำหม้อชา ลายครามนี้ตกแตก
กลายเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์จนเจ้าของต้องโยนทิ้งและถูกนำไปทิ้งไว้ในกองขยะ
เวลาผ่านไปเนิ่นนานเข้าฝุ่นได้จับเกรอะกรัง จนไม่เหลือความงดงามในอดีต
แม้กระทั่งคนเก็บขยะขายยังมองข้ามหม้อชาสกปรกไร้ประโยชน์ใบนี้
กระทั่งวันหนึ่งชาวสวนที่มีชื่อเสียงและเชี่ยวชาญในการปลูกดอกไม้คนหนึ่ง
ได้นำวัชพืชไปทิ้งที่กองขยะ เขาได้พบกับหม้อชานี้และนำมันกลับมาบ้าน
สิ่งแรกที่เขาทำคือขัดถูทำความสะอาด และรู้สึกประหลาดใจกับลวดลายที่สวยงามของมัน
แม้ว่าจะไม่สามารถใช้เป็นหม้อชาได้อีก แต่เขาคิดว่าสามารถใช้ประโยชน์ในทางอื่นได้
เขาพบว่าหากนำมาทำเป็นกระถางปลูกดอกไม้คงจะสวยงามมากทีเดียว
คนสวนได้ใส่ดินและเมล็ดพันธุ์ดอกไม้ลงไปในหม้อชาใบนั้น
พร้อมกับเอาใจใส่ดูแล ใส่ปุ๋ยรดน้ำทุกวัน จนเมล็ดพันธ์เริ่มแทงยอด
ผลิใบและให้ดอกที่สวยงาม เขาจึงนำไปวางไว้ที่ขอบหน้าต่าง
ทำให้คนที่ผ่านไปมาเห็นถึงความสวยงามของมัน ไม่เพียงดอกไม้ที่สวยงามเท่านั้น แต่กระถางที่ปลูกก็งดงามไม่แพ้กัน
ทำให้บ้านแลดูมีชีวิตชีวา เป็นที่ชื่นชอบแก่ทุกคนที่พบเห็น
จนไม่มีใครเชื่อว่าเขาได้หม้อใบนี้มาจากกองขยะ”
ในพระวรสารวันนี้
บอกกับเราว่า “พระเยซูเจ้า คือ ลูกแกะของพระเจ้า”
พระองค์เป็นผู้ลบล้างบาปของโลก ทุกครั้งที่เราทำบาป เราก็เป็นเสมือนกับหม้อชา
ลายครามที่แตกร้าวใบนั้น ไม่มีประโยชน์อะไรเลย นอกจากจะถูกโยนทิ้งไป
เพราะบาปทำให้เราตัดความสัมพันธ์อันดีระหว่างเรากับพระเจ้า และเพื่อนพี่น้อง
แต่พระองค์รักเรา พระองค์จึงเสด็จมาเพื่อเราคนบาป
นั่นก็คือเรามนุษย์ที่ยังมีความอ่อนแอ พระองค์เป็นเสมือนคนสวนที่นำเราออกมาจากกองขยะ
และทำให้เราได้มีคุณค่าอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้น จงดำเนินชีวิตอย่างดีเถิด
เพระพระเจ้าทรงรักเรา…
ชีวิตมนุษย์มีคุณค่าได้ เพราะพระรักเรา…
คพ.วิทยา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น