วันศุกร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2558

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม 2015

พี่น้องที่รัก
                คริสตชนชาวไทยยังดีใจกันไม่หาย จากการที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประกาศแต่งตั้งพระคาร์ดินัลใหม่เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งในจำนวนนี้มีรายชื่อของพระคุณเจ้าเกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช ปรากฏอยู่ด้วย นับเป็นความปลาบปลื้มใจเป็นล้นพ้นของคริสตชนชาวไทยกันอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่เราเคยมีความยินดียิ่งใหญ่เช่นนี้มาแล้วกับพระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู ครั้งหนึ่งมาแล้ว ในคราวนี้นอกเหนือจากจะมีพระคาร์ดินัลใหม่จากประเทศไทย ก็ทราบว่ามี พระคาร์ดินัลใหม่จากประเทศเมียนมาร์ และประเทศเวียตนามด้วย แสดงให้เห็นว่า พระศาสนจักรกำลังเปิดกว้างเพื่อให้ภาพของพระศาสนจักรคาทอลิกมีความเป็นสากลมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
                พี่น้องหลายท่านตัดสินใจจะร่วมเดินทางไปในพิธีสถาปนาพระคาร์ดินัลใหม่ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่กรุงโรมก็เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้มีส่วนร่วมในพิธีที่สำคัญยิ่งครั้งนี้ครับ ในส่วนของวัดเซนต์หลุยส์ของเราจะมีคุณพ่อพงษ์เกษม และ คุณพ่อวิทยาร่วมเดินทางไปด้วยครับ ขอให้ทุกท่านที่เดินทางไปแสวงบุญครั้งนี้ อิ่มบุญกันทั่วหน้านะครับ แล้วเอาบุญมาฝากพ่อบ้างนะครับ

พ่อสุพจน์

ความมหัศจรรย์ของพิธีบูชาขอบพระคุณ
(ต่อจากคราวที่แล้ว)
บทที่ 6
พระสงฆ์ - เหล่าทูตสวรรค์ของพระเจ้าบนแผ่นดินนี้

                ถ้าเราเข้าใจเรื่องศักดิ์ศรีเหนือธรรมชาติของศักดิ์สงฆ์แล้ว จะทำให้เราเข้าถึงบุญบารมีที่ยิ่งใหญ่ของพิธีบูชาขอบพระคุณมากยิ่งขึ้น
                นักบุญมรณะสักขีอิกญาซีอุสกล่าวว่า ศักดิ์สงฆ์มีศักดิ์ศรีสูงส่งมากกว่าศักดิ์ศรีของสิ่งสร้างใด ๆ ของพระเจ้า
                นักบุญเอแฟรม เรียกศักดิ์สงฆ์ว่า เป็นศักดิ์ศรีที่ยิ่งใหญ่ไม่มีขอบเขต
                นักบุญยอห์น แคสเซียน นักเทววิทยาชาวฝรั่งเศส กล่าวว่า พระสงฆ์ของพระเจ้าได้รับการยกย่องสรรเสริญเหนือบรรดาศักดิ์ใดๆในโลก เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า
                พระสันตะปาปาอินโนเซนต์ที่3 กล่าวว่า พระสงฆ์เป็นคนกลางระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ รองลงมาจากพระเจ้า แต่เหนือมนุษย์
                นักบุญเดนิส เรียกพระสงฆ์ว่า บุรุษจากสวรรค์ และเรียกศักดิ์สงฆ์ว่า ศักดิ์ศรีจากสวรรค์
                นักบุญเอแฟรม กล่าวว่า พระพรแห่งศักดิ์ศรีแห่งความเป็นสงฆ์อยู่เหนือความเข้าใจทั้งมวลของเรา
                ด้วยเหตุนี้ นักบุญยอห์น คริสซอสตอม กล่าวว่าใครก็ตามที่ให้เกียรติพระสงฆ์ก็ให้เกียรติพระคริสตเจ้า ใครก็ตามที่ไม่ให้เกียรติพระสงฆ์ ก็ไม่ให้เกียรติพระคริสตเจ้า
                นักบุญอัมโบรส กล่าวว่า หน้าที่การงานของพระสงฆ์ เป็นหน้าที่การงานจากสวรรค์
                นักบุญฟรังซิส เดอ ซาลส์ หลังจากที่ท่านได้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์แล้ว ท่านรับรู้ได้ว่า ในขณะที่ท่านกำลังจะเดินผ่านประตูออกไป ท่านหยุดยืนอยู่ที่ประตูเพื่อให้ผู้อื่นผ่านออกไปก่อน มีคนถามท่านว่าทำไม่ท่านถึงหยุดชะงัก ท่านตอบว่าพระเจ้าโปรดอนุญาตให้ท่านได้เห็นการปรากฏอยู่ของเทวทูตรักษาตัวของท่าน ซึ่งก่อนหน้าที่ท่านจะได้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์ เทวทูตนั้นจะยืนอยู่ข้างขวาของท่านและนำหน้าท่านไป แต่เมื่อท่านได้รับศีลบวชแล้ว เทวทูตนั้นจะมาอยู่เบื้องซ้ายของท่านและปฏิเสธที่จะเดินนำหน้าท่านอีกต่อไป ดังนั้นการที่ท่านหยุดยืนที่ประตูเป็นเพียงการหยอกล้อกันระหว่างท่านกับเทวทูตนั้นเอง    (ยังมีต่อ)
 ............................................................................................................................

 สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลธรรมดา


“นานมาแล้ว มีหม้อชา ลายครามที่สวยงามมากใบหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบและเชิดหน้าชูตาของคนเป็นเจ้าของมาก แต่ด้วยความเปราะบางของมันทำให้เจ้าของนำออกมาใช้เฉพาะโอกาสพิเศษ เพื่อรับรองแขกคนสำคัญเท่านั้น แล้ววันหนึ่งคนใช้ที่สะเพร่าได้ทำหม้อชา ลายครามนี้ตกแตก กลายเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์จนเจ้าของต้องโยนทิ้งและถูกนำไปทิ้งไว้ในกองขยะ เวลาผ่านไปเนิ่นนานเข้าฝุ่นได้จับเกรอะกรัง จนไม่เหลือความงดงามในอดีต แม้กระทั่งคนเก็บขยะขายยังมองข้ามหม้อชาสกปรกไร้ประโยชน์ใบนี้
กระทั่งวันหนึ่งชาวสวนที่มีชื่อเสียงและเชี่ยวชาญในการปลูกดอกไม้คนหนึ่ง ได้นำวัชพืชไปทิ้งที่กองขยะ เขาได้พบกับหม้อชานี้และนำมันกลับมาบ้าน สิ่งแรกที่เขาทำคือขัดถูทำความสะอาด และรู้สึกประหลาดใจกับลวดลายที่สวยงามของมัน แม้ว่าจะไม่สามารถใช้เป็นหม้อชาได้อีก แต่เขาคิดว่าสามารถใช้ประโยชน์ในทางอื่นได้ เขาพบว่าหากนำมาทำเป็นกระถางปลูกดอกไม้คงจะสวยงามมากทีเดียว
คนสวนได้ใส่ดินและเมล็ดพันธุ์ดอกไม้ลงไปในหม้อชาใบนั้น พร้อมกับเอาใจใส่ดูแล ใส่ปุ๋ยรดน้ำทุกวัน จนเมล็ดพันธ์เริ่มแทงยอด ผลิใบและให้ดอกที่สวยงาม เขาจึงนำไปวางไว้ที่ขอบหน้าต่าง ทำให้คนที่ผ่านไปมาเห็นถึงความสวยงามของมัน ไม่เพียงดอกไม้ที่สวยงามเท่านั้น แต่กระถางที่ปลูกก็งดงามไม่แพ้กัน ทำให้บ้านแลดูมีชีวิตชีวา เป็นที่ชื่นชอบแก่ทุกคนที่พบเห็น จนไม่มีใครเชื่อว่าเขาได้หม้อใบนี้มาจากกองขยะ”

ในพระวรสารวันนี้ บอกกับเราว่า “พระเยซูเจ้า คือ ลูกแกะของพระเจ้า”  พระองค์เป็นผู้ลบล้างบาปของโลก ทุกครั้งที่เราทำบาป เราก็เป็นเสมือนกับหม้อชา ลายครามที่แตกร้าวใบนั้น ไม่มีประโยชน์อะไรเลย นอกจากจะถูกโยนทิ้งไป เพราะบาปทำให้เราตัดความสัมพันธ์อันดีระหว่างเรากับพระเจ้า และเพื่อนพี่น้อง แต่พระองค์รักเรา พระองค์จึงเสด็จมาเพื่อเราคนบาป นั่นก็คือเรามนุษย์ที่ยังมีความอ่อนแอ พระองค์เป็นเสมือนคนสวนที่นำเราออกมาจากกองขยะ และทำให้เราได้มีคุณค่าอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้น จงดำเนินชีวิตอย่างดีเถิด เพระพระเจ้าทรงรักเรา

ชีวิตมนุษย์มีคุณค่าได้ เพราะพระรักเรา



คพ.วิทยา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น