สารวัดวันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2015

พี่น้องที่รัก

                คุณพ่อ อาดรีอาโน เปโลซิน อธิการเจ้าคณะธรรมทูตไทย มีจดหมายมาขอให้พ่อได้ประชาสัมพันธ์กับพี่น้องว่า สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย กำหนดให้วันอาทิตย์สัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ เป็น "วันคณะธรรมทูตไทย"  เพื่อให้เราร่วมใจกันภาวนาอธิษฐาน และ บริจาคปัจจัยเพื่อช่วยงานธรรมทูตของคณะธรรมทูตไทย

                ปัจจุบันมีสมาชิกที่เป็นพระสงฆ์ 12 องค์ และ ซิสเตอร์ 5 รูป ทำงานอยู่ในประเทศไทย ลาว และ กัมพูชา นอกจากนี้ยังมีผู้สนใจกำลังเตรียมตัวจะเข้าเป็นสมาชิกในคณะธรรมทูตไทยอีกจำนวนหนึ่ง เราทุกคนต้องขอบคุณพระเจ้าเป็นพิเศษที่มีบุคคลที่พร้อมจะประกาศข่าวดีของพระเจ้าในฐานะธรรมทูต ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นทหารแนวหน้าที่พร้อมจะบุกไปทุกที่ ดังนั้นเราสัตบุรุษทุกคนจึงเป็นประดุจแนวหลังที่พร้อมจะสนับสนุน ในทุกๆด้านเพื่อให้การเผยแผ่ข่าวดีมีประสิทธิภาพมากที่สุด

                ขอพี่น้องโปรดสนับสนุนการทำงานของคณะธรรมทูตไทย ด้วยการอธิษฐานภาวนา และ การบริจาคปัจจัยเพื่อสนับสนุนให้พระอาณาจักรแห่งความรักของพระเจ้าได้แผ่ขยายนำความสุขสันติมาสู่มนุษย์ทุกคนในโลกครับ

พ่อสุพจน์

ความมหัศจรรย์ของพิธีบูชาขอบพระคุณ

(ต่อจากคราวที่แล้ว)

บทที่ 6

พระสงฆ์ - เหล่าทูตสวรรค์ของพระเจ้าบนแผ่นดินนี้

                นักบุญอัลฟองโซกล่าวว่า ถ้าองค์พระผู้ไถ่ เสด็จลงมาในวัด และ โปรดศีลอภัยบาปในที่ฟังแก้บาป ส่วนพระสงฆ์องค์หนึ่งก็นั่งอยู่ในที่ฟังแก้บาปอีกตู้หนึ่ง พระเยซูจะกล่าวกับผู้มารับศีลอภัยบาปว่า "ข้าพเจ้าอภัยบาปทั้งสิ้นของท่าน" ส่วนพระสงฆ์องค์นั้นก็จะกล่าวกับผู้มารับศีลอภัยบาปเช่นเดียวกันว่า "ข้าพเจ้าอภัยบาปทั้งสิ้นของท่าน" ผู้มารับศีลอภัยบาปต่างก็ได้รับการอภัยเท่าเทียมกัน ด้วยเหตุนี้ศักดิ์ศรีแห่งความเป็นสงฆ์จึงเป็นศักดิ์ศรีที่สูงส่งเหนือบรรดาศักดิ์ใดๆในโลก

                นักบุญอัมโบรสกล่าวว่า ต่อหน้าพระเจ้าแล้วศักดิ์ศรีแห่งความเป็นสงฆ์อยู่เหนือบรรดาศักดิ์ใดๆในโลก ไม่ว่าจะเป็นราชวงศ์ จักรพรรดิ์ หรือแม้แต่เทวทูต ศักดิ์ศรีแห่งความเป็นสงฆ์อยู่เหนือกว่า ดังจะเปรียบได้กับความแตกต่างของมูลค่าของทองคำที่สูงล้ำค่ากว่าตะกั่ว

                นักบุญซีเปรียนกล่าวว่า ใครก็ตามที่มีใจเที่ยงตรงในองค์พระเจ้า เมื่อต้องเข้ามารับศีลบวชพระสงฆ์ เขาเต็มไปด้วยความหวาดเกรงและสั่นกลัว

                นักบุญเอปีฟานีอุส บันทึกเอาไว้ว่า เมื่อระลึกถึงศักดิ์ศรีสูงส่งที่พระเจ้าประทานให้แล้ว แทบจะหาใครได้ยากที่จะรับศีลบวชเป็นพระสงฆ์ เพราะคิดว่าตนเองไม่คู่ควร

                นักบุญเกรโกรี แห่งนาซีอานเซนกล่าวว่า ในประวัติชีวิตของนักบุญซีเปรียน เมื่อท่านทราบว่าพระสังฆราชตั้งใจจะโปรดศีลบวชให้ท่านเป็นพระสงฆ์ ด้วยความสุภาพถ่อมตน ท่านเก็บตัวเงียบไม่เผยตัวเองกับใครๆ เช่นเดียวกันกับ ท่านนักบุญฟูลเจน ท่านเองก็ได้ปลีกตัวออกไปและหลีกเลี่ยงที่จะพบปะกับผู้ใด

                นักบุญอัมโบรสกล่าวยืนยันว่า ท่านได้พิจารณาอย่างถ่องแท้เป็นเวลานานทีเดียว กว่าที่จะตัดสินใจอย่างอิสระที่จะเข้ารับศีลบวชเป็นพระสงฆ์.............(ยังมีต่อ)

 ..........................................................................................................

พี่น้องที่รัก

ในทั้งหมดทุกสรรพสิ่ง หรือ ทั้งมวล หรือทั้งจักรวาล หรือทั้งสากลโลก แบ่งออกเป็น 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายพระเจ้า ฝ่ายซาตาน และฝ่ายมนุษย์  ฝ่ายพระเจ้า ประกอบด้วย พระเจ้าผู้สร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก รวมถึงพระตรีเอกานุภาพ และบรรดาทูตสวรรค์ของพระองค์ ฝ่ายซาตาน หรือ ฝ่ายลูซิเฟอร์ ประกอบด้วย ซาตาน , วิญญาณชั่วในสถานฟ้าอากาศ , วิญญาณชั่วต่างๆ , ผี , ศักดิเทพ , เทพผู้ครองพิภพ และ วิญญาณอื่นๆ ที่พระเจ้าไม่ได้ส่งมาทำการบนโลก ฝ่ายมนุษย์ คงไม่ต้องแจง ทุกสีผิวนั่นแหละ และไม่รวมลิง

        ฝ่ายพระเจ้า เป็นฝ่ายที่มีอำนาจและฤทธานุภาพ มากที่สุด รองลงมาคือฝ่ายซาตาน อ่อนแอที่สุดก็คือมนุษย์ แต่เดี๋ยวก่อน มนุษย์ที่ยอมรับและใช้สิทธิอำนาจในพระนามพระเยซูคริสต์ คือผู้ที่มีฤทธิ์อำนาจ รองลงมาจากพระเจ้า และมีอำนาจเหนือฝ่ายซาตานทั้งหมด เพราะ ฤทธานุภาพทั้งสิ้น ในฟ้าสวรรค์ก็ดี ในแผ่นดินโลกก็ดี ได้มอบไว้ให้แก่เราแล้ว และบัดนี้เราได้มอบฤทธานุภาพนั้นให้แก่เจ้า จงใช้สิทธิอำนาจนั้น ในนามของเรา

        ทั้งสามฝ่าย มีความเป็นเสรี โดยปกติทั่วไป แต่ละฝ่ายไม่สามารถล่วงล้ำอีกฝ่ายได้ พระเจ้าจะไม่บีบบังคับซาตาน และพระเจ้าก็ไม่บีบบังคับมนุษย์ และฝ่ายซาตานและสมุนของมันก็ไม่สามารถบีบบังคับมนุษย์ได้ ยกเว้น มนุษย์ยอมทำตามคำแนะนำของมัน และมนุษย์มักไม่รู้ตัวว่า กำลังทำตามคำแนะนำ หรือคำกระซิบของเหล่าวิญญาณชั่ว หรือปีศาจ หรือซาตาน เพราะความหลง

        ข้อกำหนด หรือ ข้อห้าม ในการสั่งกระทำแต่ในนามของพระเจ้าเท่านั้น  ห้ามคุยกับผี อย่าสนใจคำพูดผี ห้ามถามชื่อหรือประวัติของผี อาจทำให้หลงกลผี อาจสงสาร อาจทำให้ขาดความเชื่อ บรรดาทุกสรรพสิ่งนั้น มีพระเจ้า แต่ไม่ใช่ทุกสิ่ง รู้จักพระเจ้า ในบรรดาสรรพสิ่ง ที่รู้จักพระเจ้า ไม่ใช่ทุกสิ่ง ที่เข้าใจพระเจ้า ในบรรดาผู้คนที่เข้าใจพระเจ้า ไม่ใช่ทุกคน พระเจ้าจะพอพระทัย แต่ทุกคนที่ปฏิบัติตามน้ำพระทัยของพระเจ้าเท่านั้น พระบัญญัติเป็นเครื่องมือช่วยให้เป็นผู้ชอบธรรม แต่พระวาจาของพระเจ้าที่เราปฏิบัติทำให้เรามีชีวิตพระในตัวเราที่เป็นเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิต

ฉะนั้นจงอย่าปล่อยให้ปีศาจเข้ามาครอบครองจิตวิญญาณของเราให้ได้เลย  แต่จงพยายามทำให้ร่างกายและชีวิตศักดิ์สิทธิ์ ด้วยการสลวนเอาใจใส่ทำให้พระเจ้าทรงพอพระทัยแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว ส่วนที่เหลือพระเจ้าจะทรงแถมให้เอง

คพ.พงษ์เกษม

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 25 มกราคม 2015

พี่น้องที่รัก

                เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส เสด็จเยือนประเทศศรีลังกา และ ประเทศฟิลิปปินส์ การเสด็จเยือนครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ที่ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนทุกแขนงในการรายงานข่าวไปยังทั่วทุกมุมโลก แม้แต่ช่องฟรีทีวีในประเทศไทยทุกช่องก็ให้พื้นที่ในการนำเสนอข่าวของพระองค์อย่างจุใจทีเดียว พ่อเชื่อว่าเหตุการณ์ที่สำคัญครั้งนี้เป็นการตอกย้ำให้กับทุกคนทั่วโลกได้เข้าถึง สาระสำคัญหลักๆที่พระสันตะปาปาต้องการสื่อสารให้ชัดเจนคือ พระศาสนจักรคาทอลิกอยู่เคียงข้างผู้ยากไร้ ผู้ตกทุกข์ได้ยากทุกรูปแบบ พระศาสนจักรคาทอลิกเป็นประดุจมารดาที่เป็นห่วงเป็นใยลูกทุกคนคนที่ต้องเผชิญกับเคราะห์กรรมที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของมนุษย์ในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น พระศาสนจักรคาทอลิกให้เกียรติและเคารพต่อความเชื่อในศาสนาทุกๆศาสนา และ มีความปรารถนาดีต่อทุก ๆ ศาสนนิกาย รวมไปถึงการสนับสนุนส่งเสริมให้สันติสุขและสันติภาพถาวรดำรงอยู่ตลอดไป

พ่อสุพจน์

ความมหัศจรรย์ของพิธีบูชาขอบพระคุณ

(ต่อจากคราวที่แล้ว)

บทที่ 6

พระสงฆ์ - เหล่าทูตสวรรค์ของพระเจ้าบนแผ่นดินนี้

                นักบุญโทมัสกล่าวว่า ศักดิ์ศรีของความเป็นสงฆ์ยิ่งใหญ่กว่าเหล่าทูตสวรรค์ของพระเจ้าเสียอีก

                นักบุญเกรโกรี แห่งนาซีอานเซน  เหล่าทูตสวรรค์เองยังถวายคารวะให้กับศักดิ์สงฆ์ เพราะเหล่าทูตสวรรค์นั้นไม่มีอำนาจในการยกบาปแม้แต่ประการเดียว เหล่าทูตสวรรค์รักษาตัวมีหน้าที่ปกปักรักษาดวงวิญญาณที่ได้รับมอบหมาย ให้ดวงวิญญาณเหล่านั้นมองเห็นว่าพระสงฆ์คือที่พึ่งในการอภัยโทษบาปให้ดวงวิญญาณได้

                นักบุญฟรังซิส อัสซีซี เคยกล่าวว่า ถ้าข้าพเจ้าเห็นทูตสวรรค์ และ พระสงฆ์ ข้าพเจ้าจงย่อเข่าลงคารวะพระสงฆ์ก่อน จากนั้นจึงแสดงความคารวะต่อทูตสวรรค์

                นักบุญออกัสติน กล่าวว่า การอภัยบาปให้กับคนบาป เป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่กว่า การสร้างสวรรค์และแผ่นดินเสียอีก เพราะการอภัยบาปแม้แต่เพียงประการเดียว ต้องอาศัยพระฤทธานุภาพที่ยิ่งใหญ่ทั้งมวลของพระเจ้า เห็นไหมว่าพระสงฆ์มีอำนาจมากแค่ไหน

                นักบุญอัลฟองโซกล่าวว่า พระศาสนจักรทั้งมวลยังไม่สามารถถวายพระเกียรติให้กับพระเจ้าได้มากเท่ากับ พระพรเอนกอนันต์ที่พระสงฆ์แม้แต่เพียงองค์เดียวสามารถมอบให้โดยการถวายพิธีบูชาขอบพระคุณเพียงครั้งเดียว ดังนั้น พิธีบูชาขอบพระคุณที่พระสงฆ์ถวายองค์พระเยซูคริสต์เป็นเครื่องบูชานั้น เป็นพระสงฆ์เองที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้าอย่างยิ่งใหญ่มากกว่าการที่มนุษย์ทุกคนจะยอมตายเพื่อพระเจ้า มอบชีวิตของตนถวายเป็นพลีบูชาแด่พระองค์เสียอีก

                ความเป็นจริงที่ว่า โดยอาศัยการเปล่งวาจาเสกศีลของพระสงฆ์ในพิธีบูชาขอบพระคุณ องค์พระวจนาตถ์สูงสุดยังนอบน้อมที่จะลงมารับเอากาย แล้วมาอยู่ในมือของพระสงฆ์ภายใต้รูปปรากฏของศีลศักดิ์สิทธิ์นั้น แสดงให้เห็นว่าพระสงฆ์นั้นมีอำนาจสูงส่งเพียงใด

                นักบุญอิกญาซีโอกล่าวว่า พระสงฆ์คือเสาหลักที่งดงามของพระศาสนจักร เป็นประตู และ เป็นผู้เฝ้ารักษาประตูเข้าสวรรค์

 ............................................................................................................................................

วัดเพื่อการแสวงบุญรับพระคุณการุณย์ครบบริบูรณ์

ตลอดปีปีติแห่งพระคุณการุณย์ 2015

อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ กำหนดให้ทุกเขตมีวัด 1 แห่งในแต่ละเขต เพื่อการแสวงบุญรับพระคุณการุณย์ครบบริบูรณ์ตลอดปีปีติแห่งพระคุณการุณย์ 2015 เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องคริสตชนได้อย่างทั่วถึง โดยมีรายนามวัดดังต่อไปนี้

เขต 1 วัดแม่พระลูกประคำ (กาลหว่าร์)                             

เขต 2 วัดนักบุญฟรังซิสเซเวียร์ (วัดสามเสน)

เขต 3 วัดซางตาครู้ส (วัดกุฎีจีน)                                       

เขต 4 วัดพระวิสุทธิวงส์ (วัดลำ ไทร)

เขต 5 สักการสถานบุญราศี นิโคลาส บุญเกิด กฤษบำรุง       

เขต 6 วัดนักบุญยอแซฟ อยุธยา (วัดอยุธยา)

เงื่อนไขในการรับพระคุณการุณย์ครบบริบูรณ์

1. มีเจตนาที่จะรับพระคุณการุณย์ครบบริบูรณ์

2. สวดภาวนาบท “ข้าแต่พระบิดา” และบท “ข้าพเจ้าเชื่อ (สัญลักษณ์ของอัครสาวก)” อย่างศรัทธา ณ วัดในโอกาสไป แสวงบุญ ดังต่อไปนี้

ก. ทุกครั้งที่เข้าร่วมศาสนพิธีกรรม ซึ่งได้แก่

1) พิธีบูชาขอบพระคุณวันอาทิตย์

2) พิธีบูชาขอบพระคุณวันธรรมดา

3) พิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ในการชุมนุมยาตราแสวงบุญที่จัดขึ้นโดยคริสตชนกลุ่มใดๆ ก็ตาม

ข. ร่วมงานสมโภชศาสนนามของวัดที่ได้รับการประกาศให้เป็นวัดแสวงบุญ

ข้อปฏิบัติศาสนกิจ อันเป็นองค์ประกอบที่เป็นเงื่อนไขประจำสำหรับการแสวงบุญทุกครั้ง ดังต่อไปนี้

ค. รับศีลอภัยบาป (สามารถรับศีลอภัยบาป 1 ครั้ง สำหรับการยาตราแสวงบุญในหลายๆ โอกาสได้ ถ้ารู้ตัวว่า ไม่มีบาปหนัก)

ง. รับศีลมหาสนิท (รับศีลมหาสนิททุกโอกาสที่ยาตราแสวงบุญ หากเกิดขัดข้อง จะรับศีลมหาสนิทภายหลังในช่วงเวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ก็ได้)

จ. สวดภาวนาบท “ข้าแต่พระบิดา” และ”วันทามารีย์” หรือสวดบทภาวนาอื่นๆ ตามความศรัทธาของแต่ละคนก็ได้ ทั้งนี้เพื่อพระประสงค์ของสมเด็จพระสันตะปาปา (สวดทุกโอกาสที่ทำยาตราแสวงบุญ)

หมายเหตุ

1. ต้องปฏิบัติให้ครบเงื่อนไข

2. พระคุณการุณย์ครบบริบูรณ์ เป็นพระคุณที่มีกำหนดให้รับได้วันละ 1 ครั้ง และสามารถอุทิศพระคุณการุณย์นี้แก่ผู้ล่วงลับได้

3. ในโอกาสยาตราแสวงบุญ สามารถวิงวอนขอพระคุณเพื่อช่วยให้มีชีวิตในโลกปัจจุบันอย่างดีพร้อมๆ ไปกับขอพระคุณการุณย์

ครบบริบูรณ์ เพื่อช่วยบรรลุชีวิตแห่งความรอดนิรันดรด้วย                                                                                         

คพ.วิทยา

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม 2015

พี่น้องที่รัก

                คริสตชนชาวไทยยังดีใจกันไม่หาย จากการที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประกาศแต่งตั้งพระคาร์ดินัลใหม่เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งในจำนวนนี้มีรายชื่อของพระคุณเจ้าเกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช ปรากฏอยู่ด้วย นับเป็นความปลาบปลื้มใจเป็นล้นพ้นของคริสตชนชาวไทยกันอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่เราเคยมีความยินดียิ่งใหญ่เช่นนี้มาแล้วกับพระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู ครั้งหนึ่งมาแล้ว ในคราวนี้นอกเหนือจากจะมีพระคาร์ดินัลใหม่จากประเทศไทย ก็ทราบว่ามี พระคาร์ดินัลใหม่จากประเทศเมียนมาร์ และประเทศเวียตนามด้วย แสดงให้เห็นว่า พระศาสนจักรกำลังเปิดกว้างเพื่อให้ภาพของพระศาสนจักรคาทอลิกมีความเป็นสากลมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

                พี่น้องหลายท่านตัดสินใจจะร่วมเดินทางไปในพิธีสถาปนาพระคาร์ดินัลใหม่ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่กรุงโรมก็เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้มีส่วนร่วมในพิธีที่สำคัญยิ่งครั้งนี้ครับ ในส่วนของวัดเซนต์หลุยส์ของเราจะมีคุณพ่อพงษ์เกษม และ คุณพ่อวิทยาร่วมเดินทางไปด้วยครับ ขอให้ทุกท่านที่เดินทางไปแสวงบุญครั้งนี้ อิ่มบุญกันทั่วหน้านะครับ แล้วเอาบุญมาฝากพ่อบ้างนะครับ

พ่อสุพจน์

ความมหัศจรรย์ของพิธีบูชาขอบพระคุณ

(ต่อจากคราวที่แล้ว)

บทที่ 6

พระสงฆ์ - เหล่าทูตสวรรค์ของพระเจ้าบนแผ่นดินนี้

                ถ้าเราเข้าใจเรื่องศักดิ์ศรีเหนือธรรมชาติของศักดิ์สงฆ์แล้ว จะทำให้เราเข้าถึงบุญบารมีที่ยิ่งใหญ่ของพิธีบูชาขอบพระคุณมากยิ่งขึ้น

                นักบุญมรณะสักขีอิกญาซีอุสกล่าวว่า ศักดิ์สงฆ์มีศักดิ์ศรีสูงส่งมากกว่าศักดิ์ศรีของสิ่งสร้างใด ๆ ของพระเจ้า

                นักบุญเอแฟรม เรียกศักดิ์สงฆ์ว่า เป็นศักดิ์ศรีที่ยิ่งใหญ่ไม่มีขอบเขต

                นักบุญยอห์น แคสเซียน นักเทววิทยาชาวฝรั่งเศส กล่าวว่า พระสงฆ์ของพระเจ้าได้รับการยกย่องสรรเสริญเหนือบรรดาศักดิ์ใดๆในโลก เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า

                พระสันตะปาปาอินโนเซนต์ที่3 กล่าวว่า พระสงฆ์เป็นคนกลางระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ รองลงมาจากพระเจ้า แต่เหนือมนุษย์

                นักบุญเดนิส เรียกพระสงฆ์ว่า บุรุษจากสวรรค์ และเรียกศักดิ์สงฆ์ว่า ศักดิ์ศรีจากสวรรค์

                นักบุญเอแฟรม กล่าวว่า พระพรแห่งศักดิ์ศรีแห่งความเป็นสงฆ์อยู่เหนือความเข้าใจทั้งมวลของเรา

                ด้วยเหตุนี้ นักบุญยอห์น คริสซอสตอม กล่าวว่าใครก็ตามที่ให้เกียรติพระสงฆ์ก็ให้เกียรติพระคริสตเจ้า ใครก็ตามที่ไม่ให้เกียรติพระสงฆ์ ก็ไม่ให้เกียรติพระคริสตเจ้า

                นักบุญอัมโบรส กล่าวว่า หน้าที่การงานของพระสงฆ์ เป็นหน้าที่การงานจากสวรรค์

                นักบุญฟรังซิส เดอ ซาลส์ หลังจากที่ท่านได้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์แล้ว ท่านรับรู้ได้ว่า ในขณะที่ท่านกำลังจะเดินผ่านประตูออกไป ท่านหยุดยืนอยู่ที่ประตูเพื่อให้ผู้อื่นผ่านออกไปก่อน มีคนถามท่านว่าทำไม่ท่านถึงหยุดชะงัก ท่านตอบว่าพระเจ้าโปรดอนุญาตให้ท่านได้เห็นการปรากฏอยู่ของเทวทูตรักษาตัวของท่าน ซึ่งก่อนหน้าที่ท่านจะได้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์ เทวทูตนั้นจะยืนอยู่ข้างขวาของท่านและนำหน้าท่านไป แต่เมื่อท่านได้รับศีลบวชแล้ว เทวทูตนั้นจะมาอยู่เบื้องซ้ายของท่านและปฏิเสธที่จะเดินนำหน้าท่านอีกต่อไป ดังนั้นการที่ท่านหยุดยืนที่ประตูเป็นเพียงการหยอกล้อกันระหว่างท่านกับเทวทูตนั้นเอง    (ยังมีต่อ)

 ............................................................................................................................

 สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลธรรมดา

“นานมาแล้ว มีหม้อชา ลายครามที่สวยงามมากใบหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบและเชิดหน้าชูตาของคนเป็นเจ้าของมาก แต่ด้วยความเปราะบางของมันทำให้เจ้าของนำออกมาใช้เฉพาะโอกาสพิเศษ เพื่อรับรองแขกคนสำคัญเท่านั้น แล้ววันหนึ่งคนใช้ที่สะเพร่าได้ทำหม้อชา ลายครามนี้ตกแตก กลายเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์จนเจ้าของต้องโยนทิ้งและถูกนำไปทิ้งไว้ในกองขยะ เวลาผ่านไปเนิ่นนานเข้าฝุ่นได้จับเกรอะกรัง จนไม่เหลือความงดงามในอดีต แม้กระทั่งคนเก็บขยะขายยังมองข้ามหม้อชาสกปรกไร้ประโยชน์ใบนี้

กระทั่งวันหนึ่งชาวสวนที่มีชื่อเสียงและเชี่ยวชาญในการปลูกดอกไม้คนหนึ่ง ได้นำวัชพืชไปทิ้งที่กองขยะ เขาได้พบกับหม้อชานี้และนำมันกลับมาบ้าน สิ่งแรกที่เขาทำคือขัดถูทำความสะอาด และรู้สึกประหลาดใจกับลวดลายที่สวยงามของมัน แม้ว่าจะไม่สามารถใช้เป็นหม้อชาได้อีก แต่เขาคิดว่าสามารถใช้ประโยชน์ในทางอื่นได้ เขาพบว่าหากนำมาทำเป็นกระถางปลูกดอกไม้คงจะสวยงามมากทีเดียว

คนสวนได้ใส่ดินและเมล็ดพันธุ์ดอกไม้ลงไปในหม้อชาใบนั้น พร้อมกับเอาใจใส่ดูแล ใส่ปุ๋ยรดน้ำทุกวัน จนเมล็ดพันธ์เริ่มแทงยอด ผลิใบและให้ดอกที่สวยงาม เขาจึงนำไปวางไว้ที่ขอบหน้าต่าง ทำให้คนที่ผ่านไปมาเห็นถึงความสวยงามของมัน ไม่เพียงดอกไม้ที่สวยงามเท่านั้น แต่กระถางที่ปลูกก็งดงามไม่แพ้กัน ทำให้บ้านแลดูมีชีวิตชีวา เป็นที่ชื่นชอบแก่ทุกคนที่พบเห็น จนไม่มีใครเชื่อว่าเขาได้หม้อใบนี้มาจากกองขยะ”

ในพระวรสารวันนี้ บอกกับเราว่า “พระเยซูเจ้า คือ ลูกแกะของพระเจ้า”  พระองค์เป็นผู้ลบล้างบาปของโลก ทุกครั้งที่เราทำบาป เราก็เป็นเสมือนกับหม้อชา ลายครามที่แตกร้าวใบนั้น ไม่มีประโยชน์อะไรเลย นอกจากจะถูกโยนทิ้งไป เพราะบาปทำให้เราตัดความสัมพันธ์อันดีระหว่างเรากับพระเจ้า และเพื่อนพี่น้อง แต่พระองค์รักเรา พระองค์จึงเสด็จมาเพื่อเราคนบาป นั่นก็คือเรามนุษย์ที่ยังมีความอ่อนแอ พระองค์เป็นเสมือนคนสวนที่นำเราออกมาจากกองขยะ และทำให้เราได้มีคุณค่าอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้น จงดำเนินชีวิตอย่างดีเถิด เพระพระเจ้าทรงรักเรา…

ชีวิตมนุษย์มีคุณค่าได้ เพราะพระรักเรา…

คพ.วิทยา

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 11 มกราคม 2015

พี่น้องที่รัก

                นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งใหญ่ของพระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทยอีกคำรบหนึ่ง ที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ทรงประกาศให้ทราบว่า พระองค์ท่านทรงเลือก พระคุณเจ้า ฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช ให้เข้าสู่ทำเนียบพระคาร์ดินัล ซึ่งนับเป็นพระคาร์ดินัลชาวไทยองค์ที่สอง ถัดมาจาก พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู

                ให้เราร่วมใจกันโมทนาคุณพระเจ้า สำหรับเกียรติที่ยิ่งใหญ่ของพระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทย ที่สมเด็จพระสันตะปาปา ได้มอบให้ในครั้งนี้ ขอพระนามพระเจ้าจงได้รับการสรรเสริญ ขอให้การมีส่วนร่วมในความเป็นหนึ่งเดียวกันที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นกับศูนย์กลางของพระศาสนจักร เป็นโอกาสทำให้คริสตชนชาวไทยมีความเชื่อ ความศรัทธา ความรักร้อนรนในองค์พระเจ้ามากขึ้น ด้วยเทอญ

คพ.พ่อสุพจน์

ความมหัศจรรย์ของพิธีบูชาขอบพระคุณ

(ต่อจากคราวที่แล้ว)

บทที่ 5

จากเด็กที่น่าสงสาร สู่การเป็นพระสังฆราช คาร์ดินัล และ นักบุญ

                ปีเตอร์ ดาเมียน ต้องสูญเสียพ่อและแม่บังเกิดเกล้าไปภายหลังจากลืมตาดูโลกได้ไม่นาน พี่ของเขาคนหนึ่งเลี้ยงดูเขาภายหลังจากที่ต้องเป็นกำพร้า แต่เขาถูกบังคับให้ต้องทำงานหนัก แต่มีอาหารการกินที่อัตคัตขัดสน เขามีเพียงเสื้อผ้าซอมซ่อปกปิดร่างกาย

                วันหนึ่ง ปีเตอร์ โชคดีเจอเหรียญเงินที่ตกอยู่เหรียญหนึ่ง  เพื่อนของเขายุให้เขานำเหรียญนั้นไปใช้จ่าย เพราะไม่สามารถหาเจ้าของเหรียญที่แท้จริงได้

                ปีเตอร์ตกอยู่ในความสับสน ว่าเขาจะนำเหรียญเงินเหรียญนั้นมาใช้เพื่อซื้อข้าวของที่เขามีความจำเป็นต้องใช้ เพราะเขาขัดสนทุกสิ่งดีหรือไม่

                แต่มโนธรรมของปีเตอร์บอกกับเขาว่า เขาควรจะเลือกทำในสิ่งที่เหมาะสมกว่านั้น นั่นคือนำเหรียญเงินเหรียญนั้นไปขอมิสซาอุทิศให้วิญญาณในไฟชำระ โดยเฉพาะเพื่อดวงวิญญาณของบิดามารดาของเขา เขาตัดสินใจทำตามสิ่งที่มโนธรรมเขาบอกกล่าว และ ได้ขอมิสซาอุทิศให้กับดวงวิญญาณในไฟชำระ

                หลังจากนั้นชีวิตของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง

                พี่คนโตของเขามาเยี่ยมเขาที่บ้าน และ เห็นว่าเขาต้องทำงานอย่างหนัก ยากลำบากมาก พี่คนโตจัดการให้เขาไปอยู่ภายใต้ความดูแลของพี่คนโต ซึ่งได้เอาใจใส่ เลี้ยงดูเขาอย่างดีด้วยความรัก เขาถูกส่งไปเรียนในโรงเรียน นับตั้งแต่นั้นมา พระพรของพระเจ้าก็หลั่งไหลมายังชีวิตของปีเตอร์ ดาเมียนไม่หยุดยั้ง เขาได้รับการอบรมต่อในบ้านเณร และ ได้บรรลุถึงการเป็นพระสงฆ์ ไม่นานหลังจากนั้น เขาได้รับศีลบวชเป็นพระสังฆราช และ ที่สุดก็ได้รับการยกขึ้นเป็นพระคาร์ดินัล เมื่อท่านล่วงลับไปได้ไม่นาน ชื่อของท่านได้รับการเสนอให้พิจารณาให้เข้าสู่ทำเนียบนักบุญ และ มีอัศจรรย์เกิดขึ้นเพื่อยืนยันความศักดิ์ของท่าน ในที่สุดพระศาสนจักรสถาปนาท่านเป็นนักบุญนักปราชญ์ของพระศาสนจักร ผลบุญต่างๆเหล่านี้เกิดขึ้นเพียงเพราะ พิธีบูชาขอบพระคุณครั้งนั้นเพียงครั้งเดียว     (ยังมีต่อ)

................................................................................................................

 พระคาร์ดินัลองค์ที่ 2 ของประเทศไทย

เป็นเรื่องน่ายินดียิ่ง เมื่อพระอัครสังฆราช ฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช พระสังฆราชของเราจะได้รับการสถาปนาเป็นพระคาร์ดินัล ตามการประกาศของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส โดยจะมีการสถาปนาพระคาร์ดินัลใหม่ขึ้นในวันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2015 นี้  ขอเราทุกคนจะได้ร่วมใจกันภาวนาเพื่อพระสังฆราชของเราด้วยเช่นกัน

[ เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ “พระคาร์ดินัล” ]

ประมวลกฎหมายพระศาสนจักร กล่าวไว้ว่า “ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นพระคาร์ดินัล เป็นบุรุษที่พระสันตะปาปาคัดเลือกอย่างอิสระ อย่างน้อยเป็นผู้อยู่ในฐานันดรสงฆ์... ผู้ที่ยังไม่เป็นพระสังฆราช ต้องได้รับการอภิเษกเป็นพระสังฆราช” (ม.351 วรรค 1)

ตำแหน่ง “พระคาร์ดินัล” เป็นสมณศักดิ์สูงสุดในพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก รองจากสมเด็จพระสันตะปาปา พระคาร์ดินัล มีหน้าที่ช่วยเหลือให้คำปรึกษาแนะนำแก่พระสันตะปาปาในงานปกครองพระศาสนจักร เปรียบเสมือนวุฒิสมาชิกหรือองคมนตรีของพระสันตะปาปา นอกจากนั้นยังเป็นหัวหน้าบริหารสมณกระทรวง สมณองค์การ และหน่วยงานอื่นๆ ของพระศาสนจักร

“คณะพระคาร์ดินัล” ซึ่งรวมเรียกว่า“The Sacred College of Cardinals” ยังมีหน้าที่บริหารพระศาสนจักรในระหว่างที่ตำแหน่งพระสันตะปาปาว่างลง (Sede Vacante) อีกด้วย หลังจากที่พระสันตะปาปาสิ้นพระชนม์ คณะพระคาร์ดินัลจะต้องมาประชุมกันเพื่อทำการเลือกตั้งพระคาร์ดินัลองค์หนึ่งขึ้นเป็นพระสันตะปาปาสืบต่อไป 

ตำแหน่งพระคาร์ดินัลไม่ใช่ศีลบวช การแต่งตั้งจึงไม่ใช่พิธีบวชอย่างที่บางท่านอาจจะเข้าใจ แต่เป็นเพียงการเลื่อนสมณศักดิ์เท่านั้น พิธีแต่งตั้งกระทำในการประชุมคณะพระคาร์ดินัลกับพระสันตะปาปา ที่เรียกว่า “Consistory” ซึ่งแยกเป็น “การประชุมภายใน” (Secret Consistory) ที่พระสันตะปาปาทรงแจ้งรายชื่อผู้ที่จะรับตำแหน่งพระคาร์ดินัลให้คณะพระคาร์ดินัลทราบ การแจ้งนี้ทำให้พระคาร์ดินัลใหม่ได้รับสิทธิที่จะเข้าประชุมเลือกพระสันตะปาปาได้ทันที รวมทั้งอภิสิทธิ์อื่นๆ ของพระคาร์ดินัล หลังจากนั้นจะมีพิธีมอบหมวกแดง (Biretta) ซึ่งเป็นเครื่องหมายของพระคาร์ดินัลในการประชุมภายนอก (Public Consistory) และหลังจากนั้นพระคาร์ดินัลก็จะไปกระทำพิธีเข้าครอบครองวัดประจำตำแหน่งในกรุงโรมตามโอกาส

ผู้ที่เป็นพระคาร์ดินัล นอกจากมีหน้าที่เลือกตั้งพระสันตะปาปา ในยามที่ตำแหน่งพระสันตะปาปาว่างลงแล้ว บรรดาพระคาร์ดินัลยังเป็นที่ปรึกษาสำคัญของพระสันตะปาปา และช่วยพระองค์บริหารปกครองพระศาสนจักร ส่วนกลาง และหน้าที่ในการเอาใจใส่ดูแลพระศาสนจักรสากลด้วยเช่นกัน…

คพ.วิทยา

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 4 มกราคม 2015

พี่น้องที่รัก

                วันปีใหม่พึ่งจะผ่านพ้นไปไม่กี่วันก็จริงอยู่ แต่วันเวลาเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว เข็มนาฬิกาไม่เคยหยุดรอคอยใคร เวลาเป็นพระพรที่พระเจ้าประทานให้กับเราทุกคนเท่าเทียมกัน เวลาเป็นโอกาสที่ช่วยเราให้เจริญก้าวหน้าในด้านต่างๆได้ เพราะถ้าขาดเสียซึ่งเวลา เราก็คงไม่มีโอกาสจะทำอะไรได้ ถ้าขาดเสียซึ่งเวลา เราก็คงไม่มีความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราได้ ด้วยเหตุนี้ข้อคิดสำหรับเราก็คือ เราต้องใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ ใช้เวลาให้เหมาะสม อย่าปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยไม่สมควร เพราะเมื่อเวลาผ่านไปแล้วเราไม่สามารถเรียกเวลาให้หวนคืนกลับมาได้อีก เราจึงควรตั้งเป้าหมายไว้ให้ชัดเจน เพื่อพัฒนาชีวิต เพื่อพัฒนาคุณสมบัติประจำตัวของเรา เพื่อพัฒนาคุณธรรมในชีวิตของเรา หมายความว่า เมื่อเวลาผ่านไปแต่ละวัน แต่ละเดือน แต่ละปี ชีวิตของเราจะก้าวหน้าไปสู่ความพร้อมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ชีวิตของเรามีแต่ความดีงามที่พอกพูนเพิ่มมากขึ้น แต่ถ้าชีวิตของเราไม่เป็นเช่นนี้ ต้องหันกลับไปหวนคิดแล้วว่า เราใช้เวลาของเราในการสร้างเสริมคุณค่าที่พัฒนาชีวิตของเราให้ดียิ่งขึ้นหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ อาจเป็นไปได้ว่าชีวิตของเรากำลังมุ่งไปในทางที่ผิดก็เป็นได้

                ขอพระเจ้าโปรดประทานพระพรให้กับพี่น้องอย่างอุดมสมบูรณ์ ให้พี่น้องทุกคน ประสบความสำเร็จในเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ และ ขอให้พี่น้องสมหวังกับความดีงามในชีวิตที่งอกเงยขึ้นมา เป็นประดุจดอกไม้สวยสดใส สร้างความประทับใจ ส่งกลิ่นหอม ขจรขจาย เป็นเกียรติภูมิของชีวิตที่ผู้คนยกย่อง

พ่อสุพจน์

ความมหัศจรรย์ของพิธีบูชาขอบพระคุณ

(ต่อจากคราวที่แล้ว)

บทที่ 5

จงอย่าละเลยในการไปร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณเลย

                ผู้เขียนข้อความต่อไปนี้ ยังจำได้ดีถึงอีกเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นกับชายผู้โชคร้ายคนหนึ่งในกรุงโรม ชายผู้นี้เป็นช่างแกะสลักหิน แทนที่เขาจะหยุดงานในวันอาทิตย์เพื่อไปร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ เขายังคงทำงานอย่างเปิดเผยเป็นตัวอย่างที่ไม่น่าปฏิบัติตามพฤติกรรมเช่นนี้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันฉลองพระจิตเจ้าเสด็จลงมา ชายผู้นี้ยังคงง่วนกับการทำงานบนนั่งร้านสูง แต่อนิจจา เขาพลาดหล่นลงมาจากนั่งร้าน ร่างของเขาลอยลงมาฟาดกับพื้นด้านล่างอย่างแรง เขาเสียชีวิตทันที

                นักบุญอันตนแห่งฟลอเรนซ์ บอกกล่าวอีกตัวอย่างหนึ่ง ที่ต้องเสียชีวิตลงเพราะละเลยการไปร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณในวันอาทิตย์

                เรื่องมีอยู่ว่า มีชายสองคนออกเดินทางไปล่าสัตว์ คนหนึ่งไปร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณแล้ว ส่วนอีกคนละเลย เวลานั้นเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ทันใดนั้นสายฟ้าก็ผ่าลงมายังที่ที่ทั้งสองคนยืนอยู่ ปรากฏว่าชายคนที่ไม่ได้ไปวัดวันอาทิตย์ถูกสายฟ้าฟาดถึงแก่ชีวิต ส่วนคนที่ไปวัดวันอาทิตย์มาแล้ว รอดชีวิตจากเหตุการณ์นี้โดยไม่มีร่องรอยขีดข่วนใดๆเลย

                หน้าที่ประการหลักประการหนึ่งของเราคริสตชนก็คือ การไปร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณในวันอาทิตย์ ในรอบหนึ่งสัปดาห์ ประกอบด้วย 7 วัน มีเพียงวันเดียวเท่านั้นที่เราถือว่าเป็นวันฉลอง เป็นวันของพระเจ้า  การละเลยวันพระเจ้า จึงเป็นการกระทำที่เหลวไหลที่ควรหลีกเลี่ยงเป็นอย่างยิ่ง     (ยังมีต่อ)

........................................................................................

สมโภชพระคริสตเจ้าแสดงองค์

 

สวัสดีปีใหม่ 2015 แด่พี่น้องที่รักทุกท่าน…

ขอต้อนรับเข้าสู่ปีใหม่ ขอให้ปีใหม่นี้ เป็นปีที่เราจะมีอะไรดีดี ใหม่ๆ เข้ามาสู่ในชีวิตของเราทุกคน ขอให้ปีใหม่นี้ พี่น้องทุกคนจะมีแต่ความสุข สมหวัง สุขภาพแข็งแรง สมบูรณ์พูนสุขกันถ้วนหน้า ครับ…

ปีใหม่นี้ ขอให้พระพรขององค์พระกุมารเจ้าจะได้โปรยปรายพระพร พระหรรษทานมาสู่ชีวิต จิตใจของพี่น้องทุกคนตลอดไป ตราบนานแสนนานด้วย

และเช่นเดียวกัน ขอปีใหม่นี้เราทุกคนจะได้มีความเชื่อศรัทธา ความรักในพระเจ้า ที่เต็มเปี่ยม ต้อนรับปีใหม่ เริ่มต้นชีวิตที่ดี เริ่มต้นชีวิตที่สดใสตลอดไปครับ…

พี่น้องที่รัก… ปีใหม่แล้ว เมื่อเรามีพระอยู่กับเรา ความสุขก็ไม่หนีไปไหน วันนี้วันอาทิตย์แรกของปี เราทำการสมโภชพระคริสตเจ้าแสดงองค์ (Epiphany) ซึ่งเราระลึกถึงเรื่องสำคัญ 2 ประการครับ

Ø ประการที่ 1  พระผู้ไถ่เสด็จมา เพื่อมนุษย์ทุกคน ทุกชาติ ทุกภาษา ไม่เว้นใครเลย

พระองค์แสดงพระองค์เองแก่เราทุกคน โดยมีนักปราชญ์สามท่านจากชนชาติต่างๆ เป็นผู้แทน แสดงว่าเราทุกคนมีสิทธิแสวงหาพระเจ้า พระผู้ไถ่พระองค์นี้ได้เสมอ

Ø ประการที่ 2  เราระลึกถึงการให้

นักปราชญ์ทั้งสามเป็นผู้แทนของเรา พวกท่านนำสิ่งที่ดีที่สุดและมีความหมาย มาถวายแด่พระกุมารเจ้า “ทองคำ กำยาน และมดยอบ”

·        ทองคำ    มีความหมายถึงเป็นสัญลักษณ์ของกษัตริย์

·        กำยาน    มีความหมายถึง การเป็นพระเจ้า

·        มดยอบ   มีความหมายถึง การรับทรมานของพระเยซูเจ้า

การที่พระคริสตเจ้ามาบังเกิดเพื่อเรา พระองค์เป็นข่าวดีสำหรับเราทุกคน ดังนั้น วันนี้เราจึงต้องมาคิดถึง “การให้” ของเราแต่ละคนว่าเราได้ ให้ อะไรแด่พระกุมารเจ้าบ้าง…  (ถ้ายัง) ขอให้เราได้เข้าไปหาพระกุมารเจ้าของเรา พร้อมด้วยของขวัญชิ้นหนึ่ง เป็นของขวัญที่มาจากหัวใจของเราที่ดีและจริงใจ แล้วพี่น้องจะเห็นพระกุมารยิ้มอย่างมีความสุข และความสุขนั่นก็จะมาถึงเราด้วยเช่นกัน

คพ.วิทยา