พี่น้องที่รัก
อัลเลลูยา
พระเยซูเจ้าทรงกลับฟื้นคืนพระชนม์ชีพจากความตาย
ให้เรามาเฉลิมฉลองด้วยความชื่นชมยินดีกันเถิด
อัลเลลูยา
และแล้ววันสมโภชที่สำคัญและยิ่งใหญ่ที่สุดของพระศาสนจักรก็เวียนบรรจบมาอีกครั้งหนึ่ง
การสมโภชปัสกา คือ การสมโภชพระธรรมล้ำลึกแห่งการสิ้นพระชนม์และการกลับคืนพระชนม์ชีพขององค์พระเยซูคริสตเจ้า
พระบุตรของพระเจ้าที่ทรงลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์ และ
ถวายองค์เป็นเครื่องบูชาแด่พระเจ้า เพื่อชำระมลทินบาปของเรามนุษย์
วันฉลองสมโภชวันนี้เองจึงเป็นวันที่เราคริสตชนเฉลิมฉลองความจริงที่ว่า
พระเยซูพระบุตรของพระเจ้าทรงไถ่เรามนุษย์ให้พ้นจากบาป และ
มลทินต่างๆอันเป็นผลสืบเนื่องมาจากบาปที่เรามนุษย์ได้กระทำ
เมื่อเราทราบว่าเราคริสตชนได้รับความโปรดปรานเป็นพิเศษจากพระเจ้า
เพราะพระองค์ทรงนำพาเราทุกคนไปสู่ความรอดพ้น พระองค์นำพาเราไปสู่ความสันติสุข
ทำให้เรามีความชื่นชมยินดีในความหวังอันสว่างสุกใส
รุ่งเรืองที่รอคอยเราอยู่ในภายภาคหน้า
พระเจ้าทรงรอคอยเราอยู่เพื่อสวมกอดต้อนรับเราเข้าสู่พระอาณาจักรอันรุ่งเรืองสุกใสของพระองค์
การฉลองสมโภชปัสกาด้วยความชื่นชมยินดีในโลกนี้
เป็นภาพเลาๆที่พอจะทำให้เราเข้าใจ
ถึงการฉลองปัสกาแห่งการกลับคืนชีพที่น่าชื่นชมยินดีสูงสุดในชีวิตหน้าของเราแต่ละคนเมื่อเราผ่านชีวิตปัจจุบันของเราไปสู่ชีวิตอันเป็นนิรันดรที่จะมาถึง
บาปและความตายอันเป็นผลมาจากบาปที่เรามนุษย์ได้กระทำนั้น ไม่มีอำนาจที่จะผูกมัด
กุมขัง เราได้อีกต่อไป เพราะพระเยซู พระบุตรของพระเจ้า
ทรงมีชัยชนะเหนือบาปและความตาย ด้วยการกลับคืนพระชนม์ชีพของพระองค์แล้ว
เราคริสตชนจึงได้รับความรุ่งเรือง
โดยอาศัยความรุ่งเรืองของพระเยซูเจ้าผู้ทรงกลับคืนชีพนี้
ขอวิงวอนพระเจ้า โปรดโปรยปรายพระพรอันอุดมของพระองค์มาสู่พี่น้องทุกๆท่าน
สุขสันต์วันปัสกา
คุณพ่อสุพจน์
.............................................................................................
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพ
อัลเลลูยา
สวัสดีครับพี่น้อง
เสียงร้องอัลเลลูยาในอาทิตย์นี้ดูจะดังกึกก้องเป็นพิเศษ
เนื่องมาจากตลอดเทศกาลมหาพรตนั้น ทางพิธีกรรมได้งดการเอ่ยคำ “อัลเลลูยา” ไป
“อัลเลลูยา”
มาจากภาษาฮีบรู (הללו יה) ซึ่งมีความหมายว่า “สรรเสริญพระยาห์เวห์”
(นี่เป็นการตอบคำถามสัตบุรุษผู้หนึ่งที่มาถามพ่อไว้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาด้วย)
ซึ่งเชื่อกันว่าเหล่าทูตสวรรค์ขับร้องด้วยคำนี้ เพื่อสรรเสริญพระเจ้าที่รอบๆ
พระบัลลังก์ในสวรรค์ ด้วยความชื่นชมยินดี และเรามนุษย์นำมาใช้ในพิธีมิสซา
เพื่อร่วมกับเหล่าทูตสวรรค์ในการสรรเสริญพระองค์
และเป็นการย้ำเตือนกับเราด้วยว่าอาณาจักรสวรรค์อยู่บนโลกนี้แล้ว
ในการร่วมบูชามิสซานั่นเอง
คำถามต่อไปคือว่า
“แล้วทำไมจึงไม่ขับร้องอัลเลลูยาในเทศกาลมหาพรต?”
เหตุว่าจุดเน้นของเทศกาลมหาพรตคือการที่พระอาณาจักรจะมาถึง
ไม่ใช่พระอาณาจักรที่มาถึงแล้ว ทั้งบทอ่านและบททำวัตร
(การสวดภาวนาของพระสงฆ์นักบวช)
ต่างก็เน้นไปที่การเดินทางฝ่ายจิตของชาวอิสราเอลในพันธสัญญาเดิมเพื่อรอคอยการเสด็จมาของพระแมสสิยาห์ผู้นำความรอดพ้นมาให้มวลมนุษย์
ดังนั้นพระศาสนจักรจึงได้งดคำ “อัลเลลูยา” ในเทศกาลนี้ เพื่อสำนึกผิดบาป กลับใจ
เพื่อว่าวันหนึ่งเราจะได้รับสิทธิ์เข้าไปขับร้องสรรเสริญพระเจ้าร่วมกับเหล่าทูตสวรรค์
เมื่อวันแห่งชัยชนะของพระเยซูคริสตเจ้ามาถึง
ในคืนวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ ก่อนอ่านพระวรสารพระสงฆ์จะขับเพลงอัลเลลูยา 3 ครั้ง
และทุกคนร้องตาม ก็เท่ากับว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพแล้ว
พระอาณาจักรมาถึงแล้ว ให้เราร้องตะโกนด้วยความชื่นชมยินดีนะครับว่า “อัลเลลูยา”
เรื่องจริงเกี่ยวกับความเชื่อของเด็กผู้ชายคนหนึ่งในเรื่องชีวิตนิรันดรมีว่า
“ระหว่างทานอาหารเย็นด้วยกันในครอบครัว มีผู้ขอร้องให้ จิมมี่ โรเจอร์ อายุ 7 ขวบ
บอกเล่าความเชื่อของเขาเรื่องชีวิตนิรันดร เขากล่าวว่า
“วันหนึ่งที่พวกเราทุกคนไปอยู่ในสวรรค์
ทูตสวรรค์ของพระเจ้าจะเรียกขานชื่อของพวกเราจากในหนังสือแห่งชีวิตเล่มใหญ่
อันดับแรก ทูตสวรรค์จะเรียกชื่อ “พ่อโรเจอร์” และพ่อก็จะตอบว่า “อยู่ครับ”
และก็เรียก “แม่โรเจอร์” และแม่ก็ตอบว่า “อยู่ค่ะ” จากนั้นก็เรียก “ซูซี่กับมาวิส
โรเจอร์” และทั้งคู่ก็ตอบว่า “อยู่ครับ/ค่ะ)
จิมมี่หยุดเล็กน้อย
สูดหายใจลึกแล้วกล่าวต่อว่า “สุดท้าย ทูตสวรรค์ก็เรียกชื่อของผม “จิมมี่ โรเจอร์”
และเพราะว่าผมตัวเล็ก เกรงว่าทูตสวรรค์จะมองไม่เห็น เลยกระโดดขึ้นและตะโกนว่า
“อยู่ครับ”
ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา
เด็กน้อยจิมมี่ก็ประสบอุบัติเหตุและได้รับบาดเจ็บหนัก
ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ทุกคนในครอบครัวมาอยู่ล้อมรอบเตียงของเขา
โดยที่เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ และไม่รู้สึกตัวอีกแล้ว
บางทีเขาอาจต้องจากไปในเช้าวันรุ่งขึ้น
ทุกคนจึงได้ภาวนาอยู่ข้างเตียงของเขาด้วยกัน
พอดึกๆ เด็กน้อยจึงเริ่มขยับตัว ทุกคนจึงได้เข้ามาใกล้เตียง
แล้วเขาก็พูดเพียงคำเดียวก่อนจะจากโลกนี้ไป ซึ่งเป็นคำที่ปลอบประโลมใจ ด้วยเสียงที่ชัดเจนและดังพอที่ทุกคนจะได้ยินและเข้าใจได้
จิมมี่น้อย กล่าวว่า “อยู่ครับ”
แล้วเขาก็ได้ไปมีชีวิตในอีกโลกหนึ่งที่ทูตสวรรค์ได้เรียกชื่อของผู้ที่มีเขียนไว้ในหนังสือแห่งชีวิตเล่มนั้น
พี่น้องครับ
เราฉลองปัสกาขององค์พระเยซูเจ้าในวันนี้
ตอบกับตัวเองให้ได้นะครับว่า “ปัสกามีความหมายอะไรสำหรับฉัน?” แล้วเมื่อนั้น
เราจะตะโกนร้องอัลเลลูยาได้อย่างดังและชัดเจนที่สุด สุขสันต์วันปัสกาครับ!!!
คุณพ่อปลัดองค์เล็ก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น