วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2556

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2513


สวัสดีครับพี่น้องที่รัก
            บัดนี้เราเข้ามาสู่ช่วงสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ด้วยการเฉลิมฉลองวันที่พระเยซูเจ้าเสด็จเข้าสู่กรุงเยรูซาเล็ม หรือที่เราเรียกกันอย่างเคยว่า วันอาทิตย์ใบลาน ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองพระธรรมล้ำลึกแห่งการรับทนทรมาน การถูกตรึงตายบนไม้กางเขน และ การกลับคืนพระชนม์ชีพของพระเยซูเจ้า นี่คือการสมโภชที่สำคัญที่สุดของปีพิธีกรรมในพระศาสนจักร การเฉลิมฉลองนี้ทำให้เรามองเห็นว่า พระเจ้าทรงห่วงใยเรามนุษย์จริงๆ พระองค์ทรงประทานพระบุตรแต่พระองค์เดียวมาตายเพื่อไถ่บาปของเรามนุษย์ ดังนั้นให้เรามอบถวายความไว้วางใจทั้งสิ้นไว้กับพระองค์
            โอกาสนี้พ่อขอนำเรื่องเล่าเกี่ยวกับการวางใจในพระเจ้ามาให้พี่น้องได้อ่านครับ
            หลายร้อยปีก่อน ทูตชาวอังกฤษคนหนึ่ง ขณะเดินทางเพื่อไปทำหน้าที่ที่ประเทศสวีเดน  เขามีความกังวลใจในภารกิจนี้มากถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ ระหว่างการเดินทางเขาแวะเข้าไปพักในโรงแรมแห่งหนึ่งพร้อมกับที่ปรึกษาของเขา  อาการนอนไม่หลับนั้นทำให้เขาต้องกระสับกระส่ายพลิกตัวไปมาตลอดเวลา เตียงที่เขานอนก็ส่งเสียงลั่นเอี๊ยดอ๊าด
            เมื่อได้ยินอย่างนี้ ที่ปรึกษาของเขาจึงไปเคาะประตูห้องที่เขานอนอยู่  เมื่อทูตคนนี้มาเปิดประตูให้ ที่ปรึกษาหนุ่มกล่าวกับเขาว่า   “ผมขออนุญาตถามคำถามท่านสักหนึ่งข้อเถิด?”
            “ว่าไปเลย” ท่านทูตตอบกลับอย่างรวดเร็ว
            “ขออภัยนะครับท่าน ท่านคิดใช่ไหมครับว่า พระเจ้าได้ทรงเอาใจใส่ดูแลโลกนี้มาอย่างดีตลอดเวลาก่อนที่ท่านจะเกิดมา?”
            “โอ้ว แน่นอนที่สุด”
            “แล้วท่านคิดใช่ไหมครับว่า พระองค์จะทรงดูแลโลกนี้อย่างดีต่อไปเช่นเดียวกันในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่?”
            คำถามนี้ไม่ต้องการคำตอบใดๆ ทูตผู้นั้นเข้าใจประเด็นแล้ว เขากล่าวกับที่ปรึกษาว่า “ราตรีสวัสดิ์” ปิดประตูห้อง แล้วกลับไปนอนหลับสนิทเหมือนกับเด็กๆที่ไม่มีความกังวลใจใดๆอีก
            “ผู้ที่วางใจในพระเจ้าก็เป็นสุข” (สดุดี 40:4)

                                                                                                                               คุณพ่อสุพจน์
 ...........................................................................................................................................                                                                                                                       
สวัสดีครับพี่น้องที่รักทุกท่าน
                อาทิตย์นี้เป็นอาทิตย์มหาทรมานของพระเยซูเจ้าหรือที่เราเรียกกันว่าอาทิตย์ใบลาน เป็นการฉลองที่เป็นการเริ่มต้นเข้าสู่สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ก่อนการสมโภชปัสกาของพระเยซูเจ้า พระเยซูเจ้าทรงเสด็จเข้ามาที่กรุงเยรูซาเล็มเพื่อมาร่วมงานฉลองปัสกาของชาวยิวเป็นประจำทุกปี และในครั้งนี้พระองค์ก็ทรงรู้ว่านี่เป็นครั้งสุดท้ายของพระองค์แล้ว เวลาของพระองค์มาถึงแล้วที่พระองค์จะกระทำพันธกิจของพระบิดาให้สำเร็จลุล่วงไป พระองค์ทรงรู้ตัวดีทุกอย่างว่าพระองค์กำลังทำอะไร ซึ่งแสดงให้เราเห็นถึงความสมัครใจที่จะปฏิบัติตามน้ำพระทัยของพระเจ้า นอกจากนี้พระองค์ทรงเชื้อเชิญเราทุกคนให้ปฏิบัติตามน้ำพระทัยของพระเจ้าในชีวิตของเรา โดยร่วมส่วนในพระทรมานของพระองค์หากเราต้องเผชิญกับความทุกข์ยากลำบาก และการถูกผจญ ความท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา
            ในระหว่างทางเดินไปยังเนินเขากัลป์วารีโอ พระเยซูเจ้าทรงได้รับความช่วยเหลือจากซีโมน ชาวไซรีน ซึ่งเป็นตัวแทนของศิษย์ทุกคนของพระเยซูเจ้า ผู้ช่วยแบ่งเบาภาระของเพื่อนมนุษย์ที่กำลังต่อสู้กับการแบกกางเขนในชีวิตของตน มีประชาชนจำนวนมากติดตามพระองค์ไป ในจำนวนนั้นมีสตรีกลุ่มหนึ่งที่เห็นใจพระเยซูเจ้าและเข้ามาปลอบโยนพระองค์ พระเยซูเจ้าทรงตรัสกับพวกนางว่า “จงร้องไห้สงสารตนเองและลูกๆ เถิด” เพราะการเดินทางสู่เขากัลวารีโอของพระองค์จะเกิดขึ้นซ้ำอีกในความทุกข์ทรมานของคนทุกรุ่นที่ติดตามพระองค์ คริสตชนมองว่าความทุกข์ทรมานของตนเป็นการเข้าร่วมในพระทรมานของพระเยซูเจ้า
            ดังนั้นพระทรมานของพระเยซูเจ้าเตือนใจเราคริสตชนว่า...
1.       เราต้องสมัครใจแบกกางเขนของเราแต่ละคนและเดินไปยังเขากัลป์วารีโอ
2.    เราสามารถร่วมแบ่งเบาความทุกข์ยากลำบากของคนอื่นๆ ได้ด้วยการให้ความช่วยเหลือ และในขณะเดียวกันเราก็จะได้รับความช่วยเหลือจากคนอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
3.       ความทุกข์ยากต่างๆ ในชีวิตของเราเป็นการร่วมส่วนในพระทรมานของพระเยซูเจ้า
พระเยซูเจ้าตรัสว่า “จงแบกกางเขนของตนและติดตามพระองค์ไป” เราพร้อมที่จะปฏิบัติตามพระองค์แล้วหรือไม่?
                                                                                                                                                       คุณพ่อศวง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น