วันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555

สารวัดอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม 2012


สวัสดีครับพี่น้องที่รัก
นับเป็นช่วงเวลาพอสมควรแล้วที่มีการประกาศใช้บทภาวนาที่ได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงการใช้ถ้อยคำใหม่ เปลี่ยนไปจากเดิม จากการพิจารณาของคณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพิธีกรรม เพื่อให้คริสตชนได้นำมาใช้สำหรับการสวดภาวนา ในระยะเริ่มแรก ทุกคนก็พากันบ่นว่า เปลี่ยนทำไมกันเนี่ย ไม่มีอะไรจะทำกันแล้วเหรอ แล้วตอนนี้จะสวดยังไงกัน เพราะต้องมาเริ่มต้นทำความคุ้นเคย ท่องจำกันใหม่ ถ้ายังเป็นเด็กๆก็ยังพอว่า แต่นี่อายุมากปูนนี้แล้ว การจะเรียนรู้ท่องจำใหม่มันไม่ง่ายเหมือนกับสมัยเด็กๆนะ บางคนถึงกับตัดพ้อต่อว่า สงสัยต้องเลิกเป็นคริสตัง เลิกสวดกันแล้ว เพราะสวดบทสวดแบบใหม่ไม่ได้ ทำไมของเก่ามันไม่ดียังไงเหรอ
คำตัดพ้อต่อว่า ต่อการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมายในทำนองไม่เห็นด้วย มีหนาหูมากโดยเฉพาะในช่วงระยะเวลาเริ่มต้น แต่เมื่อเริ่มมีการนำบทภาวนาที่ปรับปรุงใหม่มาใช้ในการสวดในวัดได้สักช่วงระยะเวลาหนึ่ง ความกระท่อนกระแท่น ก็ค่อยๆหายไป คำบ่นว่าต่างๆก็เริ่มลดลง เพราะบทภาวนาหลักๆที่มักใช้สวดกันเป็นประจำ อาทิ บทข้าแต่พระบิดา บทวันทามารีอา บทพระสิริรุ่งโรจน์ ก็มีการเปลี่ยนแปลงไม่มาก เมื่อสวดซ้ำไปซ้ำมา ก็เกิดความคุ้นเคยขึ้นใจได้ไม่ยากนัก และเมื่อหันมาพิจารณาถ้อยคำที่เรียบเรียงขึ้นมาใหม่ ก็พบว่า มีการสื่อความหมายที่ชัดเจน กระชับ ให้ความหมายที่ดีกว่าเดิม แม้ว่า ยังพบปัญหาการใช้บทสวดภาวนาที่ยาวๆ อาทิ บทอัญเชิญพระจิต บทแสดงความเชื่อ และ บทอื่นๆนั้น ยังคงต้องให้เวลากับการปรับตัวของสัตบุรุษมากกว่านี้ แต่สำหรับเด็กๆรุ่นใหม่ๆ ก็เริ่มต้นท่องบทสวดแบบใหม่ได้ขึ้นใจคล่องแคล่วโดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
ในทางปฏิบัติแล้ว พ่อพบว่า หลายคนยังคงต้องเผชิญกับ ความยากลำบากในการท่องขึ้นใจกับบทภาวนาทั้งหลายที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงถ้อยคำไปอีกพอสมควรทีเดียว ถ้าไม่มีอะไรมาเป็นเครื่องช่วยกระตุ้นให้มีการหันมาทำความคุ้นเคยให้เร็วขึ้นแล้ว ก็คงต้องปล่อยให้กาลเวลาช่วยให้ค่อยๆซึมซับเข้าสู่ความทรงจำไปแบบตามธรรมชาติ ซึ่งแน่นอนคงต้องใช้เวลาอีกยาวนานไม่น้อย สิ่งที่พอจะทำได้ในเวลานี้คือ เปิดใจรับ และ เริ่มต้นสวดภาวนาบทสำคัญๆ ให้ได้เสียก่อน แล้วค่อยๆเพิ่มเติมบทใหม่ๆ ให้มากขึ้น ทีละเล็กทีละน้อย ก็คงสำเร็จในเวลาไม่นาน
พ่อได้จัดทำตัวช่วยสำหรับการสวดสายประคำขึ้นโดยมีผู้มีน้ำใจดีสนับสนุนในการจัดทำครั้งนี้ เป็นแผ่นซีดีเสียงสวดสายประคำ เพื่อช่วยภาวนา โดยใช้บทข้าแต่พระบิดา บทวันทามารีอา บทพระสิริรุ่งโรจน์ ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ แผ่นซีดีนี้มีข้อรำพึงครบทั้ง 4 ธรรมล้ำลึก รวมถึงธรรมล้ำลึกภาคแสงสว่างที่เพิ่มเติมขึ้นมาโดยบุญราศีสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์นปอล ที่สองอีกด้วย แผ่นซีดี “สายประคำ นำชีวิต” นี้ เหมาะสำหรับใช้นำสวดสายประคำ ในเวลาต่างๆที่อยากสวด เพียงขอให้มีเครื่องเล่นซีดีเอาไว้สักเครื่อง ก็เปิดนำสวดได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ในรถ หรือที่ไหนๆก็ตาม น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของ ผู้สูงอายุที่มีเวลาสวดมากๆ หรือ ผู้ป่วยที่ต้องการสำรวมจิตใจสวดภาวนา การสวดสายประคำตามแผ่นซีดีแผ่นนี้ใช้เวลาสวดสายละ เพียงไม่เกิน 20 นาทีเท่านั้น พี่น้องสามารถขอรับได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด พ่อเตรียมแผ่นซีดีไว้ 1,000 แผ่น น่าจะเพียงพอสำหรับวัดของเรา หวังว่าแผ่นซีดี “สายประคำ นำชีวิต” คงจะช่วยเพิ่มพูนความศรัทธาของพี่น้องต่อพระนางมารีย์ แม่พระของเรา และ ช่วยให้พี่น้องใกล้ชิดกับพระมากขึ้น
                                                                                                                        คุณพ่อสุพจน์
............................................................................................................


สวัสดีครับพี่น้องที่รักทุกท่าน
             เมื่อเราได้เข้าใจแล้วว่าพิธีบูชามิสซาคือ การระลึกถึงการถวายบูชาของพระเยซูเจ้าบนไม้กางเขน ซึ่งถือได้ว่าเป็นการถวายบูชาเดียวกันแต่มีรูปแบบที่เปลี่ยนไป กล่าวคือ การถวายบูชาบนไม้กางเขน พระเยซูเจ้าได้ทรงสิ้นพระชนม์และหลั่งพระโลหิตอย่างแท้จริง แต่ในพิธีบูชามิสซา พระองค์ได้ทรงถวายพระองค์เองแด่พระบิดาในรูปแบบที่มีโลหิต แต่เป็นธรรมล้ำลึก
            คำถามที่เกิดขึ้นคือ ในพิธีบูชามิสซาพระเยซูเจ้าทรงประทับอยู่อย่างแท้จริงหรือไม่ อย่างไร คำตอบคือ พระเยซูเจ้าทรงประทับอยู่ในพิธีบูชามิสซาอย่างแท้จริง ใน 3 วิธีการ คือ
1.   พระองค์ทรงประทับอยู่ในพระวาจา บทอ่านจากพระคัมภีร์ที่เราได้รับฟัง ถือได้ว่าเป็นพระเป็นเจ้าที่ตรัสกับเราโดยตรง เราจึงมีหน้าที่ที่จะต้องรับฟังด้วยความตั้งใจ และรำพึงให้พระวาจาของพระเจ้าได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราโดยการนำเอาไปปฏิบัติตาม ดังนั้นเราจึงควรจะมีท่าทีที่รับฟังพระวาจาของพระเจ้าด้วยความตั้งใจ
2.   พระเยซูเจ้าทรงประทับอยู่ในการถวายบูชา คือระหว่างการเสกปังและเหล้าองุ่นให้เป็นพระกายและพระโลหิตของพระองค์ หรือที่เราเรียกว่าศีลมหาสนิท ดังนั้นในระหว่างการเสกนี้จึงเป็นเวลาศักดิ์สิทธิ์และงามสง่าที่สุด เราจึงควรให้ความเคารพอย่างสูงสุด
3.   และสุดท้ายพระเยซูเจ้าทรงประทับอยู่ในการรับศีลมหาสนิท ศีลมหาสนิทที่ได้รับการเสกแล้วนั้นเราถือว่ามีพระเยซูเจ้าทรงประทับอยู่อย่างแท้จริง คริสตชนจึงมีธรรมเนียมการเก็บศีลมหาสนิทที่เหลือจากการแจกให้สัตบุรุษแล้วไว้ในตู้ศีลเพื่อเป็นเสบียงสำหรับการแจกให้กับคนเจ็บป่วยที่ไม่สามารถมาวัดได้ และยังมีธรรมเนียมการเฝ้าศีลมหาสนิทด้วย
ท่านนักบุญเปาโลได้เตือนสอนชาวโครินทร์ถึงการรับศีลมหาสนิทอย่างเหมาะสม มีแต่บาปหนักเท่านั้นที่ขัดขวางมิให้สัตบุรุษรับศีลมหาสนิทได้ ส่วนการเตรียมตัวภายนอกที่พระศาสนจักรกำหนดไว้คือ จะต้องอดอาหารหนักและเครื่องดื่มอื่นๆ อย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนการรับศีลมหาสนิท ยกเว้นน้ำเปล่าดื่มได้ทุกเวลา สำหรับผู้ป่วยและผู้สูงอายุมีการพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ คือ เขาสามารถรับประทานยาได้ทุกเวลาก่อนการรับศีลมหาสนิท ให้อดอาหารหนัก 15 นาทีก่อนรับศีลมหาสนิท คำว่า ผู้สูงอายุนี้หมายถึง ผู้ที่อยู่กับบ้านไม่สามารถไปไหนมาไหนได้เพราะมีอายุมาก
ดังนั้นเราก็มีความเข้าใจที่เพิ่มมากขึ้นแล้วว่า พระเยซูเจ้าทรงประทับอยู่ในพิธีบูชามิสซาผ่านทาง 3 วิธีการด้วยกัน ซึ่งทำให้เราตระหนักได้ดียิ่งขึ้นถึงการประทับอยู่ของพระองค์ และมีการเตรียมตัวอย่างดีในการร่วมพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ และการรับศีลมหาสนิทด้วยความตั้งใจ ซึ่งเป็นการถวายบูชาด้วยความรักที่พระเยซูเจ้าทรงมอบให้กับเรา เราจะไม่มักง่ายที่จะเข้ามารับพระองค์ด้วยการไม่ให้เกียรติกับพระองค์อย่างแน่นอน
                                                                                                                                    คุณพ่อศวง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น