สวัสดีครับพี่น้อง
วันอาทิตย์นี้
เป็นวันที่พระศาสนจักรในประเทศไทย กำหนดให้เป็นวันสมโภชพระนางมารีย์ รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ
เพื่อให้คริสตชนชาวไทยได้มีโอกาสถวายเกียรติแด่พระนางมารีย์ พระมารดาของพระเจ้า
แม่ฝ่ายวิญญาณของชาวเรา ในโอกาสนี้อย่างทั่วถึงกัน ที่จริงแล้ว
วันฉลองตรงวันคือวันที่ 15
สิงหาคม ของทุกปี พ่อจึงอยากนำความเป็นมาของวันสมโภชนี้มากล่าวให้พี่น้องได้เห็นความเป็นมานับแต่อดีตว่ามีความเป็นมาอย่างไร
ประการแรก
วันสมโภชแม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์นี้เป็นวันฉลองที่สำคัญที่สุดวันหนึ่งของวันฉลองแม่พระ
เราคาทอลิกมีความเชื่อในการเสด็จสู่สวรรค์ของพระนางพรหมจารีย์มารีย์
เราเชื่อว่าเมื่อชีวิตในโลกนี้ของพระนางมารีย์ได้จบลง
พระนางได้รับเกียรติยกขึ้นสู่สวรรค์ทั้งร่างกายและวิญญาณอย่างรุ่งโรจน์
เพื่อพระเจ้าจะได้ขนานนามพระนางเป็นราชินีแห่งสวรรค์ ประการที่สอง
วันสมโภชนี้เป็นวันฉลองที่พระนางมารีย์ได้รับการปลดปล่อยจากธรรมชาติมนุษย์ที่ต้องตายและเน่าเปื่อยเสื่อมสลายไป
เพราะมีสาเหตุมาจากบาปกำเนิด วันฉลองนี้ยังเป็นวันระลึกถึง
การที่พระศาสนจักรน้อมรับประเพณีแต่โบร่ำโบราณของคริสตชน
เกี่ยวกับการเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ของพระมารดาแห่งเมืองสวรรค์
ในพระศาสนจักรออร์โทดอกซ์ มีวันฉลองที่เรียกว่า "คอยเมซิส"
หรือ "วันฉลองแม่พระบรรทม" ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 15 สิงหาคม ทุกปีนับตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 เป็นต้นมา
ประเพณีการฉลองนี้ค่อยๆแพร่หลายมาทางตะวันตก
และกลายเป็นวันฉลองพระนางมารีย์รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณในที่สุด
ต่อมาในศตวรรษที่ 13 บรรดานักเทววิทยาคาทอลิกส่วนใหญ่ต่างยอมรับความเชื่อเกี่ยวกับวันฉลองนี้
และบรรดาจิตกรที่มีฝีมือทั้งหลายในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา และ
ยุคบาโร้คนิยมวาดภาพที่แสดงออกถึงความเชื่อประการนี้กันอย่างแพร่หลาย ที่สุดในวันที่ 1 พฤศจิกายน
ค.ศ. 1950 สมเด็จพระสันตะปาปาปีโอที่ 12
ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า ความเชื่อที่ว่าพระนางมารีย์ได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณนั้น
เป็นข้อความเชื่ออย่างเป็นทางการของพระศาสนจักรคาทอลิก
พ่อคิดว่าในโอกาสการสมโภชสำคัญนี้
เราทุกคนควรจะให้คำตอบต่อคำถามสองประการต่อไปนี้ ประการแรก
วันฉลองพระนางมารีย์รับเกียรติยกขึ้นสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณนี้มีความหมายสำหรับเราอย่างไร? ประการที่สอง
ทำไมเราเชื่อถึงการเสด็จสู่สวรรค์ของพระนางทั้งๆที่ไม่ได้มีข้อความใดๆในพระคัมภีร์กล่าวถึงความเชื่อประการนี้แต่อย่างใด? ความหมายของคำว่า "อัสสัมชัญ" หรือ อีกนัยหนึ่ง
พระนางมารีย์รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณนี้ หมายความว่า
ภายหลังความตายของแม่พระ แม่พระได้รับการยกขึ้นสู่สวรรค์ ทั้งร่างกาย และวิญญาณ
เพื่อเป็นรางวัลสำหรับการที่พระนางได้อุทิศตนร่วมในแผนการไถ่กู้ของพระเจ้าเพื่อความรอดของมวลมนุษย์อย่างเต็มกำลังความสามารถนั่นเอง
ดังนั้น ให้เราร่วมใจกันขอบพระคุณพระเจ้า สำหรับพระคุณประการนี้
ที่พระองค์ได้โปรดให้พระนางมารีย์เป็นแม่ฝ่ายวิญญาณของเรา
และให้เราภาวนาขอแม่พระเสมอๆเพื่อเราจะสามารถที่จะเลือกหนทางที่จะดำเนินชีวิตในโลกนี้อย่างถูกต้องเสมอ
สัปดาห์หน้าจะถึงวันฉลองนักบุญหลุยส์กษัตริย์
องค์อุปถัมภ์ของวัดเราแล้ว
ขอพี่น้องร่วมใจกันภาวนาเพื่อการฉลองวัดของเราจะได้เป็นโอกาสให้เราทุกคนได้รับอานิสงส์ฝ่ายจิตใจ
และ มีโอกาสร่วมกันเทิดเกียรตินักบุญหลุยส์อย่างสง่างาม
สมกับที่ท่านนักบุญได้ดำเนินชีวิตเป็นแบบอย่างให้กับคริสตชนในรุ่นต่อๆมาได้เห็นแบบอย่างอันเปี่ยมไปด้วยคุณงามความดีของท่าน
คุณพ่อสุพจน์
............................................................................................................
สวัสดีครับพี่น้องที่รักทุกท่าน
ในครั้งนี้เรายังคงอยู่ในเรื่องของพิธีมิสซากันนะครับ
วันนี้จะนำเสนอเกี่ยวกับภาคต่างๆ
ของพิธีมิสซาที่เราร่วมกันเป็นประจำสม่ำเสมออยู่แล้วว่าแต่ละภาคมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
ก่อนอื่นภาคต่างๆ ของพิธีมิสซานั้นบางคนก็บอกว่ามี 4 ภาคบ้าง บางคนก็บอกมี 2
ภาคบ้าง สรุปแล้วเลยไม่รู้ว่ามิสซาแบ่งออกเป็นกี่ภาคกันแน่
อันที่จริงแล้วมิสซาถูกแบ่งออกเป็น 2 ภาคใหญ่ๆ คือ ภาควจนพิธีกรรม
(ตั้งแต่บทอ่านในพระคัมภีร์บทแรกถึงบทภาวนาเพื่อมวลชน) และภาคพิธีศีลมหาสนิท
(ตั้งแต่การเตรียมถวายเครื่องบูชาถึงบทภาวนาหลังรับศีล) ส่วนคนที่บอกว่ามี 4
ภาคนั้นเป็น ภาคนำ (ตั้งแต่เริ่มพิธีไปจนถึงบทภาวนาแรกของประธาน)
และภาคปิดพิธีหรือส่งท้าย นั่นเอง
วันนี้จะมาพูดถึงในส่วนของภาคนำซึ่งประกอบด้วย เพลงแห่เข้า
คำทักทาย-การสารภาพความผิด-ข้าแต่พระเจ้าขอทรงพระกรุณาเทอญ(กีรีเอ)
พระสิริรุ่งโรจน์(กลอรีอา) และบทภาวนาแรกของประธาน ซึ่งมีลักษณะของการเริ่มต้น นำ
และเตรียมจุดประสงค์ของพิธีของวันนั้นๆ
เพื่อให้บรรดาสัตบุรุษที่มาร่วมกันนั้นมีความรู้สึกถึงความเป็นชุมนุมชน
และเพื่อโน้มนำให้รับฟังพระวาจาของพระเจ้าในโอกาสของการฉลองบูชาขอบพระคุณ
เพลงแห่เข้า
มีความสำคัญคือเพื่อเป็นการเปิดหรือเริ่มพิธีการฉลอง
เพื่อให้สัตบุรุษได้ร่วมจิตใจกันเป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น
เพื่อชักนำจิตใจสัตบุรุษไปสู่ธรรมล้ำลึกแห่งเทศกาลหรือการฉลองนั้นๆ
และเพื่อประกอบกับขบวนแห่ของพระสงฆ์และศาสนบริการทั้งหลาย
เพลงแห่เข้านี้บางบทนำมาจากเพลงสดุดี บางบทนำมาจากบทจดหมายในมิสซาวันนั้นๆ
และบางบทผู้แต่งเขียนเนื้อร้องขึ้นเองเพื่อกระตุ้นเตือนให้ระลึกถึงธรรมล้ำลึกที่ทำการฉลองในวันนั้นหรือในโอกาสพิเศษ
เช่น ฉลองนักบุญ
ดังนี้แล้วถึงแม้ว่าเพลงแห่เข้าสำหรับพิธีมิสซานั้นจะเป็นเพียงส่วนเล็กๆ
เป็นเพียงส่วนประกอบของการเตรียมจิตใจบรรดาสัตบุรุษเพื่อการร่วมในพิธีมิสซา
แต่ก็มีความสำคัญมิใช่น้อยที่จะทำให้บรรดาสัตบุรุษที่มาร่วมในพิธีมิสซาของวันนั้นๆ
ได้รับการเตรียมจิตใจให้เป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อการมีส่วนร่วมในพิธีกรรมอย่างมีความหมายที่สุด
ดังนั้นจึงเป็นการเหมาะสมอย่างยิ่งที่บรรดาสัตบุรุษจะอยู่อย่างพร้อมเพรียงกันในวัดหรือในบริเวณพิธีที่ได้จัดเตรียมไว้อย่างเหมาะสมเพื่อร่วมกันขับร้องบทเพลงตั้งแต่เริ่มต้นพิธีมิสซา
และทำให้เรามีจิตใจที่สงบและเป็นหนึ่งเดียวในการร่วมพิธีกรรมอย่างดีเสมอ
เพื่อทำให้พิธีกรรมของการฉลองในวันนั้นๆ
บังเกิดคุณค่าและความหมายสำหรับผู้ที่ตั้งใจร่วมพิธี
สัปดาห์หน้าวัดของเราก็จะทำการฉลองนักบุญหลุยส์องค์อุปถัมภ์ของวัดแล้ว
จึงอยากเชิญชวนพี่น้องสัตบุรุษของวัดทุกท่านได้เตรียมจิตใจให้พร้อมสำหรับการฉลองเทิดเกียรติท่านนักบุญหลุยส์ด้วยการแก้บาปและการร่วมพิธีมิสซาฉลองด้วยความตั้งใจตั้งแต่เริ่มพิธีมิสซาด้วยบทเพลงแห่เข้าพร้อมกับขบวนแห่ของพระสงฆ์และศาสนบริกรผู้ช่วยพิธีกรรมกันอย่างพร้อมหน้า
คุณพ่อศวง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น