“การไม่รู้จักพระคัมภีร์
คือการไม่รู้จักพระคริสตเจ้า” (นักบุญเยโรม)
พี่น้องที่รัก
พ่อได้พิมพ์แนวทางการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า
COVID-19กับการร่วมพิธีกรรมที่วัดเซนต์หลุยส์และศาลาหลุยส์มารีย์
กรุงเทพฯแปะไว้ ตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้ว เพื่อยกระดับกันก่อนแก้ไว้ดังนี้:
1. ผู้ที่มีอาการคล้ายหวัด เป็นไข้ ไอ
จาม เจ็บคอฯลฯ ให้สวดภาวนาอยู่กับบ้านแทนจนกว่าหายเป็นปกติ และควรไปหาหมอ เมื่อมีอาการไม่ดีขึ้น
2. สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาเพื่อป้องกันผู้อื่นและเข้าใจกันด้วยดี
อยู่ให้เป็นเพราะอยู่ด้วยกัน
3. กำหนดพื้นที่พิเศษสำหรับผู้ที่มีอาการหวัด ให้นั่งแยกที่นั่งนอกวัด
4. รับศีลมหาสนิทด้วยมือในช่วงนี้
หากอยู่บ้านรับด้วยความปรารถนา พระเจ้ารักเราเสมอ
5. ด้านนอกวัดมีการถ่ายทอดเสียงออกมาและโปรดร่วมมิสซาอย่างสำรวมมีพระสงฆ์เชิญศีลด้านสนามหญ้า
6. เจ้าหน้าที่ได้ทำความสะอาดวัดด้วยน้ำยาและเช็ดด้วยALCOHOL70 % ทุกรอบมิสซา
7. ทำความสะอาดมือก่อนเข้าวัด ด้วยเจลล้างมือ
(เว้นจุ่มน้ำเสกระยะนี้) บางคนมีพกพาส่วนตัวมา
8. ในห้องน้ำสาธารณะของวัด โปรดรักษาความสะอาดก่อนและหลังเจ้าหน้าที่ของวัดทำอย่างสมำเสมอ
9. ควรแนะนำความรู้ด้วยข่าวที่สร้างสรรค์
หลีกเลี่ยงข่าวเท็จทุกประเภทและควรเสนอข่าวที่ดีต่อกัน
10. ขอให้ติดตามการประชาสัมพันธ์ข่าวจากทางวัดและสังฆมณฑลอย่าติดกับข่าวไลน์มากเกินไป
ขอขอบคุณข้อเสนอทางวิชาการจากชมรมเวชบุคคลคาทอลิกแห่งประเทศไทยและแผนกสุขภาพอนามัยในกรรมาธิการฝ่ายสังคม(คาริตัสไทยแลนด์)
ที่ช่วยทำให้เราพร้อมอยู่เสมอ
คุณพ่อชาญชัย ทิวไผ่งาม
"การกลับใจ,
กลับมาหาพระ และกลับออกไปส่งต่อพระเมตตาพระองค์"
พระเจ้าทรงช่วยเราให้รอดพ้น
และทรงเรียกเราให้เป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่เพราะสิ่งที่เราทำ
แต่เพราะพระประสงค์และพระหรรษทานของพระองค์
พระองค์ประทานพระหรรษทานนี้แก่เราแล้วในพระคริสตเยซู.....ผู้ทรงทำลายความตาย
และทรงนำชีวิตและความไม่รู้จักตายให้ปรากฏอย่างชัดแจ้งโดยทางข่าวดี (2ทธ 1:9-10)
พระทำเช่นนี้กับเราเสมอ ไม่ว่ากับเราที่เป็นลูกที่ดีน่ารัก
หรือลูกล้างผลาญก็ตาม พระเริ่มด้วยรักต่อเราเสมอ
แทนที่จะดุว่าให้ร้ายเรา ทั้งที่เราก็เป็นลูกล้างผลาญจริงจริง
พระทรงช่วยเราให้รอดพ้น และทรงเรียกเราให้เป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่เพราะสิ่งที่เราทำ แต่เพราะรักเราจริงจริง
อย่างที่นักบุญเปาโลบอกเราเตือนใจเรานั้นแน่นอน นี่เอง
เป็นการยืนยันให้เราได้พบหัวใจเปี่ยมรักที่พระทรงมีให้เราเสมอ
พระเจ้าตรัสแก่อับรามว่า “จงออกจาก.....จงไปยัง.....เราจะทำให้ท่านเป็นชนชาติใหญ่ จะอวยพรท่าน จะทำให้ท่านมีชื่อเสียงเลื่องลือ ท่านจะนำพระพรมาให้ผู้อื่น" .....อับรามจึงออกเดินทางตามที่พระยาห์เวห์ตรัส (เทียบปฐก 12:1-4ก)
หากเรายอมรับฟังเสียงเรียกของพระ
หากแม้เราพลาดหรือผิดพลั้งไป แต่ยอมกลับมาฟังเสียงของพระอีกครั้ง เราจะพบว่า หัวใจรักของพระมีให้เราเสมอ มีพระพรสำหรับเราเสมอ และยังพบอีกว่า พระ ปรารถนาใช้เราเป็นสะพานนำรักของพระองค์ส่งต่อให้กับพี่น้องรอบข้าง
"เราจะทำให้ท่านเป็นชนชาติใหญ่ จะอวยพรท่าน จะทำให้ท่านมีชื่อเสียงเลื่องลือ ท่านจะนำพระพรมาให้ผู้อื่น"
พระเยซูเจ้าทรงพาเปโตร ยากอบ และยอห์นน้องชายไปบนภูเขาสูงที่ปราศจากผู้คน แล้วพระวรกายของพระองค์ก็เปลี่ยนไปต่อหน้าเขา ..... ขณะที่เปโตรกำลังพูดอยู่นั้น มีเมฆสว่างจ้าก้อนหนึ่งปกคลุมพวกเขาไว้ เสียงหนึ่งดังจากเมฆนั้นว่า “ท่านผู้นี้เป็นบุตรสุดที่รักของเรา เราพึงพอใจยิ่งนัก จงฟังท่านเถิด” เมื่อได้ยินดังนั้น ศิษย์ทั้งสามคนซบหน้าลงกับพื้นดิน มีความกลัวอย่างยิ่ง พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาใกล้ ทรงสัมผัสเขา ตรัสว่า “จงลุกขึ้นเถิด อย่ากลัวเลย” (มธ 17:1-2,5-9)
จงมั่นใจในพระเมตตารักของพระเสมอ
จงมั่นใจในบ้านของเรา พระเตรียมความรักและการอภัยไว้เพื่อต้อนรับเราเสมอ
กลับมาหาพระเถิด
ฟังเสียงพร่ำเรียกของพระ ซึมซับความรักเมตตาที่เต็มเปี่ยมในหัวใจพระองค์ และกลับออกไปส่งต่อพระเมตตารักนี้ให้แก่กันและกันต่อไป
นกขุนทอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น