พี่น้องที่รัก
อยู่กับบ้าน STAY
AT HOME
อยู่ให้เป็น อยู่ให้ได้
และอยู่อย่างมีสุขใจ
การอยู่กับชีวิตคริสตชนประจำวันในสถานการณ์พิเศษ
โคโรน่า-โควิด19การอาศัยการร่วมมิสซาทางออนไลน์ พ่อขอทวนเรื่องเมื่อสัปดาห์โน้น
ที่พี่น้องไม่สามารถมาร่วมมิสซาที่วัดได้ และอีกนานคงจะได้มาเจอกันอีก
และให้กำลังใจกับทุกคน เรายังอยู่ด้วยกัน พระเจ้าสถิตอยู่กับเรา
1.ให้สวดภาวนากับแม่พระมากขึ้น
สวดสายประคำในครอบครัวและที่บ้านให้ผ่านวิกฤติไวรัสโคโรน่า
2.ให้ดูแลความสะอาดของตนเองและบุคคลในบ้าน
3.ให้ช่วยบุคคลอื่น เท่าที่ทำได้และไม่นำพาภาระอื่นๆ
เช่น ขยะ หรือของทิ้งหรือสกปรกทุกชนิดให้กับผู้อื่น
4.งดการเดินเที่ยวเตร่ออกนอกบ้าน
5.ให้ทานอาหารของร้อน ช้อนกลาง
และล้างมือสะอาดก่อนรับประทานด้วยกัน
6.มีอาหารสำรองไว้บ้าง
แต่หลีกเลี่ยงการกักตุนหรือทำให้บุคคลอื่นเดือดร้อน
7.ใช้เวลาให้เป็นไปอย่างคุ้มค่า
ทำบ้านให้น่าอยู่และอยู่อย่างเหมาะสม
8.อาชีพบางอย่าง
อาจเหมาะสมกับสถานการณ์พิเศษนี้ ถูกหลัก สะอาด และราคาช่วยเหลือกัน
9.ค่าใช้จ่ายทุกชนิด ให้เป็นไปอย่างประหยัด คำนึงถึงหลักความพอเพียงและพอดี
10.ในบ้าน ในที่ทำงาน ในชุมชนคริสตชน
อ่านพระคัมภีร์ประจำวันมองไปข้างหน้า ไตร่ตรอง พระบอกอะไรกับเราและเราต้องลงมือทำอะไรบ้าง
เชิญชวนทำบ้านให้เป็นวัดของพระ
ชุมชนวัดย่อย เริ่มขึ้นแล้ว (พระวาจา)พระเจ้าเป็นศูนย์กลาง ชาวเราต่างเป็นศิษย์ธรรมทูตที่ต้องช่วยกันประกาศข่าวดี(แบบ)ใหม่ในสถานการณ์พิเศษที่เลวร้ายนี้
พระเจ้าสถิตกับเรา
คุณพ่อชาญชัย ทิวไผ่งาม
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้
"ดูซิ ประชากรของเราเอ๋ย
ท่านจะรู้ว่าเราเป็นพระเจ้า
เมื่อเราเปิดหลุมศพของท่าน และยกท่านขึ้นมาจากหลุมศพ
เราจะให้จิตของเราเข้าไปในท่าน
และท่านจะมีชีวิต"
(เทียบ
อสค 37:12-14)
เรามีโอกาสได้พบกับพระธรรมชาติของพระเจ้า
2 ประการสำคัญในสัปดาห์นี้ สัปดาห์ที่5 เทศกาลมหาพรต นั่นคือ
1.พระเจ้าทรงมีหัวใจไม่ใช่หิน และเป็นหัวใจที่เปี่ยมด้วยรักและเมตตา จงมั่นใจวางใจ
กล้าวางชีวิตของเราไว้ในหัวใจที่เปี่ยมรักของพระองค์เถิด
พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ลาซารัสเพื่อนของเรากำลังหลับอยู่
แต่เรากำลังจะไปปลุกให้ตื่น”....มาร์ธาและมารีย์ทูลพระองค์ว่า “พระเจ้าข้า
ถ้าพระองค์ทรงอยู่ที่นี่ พี่ชายของดิฉันคงไม่ตาย” พระเยซูเจ้าตรัสกับนางว่า
“เราเป็นการกลับคืนชีพและเป็นชีวิต ใครเชื่อในเรา แม้ตายไปแล้ว
ก็จะมีชีวิต และทุกคนที่มีชีวิต
และเชื่อในเรา จะไม่มีวันตายเลย ท่านเชื่อเช่นนี้หรือ” มารธาทูลตอบว่า “เชื่อ พระเจ้าข้า....”
พระองค์ทรงเปล่งพระสุรเสียงดังว่า “ลาซารัสเอ๋ย จงออกมาเถิด” ผู้ตายก็ออกมา (เทียบ ยน 11: 1,21-24,32,43-44)
ประการที่2
พระเป็นเจ้าพระบิดาทรงแสดงผ่านทางชีวิตของพระเยซูเจ้า พระบุตรของพระองค์ พระองค์ทรงมีอำนาจมีพลังเหนือทุกสิ่งทุกเรื่อง
พระองค์เอาชนะได้แม้ความตาย
พระองค์ทรงถาม ทรงต้องการคำตอบจากเราว่า
"ท่านเชื่อมั่นในเราหรือ"
"ผู้ที่ดำเนินชีวิตตามพระจิตเจ้า,
ดำเนินชีวิตมีความชอบธรรม ท่านเป็นที่พอพระทัยพระเจ้าได้...พระเจ้าจะทรงบันดาลให้ร่างกายที่ตายได้ของท่านกลับมีชีวิต เดชะพระจิตของพระองค์ ซึ่งสถิตในท่านด้วย" (เทียบ รม
8:8-11)
การดำเนินชีวิตเป็นผู้ชอบธรรม
การมีชีวิตใจกว้างให้กับผู้คน การอดทนใจเย็นให้อภัยกัน การส่งยิ้มส่งน้ำใจ ส่งคำพูดอ่อนโยนเมตตาต่อกัน
เป็นชีวิตที่พระพอพระทัย
สถานการณ์ปัจจุบันนี้บีบเรา
บีบเราจริงๆ ให้เราอยู่บ้าน อยู่กับสังคมที่แคบลง
อยู่กับคนในบ้านในครอบครัวไม่กี่คน
มีกี่คนไม่สำคัญ ที่สำคัญคือเราตอบพระด้วยความเชื่อ ด้วยชีวิตชอบธรรม
ด้วยใจกว้างให้กับคนในบ้าน
ยิ่งกว่านั้นพระมอบเครื่องมือพิเศษเพิ่มเติมให้ คือเทคโนโลยี
รวมทั้งช่องทางการสื่อสาร จงใช้มันเถิด มอบความรักของพระเจ้าให้แก่กัน ดังนั้น
เราสามารถพูดได้ว่า "หยุด...อยู่บ้าน ดูแลเอาใจใส่คนในบ้าน ลดการแพร่เชื่อ
และช่วยชาติ" ก็เป็นสิ่งพี่พระพอพระทัยในชีวิตผู้ชอบธรรมของเรา
นกขุนทอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น