พี่น้องที่รัก
วันพุธรับเถ้าที่
14 กุมภาพันธ์ เริ่มมหาพรตมิสซาเช้าเวลา 6.00
น.เสกและโปรยเถ้า พระแท่นใหญ่
ส่วนมิสซารอบเย็นเฉพาะวันพุธรับเถ้า
เวลา 17.30 น.ให้เลื่อนเป็นเวลา 19.00 น. และมีการโปรยเถ้าด้วย
วันที่
16 กุมภาพันธ์เป็นวันตรุษจีน
นอกจากมิสซาตามปกติเวลา 6.00 และ 17.30 น.
เพิ่มมิสซารอบเวลา
9.00 น.เพื่อเป็นมิสซาสุขสำราญตรุษจีนและแจกส้มรอบพิเศษนี้เท่านั้น
จึงขอเชิญชวนพี่น้องที่ถือธรรมเนียมมิสซาตรุษจีนมาร่วมมิสซาในวันและเวลาดังกล่าว
ทุกวันศุกร์ของเทศกาลมหาพรต
จะมีเดินรูปตามปกติ หลังมิสซาจบแล้ว คือประมาณเวลา 18.00 น.
และเดินรูปภาคภาษาจีนจะมีสัตบุรุษก่อสวดเวลา 14.00
น.ทุกวันศุกร์ในวัดเช่นเดียวกัน
การเดินรูปในวันอาทิตย์ เวลา 9.15 น. และเวลา 17.00 น.ทุกวันอาทิตย์(เว้นวันวันอาทิตย์ใบลาน
25 มีนาคม)
เดินรูปส่งท้ายในเทศกาลมหาพรตคือวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์
วันที่ 30 มีนาคม เวลา 18.30 น.ก่อนพิธีนมัสการไม้กางเขน วันอาทิตย์ใบลาน
ตรงกับวันที่ 25 มีนาคม มิสซารอบ 08.00 น.เสกใบลานหน้าโถงศาลาหลุยส์ มารีย์ของวัด
เฉพาะวันพฤหัส-ศุกร์และเสาร์ในสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์
พิธีรอบเดียวเวลา 19.00 น.
วันพฤหัสบดีศักดิ์สิทธิ์
29 มีนาคมมิสซาอาหารค่ำมื้อสุดท้ายของพระเยซูเจ้าและเฝ้าศีลที่วัดน้อยพระจิตเจ้า
วันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์
30 มีนาคมพิธีนมัสการไม้กางเขน
วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์
31 มีนาคม พิธีเสกไฟ เทียนปัสกา น้ำศักดิ์สิทธิ์
และล้างบาปผู้เตรียมตัวเป็นคริสตชน
(พิธีเสกไฟเริ่มต้นที่หน้าศาลาหลุยส์มารีย์ของวัด)
ตลอดเทศกาลมหาพรต ให้พี่น้องสัตบุรุษทุกท่านปันน้ำใจด้วยปัจจัยใส่ซองมหาพรตอย่างสม่ำเสมอเพื่อช่วยผู้ยากไร้
ปรับม้านั่งในวัดเฉพาะด้านข้างพระแท่นทั้งสองด้าน
ให้มีระเบียบและทางเดินสะดวกขึ้น
จะเริ่มทำมิสซาทั้งรอบเช้าและเย็นที่พระแท่นใหญ่ทุกวันตั้งแต่วันพุธรับเถ้านี้เป็นต้นไป
ขอให้สัตบุรุษซึ่งมาวัดเช้าเย็นเป็นประจำได้ขยับมานั่งที่ม้านั่งบริเวณโถงหน้าพระแท่นใหญ่ด้วย
พ่อเจ้าวัดเซนต์หลุยส์
..............................................................
บอกกล่าว เล่าเรื่อง
“มหาพรต
มาหาพระ”
สัปดาห์นี้เรากำลังจะเข้าสู่เทศกาลสำคัญของพระศาสนจักร
นั่นคือ เทศกาลมหาพรต ซึ่งจะเริ่มในวันพุธรับเถ้า ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 14
กุมภาพันธ์คำที่มักพูดกันบ่อยๆเวลา เริ่มเทศกาลมหาพรตก็คือ “มหาพรต มาหาพระ” เป็นคำสั้นๆ
แต่ก็แฝงไปด้วยความจริงที่น่าคิด
มหาพรตเป็นช่วงที่เราจะกลับมาพระเป็นพิเศษด้วยการกลับใจและการกลับใจที่ทีความหมายก็คือ
การพยายามเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราให้ดีขึ้นกว่าที่ผ่านๆมาเป็นพิเศษในช่วงเวลานี้พ่อคิดว่าจริงๆคริสตชนเราโชคดีเพราะในหนึ่งปี
การมีช่วงเวลาที่เราจะทบทวนตนเองบ้างก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี
และมหาพรตเป็นช่วงเวลาที่เราน่าจะกลับมามองชีวิตของเรา มองดูรูปแบบการดำเนินชีวิตของเราว่าเป็นอย่างไรที่ผ่านมา
เป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่บ้างไหม เป็นคนพูดจาดีไหม เป็นคนมีน้ำใจไหม สวดภาวนามาวัดแก้บาปรับศีลดีไหม
บ่อยไหม มีอะไรที่ยังเป็นข้อบกพร่องเป็นจุดอ่อนในชีวิต ฯลฯ
ใช้ช่วงเวลานี้เพื่อตรวจสอบชีวิตของเราเป็นพิเศษ มหาพรตเป็นช่วงเวลาที่เราคริสตชนจะใช้เวลาช่วง
40 วันนี้อย่างดีเพื่อรีสตาร์ทชีวิตใหม่อีกครั้งหนึ่ง เป็นการใช้เวลาเพื่อทำบางสิ่งบางอย่างที่เป็นการเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราให้ดีขึ้น
นอกจากนี้อย่างที่กล่าวไปนอกจากมหาพรตเป็นเวลาที่จะมองย้อนดูตนเองเป็นพิเศษ
มหาพรตยังเป็นเวลาที่เราจะมองเพื่อนพี่น้องรอบข้างมากขึ้น จิตตารมณ์ที่สำคัญประการนึงในเทศกาลมหาพรตก็คือ
ความมีเมตตาต่อเพื่อนพี่น้องที่ตกทุกข์ได้ยาก คนที่ลำบากมากกว่าเรา
พ่อคิดว่าช่วงเวลานี้น่าจะเป็นช่วงเวลาที่เราจะได้ทำบางสิ่งบางอย่างให้กับเพื่อนพี่น้องรอบข้างเรา
เป็นต้นผู้ที่มีความยากลำบากซึ่งบางทีอาจไม่ได้ลำบากเพียงแค่กายเท่านั้นแต่ผู้ที่มีความทุกข์ทางใจที่เรามองเห็นและสามารถหยิบยื่นกำลังใจให้บางทีแค่รอยยิ้มที่ให้กัน
คำพูดดีๆที่ให้กำลังใจกัน มิตรไมตรี น้ำใจที่หยิบยื่นให้กัน ก็เติมพลังใจให้กันได้
และเป็นการแสดงความรักความเมตตาที่ไม่ต้องลงทุนอะไร และสามารถเริ่มต้นทำได้ทันที
มหาพรต มาหาพระ ผ่านทางการมองดูชีวิตตนเอง
และเริ่มทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตตนเองไปในทางที่ดีขึ้น
มหาพรต มาหาพระ ผ่านทางเพื่อนพี่น้องรอบข้าง
ด้วยความช่วยเหลือที่เราทำได้ ด้วยการให้กำลังใจ ด้วยการพยายามทำดีต่อกันมากขึ้น
มหาพรต มาหาพระ ผ่านทางการร่วมมิสซา แก้บาป รับศีล อย่างตั้งใจ
อย่างดีเป็นพิเศษ
ปลัดวัดสาทร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น