พี่น้องที่รัก
สืบเนื่องจากการประชุมสภาภิบาลวัดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่ประชุมได้เห็นชอบให้มีการนำแผนอภิบาลและการประกาศข่าวดีของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
สู่งานประจำและโครงการใหม่ในปี 2018
เพื่อปรับเข้าใช้ในปฏิทินงานของวัดและให้มีการวางแนวทางสำหรับการทำงานของสภาภิบาลวัดและทุกองค์กรสังกัดของวัดใหม่ด้วย
นอกจากนี้ยังได้มีมติรับรองให้การทำงานตามปฏิทินของวัด
6 เดือนแรกคือมกราคมจนถึงมิถุนายน
ซึ่งจะได้ประชาสัมพันธ์และประกาศในสารวัดเพื่อจะได้รับทราบในหมู่สัตบุรุษทั่วไป
โดยเฉพาะวันสำคัญของพระศาสนจักรและการฉลองวันสำคัญของวัดตามที่เคยปฏิบัติกันมา
เช่น พิธีต่างๆในเทศกาลมหาพรต สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ วันตรุษจีน
ดังนั้นพ่อขอแจ้งให้ทุกคนทราบเรื่องเริ่มมหาพรตวันพุธรับเถ้าที่
14 กุมภาพันธ์ มิสซาเช้าเวลา 06.00 น.เสกและโปรยเถ้า
มิสซารอบเย็นเฉพาะวันพุธรับเถ้าเวลา 17.30 น.ให้เลื่อนเป็นเวลา 19.00 น.
และให้มีการโปรยเถ้าด้วย
วันที่
16 กุมภาพันธ์เป็นวันตรุษจีน นอกจากมิสซาตามปกติเวลา 06.00 และ 17.30 น.แล้ว ให้มีมิสซาเวลา 09.00
น.เพื่อเป็นมิสซาสุขสำราญตรุษจีนและแจกส้มรอบพิเศษนี้เท่านั้น
จึงขอเชิญชวนพี่น้องที่ถือธรรมเนียมมิสซาตรุษจีนมาร่วมมิสซาในวันและเวลาดังกล่าว อนึ่งเนื่องจากเป็นวันศุกร์แรกของเทศกาลมหาพรต
ก็ให้มีเดินรูปตามปกติ หลังมิสซาจบแล้ว คือประมาณเวลา 18.00
น.และตลอดเทศกาลมหาพรตทุกวันศุกร์ (ภาคภาษาจีนจะมีสัตบุรุษก่อสวดในเวลา 14.00
น.ทุกวันศุกร์ในวัดเช่นเดียวกัน)
การเดินรูปในวันอาทิตย์ เวลา 09.15 น. และเวลา
17.00 น.ทุกวันอาทิตย์ ยกเว้นวันวันอาทิตย์ใบลาน 25 มีนาคม
และจะเดินรูปส่งท้ายในเทศกาลมหาพรตคือวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ วันที่ 30
มีนาคม เวลา 18.30 น.ก่อนพิธีนมัสการไม้กางเขน วันอาทิตย์ใบลาน ตรงกับวันที่ 25
มีนาคม มิสซารอบ 08.00 น.เสกใบลาน
วันพฤหัส-ศุกร์และเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ พิธีรอบเดียวเวลา 19.00 น.
วัดกำลังจัดม้านั่งในวัดเฉพาะด้านข้างพระแท่นทั้งสองด้าน
ให้มีระเบียบและทางเดินสะดวกขึ้น
จะเริ่มทำมิสซาเช้าและเย็นที่พระแท่นใหญ่ทุกวันตั้งแต่วันพุธรับเถ้านี้เป็นต้นไป
ขอให้สัตบุรุษซึ่งมาวัดเช้าเย็นเป็นประจำได้ขยับมานั่งที่ม้านั่งบริเวณโถงหน้าพระแท่นใหญ่ด้วย
จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น
สารวัดฉบับนี้
พ่อได้มีประกาศเงินถวาย(ถุงทานในมิสซา)เพื่อช่วยเหลือกิจการของสภาพระสังฆราช
และเตรียมซองรณรงค์มหาพรตเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ตามกิจเมตตาฝ่ายร่างกาย ประจำปี
2018 ขอให้ทุกท่านได้อ่านและช่วยกันบำรุงพระศาสนจักรเต็มความสามารถ
พ่อเจ้าวัดเซนต์หลุยส์
...................................................................................................
สวัสดีครับพี่น้อง
ความเสียหายในความรู้สึกนึกคิดแบบคนในโลก กลับเป็น
"ประโยชน์" ในชีวิตฝ่ายวิญญาณ เพื่อจะทำให้คนแกร่ง ทำให้เกิดปัญญาเข้าใจ
ทำให้เป็นประโยชน์พัฒนาจิตในความหมายของความรอดพ้น ชาวยิว สิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในโลกคือธรรมบัญญัติ
หรือที่ภาษาฮีบรูเรียกว่า Torah
(โตราห์) ซึ่งได้แก่หนังสือพระธรรมเก่าห้าเล่มแรก (ปัญจบรรพ)
โดยมีแก่นสำคัญอยู่ที่บัญญัติสิบประการที่ว่าศักดิ์สิทธิ์เพราะเป็นพระเจ้าเองที่ทรงประทานให้แก่มนุษย์โดยผ่านทางโมเสส
ธรรมบัญญัติจึงเป็นหลักแห่งความเชื่อที่สำคัญที่สุดสำหรับนำทางชีวิตมนุษย์ทั้งครบจนตลอดชีวิต
หน้าที่ประการแรกของธรรมาจารย์ จึงได้แก่การคิดค้นระเบียบและกฎเกณฑ์ ที่แฝงเร้นอยู่ในธรรมบัญญัติให้ปรากฏชัดแจ้ง
เพื่อจะได้ใช้บังคับกับทุกสถานการณ์ในชีวิตมนุษย์
แต่จบลงด้วยระเบียบและกฎเกณฑ์อันไม่มีสิ้นสุดหน้าที่ประการที่สองของธรรมาจารย์
คือการสอนและถ่ายทอดระเบียบกฎเกณฑ์ที่เรียกกันว่า “ธรรมประเพณี”
ซึ่งยังไม่มีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรเหล่านี้จากคนรุ่นหนึ่งสู่คนอีกรุ่นหนึ่งด้วยการท่องจำ จวบจนถึงประมาณกลางศตวรรษที่สองจึงมีการบันทึก “ธรรมประเพณี” เหล่านี้เป็นลายลักษณ์อักษรในหนังสือที่เรียกว่า
Mishnahวิธีการของพวกธรรมาจารย์คือ อ้างคำสอนของธรรมาจารย์ที่มีชื่อเสียง
ซึ่งเรียกกันว่า “รับบี” ที่มีชื่อเสียงในอดีต
ก่อนที่จะลงเอยด้วยคำตัดสินของตนเองแต่วิธีการของพระเยซูเจ้าแตกต่างจากพวกธรรมาจารย์โดยสิ้นเชิง
พระองค์สอนโดยไม่ต้องอาศัยอำนาจของผู้อื่น
พระองค์ไม่ต้องอ้างอิงรับบีหรือผู้เชี่ยวชาญคนใด
คำสอนของพระองค์เป็นอิสระจากผู้อื่นเพราะคำสอนของพระองค์คือพระสุรเสียงอันเบ็ดเสร็จเด็ดขาดขององค์พระผู้เป็นเจ้า
เมื่อใครก็ตามเชื่อว่าตัวเองถูกปีศาจสิง มั่นใจว่ามีบางสิ่งบางอย่างอยู่ในตัวเขา และคอยบังคับควบคุมเขา
คนที่ถูกปีศาจสิงจึงมักร้องเสียงดังเมื่อพบกับพระเยซูเจ้า “ท่านมายุ่งกับเราทำไม
เยซู ชาวนาซาเร็ธ ท่านมาทำลายเราใช่ไหม เรารู้ว่าท่านเป็นใครประกาศ “ข่าวดี” และในการรักษาคนถูกปีศาจสิงให้หายด้วยฤทธิ์อำนาจที่เข้าถึงจิตใจของผู้ป่วย
พระองค์ช่างสุดยอดจริง ๆ แค่เริ่มต้นเทศน์สอน
ปีศาจก็ปั่นป่วนและพ่ายแพ้อย่างราบคาบ ความเชื่อแม้มีเพียงเล็กๆ
ก็สามารถก่อให้เกิดปาฏิหารย์ที่ยิ่งใหญ่ได้ คริสตชนต้องมีความเชื่อ
เพราะเรามีพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่ พระเยซูตรัสว่า ถ้าเรามีความเชื่อโดยมิได้สงสัย
หากสั่งภูเขาไปลงทะเลมันก็จะเป็นเช่นนั้น(มก. 11:22-23) แต่ไม่เพียงเราเท่านั้นที่มีความเชื่อ
ในจดหมายของยากอบ ก็บอกว่าแม้ปีศาจก็เชื่อ (ยก. 2:19)
ท่านเชื่อว่าพระเจ้าทรงเป็นหนึ่ง นั่นก็ดีอยู่แล้ว แม้พวกปีศาจก็เชื่อ
และกลัวจนตัวสั่น ความเชื่อที่ปราศจากการกระทำนั้นไร้ประประโยชน์ ความเชื่อแท้ คือ
ความเชื่อที่ลงมือกระทำตามที่ตนเองเชื่อ เชื่ออย่างวางใจ เชื่อแม้ยังมองไม่เห็น เชื่อแม้ยังไม่เข้าใจ
เชื่ออย่างเชื่อฟังขณะที่ผีปีศาจเชื่อแต่มันไม่เชื่อฟัง
มันไม่ยอมทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า แน่นอนว่าความเชื่อของคริสตชนจำต้องแตกต่างจากความเชื่อของพวกผีมารซาตาน
จนทำให้ชีวิตเราสามารถชนะความชั่ว บาปและความตายแบบพระคริสต์
คพ. พงษ์เกษม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น