พี่น้องที่รัก
ขอร่วมยินดีและช่วยกันทำให้เขาเป็นชาวประมงของพระเยซูเจ้า
เมื่อวันเสาร์ที่
20 มกราคมนี้ เวลา 10.00
น.พระคาร์ดินัลเกรียงศักดิ์มาปะกอบพิธีโปรดศีลกำลังเด็กๆจำนวนร้อยกว่าคน
มีพ่อแม่และผู้ปกครองหลายครอบครัวมาร่วมพิธีดังกล่าวด้วย
เป็นทั้งความยินดีและน่าดีใจ เพราะเด็กๆเหล่านี้จะกลายเป็นผู้ใหญ่ของพระศาสนาจักร
เป็นทหารของพระเยซูเจ้า เป็นชาวประมงช่วยพระองค์จับมนุษย์แทนการจับปลา
หมายถึงเป็นผู้ร่วมงานช่วยพระเยซูเจ้าประกาศข่าวดีต่อไป
ควันหลงจากวันอาทิตย์ที่ผ่านมาตอนกลางคืน
ทางสภาภิบาลวัดได้รวมผู้อยู่เบื้องหน้าและเบื้องหลังการรับใช้พี่น้องสัตบุรุษตลอดปีที่ผ่านมาทั้งผู้เป็นและผู้ตาย
มาร่วมสังสรรค์กับแบบครอบครัว ทานอาหารค่ำและมอบของขวัญแบบสนุกสนาน
โดยมีคุณพ่อวีรยุทธและสามเณรใหญ่ 3 ท่าน พร้อมสมาชิกสภาภิบาล
นำความสุขสันต์ทั้งโอกาสปีใหม่และขอบคุณกันและกัน หนึ่งปีมีโอกาสหนึ่งครั้ง
ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน ก็ทำให้สัมผัสได้ถึงความเป็นพ่อแม่พี่น้องครอบครัววัดเซนต์หลุยส์
ทำให้มีกำลังใจที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจในความดูแลของพระเจ้าผู้ทรงรักเราผ่านทางนักบุญหลุยส์องค์อุปถัมภ์ตลอด
60 ปีที่ผ่านมาและตลอดไป
งานวันเด็กและวันครู
โรงเรียนเซนต์หลุยส์มอบความสุขเช่นเดียวกัน ขอให้เด็กโตทั้งกายและใจเพื่อจะได้เป็นมนุษย์ครบสมบูรณ์ทั้งกาย
สติปัญญา ใจ อารมณ์และการอยู่ด้วยกันเป็นสังคม
ขอบคุณครูและฝากเด็กไว้ในการเป็นครูดี เพื่อจะได้มีศิษย์ดีและมีความศรัทธา
ตามคำขวัญของท่านนายก ศิษย์ดีเพราะมีครูดีและมีความศรัทธา
ปีหน้าถึงเวลาของโรงเรียนจะได้จัดงานฉลอง 60 ปี
ตามเจตนารมณ์ของวัดที่ให้โรงเรียนเป็นสนามแห่งการประกาศข่าวดี
หลังจากนี้ พ่อคงได้เริ่มงานอย่างเต็มที่
หลังจากใช้เวลาศึกษาดูงานจากงานประจำ งานต่อเนื่อง
รวมทั้งงานที่พระศาสนาจักรมุ่งเน้นตามนโยบายและแผนปฏิบัติงานของสังฆมณฑล 2018
รวมทั้งระเบียบข้อกำหนดที่ควบคู่ไปด้วยกัน คงไม่ต้องรอจบหนึ่งปี
เพียงก้าวไปด้วยกันของทำงานงานกับเอาใจใส่ในการประชุม และทำให้ดีขึ้น ถูกต้อง
เชื่อมั่นว่าสนามแห่งการแพร่ธรรมของเซนต์หลุยส์ท้าทาย
ก้าวต่อไปอย่างมั่นคงในพระพรของพระเจ้า
งานบางอย่างเป็นงานต่อเนื่องมา และงานบางอย่างเป็นงานใหม่เพื่อทำให้สนามแพร่ธรรมที่นี้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป
พ่อเจ้าวัดเซนต์หลุยส์
......................................................................
สวัสดีครับพี่น้อง
จงตามเรามาเถิดความหมายแรก เป็นการเชิญชวนให้ตามผู้ชวนไป
แล้วจะพบกับสิ่งที่มีคุณค่าและสำคัญที่รออยู่ นั่นคือ พระคริสต์ ความหมายที่สอง
พระเยซูทรงชวนให้เขาตามพระองค์ไป
โดยให้สาวกเหล่านั้นมีโอกาสได้คิดไตร่ตรองก่อนตัดสินใจว่าจะติดตามหรือไม่ติดตามพระองค์
หากไตร่ตรองดีแล้วก็ขอให้ติดตามจริงๆ ไม่ใช่เล่นๆ เงื่อนไขของผู้ที่จะติดตามพระองค์เห็นคุณค่าพระเยซูมากกว่าทุกสิ่ง
ต้องพร้อมที่จะเผชิญความยากลำบากไตร่ตรองดูว่าพร้อมไหมที่จะจ่ายราคาในการติดตามพระองค์
จนหมดสิ้นทั้งชีวิตอย่างไม่มีเงื่อนไข ทั้งหมดนี้จำต้องตัดสินใจให้ดี ความหมายที่สาม
พระเยซูต้องการให้เขาตามพระองค์ไป
เพื่อเรียนรู้สัจธรรมและเรียนรู้จากชีวิตของพระองค์เพื่อเขาจะดำเนินชีวิตตามลักษณะของพระองค์เราจะตั้งท่านให้เป็นผู้หาคนดังหาปลา
ความหมายในที่นี้หมายถึง
พระองค์จะทำให้เขากลายเป็นผู้ที่มีความสามารถในการหาคนดังที่เขาสามารถหาปลาได้ดีนั่นเองพระเจ้าทรงยิ่งใหญ่
ปรารถนาช่วยคนที่เป็นชาวประมงที่ไม่มีการศึกษา ให้สามารถทำสิ่งที่เขาไม่เคยทำและเขาเองคงไม่คิดว่าจะทำได้นั้นกลับสามารถทำได้
ถ้าผู้นั้นยินยอมทำตามพระประสงค์ของพระ มิใช่ทำตามความพึงพอใจของตนเอง
พระเจ้าปรารถนาให้ผู้ที่ติดตามพระองค์ได้ตัดสินใจในการติดตาม
และพระองค์ปรารถนาให้ผู้ที่ติดตามพระองค์รับการสร้างชีวิตจากพระองค์เพื่อเขาจะสามารถทำตามพระประสงค์ของพระองค์ได้
พระเจ้าทรงมอบหมายภารกิจของพระองค์ไว้กับเรา
อันเป็นความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับพระ ดังนั้นการตอบสนองความรักที่มีต่อการเรียกของพระเจ้าถือเป็นพันธกิจที่สำคัญยิ่ง
และยังมีอีกวลีหนึ่งในการติดตามพระ คือปล่อยให้คนตายฝังคนตายของเขาเองเถิด มีความหมายว่า
ปล่อยให้คนที่ตายฝ่ายวิญญาณ ฝังศพคนที่ตายฝ่ายร่างกายเอง
ก่อนที่มนุษย์จะมาเชื่อวางใจในพระเยซู ทุกคนเป็นคนที่ตายแล้วในบาป
คือจิตวิญญาณได้ตายไป พระคัมภีร์ได้กล่าวว่า ในอดีตเราทุกคนได้ตายในฝ่ายจิตวิญญาณ
เพราะเหตุของการไม่เชื่อฟังและความบาป ในเวลานั้นเราได้ติดตามหนทางแห่งความชั่วร้ายของโลกนี้
เราได้เชื่อฟังผู้ครอบครองแห่งอำนาจในย่านอากาศ เป็นวิญญาณที่ควบคุมคนทั้งหลาย
ที่ไม่เชื่อฟังพระเจ้า แท้ที่จริงแล้วเราทุกคนที่เชื่อในพระคริสต์
ก็เป็นเช่นนั้นมาก่อน และกระทำในสิ่งที่ร่างกายและความคิดต้องการ และปลายทางของเราก็คือการสมควรได้รับการลงโทษจากพระเจ้า
แต่ว่าพระเมตตาและความรักของพระเจ้าอันมากมายที่มีต่อเรา โดยขณะที่เราได้ “ตายฝ่ายวิญญาณ”
ในการไม่เชื่อฟัง พระเจ้า ได้ทรงนำเรามาสู่ชีวิตใหม่ในพระคริสต์
ซึ่งเป็นพระคุณของพระเจ้าที่มีต่อเรา(อฟ.2.1-5)
เราได้บทเรียนอะไรบ้างเรื่องการเป็นสาวกหรือการติดตามพระเยซูคริสต์ เรามักเห็นคนมากมายที่เขามาเชื่อในพระเจ้าอย่างรวดเร็ว
แล้วก็ทิ้งพระเจ้าได้ง่ายๆ เช่นกัน หรือเห็นคนที่ไม่ยอมเชื่อ
ประกาศตั้งหลายครั้งก็ไม่ยอมเชื่อในพระเจ้า คนนั้นก็เหมือนที่บอกกับพระเยซูว่า
ขอไปฝังศพของบิดาก่อน เขาอาจมีเรื่องธุระ การงาน เรื่องต่างๆ
ที่สำคัญกว่าเรื่องของพระเจ้า เช่น ขอทำงานหาเงินให้ได้มากก่อน ขอเรียนจบปริญญาโท
ปริญญาเอก ก่อน แล้วค่อยมาเชื่อ หรือค่อยมารับใช้พระเจ้า อาเมน คือการตอบรับตามความหมายข้างต้นจากหัวใจของเราจริงๆ
คพ. พงษ์เกษม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น