วันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

สารวัดวันอาทิตย์ 28 พฤษภาคม 2017

พี่น้องที่รัก
            เราเข้าช่วงเวลาท้ายๆของเทศกาลปัสกาแล้ว หลังจากการสมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์ในวันนี้แล้ว อาทิตย์หน้า วันที่ 4 มิถุนายน จะเป็นวันสมโภชพระจิตเจ้าวันที่สำคัญเพื่อให้ชีวิตจิตใจของเราแต่ละคนเบิกบานสำราญใจกับสันติสุขของพระองค์ผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพตามคำสัญญาว่าจะส่งพระจิตเจ้ามาประทับอยู่กับพระศาสนจักรคือพวกเราทุกคน และยังให้คำมั่นสัญญาว่าพระองค์จะอยู่กับเราจนถึงวันสุดท้ายของโลกและไม่มีอำนาจใดๆจะมาชนะอำนาจของพระองค์ได้
            มีบ้านนักบวชหลายๆบ้านมักจะพับนกและแนบบัตรพระวาจาให้เราอ่านเกี่ยวกับพระคุณของพระจิต 7 ประการ เพื่อมอบเป็นของขวัญกำลังใจในวันเกิดของพระศาสนจักรซึ่งก็หมายถึงชีวิตคริสตชนของเราแต่ละคน  ใครได้ก็อ่านและมักจะพูดต่อว่าปีนี้ได้พระพรของพระจิตเจ้าตรงเลย ดูจะเป็นความหมายที่เสริมพลังชีวิตพระในวันที่มีความหมายของทุกคน
            สัปดาห์ที่แล้วมีประชาสัมพันธ์ในมิสซาให้พี่น้องทราบเรื่องเริ่มใช้ศาลาของวัดว่าจะเริ่มต้นในเดือนมิถุนายนเพื่อการใช้อภิบาลเกี่ยวกับผู้ล่วงลับคริสตชน  นอกจากนี้พื้นที่ของศาลายังสามารถใช้กับผู้เป็น(ยังไม่ตาย)ได้อีกทั้งในงานสำคัญของวัดและเพื่ออำนวยความสะดวกใช้กับองค์กรต่างๆของพระศาสนจักร  และเพื่อให้ศาลาของวัดและบริเวณหน้าศาลาเป็นการใช้เพื่อกิจการของวัด ทางวัดจึงขอจัดระเบียบใหม่และเริ่มใช้ตั้งแต่ต้นเดือนหน้าเป็นต้นไป คือมีอนุญาตให้คณะวินเซนต์เดอปอล และเครดิตของวัดได้ใช้วางโต๊ะชั่วคราว ซึ่งเมื่อมีสถานที่อย่างชัดเจนเสร็จแล้วจะได้เคลื่อนย้ายไปอยู่ในสถานที่นั้นๆต่อไปอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย รวมทั้งโต๊ะกาแฟของวัดเพื่อสนับสนุนส่งเสริมพระกระแสเรียกของบ้านเณรเล็ก  องค์กรใดๆให้ขออนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร  เจ้าอาวาสวัดจะเป็นผู้อนุญาตหรือไม่
ดังนั้นจึงขอยกเลิกกับการวางของเพื่อจำหน่ายหรือวางโต๊ะใดๆที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกิจการของวัด ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป  จึงขออภัยกับผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งได้รับผลกระทบมาในที่นี้ด้วยและขอขอบคุณในความร่วมมือ
การประชุมสภาภิบาลของวัดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีมติให้งานฉลองวัด 60 ปี มีการจัดนิทรรศการบอกเล่าเรื่องของวัดโดยภาพและคำอธิบาย  จึงขอรบกวนพี่น้องสัตบุรุษที่มีภาพประวัติศาสตร์ของวัดเซนต์หลุยส์ที่อยากบอกให้คนอื่นๆทราบมากขึ้น โปรดส่งภาพเป็นไฟล์มาที่สำนักงานวัด หรือนำสำเนารูปภาพ  เพื่อไม่ให้สูญหายหรือเสียหาย  หรือจะให้ทางวัดหรือโรงเรียนสแกนภาพให้โปรดติดต่อได้ได้ที่สำนักงานวัดหรือธุรการที่โรงเรียน  จะได้นำภาพจริงกลับบ้านได้เลย นอกจากนี้ยังขอเชิญชวนบอกบุญสำหรับการเตรียมฉลองวัดในโอกาสพิเศษนี้ได้กับคุณพ่อเจ้าวัดโดยตรง
คำทักทายครั้งนี้ดูจะเป็นงานการหน่อย แต่เพื่อให้กิจการของวัดได้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและเรียบร้อย


คพ.ชาญชัย
.............................................................................................................

สวัสดีครับพี่น้อง
            นักบุญออกัสติน ได้เทศน์สอนเกี่ยวกับการเสด็จขึ้นสวรรค์ของพระเยซูเจ้าไว้ว่าพระเยซูคริสตเจ้า พระเจ้าของเราเสด็จขึ้นสวรรค์ ให้เรายกจิตใจของเราขึ้นไปกับพระองค์ จงฟังคำของท่านอัครสาวกเปาโล ท่านกล่าวว่า "พระเจ้าให้ท่านกลับมีชีวิตขึ้นมากับพระเยซูคริสตเจ้าแล้ว ดังนั้น จงปักใจอยู่กับสิ่งที่อยู่ในสวรรค์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระคริสตเจ้าประทับบนบัลลังก์ ณ เบื้องขวาพระเจ้า จงฝังใจกับสิ่งที่อยู่ที่นั่น ไม่ใช่สิ่งที่อยู่บนโลกนี้ ด้วยเหตุที่พระองค์ได้สถิตอยู่กับเรา แม้หลังจากเสด็จขึ้นสวรรค์แล้ว ดังนั้นเราก็อยู่ในสวรรค์กับพระองค์แล้วด้วย แม้ว่าสิ่งที่พระองค์ทรงสัญญากับเรายังไม่สำเร็จในกายของเรา บัดนี้พระคริสตเจ้าทรงได้รับการเทิดทูนไว้เหนือฟ้าสวรรค์ แต่พระองค์ก็ยังทรงรับทรมานในโลก ด้วยความเจ็บปวด ซึ่งเราที่เป็นอวัยวะแห่งพระกายของพระองค์ต้องรับทน พระองค์ทรงแสดงให้เห็นเมื่อพระองค์ตรัสจากเบื้องบนว่า "เซาโล เซาโล เจ้าเบียดเบียนเราทำไม?" และเมื่อพระองค์ตรัสว่า "เมื่อเราหิว ท่านได้ให้อาหารแก่เรา"
            ทำไมเราที่อยู่ในโลก จึงไม่พยายามที่จะแสวงหาการพักผ่อนกับพระองค์ในสวรรค์เสียแต่บัดนี้ โดยทางความเชื่อ ความไว้ใจและความรักซึ่งรวมเราเข้ากับพระองค์ขณะที่พระองค์ประทับอยู่ในสวรรค์ พระองค์ก็ประทับอยู่กับเราด้วย และเราขณะที่อยู่ในโลก เราก็อยู่กับพระองค์ด้วย พระองค์ประทับอยู่กับเราที่นี่ โดยพระเทวภาพฤทธานุภาพและความรักของพระองค์ เราไม่สามารถอยู่ในสวรรค์ ดังที่พระองค์ประทับอยู่ในโลกโดยพระเทวภาพ แต่ในพระองค์เราสามารถอยู่ในสวรรค์โดยความรักพระองค์มิได้ทรงละจากสวรรค์ เมื่อพระองค์เสด็จลงมายังเรา และพระองค์ก็ไม่ได้ทรงละจากเรา เมื่อพระองค์เสด็จขึ้นสวรรค์ ความจริงที่พระองค์สถิตอยู่ในสวรรค์ แม้ขณะที่พระองค์ประทับอยู่ในโลกนั้นเป็นขึ้นโดยสภาพจากพระองค์เอง "ไม่มีใครจะขึ้นสวรรค์ได้นอกจากพระองค์ผู้เสด็จลงมาจากสวรรค์ คือบุตรแห่งมนุษย์ผู้ประทับในสวรรค์" ถ้อยคำเหล่านี้ เราเข้าใจได้ โดยการที่เราเป็นหนึ่งเดียวกับพระคริสตเจ้า เหตุว่า พระองค์ทรงเป็นศีรษะของเรา และเราเป็นร่างกายของพระองค์ ไม่มีใครจะขึ้นสวรรค์ได้นอกจากพระคริสตเจ้า เราทุกคนเป็นพระคริสตเจ้าด้วยเพราะพระองค์ทรงเป็นบุตรมนุษย์ โดยการรวมพระองค์เองกับเรา และโดยการรวมตัวเรากับพระองค์ เราก็เป็นบุตรของพระเจ้า ดังที่ท่านอัครสาวกกล่าวว่า "เช่นเดียวกับร่างกายมนุษย์ซึ่งมีอวัยวะหลายส่วน แต่เป็นร่างกายเดียวเพราะอวัยวะทุกส่วนต่างกัน รวมเป็นกายเดียว ในพระคริสตเจ้าก็เช่นเดียวกัน" พระองค์ทรงมีอวัยวะหลายส่วน แต่ทรงมีเพียงพระกายเดียวด้วยความเวทนาต่อเรามนุษย์ พระองค์ได้เสด็จลงมาจากสวรรค์ และแม้ว่าพระองค์เสด็จขึ้นสวรรค์แต่ผู้เดียว เราก็ขึ้นไปกับพระองค์ด้วย เพราะว่าเราเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์โดยพระหรรษทาน ดังนั้นมีแต่พระคริสตเจ้าเท่านั้นที่เสด็จลงมา และมีแต่พระคริสตเจ้าเท่านั้นที่เสด็จขึ้นไป ไม่ใช่เพราะว่าไม่มีความแตกต่างกันระหว่างศีรษะและร่างกาย แต่เพราะเป็นร่างกายเดียวจึงแยกจากศีรษะไม่ได้"(นักบุญออกัสติน) ถ้าเราเข้าใจปรัชญาชีวิตของพระเยซูเจ้าดีและพยายามเข้าใจการเทิดทูนสภาวะมนุษย์ของพระองค์อย่างที่เราฉลองในวันนี้เราควรจะพยายามทดลองดู เราอาจดำเนินชีวิต รวมทั้งเรื่องเพศและความรักในชีวิตสมรส ในฐานะเป็นความจริงทางโลก เราอาจจะพัฒนาศักยภาพของเราทางโลกจนถึงความสมบูรณ์ เราอาจจะใช้วิทยาศาสตร์ สังคมวิทยา ฯลฯ เพื่อสร้างชีวิตที่ดีกว่าในโลกนี้ เราอาจจะขอคำแนะนำจากผู้ที่ให้คำปรึกษาด้านชีวิตแต่งงาน และจิตแพทย์ หายาที่ดีที่สุดสำหรับการรักษาที่หาได้ ถึงกระนั้น ในช่วงเวลาที่เราค้นพบแล้ว เรารู้ดีว่าจะต้องมีอะไรมากกว่าทั้งหมดนี้ คือมี "ความเป็นจริงที่อยู่เลยโพ้นธรรมชาติมนุษย์"

คพ. พงษ์เกษม

วันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 21 พฤษภาคม 2017

พี่น้องที่รัก...
            เริ่มเข้าที่เพื่อเดินไปข้างหน้าสำหรับภารกิจการเป็นผู้อภิบาล  ทั้งเจ้าวัด และผู้ช่วย หนึ่งอาทิตย์จัดสิ่งที่นำมาเพื่อให้อยู่ในที่ และปรับสิ่งที่มีให้ลงตัว และสุดท้ายปรับตัวเองให้พร้อมเพื่อเริ่มงานต่อไปอย่างต่อเนื่อง  เพื่อให้งานของวัดดำเนินต่อไปอย่างเป็นระบบ  ซึ่งอายุของวัดจะ 60 ปี แต่ดูสภาพทั้งวัตถุและตัวคนยังกระชุ่มกระชวย  อ่านประวัติของวัดเมื่อคราวฉลอง 50 ปี จึงทำให้รู้ถึงความเจริญก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรม ความเชื่อจากครอบครัวที่ศรัทธาพากันมาวัดอย่างหนาแน่น  จากกระแสเรียกเป็นพระสงฆ์ และนักบวชก็มีมากมาย จากพลังของเด็ก ยุวชนและเยาวชนที่รวมตัวกันมาช่วยพิธีกรรมของวัด และสิ่งที่เป็นภาพอันสดใสมาช้านานคู่วัดคู่วามาอย่างสม่ำเสมอคือ เสียงนักขับร้องที่ชวนศรัทธา  นอกจากนั้นยังมีองค์กรแต่ละคณะช่วยกันนำพาพร้อมกับเป็นเครื่องมือให้บรรดาผู้อภิบาล นำพาสัตบุรุษเดินไปข้างหน้าตามทิศทางที่พระเยซูเจ้าชี้ให้ไปหาพระบิดาเจ้า
            จึงรู้สึกอบอุ่นความรักและพระเมตตาของพระเจ้า  ผ่านทางการดำเนินชีวิตที่เป็นตัวอย่างให้กับคนปัจจุบันนี้และต่อๆไป  ใครเลยจะไม่สนใจหรืออดกล่าวถึงเรื่องดีที่วัดเซนต์หลุยส์เป็นอยู่คือในทุกวันนี้
            ขอขอบคุณอีกครั้งหนึ่ง และคงเป็นแรงบันดาลใจให้ทุ่มเทและเอาจริงเอาจังกับงานที่พระเจ้ามอบให้ในสนามงานประกาศข่าวดีในที่แห่งนี้  และจะได้เรียนรู้จากชีวิตที่มีแบบอย่างจากผู้อาวุโสหลายท่าน รวมทั้งผู้ประสบความสำเร็จในการรับใช้เพื่อนพี่น้องที่มาใช้บริการของวัดเซนต์หลุยส์เรื่อยๆไป
            พระเยซูเจ้าตรัสสอนให้เราทราบว่าพระองค์จะไม่ทอดทิ้งแต่จะอยู่กับเรา รักเรา เมตตาต่อชาวเราถึงแม้ว่าจะเป็นผู้ไม่เหมาะสมประการใด  ขอพระองค์ส่งพระจิตมาบรรเทาใจเราให้กล้าทำสิ่งที่เป็นพระประสงค์ของพระเจ้าอย่างไม่ต้องลังเลใจหรือสงสัยเลย ขอการเริ่มต้นเป็นการเดินทางด้วยความสุขใจและสนุกกับการทำงานเพื่อนำพาพวกเราไปหาพระบิดาเจ้าอย่างปลอดภัย
            เขียนเล่าไว้เพื่อให้ผู้อ่านได้ทราบว่ามาด้วยใจรักและสำนึกถึง ความรักที่พระเจ้าทรงเลี้ยงดูชาวเราทุกคน
คพ.ชาญชัย
................................................................................................................

สวัสดีครับพี่น้อง
            การใช้สิทธิ์เสรีที่จะเชื่อฟังหมายถึงการเลือก ทำแต่ความดีและให้ผลลัพธ์มีมา” พี่น้องทั้งหลาย จากบทเรียนทั้งหมดที่เราเรียนรู้จากพระชนม์ชีพของพระผู้ช่วยให้รอด ไม่มีบทเรียนใดที่จะชัดเจนและทรงพลังมากไปกว่าบทเรียนเรื่องการเชื่อฟัง จงระวังว่าท่านติดตามใคร พระเยซูทรงแสดงออกถึงคำมั่นสัญญาที่จะเชื่อฟัง โดยตรัสว่า พระบิดาขอให้บังเกิดขึ้นตามพระประสงค์ของพระองค์เถิดและให้รัศมีภาพเป็นของพระองค์ตลอดกาล ตลอดการปฏิบัติศาสนกิจของพระองค์ พระองค์ทรงทนรับการล่อลวงแต่มิทรงเอาพระทัยใส่สิ่งเหล่านั้น โดยแท้จริงแล้ว พระองค์ทรงเรียนรู้ที่จะเชื่อฟังโดยการทนทุกข์ต่างๆเพราะพระผู้ช่วยให้รอดทรงเชื่อฟัง พระองค์ทรงไถ่บาปเรา ทำให้การฟื้นคืนชีวิตเป็นไปได้และเตรียมทางให้เรากลับไปหาพระบิดาบนสวรรค์ พระองค์ทรงรู้ว่าเราจะทำผิดพลาดเมื่อเราเรียนรู้การเชื่อฟังในชีวิตแห่งกางเขน เมื่อเราเชื่อฟัง เรายอมรับการพลีพระชนม์ชีพของพระองค์ เพราะเราเชื่อว่าโดยผ่านการชดใช้ของพระเยซูคริสต์มนุษยชาติทั้งมวลจะรอดได้โดยการเชื่อฟังกฎ ศาสนพิธีและพระบัญญัติทั้งหลายซึ่งให้ไว้ในพระคุณของพระเจ้า พระเยซูทรงสอนให้เราเชื่อฟังด้วยภาษาเรียบง่ายที่เข้าใจง่ายว่า ถ้าพวกท่านรักเรา ท่านก็จะประพฤติตามบัญญัติของเราเมื่อเรารับศีลล้างบาป เรา รับพระนามของพระคริสต์ไว้กับ เราและ เข้ามาในพันธสัญญากับพระผู้เป็นเจ้าว่า เราจะเชื่อฟังไปจนที่สุดแห่งชีวิตของเรา
            ทุกวันอาทิตย์เราต่อพันธสัญญาศีลล้างบาปโดยรับส่วนบูชาถวายตัวเราในศีลมหาสนิท และเป็นพยานว่าเราเต็มใจรักษาพระบัญญัติ เราแสวงหาการให้อภัยสำหรับความนึกคิด ความรู้สึก หรือการกระทำใดก็ตามที่ไม่สอดคล้องกับพระประสงค์ของพระบิดาบนสวรรค์ เมื่อเรากลับใจโดยหันไปจากการไม่เชื่อฟังและเริ่มมาเชื่อฟังอีกครั้ง เราแสดงความรักต่อพระองค์ประเภทของการเชื่อฟังบางครั้งเราอาจถูกล่อลวงให้ปฏิบัติสิ่งที่มนุษย์ปุถุชนเรียกว่าปฏิเสธกฎของพระผู้เป็นเจ้าอย่างไม่ใยดี ไม่เชื่อฟังเพื่อประโยชน์ของปัญญาและความปรารถนาของเราเพื่อความเป็นที่นิยม เพราะหลายคนปฏิบัติสิ่งนี้กันอย่างกว้างขวาง การเชื่อฟังแบบผิดๆนี้จึงบั่นทอนมาตรฐานของพระผู้เป็นเจ้าในวัฒนธรรมและบทบัญญัติของพระเจ้า คริสตชนบางคน อาจมีส่วนใน การเชื่อฟังแบบเลือกได้โดยอ้างว่ารักและเทิดทูนพระผู้เป็นเจ้าขณะที่เลือกปฏิบัติพระบัญญัติหรือคำสอนรวมถึงคำสอนและคำของปิตาจารย์บางท่าน ที่พวกเขาจะทำตามอย่างเต็มที่บางคนเชื่อฟังอย่างเลือกเฟ้นเพราะพวกเขาไม่เข้าใจเหตุผลทั้งหมดของพระบัญญัติ ประหนึ่งเด็กไม่เข้าใจเหตุผลสำหรับคำแนะนำและกฎของพ่อแม่ แต่เรารู้เสมอถึงเหตุผลที่เราทำตามทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังเพื่อพระคริสต์ เพราะนี่คือพระศาสนจักรของพระเยซูคริสต์ และพระผู้ช่วยให้รอดทรงกำกับดูแลประชากรของพระองค์ในทุกสมัยให้เกิดสันติสุขอย่างแท้จริง สิ่งนี้เรียกร้องการควบคุมตนเองและจะนำความมั่นใจ ความสุขนิรันดร์ และความรู้สึกสมหวังมาให้เรา รวมทั้งผู้คนรอบข้างเราโดยการเป็นแบบอย่างที่ดี สิ่งนี้มักจะรวมถึงคำมั่นสัญญาอันลึกซึ้งส่วนตัวที่จะสนับสนุนชีวิตพระในตัวของคริสตชนฐานะการเป็นสงฆ์ กษัตริย์และประกาศกให้ทำตามคำสอนและคำแนะนำของบทบัญญัติ ผลที่ตามมาคือชีวิตทำตามแผนการณ์และพระประสงค์ของพระ การเชื่อฟังทำให้เราเข้มแข็งขึ้นอย่างต่อเนื่อง สามารถอดทนอย่างซื่อสัตย์ต่อการทดสอบและการทดลองในอนาคต ทำให้เรารักพระองค์อย่างสุดซึ้งและเชื่อในพระองค์ด้วยศรัทธาอย่างสมบูรณ์

คพ. พงษ์เกษม

วันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2017

สวัสดีครับพี่น้อง
            เมื่อเรามองพระเยซูเป็นแบบอย่างของเราและเมื่อเราเดินตามรอยพระบาทพระองค์ เราก็จะสามารถกลับไปหาพระบิดาบนสวรรค์อย่างปลอดภัยเราทุกคนเริ่มการเดินทางอันน่าพิศวงและจำเป็นเมื่อเราออกจากโลกวิญญาณเข้าสู่สภาพท้าทาย บ่อยครั้งซึ่งเราเรียกว่าทางแห่งมรรคา จุดประสงค์เบื้องต้นของการดำรงอยู่บนแผ่นดินโลกคือ เพื่อรับร่างกายเป็นเนื้อหนังและกระดูก เพื่อรับประสบการณ์ที่จะได้มาผ่านการแยกจากพระบิดาสวรรค์ของเราเท่านั้น และเพื่อดูว่าเราจะรักษาพระบัญญัติได้หรือไม่ พวกเราจะพิสูจน์ว่าจะทำสิ่งทั้งปวงไม่ว่าอะไรก็ตามที่พระเจ้าพระผู้เป็นเจ้าของพวกเราจะทรงบัญชาพวกเราว่าทำได้หรือไม่เมื่อเรามายังแผ่นดินโลก เรานำของประทานอันสำคัญยิ่งจากพระผู้เป็นเจ้ามาด้วย นั่นคือ สิทธิ์เสรีของเรา เรามีสิทธิ์เลือกด้วยตนเองหลายพันด้าน ที่นี่เราเรียนรู้จากงานยากของประสบการณ์ เราแยกแยะระหว่างความดีกับความชั่ว เราแยกความแตกต่างระหว่างความขมกับความหวาน เราเรียนรู้ว่าการตัดสินใจกำหนดจุดหมาย
            ข้าพเจ้าแน่ใจว่าเราจากพระบิดามาพร้อมกับความปรารถนาอันท่วมท้นที่จะกลับไปหาพระองค์ เพื่อเราจะได้รับความสูงส่งที่พระองค์ทรงวางแผนให้เรา และตัวเราเองต้องการอย่างมาก ถึงแม้พระองค์จะทรงปล่อยให้เราหาและเดินตามหนทางซึ่งจะนำเรากลับไปหาพระบิดาในสวรรค์ แต่พระองค์ไม่ทรงส่งเรามาที่นี่โดยปราศจากทิศทางและการนำทาง แต่ประทานเครื่องมือที่เราต้องการ พระองค์จะทรงช่วยเราขณะที่เราแสวงหาความช่วยเหลือจากพระองค์และพยายามทำสุดความสามารถเพื่ออดทนจนกว่าชีวิตจะหาไม่และได้รับชีวิตนิรันดร์เพื่อช่วยนำทางเรา เรามีพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้าและพระบุตรของพระองค์ในพระคัมภีร์ เรามีคำแนะนำและคำสอนจากศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้า สำคัญสูงสุดคือเรามีแบบอย่างที่เพียบพร้อมให้ดำเนินตามด้วยแบบอย่างของพระเจ้าและพระผู้ช่วยให้รอดของเรา พระเยซูคริสต์เราได้รับการสอนให้ดำเนินตามแบบอย่างนั้น พระผู้ช่วยให้รอดตรัสดังนี้ จงตามเรามาเถิดงานที่เราเห็น พระองค์ได้ทำมาแล้วเจ้าจงทำด้วย พระองค์ทรงตรัสว่า จงเชื่อในพระเจ้า และเชื่อในเราด้วย พระองค์ทรงเป็นหนทาง ความจริงและชีวิต”  เมื่อเรามองพระเยซูเป็นแบบอย่างของเราและเมื่อเราเดินตามรอยพระบาทพระองค์ เราสามารถกลับไปหาพระบิดาบนสวรรค์อย่างปลอดภัยเพื่ออยู่กับพระองค์ตลอดกาล ประกาศกอิสยาห์กล่าวว่า นอกจากมนุษย์จะอดทนจนกว่าชีวิตจะหาไม่ในการทำตามตัวอย่างของพระบุตรของพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงพระชนม์แล้ว เขาก็ยังจะสามารถรับการช่วยให้รอดได้ เมื่อพระเยซูตรัสเชื้อเชิญเศรษฐีคนหนึ่งว่า จงตามเรามาเถิด” พระองค์มิได้เพียงมุ่งหมายให้เศรษฐีคนนั้นติดตามพระองค์ขึ้นลงเนินเขาและหุบเขาแถบชนบทเท่านั้น แต่เดินตามพระวจนะของพระองค์ด้วยชีวิต พระเยซูทรงดำเนินบนหนทางของความผิดหวัง แม้ทรงประสบความผิดหวังมากมาย แต่ความผิดหวังรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งเกิดขึ้นเมื่อทรงคร่ำครวญถึงเยรูซาเล็มขณะสิ้นสุดการปฏิบัติศาสนกิจต่อสาธารณชน ลูกหลานอิสราเอลปฏิเสธความปลอดภัยของปีกที่ทรงเสนอจะปกป้องพวกเขา ขณะทอดพระเนตรเมืองซึ่งไม่นานจะถูกทำลายล้าง พระองค์เสียพระทัยอย่างสุดซึ้ง ทรงร้องออกมาด้วยความปวดร้าวว่า "โอ เยรูซาเล็มๆ เมืองที่ฆ่าบรรดาผู้เผยพระวจนะและเอาหินขว้างพวกที่ทรงใช้มาให้ถึงตาย บ่อยครั้งเราปรารถนาจะรวบรวมลูกๆ ของเจ้าไว้ เหมือนแม่ไก่ที่กกลูกอยู่ใต้ปีกของมัน แต่พวกเจ้าไม่ยอม ดังนั้นจงเชื่อใจในพระเจ้าเถิด อย่าทำใจดื้อรั้นอีกต่อไปเลย
คพ. พงษ์เกษม
...............................................................................................................


ข้างบัลลังก์นักบุญหลุยส์ งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา

                ผมว่า ผมได้เรียนหลายสิ่งและรู้หลายอย่าง จากการมีประสบการณ์ในชีวิตสงฆ์ในสองขวบปีแรก ที่อยู่ที่นี่ ได้รู้สึก ได้คิด ได้ทำ ตามที่ตั้งใจเรียนและบวชมา แต่ด้วยความเป็นมนุษย์ ก็ใช่ว่าจะสมบูรณ์เพอร์เฟ็คเพราะก็คิดว่ายังมีอีกหลายอย่างที่รู้และทำ แต่อาจจะยังมีหลายอย่างที่ดูไม่เข้าท่าเข้าทางบ้าง ก็คงต้องใช้ข้างบัลลังก์นักบุญหลุยส์นี้ ประการแรก กล่าวขออภัยใครหลายหลายคน ที่ผมยังไร้เดียงสาต่อโลกและการทำหน้าที่ในสองปีนี้ จะหน้าตา ทรงผม อุปนิสัยบางอย่างที่อาจจะขัดหูขัดตาขัดใจใครหลายคนบ้าง กราบขออภัยไว้ ณ ที่นี่อีกสักครั้ง พระสงฆ์อายุสองขวบ ก็คงไม่ต่างกับเด็กสองขวบ ที่เริ่มจะพูดได้ พูดพอฟังได้ พูดพอฟังรู้เรื่อง ขาแข็งพอจะยืนได้ ก้าวได้นิดหน่อย เดินพอได้เล็กน้อย แต่อาจจะยังไม่แข็งพอที่จะวิ่ง แต่อย่างน้อยก็คงเติบโตขึ้นและเรียนรู้อะไรมากขึ้น #ผมขอโทษนะครับ กระนั้นก็ดี ประการที่สอง ผมอยากจะขอบคุณ คุณพ่อสุพจน์ ฤกษ์สุจริต เจ้าอาวาสใจดี พร้อมกับ พี่พงษ์ คุณพ่อพงษ์เกษม สังวาลย์เพ็ชร พระสงฆ์รุ่นพ่อรุ่นพี่ ทั้งสองท่านที่ได้แนะนำ สั่งสอน ตักเตือนและเอาใจใส่รุ่นลูกรุ่นน้องคนนี้อย่างดีเสมอมา ทั้งอยากจะขอบคุณพี่น้องนักบวชหญิงชาย พี่น้องสัตบุรุษทุกท่าน สำหรับทุกประสบการณ์ที่หวาน เปรี้ยว มัน เค็ม เผ็ด ร่วมสุขร่วมทุกข์กันมา จะขึ้นจะลงบ้าง แต่จะว่าไป มันคือประสบการณ์ที่ดูรวมรวมแล้วมีเสน่ห์และล้ำค่าสำหรับผมจริงจริงครับ #ผมขอบคุณครับประการที่สาม ไปมาลาไหว้  เป็นธรรมเนียม เราพบและเจอกันผ่านทั้งตัวหนังสือ ผ่านทั้งชีวิตจริง ในหน้านี้ คงเป็นพื้นที่สำหรับพระสงฆ์องค์ใหม่ที่กำลังจะมา จึงขอกราบลาตรงนี้ ขอบคุณที่ติดตามและอ่านสิ่งที่ผมถ่ายทอด ขอบคุณที่มีฟีดแบ็คให้อยู่อย่างสม่ำเสมอ #ผมลานะครับ หมดหน้าที่ของผมแล้ว แม้ว่าใจอยากจะเขียนอยากจะคุยกันผ่านตัวหนังสือต่อกันอีกนานนาน แต่เวลาคงไม่อนุญาต ประการสุดท้ายผมเรียนรู้ว่า สัจธรรมที่ใครบางคนเคยเอ่ยอ้างไว้ มันดูจริงขึ้นทุกทุกวัน นับตั้งแต่รู้ว่าจะต้องไป สัจธรรมที่ว่า โลกนี้ ไม่มีเรามันก็อยู่ได้ เราไม่ได้สำคัญ สำหรับโลกขนาดนั้น เพราะถึงไม่มีเรา โลกก็ยังคงหมุนได้ และมันก็ยังคงหมุนต่อไปแน่นอนสุด ก็คือความไม่แน่นอน แม้จะแอบถอนหายใจ และใจหายบ่อยบ่อยเมื่อใกล้จะไป ในขณะที่นั่งเก็บของไปด้วย ก็ถอนหายใจไปเรื่อย กับอดีตที่คิดว่ายังไม่ดีพอ คิดว่าตอนนั้น เราน่าจะทำแบบนี้ ตอนนู้นเราน่าจะคิดแบบนั้น จนของที่รื้อจะเก็บกับอดีตมันหลั่งไหลและพรั่งพรูออกมากองเต็มพื้นไปหมด บางอันก็เก็บขึ้น บางอันก็เก็บทิ้ง แต่ก็จริง เราไม่สามารถเอาไปได้ทุกอย่าง ผมจึงอยากขออนุญาตเก็บแต่เฉพาะเรื่องราวดีดี ประสบการณ์และบทเรียนที่จะเป็นประโยชน์สำหรับชีวิตไว้ ทั้งกำลังใจที่ได้รับมาเต็มเปี่ยม จนมันเอ่อล้นออกเป็นน้ำผ่านตา แต่กระนั้น ก็ดี แม้สัจธรรมจะบอกไว้อย่างนั้น อันที่จริง เราก็ไม่ได้ต้องการที่จะสำคัญสำหรับโลก คิดดูดีดี ผมว่า เราอาจจะต้องการสำคัญสำหรับใครหลายคน หรือใครบางคนเท่านั้นเอง และอีกไม่กี่วันก่อนจะก้าวขาออกไปจากที่นี่ ผมอยากบอกพี่น้องว่า พี่น้องสำคัญสำหรับผมเสมอนะครับ มากกว่านั้นพี่น้องเป็นคนสำคัญและคนพิเศษสำหรับพระเจ้าเสมอ ส่วนโลกที่บางทีก็ไม่ได้เห็นว่าเราสำคัญ ปล่อยมันไว้ข้างหลังบ้างก็ได้ หน้ากระดาษจะหมดละ จบยังไงไม่ให้เศร้าดี #รักและคิดถึงกันในคำภาวนาเสมอครับ


บาทหลวงบางกอก

วันศุกร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคม 2017

พี่น้องที่รัก
            พ่อเข้าใจว่าบทความนี้คงเป็นบทความสุดท้ายที่พ่อจะเขียนก่อนที่พ่อจะจบหน้าที่การเป็นเจ้าอาวาสที่วัดเซนต์หลุยส์แห่งนี้ครับ พ่ออยากใช้พื้นที่ตรงนี้โมทนาคุณพระเจ้าสำหรับพระพรมากมายที่พระองค์โปรดประทานให้กับพ่อและพี่น้องสัตบุรุษวัดเซนต์หลุยส์ของเราตลอดช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมา พ่อภาวนาเสมอเพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของพ่ออยู่ภายใต้การส่องสว่างของพระเจ้า พ่อเชื่อว่าพระเจ้าทรงนำเราเสมอในทุกกิจการถ้าเราถวายทุกสิ่งไว้ในการพิทักษ์รักษาของพระองค์   ด้วยเหตุที่ว่าเราคริสตชนเป็นหนึ่งเดียวกันบนความเชื่อเดียวกัน พระองค์จึงทรงทำให้สิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในหมู่เราเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างแท้จริง ประการต่อมา พ่อต้องขอขอบคุณคุณพ่อผู้ช่วยเจ้าอาวาสทุกๆท่านที่เคยได้ร่วมงานกันตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ตั้งแต่ คุณพ่อศวง วิจิตรวงศ์ คุณพ่อนัฎฐวี กังก๋ง คุณพ่อสหพล ตั้งถาวร คุณพ่อวิทยา เลิศทนงศักดิ์ คุณพ่อพงษ์เกษม สังวาลย์เพ็ชร และคุณพ่อกรณ์ อดิเรกวุฒิกุล คุณพ่อทุกท่านต่างร่วมแรงร่วมใจในการทำงานอภิบาลทางด้านศีลศักดิ์สิทธิ์ และการเป็นจิตตาธิการองค์กรคาทอลิกต่างๆร่วมกันกับพ่ออย่างแข็งขัน ช่วยให้ภารกิจต่างๆสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีตลอดมา พ่อได้ไปลองเปิดดูบัญชีศีลล้างบาปของวัดช่วงห้าปีที่ผ่านมานี้ พ่อได้โปรดศีลล้างบาปให้กับเด็กทารกและคริสตชนใหม่ จำนวน 279 คน และ ในบัญชีศีลสมรสพ่อได้เป็นผู้แทนฝ่ายพระศาสนจักรคาทอลิกในพิธีศีลสมรสจำนวน 112 คู่ จากตัวเลขดังกล่าวพ่อพบว่าพระเจ้ามีส่วนอย่างมากในการสนับสนุนพ่อให้มีกำลังกายกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะพระสงฆ์ เพื่องานอภิบาลสัตบุรุษจะได้รับการสานต่อและดำเนินไป เพื่อพระอาณาจักรของพระเจ้าจะได้เผยแผ่ออกไปตามพระประสงค์ของพระองค์ พ่อถือโอกาสนี้ขอขอบคุณองค์กรคาทอลิกของวัดทุกองค์กร ตั้งแต่คณะกรรมการสภาภิบาล นักขับร้อง พลมารี วินเซนเดอปอล เครดิตยูเนียน ชมรมผู้อาวุโส ผู้อ่านพระคัมภีร์ เยาวชน เด็กช่วยมิสซา รวมไปถึงกลุ่มที่รวมตัวกันในจุดประสงค์พิเศษต่างๆเช่น กลุ่มแบ่งปันพระคัมภีร์ กลุ่มวิถีคริสตชน กลุ่มพระเมตตา และบุคคลอื่นๆที่เสียสละมาทำงานเพื่อวัดในหน้าที่พิเศษต่างๆเช่นดูแลจำหน่ายศาสนภัณฑ์ ดอกไม้ และเจ้าหน้าที่ของวัด ที่ได้มีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิดกับกิจกรรมของวัดในด้านต่างๆ พลังเหล่านี้แหละที่เข้ามาเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับวัดของเราอย่างแท้จริง
            ท้ายที่สุด พ่อขอขอบคุณพี่น้องสัตบุรุษวัดเซนต์หลุยส์ทุกท่าน ที่ร่วมใจกันมาปฏิบัติศาสนกิจด้วยความเลื่อมใสศรัทธา ความเชื่อประสาคริสตชนของเราที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันในพิธีบูชาขอบพระคุณที่ประกอบขึ้นที่พระแท่นบูชา จิตใจและคำภาวนาของเราแต่ละคนที่ล่องลอยสูงขึ้นไปพร้อมกับควันกำยานถวายแด่พระเจ้านั้นเป็นที่มาของพระพรที่ยิ่งใหญ่ ที่พระเจ้าประทานกลับลงมาสู่ดวงใจของเราทุกคน ยังผลให้เราได้รับการหล่อเลี้ยงชีวิตฝ่ายจิตของเราให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นด้วยพระวาจาของพระเจ้า ที่ช่วยเราให้เราก้าวไปบนเส้นทางชีวิตอย่างมั่นคง แม้จะต้องเผชิญกับอุปสรรคนานาประการ แต่แสงสว่างและการนำของพระเจ้าทำให้เรามีพลังก้าวไปข้างหน้าเสมอ
            พ่อภาวนาเพื่อพี่น้องทุกคนจะยึดมั่นในคำสอนของพระเจ้า พ่อภาวนาเพื่อทุกครอบครัวจะเป็นผู้สืบทอดมรดกแห่งความเชื่อนี้ไปสู่ชีวิตของคนรุ่นลูกรุ่นหลาน พ่อภาวนาเพื่อวัดของเราจะเป็นจุดศูนย์รวมจิตใจของพี่น้องเสมอไป

พ่อสุพจน์
..............................................................................................

สวัสดีครับพี่น้อง
            ภูมิประเทศของปาเลสไตน์ประกอบด้วยที่ราบสูงแคบ ๆ เป็นแนวยาวจากเหนือจรดใต้ ในแคว้นยูเดีย ที่ราบสูงจากเมืองเบธเอล ถึงเมืองเฮโบรนมีความยาวประมาณ 56 กม. กว้าง 22 - 27 กม.พ้นจากที่ราบสูง ก็เป็นหน้าผาสูงชัน และถิ่นทุรกันดารในทะเลทราย พื้นที่ส่วนใหญ่บนที่ราบสูงเป็นหินขรุขระ จึงเหมาะแก่การเลี้ยงสัตว์ มากกว่าการเพาะปลูก ภาพของ คนเลี้ยงแกะจึงเป็นที่คุ้นเคยของผู้คน บนดินแดนที่ราบสูงแห่งนี้คนเลี้ยงแกะ มีหน้าที่รับผิดชอบแกะทุกตัวในฝูง ถ้าแกะหาย เขาต้องตามหาจนพบ  ถ้าแกะตาย เขาต้องนำซากแกะกลับบ้าน เพื่อยืนยันว่าแกะตายและตายอย่างไร  เพื่อป้องกันฝูงแกะจากเหตุร้าย คนเลี้ยงแกะจึงต้องยืนพิงไม้เท้า อดตาหลับขับตานอน ตากแดดตากฝน เพ่งตาเฝ้ามองฝูงแกะมิให้พลัดหลง หรือตกลงไปในซอกหินตามหน้าผา อีกทั้งต้องพร้อมเสี่ยงชีวิต ป้องกันแกะจากขโมยและฝูงสุนัขป่า การตื่นเฝ้าระวังอยู่เสมอ ความกล้าหาญไม่หวั่นเกรงอันตราย ตลอดจนความรัก และอดทนต่อฝูงแกะ เหล่านี้คือ คุณสมบัติที่จำเป็นของคนเลี้ยงแกะ ด้วยภาพพจน์ที่ดีเลิศเช่นนี้เอง คนเลี้ยงแกะ จึงมีบทบาทสำคัญยิ่ง ในประวัติศาสตร์ของชนชาติยิว ในพระธรรมเก่า พระเจ้าได้รับการวาดภาพว่าเป็น ผู้เลี้ยงแกะและชาวยิวคือฝูงแกะของพระองค์ พระยาห์เวห์ทรงเลี้ยงดูข้าพเจ้าอย่างผู้เลี้ยงแกะ  ข้าพเจ้าจึงไม่ขาดสิ่งใด” (สดด23:1) "ข้าพเจ้าทั้งหลาย ผู้เป็นประชากรของพระองค์ และเป็นฝูงแกะที่ทรงเลี้ยงดู จะขอบพระคุณพระองค์ตลอดไป"(สดด79:13) ประกาศก ทำนายถึงพระเเมสสิยาห์ว่า จะเป็นดั่งผู้เลี้ยงแกะด้วยเช่นกัน พระองค์ทรงเลี้ยงดูฝูงแกะของพระองค์ดั่งคนเลี้ยงแกะ พระองค์ทรงรวบรวมบรรดาลูกแกะไว้ในอ้อมพระกร โอบอุ้มไว้แนบพระทรวง พระองค์ทรงนำแม่แกะที่มีลูกอ่อนอย่างสุภาพ”(อสย40:11) บรรดากษัตริย์ของชาวยิวก็เป็นดังผู้เลี้ยงแกะของพระเจ้า เพียงแต่ว่าส่วนใหญ่เป็นผู้เลี้ยงแกะที่ไม่ดี วิบัติแก่บรรดาคนเลี้ยงแกะ ซึ่งผลาญทำลาย และทำให้ลูกแกะในท้องทุ่งของเรากระจัดกระจายไป เนื่องจากเจ้าขับไล่ไสส่งและไม่ได้ดูแลเอาใจใส่พวกเขา” (ยรม23:1-4)
            ในพระธรรมใหม่ พระเยซูเจ้าเองทรงเป็น ผู้เลี้ยงแกะที่ดี”  พระองค์ทรงพร้อมจะเสี่ยงชีวิตตามหาและช่วยลูกแกะที่พลัดหลงให้ปลอดภัย ถ้าชายคนหนึ่งมีแกะอยู่ร้อยตัว แล้วแกะตัวหนึ่งบังเอิญหลงทาง เขาจะไม่ปล่อยแกะเก้าสิบเก้าตัวไว้บนภูเขา เพื่อค้นหาแกะตัวที่หลงไปหรือ”(มธ18:12; ลก 15:4) พระองค์ทรงสงสารประชาชน เพราะเขาเหล่านั้นเหน็ดเหนื่อยและท้อแท้ประดุจฝูงแกะที่ไม่มีคนเลี้ยง”(มธ9:36; มก 6:34) นอกจากนั้น พระองค์ยังตรัสกับเปโตรว่า จงเลี้ยงดูแกะของเราเถิด” (ยน21:15-19) และเปโตรได้ขอร้องบรรดาผู้นำของพระศาสนจักรต่อมาว่า จงเลี้ยงดูฝูงแกะของพระเจ้าที่อยู่ในความดูแลของท่าน จงดูแลด้วยความเต็มใจตามพระประสงค์ของพระเจ้า
            มิใช่ดูแลด้วยจำใจ จงดูแลด้วยความสมัครใจ มิใช่ดูแลเพราะเห็นแก่อามิสสินจ้าง  จงเป็นแบบอย่างแก่ฝูงแกะ มิใช่เป็นเหมือนเจ้านายเหนือผู้ที่อยู่ใต้ปกครอง”(1ปต5:2-3) พระองค์ทรงเป็น ทางใหม่ที่ให้ชีวิต”(ฮบ10:20) นอกจากตรัสว่าเราเป็นประตูแล้ว พระองค์ยังเสริมอีกว่า ผู้ที่เข้ามาทางเราก็จะรอดพ้น เขาจะเข้าจะออกและจะพบทุ่งหญ้า”(ยน10:9) การเข้า-ออกโดยไม่ได้รับอันตรายเป็นสำนวนพูดของชาวยิวหมายถึง ชีวิตที่มั่นคงปลอดภัยสูงสุด หากประชาชนสามารถเข้าออกประตูเมืองได้โดยไม่หวาดหวั่น ย่อมหมายความว่าเมืองนั้นปลอดภัย มีขื่อมีแป มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย และมีสันติสุข  ผู้นำชาวอิสราเอล จึงมีหน้าที่ นำประชาชนออกไปและกลับเข้ามา (กดว27:17) เราได้เป็นผู้นำผู้คนเข้ามาทางพระคริสต์ในชีวิตประจำวันอย่างดีแล้วหรือยัง?

คพ. พงษ์เกษม