พี่น้องที่รัก
วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี
พสกนิกรชาวไทยต่างมีความยินดีเพราะเป็นวันเฉลิมพระชนม์พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ซึ่งทรงเป็นที่รักและเทิดทูนของพี่น้องชาวไทยทุกคน แล้ว
เรายังมีความยินดีเป็นพิเศษอีกประการ คือวันนี้เป็นวันพ่อแห่งชาติอีกด้วย
ดังนั้นเราจะรำลึกถึงพระคุณของพ่อของทุก ๆ คนในวันนี้เป็นพิเศษ
แน่นอนผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อ ย่อมมีบทบาทพิเศษในครอบครัว
นอกเหนือจากการเป็นผู้นำครอบครัวแล้ว
ยังมีหน้าที่หาเลี้ยงครอบครัวให้ทุกคนมีอาหารรับประทาน มีการศึกษาที่ดี
มีความมั่นคงในชีวิต และ ที่สำคัญที่สุดคือมีความเป็นผู้มีคุณธรรมประจำจิตใจ
ในพจนานุกรมมีกล่าวถึงความหมายของ ลูก หลาน เหลน โหลน หรือ ทายาทสืบสายโลหิต คือ
ผู้สืบสันดาน ฟังดูแล้วการให้ความหมายตามพจนานุกรมนั้น
มันชัดเจนและเข้าถึงก้นบึ้งของหัวใจดีเหลือเกิน โดยรวมแล้ว
พ่อจึงมีบทบาทสำคัญในการวางแบบอย่างของความประพฤติ หรือ สันดาน
ตามความหมายของพจนานุกรมนั้น ให้กับทายาททางสายโลหิตที่จะเจริญรอยตามนั่นเอง
ดังนี้ถ้าพ่อดี ลูกก็น่าจะมีสันดานที่ดีตาม ในทางตรงข้าม
ถ้าลูกมีสันดานไม่ดี
ก็คงต้องมองย้อนกลับไปว่าแล้วผู้วางแบบอย่างความประพฤติที่เป็นพ่อนั้นเป็นคนอย่างไร
คงเข้าทำนองตามภาษิตที่ว่า ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น นั่นเอง
ถ้าจะประยุกต์ไปถึงสมาชิกคนอื่น ๆ ที่เป็นหลักในครอบครัวก็คงไม่พ้นผู้เป็นแม่ด้วยเหมือนกัน
เพราะมีภาษิตที่กล่าวไว้ในทำนองเดียวกันว่า ดูช้าง ให้ดูที่หาง ดูนาง ให้ดูที่แม่
พระวาจาของพระเจ้าในวันนี้กล่าวถึง บุคคลหนึ่งที่มีบุคลิกโดดเด่นเป็นพิเศษในพระวรสารคือ
ท่านยอห์นแบปติสต์
ท่านเป็นประกาศกของพระเจ้าที่ออกมาเทศน์เตือนใจชาวยิวให้เตรียมตัวต้อนรับการเสด็จมาขององค์พระผู้ไถ่
ด้วยบุคลิกพิเศษของท่านที่เป็นคนสมถะ กินง่ายอยู่ง่าย นิยมสันโดษ
แต่มีมโนธรรมเที่ยงตรง ซื่อตรงต่อกรอบชีวิตที่ท่านเลือก
ท่านจึงเป็นที่เคารพนับถือของผู้คนในสมัยของท่าน สิ่งที่ท่านพูด ท่านเตือนสอน
ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนเปิดใจน้อมรับไปปฏิบัติ
หรืออย่างน้อยก็ไม่ปล่อยตนถลำลึกไปกว่าเก่า สิ่งที่อยากชี้ให้เห็นก็คือว่า
ท่านยอห์นแบปติสต์ เป็นบุตรของ เศคาริยาห์ และ นางเอลิซาเบธ
ซึ่งเป็นญาติของพระนางมารีย์
ตามที่พระคัมภีร์ได้กล่าวถึงความเป็นมาของชีวิตของท่านยอห์นแบปติสต์
ทำให้เราได้มองเห็นถึงบุคคลสำคัญสองคนซึ่งเป็นบิดาและมารดาของท่านยอห์นแบปติสต์คือ
เศคาริยาห์ และ นางเอลิซาเบธ ทั้งสองท่านนี้ได้เป็นผู้อบรมสั่งสอน
ปลูกฝังความเชื่อ และให้แบบอย่างที่ดีกับยอห์นแบปติสต์ในวัยเด็ก
ซึ่งแน่นอนว่าวิถีชีวิตและแบบอย่างที่ดีงามย่อมส่งผลถึงชีวิตของ ลูก หรือ
ผู้สืบสันดาน ในทางที่ดีเป็นแน่แท้ จนทำให้ท่านยอห์นแบปติสต์
เป็นประกาศกที่ได้รับการเอ่ยปากชมเชยจากพระเยซูเจ้าด้วยพระองค์เอง และ
เป็นผู้ที่มีบทบาทอย่างมากต่อการแนะนำพระเยซูเจ้าให้กับประชาชนชาวยิว
โดยเฉพาะศิษย์ของท่านได้รู้จักองค์พระผู้ไถ่
วันนี้จึงอยากสรุปว่า พ่อแม่
ไม่ได้มีความรับผิดชอบต่อการเลี้ยงดูปากท้องของลูกๆเท่านั้น
แต่ยังเป็นต้นแบบของการดำเนินชีวิตที่อยู่ในกรอบของศีลธรรมที่ถูกต้องอีกด้วย
รวมถึงการปลูกฝังความเชื่อให้กับลูกและเป็นผู้นำในการปฏิบัติศาสนกิจให้กับลูกๆได้สืบทอดมรดกแห่งความดีนี้ในตัวเขาสืบไปอีกด้วย
คพ.สุพจน์
.......................................................................................
สวัสดีพี่น้องที่รัก
สิ่งที่จะทำให้ฝันนั้นเป็นจริง
ดังที่อาดัม เอวา บิดามารดาเดิมของเรา
ตัวเราด้วย ต้องต่อสู้ในชีวิตของเราเอง
กับความตรึงเครียดระหว่างการแบ่งปันความฝันของพระเจ้า กับการทำตามทางของเรา
นี่เป็นเหตุผลที่เราต้องฟังเสียงของนักบุญยอห์นบัปติสต์ อีกครั้งหนึ่ง
ดังที่พระวรสารเตือนใจเราให้ “เตรียมทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า” แต่เพื่อจะทำสิ่งนี้
เราต้องมีประสบการณ์แรก คือ การเปลี่ยนใจ พูดอีกแบบหนึ่ง คือ “จงกลับใจเถิด อาณาจักรสวรรค์อยู่ใกล้แล้ว”
ฟังเสียงร้องที่เตือนชีวิตที่โลดโผนทโมน กระโดกกระเดก ไม่อยู่ในร่องในรอย
ให้เป็นชีวิตที่เรียบร้อย ชีวิตที่ขรุขระด้วยบาปหรือใจที่คดเคี้ยว
ให้เป็นใจที่เที่ยงตรง
พระเจ้าทรงรักโลกมากเกินไปจนยอมให้เราทำบาป
แยกตัวออกจากพระองค์และออกจากกันและกัน
พระเจ้าได้ทรงผลิกฟื้นฟูโลกและฟื้นฟูมนุษย์ ให้กลับมีสภาพแบบต้นกำเนิดที่เป็นหนึ่งเดียวกันและมีศักดิ์ศรี
จึงได้ทรงส่งพระเยซูเจ้าเป็นพระผู้ไถ่ของเรา เป็นความฝันที่ไม่มีวันตาย ไม่สิ้นสุด
เมื่อพระเยซูเจ้าได้เสด็จสู่สวรรค์หาพระบิดา
หลังจากทรงสิ้นพระชนม์และกลับคืนพระชนมชีพ ชีวิตก็ยังคงมีต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
เพราะพระเจ้าทรงฝันต่อ โดยให้เรารับผิดชอบไปสู่ทางแห่งพระอาณาจักรของพระองค์
วันนี้พระองค์เชื้อเชิญเราให้ถอดเสื้อไว้ทุกข์ออก
สวมใส่ความชอบธรรมและสันติที่มาจากพระเจ้า รู้จักยำเกรงพระเจ้า
เพราะยำเกรงพระเจ้าทอแสงแห่งความรุ่งโรจน์มายังเราทุกคน
แผ่เงาความยินดีและความรักมั่นคงของพระเจ้าปกคลุมชีวิตของเรา
ไม่ว่าพี่น้องจะฝันอะไร
เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า
เป็นช่วงเวลาระลึกถึงความฝันของพระเจ้าสำหรับมนุษยชาติด้วย
ดังที่เราเตรียมฉลองวันเกิดของพระเยซูคริสตเจ้า ฐานะพระวจนาตถ์ทรงรับสภาพมนุษย์
เราจึงคิดถึงเหตุผลของเทศกาลนี้ว่าเราเป็นเหตุผลที่พระเจ้าได้ทรงส่งพระบุตรแต่องค์เดียวมารับสภาพมนุษย์
และประทับอยู่ท่ามกลางเรา ตราบที่พระเจ้าทรงรักและฝันให้มีโลก
เรามนุษย์ก็ขายฝันของพระเจ้ามายึดฝันของเราเอง และเราได้ไปตามทางของตน
ลืมภาพลักษณ์และความเหมือนพระเจ้าซึ่งพระองค์ได้ทรงสร้างทำลายผลแห่งความบริบูรณ์เสียสิ้น
จึงต้องเป็นเทศกาลแห่งการภาวนา ตื่นเฝ้าและร่วมกิจการดีในการเป็นบุตรพระเจ้า
เพราะไม่มีสิ่งใดที่งดงามเท่ากับวิญญาณของเราที่สะอาดเตรียมพร้อมให้เป็นที่ประทับขององค์พระเจ้า
พระเจ้าทรงอยู่ในตัวเราด้วยการไตร่ตรอง (Attending) วิถีการดำเนินชีวิตตามพระประสงค์และกระแสเรียกของตน (Discerning) ตั้งวิสัยทัศน์ใหม่ในชีวิต (Vision) ทำสิ่งที่เราต้องทำ ตามที่เราต้องการให้สำเร็จ (Engaging)ให้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับบุคคลที่อยู่รอบข้าง
ที่พระเจ้าทรงประทานให้เราแบ่งปันก้าวเดินในชีวิต หล่อเลี้ยงความสัมพันธ์กับพระเจ้าด้วยการภาวนา
และรับศีลศักดิ์สิทธิ์บ่อย ๆ (Nurturing)
ขอบคุณพระเจ้าสำหรับสิ่งที่พระองค์ประทานพระพรแก่เรามากมายด้วยความกตัญญูรู้คุณ (Thanking)
ขอพระเจ้าอวยพรพี่น้อง
พ่อพงษ์เกษม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น