พี่น้องที่รัก
"กลุ่มวิถีคริสตชน" อาจเป็นคำที่หลายคนเคยได้ยินมาแล้วบ้าง
สำหรับบางคนอาจเป็นคำใหม่ ไม่แน่ใจว่าความหมายของคำ ๆ นี้ จะมีความหมายชัดเจนอย่างไร
วันนี้พ่ออยากจะขอกล่าวถึงเรื่องนี้สักหน่อย คำว่า "กลุ่มวิถีคริสตชน"
ถูกแปลมาจากคำในภาษาอังกฤษว่า "Basic Ecclesial
Community” หรือ เรียกคำย่อว่า "BEC” พ่อคงไม่ท้าวความไปถึงว่า
BEC มีความเป็นมาอย่างไร
แต่อยากจะเจาะเข้าสู่ประเด็นหลักแบบตรงไปตรงมาว่า BEC หรือ
กลุ่มวิถีคริสตชน เป็นการรวมกลุ่มกันของ คริสตชนที่อยู่ในละแวกบ้านเดียวกัน
เพื่อการอ่านพระคัมภีร์ด้วยกัน
ยึดเอาข้อความในพระคัมภีร์มาตีความให้เข้ากับบริบทของสังคมปัจจุบัน
แล้วแบ่งปันประสบการณ์ชีวิตให้กับกันและกัน
เพื่อสนับสนุนกันและกันให้มุ่งเจริญหน้าในคุณงามความดี โดยมีพระคัมภีร์เป็นต้นกำเนิดของแสงสว่างนำทางชีวิต
ให้จาริกไปบนเส้นทางที่พระเยซูเจ้าทรงสอนไว้
สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย
ได้มีนโยบายสนับสนุนให้มีการจัดตั้งกลุ่มวิถีคริสตชน เพื่อฟื้นฟูความศรัทธา
ความเชื่อ ให้กับเหล่าคริสตชนทั่วประเทศ สังฆมณฑลกรุงเทพฯ จึงได้นำแนวคิดนี้มาแนะนำและส่งเสริมให้มีการใช้วิธีการของกลุ่มวิถีคริสตชนอย่างจริงจังในเขตวัดต่าง
ๆ มาเป็นลำดับ เมื่อประมาณ 3-4 ปีที่แล้ว
วัดของเราเริ่มจัดตั้งกลุ่มวิถีคริสตชนเป็นกลุ่มแรกที่ซอยประจักษ์สิน
โดยการริเริ่มของคริสตชนที่อยู่อาศัยใกล้ๆกันในละแวกนั้น โดยมีการประชุมกันเดือนละครั้ง
ปัจจุบันมีสมาชิกจำนวน 18 ท่านที่เข้าร่วมประชุมเป็นประจำ
กลุ่มนี้จะประชุมกันในทุกวันอังคารที่ 3 ของเดือน เวลา 19.30
น. นอกจากนี้
ในปีถัดมามีการจัดตั้งกลุ่มวิถีคริสตชนที่เซนต์หลุยส์ซอย 2 ตามมา
กลุ่มนี้มีสมาชิกจำนวน 16 ท่าน ประชุมกัน
ในวันอังคารสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน เวลา 10.30 น. และ เมื่อปีที่แล้ว มีการจัดตั้งกลุ่มวิถีคริสตชน
ที่หมู่บ้านกลางกรุง กลุ่มนี้มีสมาชิกจำนวน 17 ท่าน
ประชุมกันทุกวันพุธที่ 3 ของเดือน เวลา 19.15 น. และ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานี้
มีกลุ่มวิถีคริสตชนย่านบางบอน รวมตัวกันจัดประชุม ในวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือน
เวลา 15.00 น. มีจำนวนสมาชิกมากถึง 38
ท่าน
ข้อดีที่เห็นได้ชัดจากการที่ทุกคน มาเปิดพระคัมภีร์อ่านร่วมกัน
ศึกษาหาความหมายในทางปฏิบัติ และ แบ่งปันประสบการณ์ชีวิตร่วมกัน
ช่วยให้เกิดความสมัครสมานแน่นแฟ้น ในการดำเนินชีวิตเป็นพี่เป็นน้องกัน
โดยยึดเอาพระคัมภีร์เป็นศูนย์กลาง หลายครั้งช่วยแก้ปัญหาพื้นฐานในชุมชน
ที่เรื้อรังให้สำเร็จได้
หลายครั้งช่วยบรรเทาปัญหาชีวิตที่เกิดขึ้นกับสมาชิกในกลุ่มได้
ซึ่งแน่นอนทุกสิ่งทุกอย่างเหล่านี้เกิดขึ้นได้ ก็เพราะทุกคนเปิดใจกว้างรับเอาคำสอนของพระเจ้าเข้ามาเป็นแนวทางดำเนินชีวิตอย่างแท้จริง
ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดของการดำเนินชีวิตเยี่ยงคริสตชนที่แท้จริง
วันอาทิตย์นี้ 25 ตุลาคม
กลุ่มวิถีคริสตชนในเขตวัดของเรา จะมีโอกาสได้ต้อนรับ
ตัวแทนกลุ่มวิถีคริสตชนจากประเทศเพื่อนบ้านในย่านอาเซียน ซึ่งมีทั้ง พระสังฆราช
พระสงฆ์ นักบวช และ ฆราวาสชายหญิงที่เดินทางมาประชุมใหญ่ประจำปีที่บ้านผู้หว่าน
เลยถือโอกาสนี้มาเยี่ยมเยียน ศึกษาดูงานในเชิงปฏิบัติ
เพื่อศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ในแง่ของอุปสรรค และ ปัญหาในการ
จัดตั้งกลุ่มวิถีคริสตชนในบริบทของสังคมไทย เพื่อนำไปปรับใช้กับงานด้านกลุ่มวิถีคริสตชนในท้องถิ่นของแต่ละประเทศ
เพื่อปรับปรุงพัฒนา และ
หาหนทางที่เหมาะสมสำหรับส่งเสริมงานด้านกลุ่มวิถีคริสตชนให้เจริญก้าวหน้าต่อไป
พ่อจึงหวังว่า กลุ่มวิถีคริสตชน
จะเป็นความหวังสำคัญของเราคริสตชนไทยในอนาคต ที่จะช่วยให้ชีวิตคริสตชนของเรา
สื่อออกมาถึงการดำเนินชีวิตแห่งความรักในภาคปฏิบัติ อย่างชัดเจน
ในการรักกันและกันเหมือนอย่างที่พระเยซูเจ้าทรงสอนเราไว้
คพ.สุพจน์
................................................................................
พี่น้องที่รัก
สิ่งที่ลูกจะนำมาช่วยพ่อแม่ได้นั้น
ลูกได้ถวายพระเสียแล้วผู้นั้นก็ไม่จำเป็นจะต้องช่วยเหลือพ่อแม่อีกต่อไป ความตาบอดมาถึงเราเพราะเราใจบอด
เราเชื่อว่าพวกเธอทุกคนสามารถช่วยพระเจ้าทำให้โลกนี้
เป็นสถานที่มีความสุขน่าอยู่กว่า เยาวชนเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากเพราะคนหนึ่งอาจรู้สึกโดดเดี่ยวมาก
ทั้งๆ ที่แวดล้อมด้วยผู้คนมากมาย พ่อแม่คู่หนึ่งได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงบรรดาผู้ปกครอง
และนักเรียนในระดับมัธยมปลายในเมืองแห่งหนึ่ง ได้มีพิธีปลงศพลูกชายของเธอ เมื่อวันพฤหัส ลูกเธอเข้านอนวันอังคารและใช้ปืนจ่อขมับฆ่าตัวตาย เขาเป็นคนฉลาด
หล่อ ขี้อาย และเป็นคนดีที่โรงเรียน มีเพื่อนๆ โทรศัพท์หาเขา
มาเยี่ยมเขาที่บ้านบ่อยๆ รายงานของตำรวจแสดงผลว่าเขาไม่ติดยาเสพติด เขามีเพื่อนมาก อย่างไรก็ดี แต่ละคนก็มีความคิดของตนเอง
คืนวันอาทิตย์เขาได้ดื่มเหล้าจนเมา บรรดาผู้ใหญ่จึงได้ตักเตือนยาวและเป็นครั้งแรกที่พวกเราตระหนักว่าที่เราคิดเกี่ยวกับชีวิตของเขามิได้เป็นเช่นนั้น เขามีความทุกข์มาก เขารู้สึกว่าเพื่อนๆ
ไม่แคร์เขา ทั้ง ๆ ที่เรารู้ว่าเพื่อน ๆ ดีต่อเขา ที่สำคัญมากเพราะคนหนึ่งอาจรู้สึกโดดเดี่ยวมาก ทั้ง ๆ ที่แวดล้อมด้วยผู้คนมากมาย
บางคนในโรงเรียนไม่มีเพื่อนสักคน
ไม่เคยมีเสียงโทรศัพท์ และไม่มีเพื่อนมาหา โปรดเป็นเพื่อนกับเขา
เขาโดดเดียวจริงๆ หากเขารู้สึกหมดหวัง ถ้าไม่มีเพื่อนมาเยี่ยมเขา ลองคิดดูอีกหลายคนต้องรู้สึกเศร้าและโดดเดี่ยวสักแค่ไหน
พระเจ้าทรงให้เราแต่ละคนเกิดมาในโลก เพื่อทำดีและนำความยินดี โปรดช่วยทำให้การจากไปของเขา
นำความรักและความยินดีมาสู่สังคมด้วยวิธีที่จับต้องได้ ชายขอทานตาบอดพยายามไปหาพระเยซูเจ้า
แต่แทนที่บุคคลรอบข้างจะช่วยกลับตรงข้าม “โอรสของกษัตริย์ดาวิดเจ้าข้า โปรดเมตตาข้าพเจ้าเถิด”
หลายคนดุเขาให้เงียบ
พระเยซูเจ้าทรงได้ยินเสียงประชาชนดุชายขอทานตาบอด พระองค์ตรัสให้ไปเรียกเขา
ประชาชนจึงเปลี่ยนท่าที
กลับพาคนตาบอดมาหาพระองค์ ยังมีคนตาบอดขอทานมากไหมในสังคมปัจจุบัน มีคนตาบอดขอทานที่พยายามมาหาพระเยซูเจ้าไหมผู้คนปฏิบัติต่อคนขอทานตาบอดเหมือนในพระวรสารไหม
บางครั้งเราเองก็อาจทำให้คนขอทาน คนตาบอดท้อใจบ้างไหม
ใครคือคนขอทาน ใครคือตาบอดในชีวิตของเรา เราจะช่วยเขาไปหาพระเยซูเจ้าได้อย่างไร พระเจ้าทรงสร้างเรามาให้ทำดี และนำความสุขมาให้ ข้าแต่พระเจ้า โปรดให้ข้าพเจ้าเป็นเครื่องมือแห่งสันติภาพ ที่ใดมีความเกลียดชังให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความรัก
ที่ใดมีความเจ็บแค้นให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำการอภัย ที่ใดมีความสงสัย ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความเชื่อเพราะว่าพระเจ้าได้ทรงรักโลก
จึงได้ประทานพระบุตรแต่เพียงองค์เดียวของพระองค์เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรจะไม่พินาศ
แต่จะมีชีวิตนิรันดร ใครเล่าเป็นพระอาจารย์ของเรา เงินทอง ทรัพย์สิน ผู้มั่งคั่ง
ใครเล่าเป็นผู้ทรงอำนาจของเราในชีวิต ใครเล่าที่ทำให้เราตาบอด
และใครเล่าที่ทำให้เราตาสว่างและเป็นสุขแท้ จงเชื่อผู้นั้นเถิด
คุณพ่อพงษ์เกษม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น