พี่น้องที่รัก
วันสื่อมวลชนสากลปีนี้ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสได้ออกสาส์นมายังคริสตชนทั่วโลก
ภายใต้หัวข้อ “การสื่อสารในครอบครัว
สถานที่พิเศษที่จะได้สัมผัสกับพระพรแห่งความรัก” พระสันตะปาปาบอกว่า
ครอบครัวเป็นสถานที่ซึ่งสมาชิกของพระศาสนจักรและของสังคมเรียนรู้จักการสื่อสาร
โดยเริ่มต้นจากความสัมพันธ์ระหว่างทารกกับมารดา ในขณะที่ยังอยู่ในครรภ์ “ครรภ์เป็นโรงเรียนแรกของการสื่อสาร” การพบปะระหว่างบุคคลสองคนเกี่ยวโยงกันอย่างใกล้ชิด
ในขณะที่เป็นคนละคนกัน
การสัมผัสที่เปี่ยมด้วยคำมั่นสัญญาเป็นการสัมผัสครั้งแรกของเรากับสื่อ
เป็นประสบการณ์ที่เรามีส่วนร่วมด้วย เหตุว่าเราแต่ละคนเกิดมาจากมารดา
พระสันตะปาปายังบอกอีกว่า “หลังจากเกิดมาแล้ว
ครอบครัวก็คือที่ที่เราเรียนรู้ที่จะดำเนินชีวิตกับผู้อื่น แม้เราจะมีความแตกต่างกันในครอบครัวเราจึงมีสำนึกได้ว่า
มีผู้อื่นอยู่ก่อนเรา
พวกท่านทำให้เรามีชีวิตอยู่ได้และเมื่อถึงเวลาก็ผลิตชีวิตขึ้นมาและช่วยให้เรากระทำสิ่งที่ดีและงดงาม
เราให้ได้ เพราะเราได้รับมา วงจรแห่งความดีงามคือหัวใจของครอบครัว
ช่วยครอบครัวถ่ายทอดให้แก่สมาชิกและกับผู้อื่น ในวงที่กว้างกว่า
ครอบครัวเป็นรูปแบบขั้นพื้นฐานของสื่อ”
พระสันตะปาปายังบอกอีกว่า ครอบครัว เป็นเวทีซึ่งสื่อขั้นพื้นฐานได้เริ่มต้นขึ้น
ซึ่งได้แก่ การภาวนานั่นเอง เนื่องจากครอบครัวเป็นที่ซึ่งเราสัมผัสทุกวันกับความมีขอบเขตของเราและผู้อื่น
นอกจากนี้ครอบครัวยังเป็นโรงเรียนแห่งการให้อภัย
การให้อภัยนับว่าเป็นขบวนการของสื่อ
เมื่อความเสียใจได้แสดงออกมาและได้รับการให้อภัย จะเป็นพลังของการเสวนาและการคืนดีกันในสังคม
ภาพที่งดงามของการสื่อสารที่ศักดิ์สิทธิ์และมีประสิทธิภาพที่ปรากฏอยู่ในพระวรสารคือ
การพบปะกันของพระนางมารีย์กับนางเอลีซาเบธ พระวรสารนักบุญลูกา บทที่ 1 ข้อ 39-56 มีบันทึกไว้ว่า “เมื่อนางเอลีซาเบธได้ยินคำทักทายของพระนางมารีย์
บุตรในครรภ์ก็ดิ้น นางเอลีซาเบธได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม ร้องเสียงดังว่า
เธอได้รับพระพรยิ่งกว่าหญิงใดๆ และลูกของเธอก็ได้รับพระพรด้วย”
พี่น้องครับ โอกาสวันสื่อมวลชนสากล วันนี้เราจะมีการรวบรวมเงินบริจาค
เพื่อสนับสนุนการใช้สื่อมวลชนในการประกาศข่าวดี
ขอพี่น้องโปรดช่วยกันคนละไม้คนละมือในการสนับสนุน
การประกาศข่าวดีโดยผ่านทางสื่อสารมวลชนด้วยครับ นอกจากนี้
วันนี้เราได้มีโอกาสต้อนรับ คุณพ่ออุดม ดีเลิศประดิษฐ์
ที่มาเทศน์เตรียมใจพี่น้องสำหรับการฉลองวัดเซนต์หลุยส์ของเราในปีนี้ในมิสซารอบ 10.00
น. และยังเป็นมิสซาแรกของคุณพ่อที่วัดเซนต์หลุยส์แห่งนี้อีกด้วย
ขอแสดงความยินดีกับคุณพ่ออุดม ดีเลิศประดิษฐ์
ที่ได้รับการบวชเป็นพระสงฆ์เมื่อไม่นานมานี้ ที่สังฆมณฑลอุดรธานี
วัดเซนต์หลุยส์ขอต้อนรับคุณพ่อใหม่ด้วยความยินดี หลังจากพิธีมิสซาจบแล้ว
ขอพี่น้องเข้ามารับพรพระสงฆ์ใหม่ได้ตามศรัทธาครับ
พ่อสุพจน์
................................................................................................
สวัสดีครับพี่น้อง
การคบคนชั่วหรือคนพาลย่อมนำมาซึ่งความมัวหมอง
ตรงกับสำนวนคบพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตพาไปหาผล คำพูดของคนที่ยึดมั่นในคำพูดเปรียบเสมือนงาช้างที่งอกแล้วไม่หดคืนแต่คำพูดของคน
การรักษาความสัตย์สำคัญเหนือสิ่งใด ตรงกับสำนวนเสียชีพอย่าเสียสัตย์ สัตว์อย่างช้างหรือวัว เมื่อตายไปแล้วยังทิ้งงาหรือเขาไว้ให้ทำประโยชน์ได้
แผ่นดินจีนยุคโบราณ
จักรพรรดิฉินหรือที่รู้จักกันในชื่อ “จิ๋นซีฮ่องเต้” (221-210 B.C.) ถือเป็นจักรพรรดิจีนองค์แรกแห่งราชวงศ์ฉิน
ที่ได้รวบรวมแผ่นดินจีนให้เป็นปึกแผ่นมั่นคงและเป็นผู้เริ่มสร้างกำแพงเมืองจีน
หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอันเลื่องชื่อ
(เพื่อป้องกันการรุกรานของพวกฮั่นจากทางเหนือ) กำแพงเมืองจีนหรือที่ชาวจีนเรียกว่า
“กำแพงหมื่นลี้” ถือเป็นสิ่งก่อสร้างด้วยมือมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่และยาวมาก
จากข้อมูลที่ได้รับการเปิดเผยครั้งล่าสุด (7 มิถุนายน 2012)
กำแพงนี้ยาวถึง 21,196.18 กิโลเมตรกล่าวกันว่า
จิ๋นซีฮ่องเต้เป็นจักรพรรดิที่กลัวตายมาก
จึงทรงเสาะแสวงหายาอายุวัฒนะที่จะทำให้พระองค์มีพระชนมายุยืนยาวเป็นอมตะ
ทรงเชื่อพวกหมอผีหรือผู้วิเศษที่ปรุงยาถวายเสมอๆ มีเรื่องเล่าว่า
วันหนึ่งผู้วิเศษได้ทูลพระองค์เกี่ยวกับเกาะสวรรค์ในทะเลตะวันออก
ผู้ที่อาศัยในเกาะนี้ได้พบความลับของการมีชีวิตนิรันดร
พระองค์จึงได้จัดส่งเรือบรรทุกของมีค่าไปยังเกาะนี้เพื่อแลกกับความลับดังกล่าว
แต่ชาวเกาะเห็นว่าไม่ว่าของมีค่าใดก็แลกความลับไม่ได้ เรื่องราวของจิ๋นซีฮ่องเต้
สะท้อนความคิดฝันของมนุษย์ตั้งแต่แรกเริ่มมาแล้วที่ต้องการจะมีชีวิตอมตะ
อยู่ยงคงกะพันไม่รู้จักตาย ไม่เว้นแม้แต่ในดินแดนปาเลสไตน์ในสมัยของพระเยซูเจ้า
ดังนั้น เมื่อได้ยินพระเยซูเจ้าพูดถึงชีวิตนิรันดรพวกเขาจึงหูผึ่ง
พากันหลั่งไหลไปฟังพระองค์ ชาวยิวมีความเชื่อว่ามี “ชีวิตหลังความตาย”
แต่พวกเขาไม่มีความคิดว่าชีวิตหลังความตายเป็นอย่างไร
พระเยซูเจ้าได้เปิดเผยว่าชีวิตในโลกมิใช่จุดจบของทุกสิ่ง
แต่มีอีกชีวิตหนึ่งที่ไม่มีวันจบสิ้น นั่นคือ
ชีวิตนิรันดรซึ่งจะคงอยู่ตลอดไปชาวยิวเมื่อได้ยินเช่นนั้น ต่างรู้สึกแปลกใจ พวกเขาต่างวิพากษ์วิจารณ์ไม่เห็นด้วยกับพระองค์จนกระทั่งพระองค์กลับคืนชีพจากความตาย
พวกเขาจึงระลึกถึงพระดำรัสนี้ของพระองค์ “ปังทรงชีวิต” ในการเลี้ยงอาหารค่ำมื้อสุดท้ายกับบรรดาศิษย์
ทำให้พวกเขาได้มีส่วนในชีวิตของพระเจ้า และลิ้มรสล่วงหน้าถึงถึงชีวิตนิรันดร
เพราะทรงต้องการให้เราได้ต้อนรับพระองค์เข้ามาในจิตใจของเรา
เพื่อเราจะได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพระเจ้า
เพื่อพระองค์จะได้หล่อเลี้ยงจิตใจและวิญญาณของเรา อย่าขวยขวายอาหารที่กินแล้วเสื่อมสลายไป
แต่จงหาอาหารที่คงอยู่และนำชีวิตนิรันดรมาให้
การที่เรามาชุมนุมกันในวัดทุกวันอาทิตย์เพื่อฟัง
“พระวาจา”
ของพระองค์เกี่ยวกับชีวิตนิรันดร
และหล่อเลี้ยงชีวิตของเราด้วยพระกายของพระองค์ “ปังทรงชีวิต”
พระองค์ทรงเป็นท่อธารนิรันดรที่ประทับท่ามกลางเราขณะนี้ในพระวาจาและศีลมหาสนิท
ซึ่งเป็นศูนย์กลางของชีวิตคริสตชนและเครื่องหมายแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกับพระเยซูเจ้าและเพื่อนพี่น้องของเรา
ในศีลมหาสนิททำให้เราได้มีส่วนในพันธสัญญาแห่งความรักของพระเจ้าและมีประสบการณ์โดยตรงกับพระองค์
คพ.พงษ์เกษม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น