วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2558

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม 2015

พี่น้องที่รัก
            วันสื่อมวลชนสากลปีนี้ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสได้ออกสาส์นมายังคริสตชนทั่วโลก ภายใต้หัวข้อ “การสื่อสารในครอบครัว สถานที่พิเศษที่จะได้สัมผัสกับพระพรแห่งความรัก” พระสันตะปาปาบอกว่า ครอบครัวเป็นสถานที่ซึ่งสมาชิกของพระศาสนจักรและของสังคมเรียนรู้จักการสื่อสาร โดยเริ่มต้นจากความสัมพันธ์ระหว่างทารกกับมารดา ในขณะที่ยังอยู่ในครรภ์ “ครรภ์เป็นโรงเรียนแรกของการสื่อสาร”  การพบปะระหว่างบุคคลสองคนเกี่ยวโยงกันอย่างใกล้ชิด ในขณะที่เป็นคนละคนกัน การสัมผัสที่เปี่ยมด้วยคำมั่นสัญญาเป็นการสัมผัสครั้งแรกของเรากับสื่อ เป็นประสบการณ์ที่เรามีส่วนร่วมด้วย เหตุว่าเราแต่ละคนเกิดมาจากมารดา
            พระสันตะปาปายังบอกอีกว่า “หลังจากเกิดมาแล้ว ครอบครัวก็คือที่ที่เราเรียนรู้ที่จะดำเนินชีวิตกับผู้อื่น แม้เราจะมีความแตกต่างกันในครอบครัวเราจึงมีสำนึกได้ว่า มีผู้อื่นอยู่ก่อนเรา พวกท่านทำให้เรามีชีวิตอยู่ได้และเมื่อถึงเวลาก็ผลิตชีวิตขึ้นมาและช่วยให้เรากระทำสิ่งที่ดีและงดงาม เราให้ได้ เพราะเราได้รับมา วงจรแห่งความดีงามคือหัวใจของครอบครัว ช่วยครอบครัวถ่ายทอดให้แก่สมาชิกและกับผู้อื่น ในวงที่กว้างกว่า ครอบครัวเป็นรูปแบบขั้นพื้นฐานของสื่อ”
            พระสันตะปาปายังบอกอีกว่า ครอบครัว เป็นเวทีซึ่งสื่อขั้นพื้นฐานได้เริ่มต้นขึ้น ซึ่งได้แก่ การภาวนานั่นเอง เนื่องจากครอบครัวเป็นที่ซึ่งเราสัมผัสทุกวันกับความมีขอบเขตของเราและผู้อื่น นอกจากนี้ครอบครัวยังเป็นโรงเรียนแห่งการให้อภัย การให้อภัยนับว่าเป็นขบวนการของสื่อ เมื่อความเสียใจได้แสดงออกมาและได้รับการให้อภัย จะเป็นพลังของการเสวนาและการคืนดีกันในสังคม
            ภาพที่งดงามของการสื่อสารที่ศักดิ์สิทธิ์และมีประสิทธิภาพที่ปรากฏอยู่ในพระวรสารคือ การพบปะกันของพระนางมารีย์กับนางเอลีซาเบธ พระวรสารนักบุญลูกา บทที่ 1 ข้อ 39-56 มีบันทึกไว้ว่า “เมื่อนางเอลีซาเบธได้ยินคำทักทายของพระนางมารีย์ บุตรในครรภ์ก็ดิ้น นางเอลีซาเบธได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม ร้องเสียงดังว่า เธอได้รับพระพรยิ่งกว่าหญิงใดๆ และลูกของเธอก็ได้รับพระพรด้วย”
            พี่น้องครับ โอกาสวันสื่อมวลชนสากล วันนี้เราจะมีการรวบรวมเงินบริจาค เพื่อสนับสนุนการใช้สื่อมวลชนในการประกาศข่าวดี ขอพี่น้องโปรดช่วยกันคนละไม้คนละมือในการสนับสนุน การประกาศข่าวดีโดยผ่านทางสื่อสารมวลชนด้วยครับ นอกจากนี้ วันนี้เราได้มีโอกาสต้อนรับ คุณพ่ออุดม ดีเลิศประดิษฐ์ ที่มาเทศน์เตรียมใจพี่น้องสำหรับการฉลองวัดเซนต์หลุยส์ของเราในปีนี้ในมิสซารอบ 10.00 . และยังเป็นมิสซาแรกของคุณพ่อที่วัดเซนต์หลุยส์แห่งนี้อีกด้วย ขอแสดงความยินดีกับคุณพ่ออุดม ดีเลิศประดิษฐ์ ที่ได้รับการบวชเป็นพระสงฆ์เมื่อไม่นานมานี้ ที่สังฆมณฑลอุดรธานี วัดเซนต์หลุยส์ขอต้อนรับคุณพ่อใหม่ด้วยความยินดี หลังจากพิธีมิสซาจบแล้ว ขอพี่น้องเข้ามารับพรพระสงฆ์ใหม่ได้ตามศรัทธาครับ

พ่อสุพจน์
................................................................................................

สวัสดีครับพี่น้อง
การคบคนชั่วหรือคนพาลย่อมนำมาซึ่งความมัวหมอง ตรงกับสำนวนคบพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตพาไปหาผล  คำพูดของคนที่ยึดมั่นในคำพูดเปรียบเสมือนงาช้างที่งอกแล้วไม่หดคืนแต่คำพูดของคน  การรักษาความสัตย์สำคัญเหนือสิ่งใด ตรงกับสำนวนเสียชีพอย่าเสียสัตย์  สัตว์อย่างช้างหรือวัว เมื่อตายไปแล้วยังทิ้งงาหรือเขาไว้ให้ทำประโยชน์ได้
แผ่นดินจีนยุคโบราณ จักรพรรดิฉินหรือที่รู้จักกันในชื่อ จิ๋นซีฮ่องเต้” (221-210 B.C.) ถือเป็นจักรพรรดิจีนองค์แรกแห่งราชวงศ์ฉิน ที่ได้รวบรวมแผ่นดินจีนให้เป็นปึกแผ่นมั่นคงและเป็นผู้เริ่มสร้างกำแพงเมืองจีน หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอันเลื่องชื่อ (เพื่อป้องกันการรุกรานของพวกฮั่นจากทางเหนือ) กำแพงเมืองจีนหรือที่ชาวจีนเรียกว่า กำแพงหมื่นลี้ถือเป็นสิ่งก่อสร้างด้วยมือมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่และยาวมาก จากข้อมูลที่ได้รับการเปิดเผยครั้งล่าสุด (7 มิถุนายน 2012) กำแพงนี้ยาวถึง 21,196.18 กิโลเมตรกล่าวกันว่า จิ๋นซีฮ่องเต้เป็นจักรพรรดิที่กลัวตายมาก จึงทรงเสาะแสวงหายาอายุวัฒนะที่จะทำให้พระองค์มีพระชนมายุยืนยาวเป็นอมตะ ทรงเชื่อพวกหมอผีหรือผู้วิเศษที่ปรุงยาถวายเสมอๆ มีเรื่องเล่าว่า วันหนึ่งผู้วิเศษได้ทูลพระองค์เกี่ยวกับเกาะสวรรค์ในทะเลตะวันออก ผู้ที่อาศัยในเกาะนี้ได้พบความลับของการมีชีวิตนิรันดร พระองค์จึงได้จัดส่งเรือบรรทุกของมีค่าไปยังเกาะนี้เพื่อแลกกับความลับดังกล่าว แต่ชาวเกาะเห็นว่าไม่ว่าของมีค่าใดก็แลกความลับไม่ได้ เรื่องราวของจิ๋นซีฮ่องเต้ สะท้อนความคิดฝันของมนุษย์ตั้งแต่แรกเริ่มมาแล้วที่ต้องการจะมีชีวิตอมตะ อยู่ยงคงกะพันไม่รู้จักตาย ไม่เว้นแม้แต่ในดินแดนปาเลสไตน์ในสมัยของพระเยซูเจ้า ดังนั้น เมื่อได้ยินพระเยซูเจ้าพูดถึงชีวิตนิรันดรพวกเขาจึงหูผึ่ง พากันหลั่งไหลไปฟังพระองค์ ชาวยิวมีความเชื่อว่ามี ชีวิตหลังความตายแต่พวกเขาไม่มีความคิดว่าชีวิตหลังความตายเป็นอย่างไร
พระเยซูเจ้าได้เปิดเผยว่าชีวิตในโลกมิใช่จุดจบของทุกสิ่ง แต่มีอีกชีวิตหนึ่งที่ไม่มีวันจบสิ้น นั่นคือ ชีวิตนิรันดรซึ่งจะคงอยู่ตลอดไปชาวยิวเมื่อได้ยินเช่นนั้น ต่างรู้สึกแปลกใจ พวกเขาต่างวิพากษ์วิจารณ์ไม่เห็นด้วยกับพระองค์จนกระทั่งพระองค์กลับคืนชีพจากความตาย พวกเขาจึงระลึกถึงพระดำรัสนี้ของพระองค์ปังทรงชีวิต ในการเลี้ยงอาหารค่ำมื้อสุดท้ายกับบรรดาศิษย์ ทำให้พวกเขาได้มีส่วนในชีวิตของพระเจ้า และลิ้มรสล่วงหน้าถึงถึงชีวิตนิรันดร เพราะทรงต้องการให้เราได้ต้อนรับพระองค์เข้ามาในจิตใจของเรา เพื่อเราจะได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพระเจ้า เพื่อพระองค์จะได้หล่อเลี้ยงจิตใจและวิญญาณของเรา อย่าขวยขวายอาหารที่กินแล้วเสื่อมสลายไป แต่จงหาอาหารที่คงอยู่และนำชีวิตนิรันดรมาให้
      การที่เรามาชุมนุมกันในวัดทุกวันอาทิตย์เพื่อฟัง พระวาจาของพระองค์เกี่ยวกับชีวิตนิรันดร และหล่อเลี้ยงชีวิตของเราด้วยพระกายของพระองค์ ปังทรงชีวิตพระองค์ทรงเป็นท่อธารนิรันดรที่ประทับท่ามกลางเราขณะนี้ในพระวาจาและศีลมหาสนิท ซึ่งเป็นศูนย์กลางของชีวิตคริสตชนและเครื่องหมายแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกับพระเยซูเจ้าและเพื่อนพี่น้องของเรา ในศีลมหาสนิททำให้เราได้มีส่วนในพันธสัญญาแห่งความรักของพระเจ้าและมีประสบการณ์โดยตรงกับพระองค์

คพ.พงษ์เกษม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น