พี่น้องที่รัก
เดือนตุลาคมเป็นเดือนที่เราอุทิศถวายแด่แม่พระลูกประคำ
ดังนั้นตลอดเดือนนี้ที่วัดของเราจัดให้มีการสวดลูกประคำทุกค่ำระหว่างวันจันทร์จนถึงวันศุกร์
โดยพิธีจะเริ่มต้นในเวลา 19.00 น. ด้วยการตั้งศีลมหาสนิทบนพระแท่น
และ สวดลูกประคำต่อหน้าศีลมหาสนิท 1 สาย และพิธีจะจบลงด้วยการอวยพรศีลมหาสนิท
พ่อจึงอยากเชิญชวนพี่น้องทุกท่านที่สามารถ มาร่วมกันเฝ้าศีลมหาสนิท สวดลูกประคำ
และ รับพรศีลมหาสนิท ร่วมกันที่วัด ถ้าพี่น้องไม่สะดวกที่จะมาร่วมพิธีที่วัด
พ่อก็อยากเรียนเชิญให้พี่น้องได้สวดลูกประคำกันทุก ๆ วันตลอดเดือนตุลาคมนี้
พี่น้องสามารถสวดลูกประคำได้เสมอ ทั้งในระหว่างการเดินทางไปทำงาน หรือ ใช้เวลาสงบ ๆ
ก่อนเข้าพักผ่อนหลับนอนในยามค่ำคืนก็ได้ ฝากชีวิต และ
ครอบครัวของเราไว้ในการพิทักษ์รักษาของพระนางมารีย์ มารดาผู้อ่อนหวาน
ผู้เสนอวิงวอนพระเจ้าเพื่อเราทุกคน ความศรัทธาภักดีต่อพระนางมารีย์ พระมารดาของชาวเรา
จะเสริมสร้างเราทุกคนให้มีความเข้มแข็งมั่นคงในความเชื่อมั่นในองค์พระเจ้า และ
ในความอดทนต่อความทุกข์ยากที่เกิดขึ้นในชีวิต
รวมไปถึงการมีความหวังที่เปี่ยมด้วยความปีติยินดีในพระพรแห่งการบรรเทาที่พระเจ้าจะโปรดให้กับเราในยาม
ที่เราต้องเผชิญกับความยุ่งยากใจในปัญหาต่างๆ
ขอพระนางมารีย์
แม่พระของเราวิงวอนเพื่อเราเสมอ Ave Maria
พ่อสุพจน์
ความมหัศจรรย์ของพิธีบูชาขอบพระคุณ
(ต่อจากคราวที่แล้ว)
บทที่
3
ความยินดีของบรรดานักบุญในพิธีบูชาขอบพระคุณ
St. Raymond of Penafort ท่านนักบุญเรย์มอนด์ อธิการเจ้าคณะของคณะดอมินิกัน
ถวายพิธีบูชาขอบพระคุณด้วยความศรัทธาร้อนรน ครั้งหนึ่ง
ใบหน้าของท่านปรากฏแววรัศมีโชติช่วง เรืองรอง รอบ ๆศีรษะและบริเวณไหล่ของท่าน
ในขณะที่ท่านสวดบทภาวนาเสกศีลจนถึงช่วงของการรับศีลมหาสนิท
Blessed Francis of Possadas บุญราศี
ฟรังซิส แห่ง พอสซาดาส ก็เช่นกัน ใบหน้าของท่านฉายแววเรืองรองอย่างงดงามเป็นพิเศษ
ราวกับว่าท่านมีชีวิตใหม่
วันหนึ่งขณะที่ท่านอ่านพระวาจาของพระเจ้าจากหนังสือพระวรสาร
ริมฝีปากของท่านมีแสงสว่างสุกใสปรากฏขึ้น
นอกจากนี้ยังมีอีกสองครั้งในโอกาสฉลองวันสมโภชพระจิตเจ้า ความเรืองรองสุกใสนี้ปรากฏขึ้นทั้งร่างของท่านทำให้พระแท่นบูชาสว่างไสว
ขณะที่ท่านเปล่งคำภาวนาในบทเสกศีล
องค์พระเจ้าตรัสกับท่านด้วยความรักอันเปี่ยมล้นว่า “ลูกเอ๋ย ฉันคือผู้เป็นอยู่”
ภายหลังจากที่ท่านรับศีลมหาสนิทแล้ว ท่านบุญราศีฟรังซิส
ก็รู้สึกว่าร่างของท่านได้รับการยกขึ้นลอยเหนือพื้นที่ท่านยืนอยู่
.................................................................................................
พี่น้องที่รัก
อาทิตย์ที่ 27 เทศกาลธรรมดา
พระวาจาวันนี้สอนเราว่า ความจริงและคำสอนของพระอาจจะทำให้เราเจ็บปวด
แต่การยอมรับความจริงจะช่วยให้เราเป็นคนสะอาดและบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น
คำสอนของพระทำให้เราหลุดพ้นจากความเห็นแก่ตัว และมีจิตใจที่เต็มไปด้วยความรักเยี่ยงพระเยซูเจ้า
จงอย่าแปลกใจหรือเที่ยวมองหาว่าใครปฏิเสธหรือไม่ยอมรับพระเจ้า
จนลืมหันมามองตนเองว่า ทำไมตัวเราถึงไม่ยอมรับความจริง ในการทำงาน
ไม่ว่าจะเป็นงานในองค์กร บริษัท ร้านค้า โรงเรียน เรามักได้รับคำร้องเรียนต่าง ๆ
มีจดหมายรายงานความประพฤติของพนักงาน มีจดหมายร้องเรียนการทำงานของพนักงานบริการ
และโดยเฉพาะโรงเรียนผู้ปกครองมักจะเขียนจดหมายต่อว่าต่อขานว่าทำไมคุณครูถึงกับลงมือ
ลงไม้กับเด็ก ให้ผู้อำนวยการจัดการครูคนนั้นอย่างเด็ดขาด
ให้ช่วยตักเตือนและให้ครูคนนั้นแก้ไขโดยเร็ว แต่ในขณะเดียวกันกลับไม่ยอมรับความจริงที่ครูรายงานความประพฤติของเด็กที่เป็นลูกหลานของตน
กลับไม่ยอมรับความจริง
จนกลายเป็นให้ท้ายเด็กให้ทำในสิ่งที่เลวร้ายและรุนแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว
เหตุการณ์เช่นนี้ก็เกิดขึ้นกับพระเยซูเจ้าเอง พูดไปแล้วไม่น่าเชื่อว่า
คนที่ทำดีแบบพระเยซูเจ้า จะไม่มีคนยอมรับ พระองค์เสด็จไปที่ไหนมีแต่ทำดีที่นั่น
แต่การกระทำและคำพูดของพระองค์กลับไม่มีใครต้อนรับ
ซ้ำร้ายยังถูกปฏิเสธด้วยการกระทำที่ชั่วร้ายโหดร้ายและทารุณแสนสาหัสจนถึงตาย
ทำไมจิตใจคนจึงแข็งกระด้างเช่นนี้ หน้าด้านอยู่ในความชั่ว
ในการยอมรับพระองค์เป็นการตอบรับความจริง
ตอบรับความดีที่พระองค์มีให้เราอย่างเหลือล้นไม่ใช่เป็นการตอบรับแค่ปากหรือคำพูดเท่านั้น
แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนเองเลยทีเดียวที่จะต้องเปลี่ยนแปลงความคิดและพฤติกรรมของตนเอง
กล้าที่จะยอมรับความจริง ยอมรับความอ่อนแอของตัวเรา ความผิดพลาด ความล้มเหลว
ความบกพร่อง นิสัยที่ไม่ดีของตัวเรา
หรือเป็นเรื่องที่เราไม่อยากให้ใครมาแตะต้อง
เพราะเรากลัวที่จะยอมรับความจริง กลัวที่จะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง
เพราะมันเป็นอาการของคนไม่มีศาสนา คนไม่มีความเชื่อ คนที่ปฏิเสธพระ
ไม่กล้าสู้ความจริง ไม่มีความเกรงใจ ไม่ยอมแบ่งผลคุณความดีคืนให้พระเจ้าตามกำหนด
ซ้ำยังทำร้ายพระเยซูเจ้าเองอย่างโหดเหี้ยม คำสอนของพระวันนี้ท้าทายเราทุกคนว่า
เป็นใครกันแน่ที่ปฏิเสธพระเยซูเจ้า หลายครั้งที่เราทำตัวเคร่งครัดในสายตาคนอื่น
มีความรู้ทางศาสนาดี สอนอย่างกับว่าเป็นพระเยซูเองแต่ภายในหัวใจไม่เคยยอมรับพระองค์เลย
เพราะสิ่งที่เขาแสดงออกมาในชีวิตจับผิดผู้อื่นตลอดเวลา
เข่นฆ่าลงโทษผู้อื่นอย่างโหดร้ายด้วยวิธีการต่าง ๆ ศรัทธาแท้ของเขาอยู่ที่ไหนกัน
กิจการที่เขาทำก็เพียงเพื่อให้มุ่งผลประโยชน์ให้มากที่สุด
ให้มีผู้ชื่นชมมีผลงานและเป็นที่ยอมรับ เป็นแค่ภายนอกแต่ไม่ได้ออกมาจากหัวใจแห่งความจริงวันนี้ใครกันแน่ที่พระเยซูเจ้าจะต้องลงโทษ
คือคนที่บอกกับตนเองว่า “รู้แล้ว” แล้วทำเฉย ชอบเข้าข้างตัวเอง ทำตาบอด
ไม่เคยมองความบกพร่องของตนเองเลย มัวแต่มองคนอื่นและเข่นฆ่าผู้อื่น เพราะแท้จริงเขาเป็นผู้ปฏิเสธพระเจ้าอย่างสิ้นเชิง
แต่พระเจ้ามาเพื่อทำให้คนผิดกลับมาสู่ทางที่ถูกต้องด้วยความรักอันบริสุทธิ์ของพระองค์
ด้วยความเมตตา กรุณา และการให้อภัย
ขอให้เรายอมรับความจริงและศรัทธาต่อพระเยซูเจ้าอย่างแท้จริงเถิด
พ่อพงษ์เกษม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น