พี่น้องที่รัก
ตลอดเดือนตุลาคมนี้ เรารณรงค์การสวดสายประคำเป็นพิเศษ
เนื่องด้วยเดือนตุลาคมเป็นเดือนแม่พระลูกประคำครับ
วันเวลาผ่านไปเกือบครึ่งเดือนแล้ว ถ้าพี่น้องยังไม่มีโอกาสได้สวดลูกประคำ
พ่อก็เสนอให้พี่น้องได้เริ่มต้นสวดลูกประคำเถิดครับ
การสวดลูกประคำจะช่วยให้จิตใจของเราผูกพันอยู่กับพระเจ้า และแม่พระ
อาจเป็นไปได้ว่าพี่น้องหลายคนยังไม่ทราบวิธีสวดลูกประคำก็เป็นไปได้
หลายคนก็ยังไม่คุ้นเคยกับบทสวดภาวนาที่เรียบเรียงโดยใช้ถ้อยคำใหม่ๆ พ่ออยากให้เราได้เริ่มต้นที่จะสวดง่ายๆ
เริ่มจากบทข้าแต่พระบิดา และ บทวันทามารีย์ และ
บทพระสิริรุ่งโรจน์จะใช้บทสวดแบบเก่าหรือ แบบใหม่ก็ได้ ถ้าไม่ลำบากเกินไปนัก
ก็ให้เริ่มต้นสวดบทภาวนาแบบใหม่เสียเลย ไม่นานก็จะจดจำขึ้นใจได้เอง
ถ้าเราเดินทางด้วยกันหลายคนเป็นครอบครัวไปไหนระยะทางไกล ๆ
ก็ขอให้ผู้นำครอบครัวนำสวดภาวนาลูกประคำในรถด้วยกันสัก 10 เม็ด
หรือ 1 ทศ หรือ ถ้ามีเวลามากกว่านั้นก็เพิ่มการสวดให้ครบ 1
สาย ก็จะเป็นสิ่งที่ดีมาก
เพื่อวอนขอการคุ้มครองจากพระเจ้าสำหรับการเดินทางของเราครับ
ในวันที่ 31 ตุลาคม ซึ่งตรงกับวันศุกร์
วัดของเราจะจัดให้มีการแห่แม่พระเพื่อเป็นการส่งท้ายเดือนแม่พระลูกประคำ
โดยจะมีการสวดสายประคำเวลา 18.30 น. และ
มีพิธีบูชาขอบพระคุณเวลา 19.00 น. หลังจากพิธีบูชาขอบพระคุณเสร็จแล้ว
จะมีการแห่พระรูปแม่พระรอบวัดของเราด้วย จึงขอเรียนเชิญพี่น้องแต่เนิ่น ๆ มา ณ โอกาสนี้ครับ
พ่อสุพจน์
ความมหัศจรรย์ของพิธีบูชาขอบพระคุณ
(ต่อจากคราวที่แล้ว)
บทที่
3
ความยินดีของบรรดานักบุญในพิธีบูชาขอบพระคุณ
St. Ignatius ท่านนักบุญอิกญาซีโอ
เคยประกอบพิธีบูชาขอบพระคุณด้วยความมุ่งมั่นศรัทธาอย่างเต็มเปี่ยม จนวันหนึ่งผู้ที่ทำหน้าที่ช่วยมิสซา
สังเกตเห็นรัศมีสว่างไสวดุจเปลวเพลิงปรากฏอยู่รอบ ๆ ศีรษะของท่านนักบุญ
เขาลุกขึ้นพยายามเร่งรีบหาทางดับเพลิงไฟนั้น
แต่แล้วก็พบว่าที่แท้รัศมีดุจเปลวเพลิงนั้นคือ
รัศมีเรืองรองศักดิ์สิทธิ์เหนือธรรมชาติที่โอบอุ้มศีรษะของนักบุญผู้ศักดิ์สิทธิ์อยู่นั่นเอง
Blessed Francis of the Order of Minors บุญราศี ฟรังซิส มีอาการเจ็บป่วยปวดขาอย่างมากมานานหลายปี การปรับเปลี่ยนอิริยาบถใด
ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ท่านต้องเผชิญกับความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก
แต่ด้วยความศรัทธาร้อนรนอย่างเต็มเปี่ยมที่ท่านมีต่อพิธีบูชาขอบพระคุณ ทุก ๆ เวลาเช้าท่านสามารถลุกจากม้านั่งไปถวายพิธีบูชาขอบพระคุณได้โดยไม่มีความเจ็บปวดใด
ๆ แม้แต่น้อย
Blessed John, a Dominican of
Ravenna บุญราศียอห์น แห่งราเวนนา
ก็เช่นกันมีผู้พบเห็นท่านฉายแววรัศมีเรืองรองปรากฏออกมารอบ ๆ กายท่านในระหว่างที่ท่านประกอบพิธีบูชาขอบพระคุณ
ยังคงมีเรื่องเล่าขานอีกมากมายของนักบุญอีกหลายองค์
ที่เป็นเรื่องอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าคล้ายคลึงกัน
แต่เราทุกคนควรระลึกอยู่เสมอว่า ในทุก ๆ พิธีบูชาขอบพระคุณที่เราไปร่วมพิธี
ไม่ว่าพระสงฆ์ผู้ประกอบพิธีจะมีความสุภาพถ่อมตนเพียงใด พระธรรมล้ำลึกที่เฉลิมฉลองในพิธีบูชาขอบพระคุณนั้นเป็นธรรมล้ำลึกเดียวกันที่มีผลอเนกอนันต์
นักบุญโบนาเวนตูรากล่าวว่า เป็นองค์พระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพยิ่งใหญ่
ผู้ทรงประสูติบนพระแท่น
ผู้ทรงถวายพระองค์เองบนพระแท่นอย่างแท้จริงอย่างที่เคยทรงถวายพระองค์ที่เนินเขากัลวารีโอ
สำหรับทุกๆคนที่มีส่วนร่วมในพิธีบูชาขอบพระคุณนั้นๆ
............................................................................................................................
อาทิตย์ที่
28 เทศกาลธรรมดา
อย่ามัวนิ่งเฉยทำทองไม่รู้ร้อน ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา
เพราะพระเจ้าทรงจัดงานเลี้ยงที่มีอาหารนานาชนิด มีเหล้าองุ่นชั้นดี
มีอาหารเลิศรสโดยเฉพาะเหล้าองุ่นที่คัดสรรไว้แล้ว เนื่องจากพระเจ้าทรงรักและเมตตาต่อเรามนุษย์
พระองค์จึงทรงทำลายม่านแห่งความทุกข์ออกไปจากชีวิตของพวกเขา
ทรงเช็ดน้ำตาจากใบหน้าของทุกคน ทรงช่วยประชากรของพระองค์ ให้พ้นจากการลบหลู่
พระเจ้าทรงเป็นความหวังของเรามนุษย์ ทรงเป็นองค์ความชื่นชมยินดีและทรงช่วยเราทุกคนให้รอดพ้น
แต่ทำไมเราจึงยังไม่ไว้ใจเข้ามาหา
เราเข้ามาหาพระเพียงแค่ให้อิ่มท้องและประทังความหิวโหยแค่นั้นหรือ
แต่ชีวิตก็ยังคงความทุกข์และขัดสนตลอดเวลา
วันนี้อาณาจักรสวรรค์เปรียบได้กับงานวิวาห์มงคล
เป็นงานฉลองที่สำคัญ ตามธรรมเนียมของชาวยิว เจ้าภาพจะเชิญแขกล่วงหน้าโดยไม่กำหนดวันเวลา
ต่อเมื่อทุกสิ่งพร้อมแล้วจึงส่งคนไปเรียกแขกที่เชิญไว้ให้มาร่วมงาน
แต่แขกที่รับเชิญกลับปฏิเสธ แถมยังตอบกลับอย่างไม่มีเยื่อใย
เพราะการปฏิเสธถือเป็นการดูหมิ่นอย่างร้ายแรง
ผลที่ตามมาคือแขกที่เชิญไม่มาแต่ปฏิเสธพระอย่างชนิดพองขนสยองกล้าน่ากลัว
พระวรสารมัทธิวเขียนราวปี 10-20
แต่เนื่องจากชาวยิวปฏิเสธพระเจ้า
โรมได้ส่งกองทัพมาทำลายและเผากรุงเยรูซาเล็มจนราบเป็นหน้ากลองในปี ค.ศ. 70 ชีวิตของเราก็ไม่ผิดไปจากประวัติศาสตร์หากการดำเนินชีวิตของเราไม่มีความรักในพระเจ้า
ไม่มีการถ่อมตน ไม่มีการเสียสละ จึงทำให้พวกยิวทำการก่อการกบฏ
และยั่วยุจนโรมไม่อาจอดกลั้นและจำต้องส่งกองทัพมาปราบปรามจนชาติยิวสิ้นชาติไปในที่สุด
วันนี้เราจึงควรมาพิจารณาตนเองถึงการเชื้อเชิญของพระเจ้าในชีวิตของเรา
เชิญเราให้มาร่วมในความปิติยินดี มาร่าเริงแจ่มใส ไม่ใช่มาแบบเศร้าหมอง อมทุกข์
มืดมน เพราะใจอันแข็งกระด้างของเรา ที่มัวแต่สลวนไปดื่มสุราจนหัวราน้ำ
หลบไปทำสิ่งที่ผิดศีลธรรม ไปทุ่ง ไปใช้ควายตัวใหม่ ปฏิเสธความดีของพระ
แต่กลับไปทำสิ่งชั่วดุจเป็นคู่แข่งกับพระเจ้า
สิ่งที่น่าเศร้าที่สุดคือการไม่รู้จักเลือกสิ่งที่ดีที่สุด แต่กลับไปเลือกสิ่งที่สอง
ซึ่งทำให้เราพลาดจากความดีสูงสุด
แล้วมัวแต่ไปติดพันกับของเลวๆ คล้ายการไม่ใส่เสื้อสำหรับงานวิวาห์มงคล
กลับไปปล่อยชีวิตของตนให้ตกต่ำลง แทนที่จะทุ่มเทต่อสู้เพื่อคุณค่าที่สูงส่ง
กลับกลายเป็นความก้าวร้าวจนลืมพระ มัวแต่มองสิ่งของในโลก วุ่นวายกับสิ่งพวกนี้จนไม่ลืมหูลืมตา
ไม่คิดคำนึงคำเชิญของพระเกี่ยวกับอาณาจักรสวรรค์โลกหน้าซึ่งเป็นนิรันดรที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้
ตาและใจของเขาถูกปิดจนมองไม่เห็น พระหรรษทานของพระเจ้าที่ทรงให้เปล่า ๆ ด้วยน้ำพระทัยอันกว้างหาที่สุดมิได้ไม่ได้รับการตอบรับ สวรรค์เปิดรับสำหรับบุคคลที่รู้จักใช้พระพรของพระเจ้า
จนชีวิตศักดิ์สิทธิ์ บริสุทธิ์ มีวิญญาณที่สะอาด อาภรณ์แห่งความเชื่อ
อาภรณ์ที่เต็มไปด้วยความไว้วางใจ อาภรณ์ที่สุภาพถ่อมตนและสำนึกผิด
อาภรณ์แห่งความเคารพสักการะพระเจ้าตลอดกาลนิรันดร
พ่อพงษ์เกษม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น