วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม 2014

พี่น้องที่รัก
                วันอาทิตย์สัปดาห์นี้ ในพิธีมิสซารอบ 10 นาฬิกา วัดเซนต์หลุยส์ได้มีโอกาสต้อนรับพระสงฆ์ใหม่ของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ 3 องค์ เพื่อถวายมิสซาแรกของคุณพ่อทั้งสาม ณ วัดแห่งนี้ พ่อในฐานะเจ้าอาวาสก็ขอแสดงความยินดีกับพระสงฆ์ใหม่ทั้งสาม ซึ่งได้แก่ คุณพ่อยอแซฟ ดิษพล รุ่งโรจน์วรวัฒนา คุณพ่อยอแซฟ ยุทธนา วิทยานุลักษณ์ คุณพ่อสเตเฟน วีรยุทธ เกียรติสกุลชัย ที่ได้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์ เพื่อจะเริ่มต้นรับใช้หมู่มวลพี่น้องคริสตชนคาทอลิกในฐานะพระสงฆ์ ซึ่งเป็นตัวแทนขององค์พระคริสตเจ้าบนแผ่นดินนี้ ได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยการปฏิบัติหน้าที่สงฆ์ในการเทศน์สอน ในการปกครอง และในการบันดาลความศักดิ์สิทธิ์ให้กับคริสตชนทุกคน
                การปรากฏตัวของพระสงฆ์ใหม่ เป็นเหมือนแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนรุ่นเยาว์ ที่ได้เห็นแบบอย่างของผู้ที่สละละหนทางฝ่ายโลก เพื่อจะก้าวไปบนเส้นทางแห่งการรับใช้พระเจ้าและเพื่อนมนุษย์โดยการดำเนินชีวิตเป็นพระสงฆ์ของพระองค์ พ่ออยากเห็นเยาวชนในวัดของเราเจริญรอยตามแบบอย่างของผู้ตัดสินใจเลือกที่จะตอบรับเสียงเรียกของพระเจ้าด้วยการไปฝึกฝนอบรมตนเตรียมตัวเป็นพระสงฆ์ในสถาบันบ้านเณรของคณะนักบวช หรือของสังฆมณฑล ให้เราร่วมใจกันภาวนาเพื่อกระแสเรียกด้วยครับ ตราบใดที่ยังคงมีกระแสเรียกของการเป็นนักบวชหรือพระสงฆ์ ก็แสดงว่ากลุ่มคริสตชนของเรายังมีอนาคตที่สดใสอยู่ แต่ถ้าว่างเว้นหรือไม่มีผู้ตอบรับกระแสเรียกในการเป็นนักบวชหรือพระสงฆ์เป็นเวลานาน กลุ่มคริสตชนนั้นๆก็ตกอยู่ในความน่าเป็นห่วงครับ
พ่อสุพจน์
มหัศจรรย์ของพิธีบูชาขอบพระคุณ
(ต่อจากคราวที่แล้ว)
                มีเรื่องเล่าว่า ซีมอน เดอ มงฟอร์ต แม่ทัพผู้เกรียงไกร ในราวศตวรรษที่ 12 ซึ่งมีทหารม้า  800 นาย กับทหารราบจำนวนหยิบมือเดียว ตกอยู่ในวงล้อมของข้าศึกที่มีกำลังทหารถึง 40000 นาย ควบคุมกองทัพโดย กษัตริย์แห่งอารากอน และ เรย์มอนด์ เคาท์แห่งตูลูส ที่เมือง มูเรต์ ขณะที่ซีมอนกำลังสวดภาวนาในพิธีบูชาขอบพระคุณอยู่นั้น มีนายทหารมารายงานข่าวด่วนว่ากองทัพของข้าศึกกำลังเคลื่อนพลมาโจมตีเมืองขอให้ท่านซีมอนละจากการสวดภาวนาเพื่อไปออกคำสั่งอำนวยการในการต่อสู้ ซีมอนตอบนายทหารผู้นั้นว่า "ให้เวลาข้าพเจ้าร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณให้เสร็จเสียก่อนสิ แล้วฉันจะออกไปนำทัพต่อสู้ข้าศึกเอง" แล้ว ซีมอน เดอ มงฟอร์ต ก็รีบไปยังที่ที่เหล่าทหารของเขารวมตัวกันอยู่ ปลุกใจพวกทหารให้วางใจในพระเจ้า และ สั่งให้เปิดประตูเมือง เขานำกองทหารเข้าโจมตีตรงกลางของทัพข้าศึก ทำให้กองกำลังข้าศึกระส่ำระสาย  จากนั้นเขาก็จัดการพิฆาตกษัตริย์แห่งอารากอน และ ได้รับชัยชนะอย่างงดงาม
                อีกเรื่องหนึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในสงครามโลกครั้งที่ 1 เรื่องมีอยู่ว่า เป็นที่ทราบกันดีว่า นายพลฟอคช์ ผู้นำกองกำลังทหารฝรั่งเศสและอังกฤษ เป็นผู้ที่ไปร่วมในพิธีบูชาขอบพระคุณทุกวัน แม้ว่าท่านจะมีภารกิจในท่ามวิกฤติการณ์มากมายแต่ท่านก็ไม่เคยใช้เหตุผลเหล่านั้นมาอ้างเพื่อจะขาดการสวดภาวนาและร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ

(ยังมีต่อคราวหน้า)
.....................................................................................................................
วันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 14
เทศกาลธรรมดา
ท่านทั้งหลายที่เหน็ดเหนื่อย และแบกภาระหนักจงมาพบเราเถิด เราจะให้ท่านได้พักผ่อน จงรับแอกของเราแบกไว้ และมาเป็นศิษย์ของเรา เพราะเรามีใจสุภาพอ่อนโยนและถ่อมตน จิตใจของท่านจะได้รับการพักผ่อน เพราะว่าแอกของเราอ่อนนุ่มและภาระที่เราให้ท่านแบกก็เบา

พี่น้องที่รักครับ อาทิตย์นี้พระเยซูเจ้าเชิญชวนเราทุกคนให้มาหาพระองค์ พระบอกกับเราอาทิตย์นี้ว่า  “มาหาเรา แล้วท่านจะได้พักผ่อน”  ชีวิตประจำวันของเราในทุกวันนี้ เราต่างคนต่างมีภาระ มีหน้าที่ ความวุ่นวายจากหน้าที่การงาน ความเหน็ดเหนื่อย ความเครียดกังวลต่างๆ จนบางครั้งถ้ามีมากๆ เราถึงกับจนมุม ไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร ไม่รู้จะพึ่งใคร หลายคนที่คิดสั้น ก็ไปทำอะไรที่ไม่ดี หลายคนก็ฆ่าตัวตายเพราะหนีปัญหา  แต่พระเยซูเจ้าบอกกับเราวันนี้ว่า “มาหาเรา แล้วท่านจะได้พักผ่อน”  เป็นโอกาสที่เราจะถามตัวของเราเองด้วยว่า เมื่อเราเหน็ดเหนื่อย เราไปหาพระองค์บ้างไหม หรือเราไปหาใครก็ไม่รู้ ไปหาอะไรก็ไม่รู้ ที่มันทำให้เราเหนื่อยกว่าเดิม หรือไปหาบางสิ่งบางอย่างที่อาจช่วยเราได้ แต่มันคงช่วยเราได้เพียงแค่ชั่วครู่ชั่วคราวเท่านั้น
 นักจิตวิทยาคนหนึ่ง ชื่อ Dr.Richard Clark เขาช่วยให้ผู้ป่วยหลุดพ้นจากความเหนื่อยล้าทางอารมณ์โดยให้สูตรสำหรับชีวิตไว้ว่า จงทำงาน  จงเล่น  จงรัก และจงศรัทธาในพระเจ้า อย่าให้ส่วนหนึ่งส่วนใดมากเกินไปหรือน้อยเกินไป ให้พอดีๆ กันทั้งหมด ทั้ง 4 ประการนี้แล้วชีวิตจะสมดุล

แต่พ่อ..ขอเสนอพี่น้อง โดยปรับเปลี่ยนเล็กน้อยว่า จงให้เวลากับพระ โดยการมีความศรัทธาในพระเจ้าให้มากที่สุดเป็นที่1 แล้วจงรัก ทำงาน เล่น โดยให้ชีวิตมีความสมดุลกัน อีกทั้งต้องยิ้มแย้มแจ่มใส เบิกบานเข้าไว้ แล้วชีวิตเราจะมีความสุข และพระเจ้าจะอวยพรเราทุกๆ วันอย่างแน่นอนครับ






คพ.วิทยา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น