พี่น้องที่รัก
สุขสันต์วันปัสกาแด่พี่น้องทุกท่านครับ
วันนี้เป็นวันสมโภชที่ยิ่งใหญ่และมีความหมายที่สุดสำหรับเราคริสตชนทุกคน
เพราะเป็นวันที่พระเยซู พระอาจารย์เจ้าของเรา ทรงกลับฟื้นคืนชีพ
มีชัยชนะเหนือความตาย
พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์ถวายพระองค์เป็นบูชาที่ยิ่งใหญ่แด่พระบิดาเจ้า เพื่อชำระล้างมลทินบาปของเรามนุษย์ทั้งหลาย
ทำให้วิญญาณของเราได้รับการชำระให้บริสุทธิ์สะอาด อีกครั้ง
ซึ่งยังผลให้เราแต่ละคนมีส่วนในมรดกนิรันดรที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ให้กับบุตรของพระองค์
และนี่แหละคือเหตุผลที่ว่า วันสมโภชปัสกานี้เป็นวันสมโภชที่ยิ่งใหญ่และมีความหมายที่สุดสำหรับเราคริสตชนทุกคน
ข่าวที่น่าชื่นชมยินดีอีกประการหนึ่งสำหรับเราทุกคนก็คือ
การที่พระศาสนจักรจะทำพิธีสถาปนาสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์นที่ 23 และ สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์นปอลที่สอง ขึ้นเป็นนักบุญ
พ่อขอถือโอกาสนี้แนะนำให้พี่น้องได้รู้จักประวัติโดยสังเขปของนักบุญใหม่ทั้งสองท่านนะครับ
สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์นที่ 23 มีพระนามเดิมว่า
แองเจโล กุยเซ็ปเป รอนคัลลี เกิดเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ค.ศ. 1881 พระองค์ได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปาในวันที่
28 ตุลาคม 1958 พระองค์เป็นบุตรคนที่ 4
ในจำนวนพี่น้อง 14 คน ครอบครัวของพระองค์มีอาชีพเกษตรกรอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในแคว้นลอมบาร์ดี
พระองค์ได้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์ วันที่ 10 สิงหาคม ค.ศ. 1904 ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานหลายตำแหน่ง
ต่อมาได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมณทูตในประเทศฝรั่งเศส และ
เป็นตัวแทนของสันตะสำนักในประเทศบัลกาเรียและกรีซ
พระองค์ได้รับการสถาปนาให้เป็นพระคาร์ดินัล เมื่อวันที่ 12 มกราคม
ค.ศ. 1953
รอนคัลลี ได้รับการเลือกให้เป็นพระสันตะปาปา เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ. 1958 เมื่อมีพระชนมายุ
76 พรรษา
พระองค์ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะถูกเลือกให้เป็นพระสันตะปาปา เพราะพระองค์เดินทางมาร่วมการประชุมของหมู่พระคาร์ดินัลด้วยการจองตั๋วรถไฟแบบไป-กลับ จากเมืองเวนิสมายังกรุงโรม พระองค์เป็นพระสันตะปาปาองค์แรกในรอบ 500
ปีหลังสุด ที่เลือกนาม "จอห์น"
มาเป็นชื่อของพระสันตะปาปาอีกครั้ง
ภารกิจสำคัญที่พระองค์ได้กระทำในพระสมณสมัยของพระองค์คือ การเรียกประชุมสภาพระสังคายนาวาติกันครั้งที่สอง
การสังคายนาครั้งนี้กินเวลาทั้งสิ้น 3 ปี ในระหว่าง ค.ศ. 1962-1965 การประชุมครั้งแรกมีขึ้นในวันที่ 11
ตุลคม ค.ศ. 1962 แต่กระนั้นพระสันตะปาปาจอห์นที่
23 ก็ไม่ได้มีพระชนม์อยู่จนการประชุมพระสังคายนาเสร็จสิ้น
พระองค์สิ้นพระชนม์ วันที่ 3 มิถุนายน ค.ศ. 1963 ด้วยโรคมะเร็งในช่องท้อง
พระสมณสมัยของพระองค์มีระยะเวลาเพียง สี่ปีครึ่งเท่านั้น ก่อนสิ้นพระชนม์สองเดือน
พระองค์ได้ประกาศพระสมณสาร Pacem in Terris
คำกล่าวที่มีชื่อเสียงที่ผู้คนในยุคนั้นทราบดีคือ พระองค์เคยกล่าวเอาไว้ว่า
"เราทุกคนต่างได้รับการสร้างมาตามพระฉายาของพระเจ้า
ดังนั้น เราแต่ละคนจึงมีความละม้ายคล้ายกับพระเจ้าเหมือนๆกัน" เป็นทรรศนะที่แสดงให้เห็นว่า มนุษย์เรานั้นต่างมีความเท่าเทียมกัน
ร่างของสมเด็จพระสันตะปาปา จอห์นที่ 23 ถูกบรรจุไว้ในสุสานใต้มหาวิหารนักบุญเปโตร
เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ค.ศ.
1963 ต่อมาอีกสองปี ในสมัยสมเด็จพระสันตะปาปาเปาโลที่6กระบวนการพิจารณาเพื่อแต่งตั้งพระองค์เป็นนักบุญก็เริ่มขึ้น และในวันที่ 20
ธันวาคม ค.ศ. 1999 พระศาสนจักรได้ประกาศว่าพระองค์เป็นผู้สมควรได้รับการเคารพยกย่อง และพระองค์ได้รับการสถาปนาเป็นบุญราศี ในวันที่
3 กันยายน ค.ศ. 2000 โดยพระสันตะปาปา จอห์นปอลที่สอง
จากนั้นได้มีการเคลื่อนย้ายพระศพของพระองค์มาไว้ยังพระแท่นของนักบุญเยโรม
เพื่อให้สัตบุรุษจะได้สักการะบูชาได้สะดวกขึ้น สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส
จะทำพิธีสถาปนา พระสันตะปาปาจอห์นที่ 23 เป็นนักบุญในวันที่ 27
เมษายน ค.ศ. 2014 คริสตชนทั่วไปขนานพระนามพระสันตะปาปาองค์นี้ว่า
พระสันตะปาปาที่ดียอดเยี่ยม ตรงกับภาษาอิตาเลียนว่า "Il Papa
Buono" วันฉลองของนักบุญองค์นี้เป็นวันที่ 11 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นของการประชุมสภาพระสังคายนาวาติกันครั้งที่สองนั่นเอง
ส่วนประวัติโดยสังเขปของพระสันตะปาปาจอห์นปอลที่สอง
พ่อจะนำมาเสนอสัปดาห์หน้านะครับ
คุณพ่อสุพจน์
...................................................................................................................................................
สมโภชปัสกาพระเยซูเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพ
“สุขสันต์วันปัสกา...แด่พี่น้องทุกท่าน” ขอพระพรจากองค์พระเยซูคริสตเจ้าผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพ
ได้อวยพระพรให้พี่น้อง มีความสุข มีสันติในจิตใจ
และมีชีวิตที่ได้ใกล้ชิดกับพระเสมอไป
วันนี้เป็นวันอาทิตย์สมโภชปัสกา
สิ่งหนึ่งที่พ่อคิดเองว่า..น่าจะมีคริสตชนจำนวนมากกลับเข้ามาในวัดอีกครั้งหนึ่งเหมือนทุกๆ
ปี ที่โอกาสปัสกามาถึง พวกเขาก็จะมาหาพระในโอกาสพิเศษ
ซึ่งวันนี้ก็น่าจะเป็นวันที่เราทุกคนมีความสุขที่สุดวันหนึ่ง
ที่จะได้เห็นพี่น้องจำนวนมาก มาเข้าวัด มาแก้บาปรับศีล
มาร่วมในพิธีบูชามิสซาโอกาสสมโภชปัสกาอันสง่างามและมีความหมายอย่างยิ่งนี้
เราทุกคนมาวัด มาร่วมมิสซาก็เพื่อมาฟัง และมาประกาศเรื่องที่สำคัญที่สุดนั่นคือ
“พระเยซูเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพ” ซึ่งมีความหมายว่า พระองค์ทรงชนะความตาย
และสถิตอยู่กับเราเสมอไป นี่แหละครับ…ความหวังอันยิ่งใหญ่ของเรา
เพราะเราเชื่อว่าวันหนึ่งเราทุกคนก็จะกลับเป็นขึ้นมาจากความตายเช่นเดียวกับพระองค์
และการกลับเป็นขึ้นมาคราวนี้ เราก็จะไม่มีวันตายเลย
ดังนั้น
ขอให้การสมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จกลับคืนพระชนมชีพในวันนี้
ได้ทำให้เราเปี่ยมไปด้วยความเชื่อในพระเจ้า มีความศรัทธาในพระองค์
และให้ชีวิตและจิตใจของเราคึกคัก กระชุ่มกระชวย และต้องสดชื่นอยู่เสมอ
เพราะไม่เพียงแต่วันนี้เท่านั้น
แต่ต้องเป็นทุกวันที่ชีวิตของเราต้องเต็มเปี่ยมไปด้วยพระพรของพระเจ้า
เพราะทุกวันเป็นวันของพระเจ้า และพระเจ้าก็อวยพรเราทุกวันเช่นกัน
จงชื่นชมยินดีและไปประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
พระคริสตเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพแล้ว อัลเลลูยา อัลเลลูยา
คพ.วิทยา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น