พี่น้องที่รัก
วันฉลองคริสต์มาสที่ผ่านไปเมื่อสามสี่วันที่ผ่านมา
ช่างเป็นวันที่น่าชื่นใจจริงๆ เพราะในรอบหนึ่งปี
เรามีโอกาสนี้เพียงโอกาสเดียวที่จะได้แสดงออกถึงความรักและการแบ่งปัน
อย่างที่พระเจ้าทรงสอนเรา ออกมาเป็นกิจกรรมที่เป็นรูปธรรม ผู้คนมากมายที่ได้มาร่วมงานรื่นเริงในช่วงหัวค่ำ
ผ่านทางกิจกรรมการละเล่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมสนุกสนาน
ที่เรียกเสียงหัวเราะ
พร้อมการลุ้นรางวัลจากการเอาชนะความท้าทายที่เกมแต่ละเกมตั้งเงื่อนไขไว้
การจับสลากสอยดาว ที่มีรางวัลน้อยใหญ่มอบให้เป็นของขวัญ และ การบิงโกที่สร้างสรรค์บรรยากาศของความสุขสมถ้าเกิดลุ้นแล้วเป็นไปตามเป้าประสงค์
สิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นเพียงบรรยากาศภายนอก ส่วนที่สำคัญคือ
การที่เราได้มาร่วมกันในคำภาวนาในพิธีบูชาขอบพระคุณเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์อันยิ่งใหญ่ของการมาบังเกิดของพระเยซูกุมาร
ที่นำความสว่างมาสู่โลกของเรา
เพื่อนำพาเราไปสู่ความรอดพ้นที่พระเจ้าประทานให้กับเรา
ขอพระกุมารเยซูที่มาบังเกิดโปรดประทานพระพรอันอุดมบริบูรณ์ให้กับพี่น้องทุกท่าน
ขอพระองค์ประทานแสงสว่าง การคุ้มครองพิทักษ์รักษา และ
พระพรแห่งความบรรเทาใจเราในความทุกข์ยากต่างๆ ขอให้ปีใหม่ที่จะมาถึงนี้เป็นปีแห่งความก้าวหน้า
ความเจริญ และ ความสุขอันยั่งยืนสำหรับพี่น้องทุกๆท่าน
พ่อสุพจน์
ความมหัศจรรย์ของพิธีบูชาขอบพระคุณ
(ต่อจากคราวที่แล้ว)
บทที่
5
จงอย่าละเลยในการไปร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณเลย
ข้อบัญญัติของพระศาสนจักรที่กำหนดให้คาทอลิกทุกคนไปร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณในวันอาทิตย์และวันฉลองบังคับนั้นเป็นข้อบัญญัติที่สำคัญยิ่ง
ดังนั้นผู้ที่ขาดการไปร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณในวันอาทิตย์โดยไม่มีเหตุผลที่สมควรจึงเป็นบาปหนัก
ซึ่งผู้ที่ขาดการมาร่วมพิธีในวันอาทิตย์นอกจากจะไม่ได้รับพระพรหลายประการที่สำคัญแล้ว
ถ้าเขามีจิตใจเย็นเฉยละเว้นการปฏิบัติหน้าที่นี้ติดต่อกันเป็นเวลานานแล้ว
เขายังอาจถูกพระเจ้าลงโทษอย่างหนักเสียด้วย
ตัวอย่างต่อไปนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงที่อยากนำมาเล่าสู่กันฟัง
เรื่องที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสถานที่แห่งหนึ่งใกล้ๆกับกรุงโรม
นักธุรกิจสามคนเดินทางไปชมงานแสดงสินค้าที่เมืองซิสแตร์โน
เมื่อได้ตกลงเจรจาธุรกิจเสร็จสิ้นแล้ว
นักธุรกิจสองคนเตรียมตัวจะเดินทางกลับบ้านในเช้าวันอาทิตย์
ส่วนอีกคนท้วงว่าอย่าทำเช่นนั้นเลยเพราะเขาทั้งสองจะพลาดโอกาสไปร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณในเช้าวันอาทิตย์
สองคนนั้นหัวเราะคำทักท้วงของเพื่อนคนนี้
พร้อมกับกล่าวว่าไม่เป็นไรหรอกวันหลังค่อยไปร่วมพิธีก็ได้ แล้วเขาก็ออกเดินทางไป
ส่วนเพื่อนอีกคนที่เหลือตัดสินใจจะไปร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณเสียก่อนแล้วค่อยเดินทางตามไปทีหลัง
สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ เขามาทราบภายหลังด้วยความเสียใจว่า
เพื่อนของเขาสองคนนั้นต้องเสียชีวิตลงในอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง..........(ยังมีต่อ)
....................................................................................................................
พี่น้องที่รัก
สัปดาห์สุดท้ายของปีพระศาสนจักรให้เราฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์
ที่ประกอบด้วยพระเยซูเจ้า พระนางมารีย์และนักบุญยอแซฟ
ในวันนี้ให้เราได้มอบถวายครอบครัวของเราและสมาชิกทุกคนในครอบครัวและหมู่คณะ
บนพระแท่นบูชาเพื่อขอพระพรจากครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ ฉลองนี้เตือนใจเราถึงความเป็นหนึ่งเดียวของพระศาสนจักรสากล
แต่ละครอบครัวได้รับการเรียกสู่ความศักดิ์สิทธิ์
เช่นเดียวกับครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า เริ่มแรกของครอบครัวศักดิ์สิทธิ์เรื่องราวการบังเกิดของพระเยซูเจ้าที่เบธเลเฮม
การหนีไปประเทศอียิปต์
การหายไปของพระเยซูเจ้าขณะไปนมัสการที่พระวิหารกรุงเยรูซาเล็ม
บทอ่านและการฉลองในวันนี้พูดถึงครอบครัวในฐานะที่เป็นของประทานจากพระเจ้า เป็นแผนการของพระเจ้าตั้งแต่แรกสร้างโลก
ที่ไม่ทรงประสงค์ให้มนุษย์อยู่โดยลำพัง พระองค์ทรงสร้างมนุษย์ให้เป็นครอบครัว
อีกทั้งตั้งใจให้บุตรของพระเจ้าเกิดมาเป็นมนุษย์ในครอบครัว
ในสภาพที่เหมือนเราทุกอย่างเว้นแต่บาป
พระเยซูเจ้าจึงได้เสด็จมาในโลกที่พระองค์ทรงสร้าง
ทรงบังเกิดมาในครอบครัวที่มีแม่พระและนักบุญยอแซฟที่นาซาเร็ธ เป็นการระลึกถึงชีวิตครอบครัวของพระเยซูเจ้าซึ่งดำเนินชีวิตในความรัก
ความเห็นอกเห็นใจ และเคารพซึ่งกันและกัน เป็นแบบอย่างในการแบ่งปันความยินดี
ความรับผิดชอบและการร่วมทุกข์ร่วมสุขในครอบครัว พระศาสนจักรจึงยกย่องให้เป็นครอบครัวศักดิ์สิทธิ์
เป็นแบบอย่างของครอบครัวทั้งหลาย นอกนั้น
การฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ยังเรียกเราให้มุ่งความสนใจไปที่ครอบครัวคริสตชนทุกครอบครัว
และวอนขอพระพรจากพระเจ้าสำหรับเรา ครอบครัวของเราแต่ละคน และเรียกร้องเราให้เป็นคนที่ยำเกรงพระเจ้าเหมือนยอแซฟ
ที่ปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระองค์โดยไม่มีเงื่อนไข
เป็นบุคคลที่มีหัวใจเปิดสู่พระเจ้า เชื่อฟังและพร้อมจะเผชิญความยากลำบากทุกอย่าง
เพื่อปกป้องพระกุมารและแม่พระให้ได้รับความปลอดภัย จึงได้ชื่อว่าเป็น “ผู้ชอบธรรม” ที่มีความรับผิดชอบในฐานะหัวหน้าครอบครัว
ขณะที่แม่พระเป็นคู่ชีวิตที่รับผิดชอบดูแลครอบครัวและมีส่วนในความยากลำบากต่างๆ
ในการทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าอย่างเงียบๆ บิดา-มารดาต้องเป็นครูคนแรกที่สอนลูกให้มีความรู้และรู้จักพระเจ้าเป็นประการสำคัญที่สุด
ต้องมีความรับผิดชอบในการเป็นตัวอย่างที่ดีแก่บุตรของตน และต้องทำให้ครอบครัวของตนเป็น
“ครอบครัวดี เป็นคนดี สร้างสังคมดี”