อาทิตย์นี้
วัดเซนต์หลุยส์ของเรามีโอกาสได้ต้อนรับ พระคุณเจ้า ปัญญา กฤษเจริญ
เนื่องในโอกาสที่พระคุณเจ้ามาเป็นประธานในพิธีบูชาขอบพระคุณ วันกระแสเรียก
โดยการจัดงานของมูลนิธิกระแสเรียก ซึ่งรวบรวมเงินบริจาคจากพี่น้องสำหรับสนับสนุนเป็นทุนการศึกษาสำหรับสามเณรในบ้านเณรต่างๆ
กระแสเรียกการเป็นพระสงฆ์
นักบวชชายหญิง นับวันยิ่งหายากขึ้นทุกวัน ในสภาพสังคมปัจจุบันที่ครอบครัวมีลูกน้อย
และ กระแสนิยมของโลกวัตถุนิยม บริโภคนิยม เป็นปัจจัยที่ทำให้เด็กเยาวชน คนหนุ่ม
คนสาว ฟุ้งเฟ้อ เห่อเหิมไปกับโลกของวัตถุ
จนไม่สามารถมีเวลาที่จะพิจารณาเรื่องเสียงเรียกของพระเจ้าที่
คอยเรียกหาผู้อุทิศตนที่จะทำงานเพื่อชีวิตฝ่ายวิญญาณของหมู่มวลสัตบุรุษ
ประชากรของพระเจ้า ดังนั้น
วันนี้ให้เราสวดภาวนาเป็นพิเศษเพื่อพระกระแสเรียกของพระเจ้าจะได้รับการตอบรับจาก
เยาวชน คนรุ่นใหม่ที่จะมาทำงานในท้องนาของพระเจ้ามากยิ่งขึ้น
และให้เราร่วมใจกันสนับสนุนทุกวิถีทางที่จะให้ผู้ที่สมัครตนเป็นผู้ฝึกฝนชีวิตเพื่อทำงานในท้องนาของพระองค์แล้วจะได้มีความมั่นคง
และได้รับการพัฒนาทักษะ ความรู้ ความสามารถเพื่อจะทำงานให้กับพระเจ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
พ่อสุพจน์
ความมหัศจรรย์ของพิธีบูชาขอบพระคุณ
(ต่อจากคราวที่แล้ว)
บทที่
4
คุณพ่อ
MATEO CRAWLEY
คุณพ่อ
Mateo Crawley เป็นมิสชันนารีที่มีความสุภาพถ่อมตน
ท่านปฏิบัติต่อทุกคนด้วยความใจดี และ มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แต่กระนั้นท่านเคยเล่าเรื่องที่น่าเศร้าใจที่ค้างคาอยู่ในใจของท่านเป็นเวลานานมาแล้ว
เราได้ยินเรื่องนี้จากปากของท่านเอง ท่านบอกว่า "บิดาของข้าพเจ้าเคยเป็นโปรแตสตันท์มาก่อน ท่านเป็นคนดีที่ซื่อสัตย์
ตรงไปตรงมา ส่วนมารดาของข้าพเจ้าเป็นคาทอลิก คุณแม่จัดการให้ลูกๆทุกคนได้รับศีลล้างบาปเป็นคาทอลิก
จิตใจส่วนลึกของคุณแม่นั้นอยากเห็นคุณพ่อได้มานับถือแบบคาทอลิกเหมือนกับสมาชิกคนอื่นๆในครอบครัว
เธอพยายามด้วยความสุขุมรอบคอบ
เธอวางความหวังของเธอไว้ในคำภาวนาและการถือปฏิบัติเป็นตัวอย่างที่ดี
เพื่อชักจูงจิตใจของพ่อ ทีละเล็กทีละน้อยเธอพบหนทางที่จะทำให้พ่อได้รู้ถึงความจริงในศาสนาคาทอลิกโดยที่คุณพ่อไม่รู้สึกอึดอัดใจอย่างใดเลย"
“ในที่สุด
ความหวังของเธอก็ใกล้จะบรรลุความสำเร็จ
เพราะคุณพ่อสัญญาว่าจะไปร่วมในพิธีบูชาขอบพระคุณพร้อมกับครอบครัว
และคุณพ่อก็ไปจริง โชคร้ายตรงที่พระสงฆ์ผู้ประกอบพิธี ทำด้วยความเร่งรีบ
และขาดความศรัทธา ทำให้คุณพ่อกลับมาบ้านด้วยความผิดหวัง
และกล่าวว่าจะไม่คิดมาเป็นคาทอลิกอีกต่อไป"
“ทุกคนในบ้านผิดหวังมาก
เพราะนับแต่นั้นมาคุณพ่อปฏิเสธที่จะรับฟังเรื่องราวอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อในแบบคาทอลิก
เวลาผ่านไปหลายปี เรายังคงสวดภาวนาเสมอมา"
“เย็นวันหนึ่ง
พระสงฆ์มิสชันนารีในคณะ Passionist Order มาที่บ้านของเรา คุณพ่อของเราซึ่งเป็นคนชอบต้อนรับผู้มาเยือน
เอ่ยปากเชิญชวนให้ท่านเข้ามาสนทนาในบ้าน
จะด้วยพระญาณสอดส่องหรือย่างไรก็ไม่สามารถอธิบายได้ การสนทนานั้นประทับใจคุณพ่อมาก
ท่านถึงกับแสดงความปรารถนาที่จะร่วมในพิธีบูชาขอบพระคุณที่พระสงฆ์มิสชันนารีผู้นั้นเป็นผู้ประกอบพิธี"
“พระสงฆ์มิสชันนารีผู้นั้นประกอบพิธีบูชาขอบพระคุณ
อย่างเรียบง่าย แต่เปี่ยมด้วยความเชื่อศรัทธา
ครอบครัวของเราต้องขอบพระคุณพระเจ้าจากใจของเรา
เพราะภายหลังจากนั้นไม่นานคุณพ่อก็ขอเรียนคำสอนและเข้ามาเป็นสมาชิกของพระศาสนจักรคาทอลิกในที่สุด"
.................................................................................................................
เราเข้าสู่อาทิตย์สุดท้าย
ในปีพิธีกรรมของพระศาสนจักร พระวาจาของพระเจ้า…ได้พูดถึงพระเยซูเจ้าทรงเป็นกษัตริย์ แห่งกษัตริย์ทั้งหลาย
ความเป็นกษัตริย์ของพระเยซูเจ้า มีความหมายแตกต่างจากบรรดากษัตริย์ทั้งหลาย
ทั้งปวง คือ…
o
พระองค์ไม่มีพระราชวัง
o
พระองค์ไม่มีข้าทาสบริวาร
o
พระองค์ไม่มีไม้คฑา
หรือ ตราประจำสัญลักษณ์ใดๆ ทั้งสิ้น
· พระองค์มีแต่มงกุฎ และเป็นมงกุฎหนาม
· พระองค์ถูกทอดทิ้งให้อยู่โดดเดี่ยว
บรรดาศิษย์ก็ปฏิเสธ ลูกศิษย์ก็หายกันไปหมด
· และสุดท้ายพระองค์ก็ต้องตายบนไม้กางเขน อย่างกับนักโทษที่ทำผิดมหันต์
ความหมายที่แท้จริงในวันสมโภชวันนี้
คือ การที่องค์พระเยซูเจ้าให้บทสอนเราถึง การเป็นกษัตริย์แห่งผู้รับใช้ เพราะ อาณาจักรของพระองค์
คือ อาณาจักรแห่งความรัก การรับใช้
และการให้อภัย
o
อำนาจในการปกครอง
ของพระองค์ คือ ความรัก
o
และเป็นความรักที่พร้อมจะให้อภัยเราทุกคนที่เป็นมนุษย์ผู้อ่อนแอ
· พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่สอนเราถึง ความรัก…. รักแม้กระทั่งศัตรู
· และพระองค์ทรงสอนให้เรารับใช้กันและกัน…. เหมือนดังที่พระองค์ทรงรับใช้เราทุกคน
ดังนั้น ขอให้เราทุกคนมีความรัก ความเมตตา
และให้อภัยกันและกัน ต่อเพื่อนพี่น้องของเรา เหมือนดังที่พระเจ้าทรงรัก เมตตา
และให้อภัยเราทุกคน
คพ.วิทยา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น