พี่น้องที่รัก
ค่ายคำสอนภาคฤดูร้อนปีนี้ก็เสร็จสิ้นลงแล้ว
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ปีนี้มีนักเรียนคำสอนมาเรียนจำนวนทั้งสิ้น 38 คน แบ่งเป็น นักเรียนรับศีลล้างบาป
2 คน นักเรียนคำสอนเตรียมตัวรับศีลมหาสนิทจำนวน 11
คน นักเรียนคำสอนเตรียมตัวรับศีลกำลัง จำนวน 7 คน
นักเรียนรื้อฟื้นปฏิญาณตนรับศีลมหาสนิทอย่างสง่า 6 คน
ที่เหลือก็เป็นการทบทวนความรู้ด้านคำสอน และเด็กเล็กที่มาใช้เวลาช่วงนี้ปูพื้นด้านการท่องบทสวด
และทำกิจกรรมความศรัทธาตามสมควร การโปรดศีลมหาสนิทครั้งแรก และพิธีรื้อฟื้นการปฏิญาณตนรับศีลมหาสนิทอย่างสง่า
จะมีขึ้นในมิสซารอบ 12.00 น. วันอาทิตย์ที่
28 เมษายน นี้ ส่วนการโปรดศีลกำลังสำหรับนักเรียนคำสอนในเขต 1
จะมีขึ้นในวันที่ 1 พฤษภาคม 2556 ที่วัดนักบุญยอแซฟ ตรอกจันทน์ เวลา 10.00 น. โดย พระอัครสังฆราช ฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช
พ่ออยากถือโอกาสนี้ขอบคุณพ่อ
บราเดอร์ คุณครู ผู้สูงอายุที่มาช่วยดูแลเรื่องอาหารเที่ยงให้กับเด็กๆ
และทุกท่านที่มีส่วนช่วยให้การสอนคำสอนสำหรับเด็กในภาคฤดูร้อนนี้สำเร็จลงไปได้ด้วยดี
พ่อสังเกตว่าเด็กๆ ที่มาเรียนคำสอนมีความสุข ที่ได้มีโอกาสเรียนรู้จักพระเจ้า
เรียนรู้หนทางที่จะปฏิบัติตามพระธรรมของพระเจ้า
เพื่อค้นพบสันติสุขที่แท้จริงในการดำเนินชีวิต โดยผ่านทางกิจกรรมต่างๆ ที่จัดให้มีขึ้นตลอดช่วงระยะเวลาประมาณ
1 เดือนที่ผ่านมา พ่ออยากขอบคุณผู้ปกครองของเด็กๆ ทุกคน
รวมถึงทุกท่านที่ได้มีส่วนช่วยให้เด็กๆ เหล่านี้ได้มีโอกาสมาได้รับการอบรมสั่งสอน
และฝึกฝนตัวเองตลอดช่วงระยะเวลาปิดเทอมภาคฤดูร้อนปีนี้ พ่อปรารถนาอยากจะเห็นเด็กๆ จำนวนมากขึ้นในปีต่อๆ
ไป เพราะนั่นสะท้อนให้เห็นว่า
ทุกๆคนให้ความสำคัญกับการปลูกฝังเรื่องการรู้จักพระเจ้าไว้ในหัวใจของลูกหลานของเราทุกๆคน
ในระหว่างนี้พ่อให้ช่างทำรางน้ำฝน
มาทำการเปลี่ยนรางน้ำฝนรอบหลังคาวัดทั้งหมด
เนื่องจากรางน้ำฝนเดิมซึ่งเป็นสังกะสีและมีอายุการใช้งานมานานกว่าห้าสิบปี
เป็นสนิมและชำรุดเสียหาย เวลาฝนตกก็มีปัญหาน้ำรั่วลงมาหลายแห่ง
เป็นผลให้ไม้ฝ้าเพดานรอบวัดผุ รางน้ำฝนที่เปลี่ยนใหม่นี้ทำจากสแตนเลสซึ่งมีความคงทนกว่าสังกะสีซึ่งมีอายุการใช้งานนาน
และทนทานกว่าเดิม หวังว่าการซ่อมแซมครั้งนี้จะช่วยรักษาวัดซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของเราทุกคน
ให้งดงาม คงทน และเป็นสถานที่ที่อุดมไปด้วยพระพรของพระเจ้าสำหรับเราสัตบุรุษไปอีกนานแสนนาน
คุณพ่อสุพจน์
..................................................................................................................................................
“พระเจ้าทรงเปิดประตูแห่งความเชื่อ”
(กจ14:27)
สวัสดีพี่น้องวัดเซนต์หลุยส์ทุกท่าน
พ่อได้มาประจำตำแหน่งอยู่ที่วัดแห่งนี้มาก็ครบ 2 ปีแล้ว
วาระอันควรก็มาถึงแล้วที่พ่อจะต้องย้ายไปทำหน้าที่ในที่แห่งใหม่ต่อไป
การเริ่มต้นที่นี่
ทำให้พ่อเกิดความประหม่า
กับหน้าที่ใหม่ ความรับผิดชอบที่มากขึ้น
งานในหลากหลายด้านที่ไม่เคยได้ผ่านพ้นมือมาก่อนก็ต้องมาเรียนรู้และทำที่นี่
ต้องมาเทศน์สอนในที่ที่มีคนจำนวนมากมาวัดจนเต็มล้นวัด
ผู้คนหลากหลายที่ท้าทายให้ตระเตรียมในการเทศน์สอนอย่างดี
การอำลาที่นี่ ทำให้พ่อเกิดความอาลัยด้วย แม้ใจจริงไม่อยากจะพูดเช่นนั้น
แต่ก็โกหกตัวเองไม่ได้ เพราะที่นี่เป็นวัดแห่งแรกในฐานะพระสงฆ์ ที่พ่อได้เรียนรู้
ได้ผิดพลาด ได้เป็นบทเรียนนำไปแก้ไขและพัฒนาต่อไป
ความอาลัยนี้ก็เนื่องมาจากความทรงจำดีๆ
ความประทับใจในตัวพี่น้องที่พ่อได้พบเจอด้วยตัวเอง
พ่อเชื่อว่าชีวิตของเราทุกคนก็เป็นเช่นนี้แหละ
เริ่มต้นใหม่เพื่อเรียนรู้ ปฏิบัติงาน และพัฒนา
แต่เมื่อต้องจากลาก็มีแต่เพียงผลงานที่ทิ้งไว้ หนังสือกิจการอัครสาวกที่พี่น้องได้ยินจากบทอ่านที่
1 ในวันนี้ เป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดี ด้วยคำตักเตือนของเปาโลว่า
“พวกเราจำต้องฟันฝ่าความทุกข์ยากเป็นอันมากจึงจะเข้าสู่พระอาณาจักรพระเจ้าได้”
ท่านเปาโลและบาร์นาบัสไปแพร่ธรรมยังเมืองต่างๆ เหมือนกับพวกเราพระสงฆ์ที่ถูกส่งไปยังที่ต่างๆ
มีการเริ่มต้นใหม่ในสถานที่ ผู้คน สภาวะแวดล้อมต่างๆ
และเมื่อต้องจากไปยังอีกที่อีกกลุ่มหนึ่งก็จะนำเรื่องราวต่างๆ
นี้ไปเล่าให้กับคริสตชนที่นั่นได้ฟัง สิ่งสำคัญคือไม่ลืมว่า
ผลงานทั้งหมดที่เขากระทำนี้เป็น “สิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำโดยผ่านตน”
พระเจ้าทรงส่งพ่อมาที่นี่
และได้กระทำงานต่างๆ ที่ผ่านมาโดยอาศัยพ่อเป็นเครื่องมือ
และในที่สุดก็มอบหมายให้ไปยังที่แห่งใหม่อีก
พี่น้องเชื่อเหมือนกับพ่อมั้ยครับว่า
“พระเจ้าทรงกระทำสิ่งต่างๆ โดยผ่านทางเราแต่ละคน ทั้งการให้พี่น้อง
มีครอบครัวที่ต้องเลี้ยงดู มีลูกหลานต้องอบรม มีงานประจำวันที่ต้องรับผิดชอบ
มีสังคมที่อาศัยอยู่ที่ต้องมีส่วนร่วมลงมือลงแรงพัฒนา
หากเราเชื่อมั่นว่านี่เป็นงานของพระเจ้า พี่น้องครับ เราจะมีความสุภาพมากขึ้น
และไม่ว่างานเหล่านั้นจะเป็นอย่างไร เราจะฝากไว้กับพระหรรษทานของพระเจ้า
และที่สุดหากต้องมีการเปลี่ยนแปลง โยกย้าย และจากลา แม้จะมีความอาลัยอยู่บ้าง
เราทุกคนก็จะยินดีที่จะน้อมรับน้ำพระทัยของพระองค์ที่มาถึงเรา
เพราะพระเจ้าทรงกระทำสิ่งเหล่านี้โดยผ่านทางตัวเราเอง “พระเจ้าทรงเปิดประตูแห่งความเชื่อ”
(กจ14:27) ไว้ในใจของเราแล้ว ให้เราได้ออกไปประกาศข่าวดีแห่งการกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์กันเถิด
สุดท้ายนี้
ขอขอบคุณในความร่วมมือเป็นอย่างดี ในความปรารถนาดี
คำตักเตือนและคำภาวนาที่ยังมีให้กับพ่ออยู่เสมอ เราจะระลึกถึงกันในคำภาวนา
คุณพ่อปลัดองค์เล็ก