สวัสดีครับพี่น้อง
ครั้งหนึ่งลีไอคอกก้าถามวิ้นซ์ลอมบาร์ดี
โค้ชทีมอเมริกันฟุตบอลอาชีพชื่อดังว่า “มีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้ทีมฟุตบอลประสบความสำเร็จได้?” ในหนังสือที่มีชื่อว่า
“ไอคอกก้า” บันทึกคำตอบเอาไว้ว่า
“มีโค้ชจำนวนมากที่ทำงานอยู่กับทีมฟุตบอลที่ดี
เขาเหล่านั้นมีความรู้พื้นฐานในการฝึกฝนทีมฟุตบอลด้วยระเบียบวินัยที่เคร่งครัด
แต่นั่นก็ยังไม่สามารถทำให้ทีมชนะได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดถ้าอยากให้ทีมประสบความสำเร็จก็คือ
จงเล่นด้วยกันเป็นทีม ผู้เล่นทุกคนต้องเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน ทุกคนต้องรักกันและกัน
ผู้เล่นทุกคนต้องคิดถึงคนที่จะรับลูกไปเล่นต่อไป และคิดว่าถ้าฉันไม่เข้าไปสกัดผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามเอาไว้ตอนนี้
เพื่อนของฉันอาจถูกชนขาหักก็ได้เพราะฉะนั้นฉันจะต้องทำหน้าที่ของฉันอย่างดีที่สุดเพื่อให้ผู้เล่นคนอื่นสามารถเล่นในบทบาทของเขาได้เป็นผลสำเร็จ” วินซ์ลอมบาร์ดีสรุปว่า “ความแตกต่างระหว่างทีมฟุตบอลที่ดีกับทีมฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จนั้นอยู่ที่ความสัมพันธ์ของผู้เล่นที่มีต่อกันและกันภายในทีม”
วันอาทิตย์นี้สภาภิบาลวัดของเรามีวาระการประชุมเรื่องการเตรียมงานฉลองวัดเซนต์หลุยส์ของเรา
ซึ่งจะมาถึงในวันที่ 26
สิงหาคมเดือนหน้านี้แล้ว ในปีนี้เราเชิญพระสงฆ์ในสังฆมณฑลกรุงเทพที่ฉลองบวชครบ
25 ปี ซึ่งปีนี้มีจำนวน 6 องค์มาเป็นประธานในพิธีฉลองวัด พระสงฆ์สององค์ในจำนวนนี้เป็นลูกวัดของเราซึ่งได้แก่คุณพ่อประทีป
กีรติพงศ์และคุณพ่อสุวนารถ กวยมงคล จึงถือโอกาสนี้ เชิญคุณพ่อทั้ง 6 องค์มาถวายมิสซาในโอกาสวันฉลองวัดเซนต์หลุยส์ของเรา เพื่อเราจะได้มีโอกาสร่วมโมทนาคุณพระเจ้าพร้อมกันกับท่าน
ที่พระเจ้าได้ทรงโปรดให้ท่านได้ทำหน้าที่เป็นสงฆ์ของพระเจ้ามาเป็นเวลานานถึง 25
ปีแล้ว แน่นอนครับมีรายละเอียดที่ต้องพูดกันเยอะพอสมควร เพื่อให้การฉลองวัดของเรานั้นได้รับการตระเตรียมให้พร้อมในทุกด้านทั้งในด้านสถานที่ในการจัดงาน
ในด้านพิธีกรรมที่สง่างามชวนศรัทธา ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
นอกจากนี้ก็คงเป็นเรื่องการจัดอาหารเที่ยงสำหรับผู้ที่มาร่วมงานฉลองวัดของเรา เรื่องการอำนวยความสะดวกเรื่องการจอดรถและเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
ดังนั้นเราจึงต้องช่วยกันทำงานแบบเป็นทีมเวิร์ก เพื่อให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่นเรียบร้อยเท่าที่จะเป็นไปได้
แต่ถ้าจะมีอะไรขาดตกบกพร่องไปบ้างก็ต้องน้อมรับและจดจำไว้สำหรับปรับปรุงแก้ไขในครั้งต่อๆไป ในวัดแต่ละวัด ถ้าคริสตชนแต่ละคนต่างก็เรียนรู้จักที่จะเอาใจใส่ซึ่งกันและกันและร่วมมือกันอย่างดี
ก็เท่ากับว่าเราเรียนรู้ที่จะฝึกฝนตัวตนตามคำสอนของพระเยซูที่ว่า “จงรักกันและกัน” อย่างจริงจังเมื่อเราทำเช่นนี้ได้ เราแต่ละคนต่างก็มีส่วนที่จะทำให้
“ทีม” ของเราประสบความสำเร็จได้ในที่สุด
พ่อสุพจน์
.......................................................................................................
สวัสดีครับพี่น้องที่รักทุกท่าน
ปกติที่ผ่านมาพ่อมักจะเขียนสารวัดในแต่ละสัปดาห์ที่เกี่ยวข้องกับพระวาจาของพระเจ้าเพื่อให้เป็นข้อคิดสำหรับการดำเนินชีวิตคริสตชนที่ดี
แต่ต่อจากนี้เป็นต้นไปพ่ออยากนำเสนอความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพิธีมิสซาอย่างละเอียดในแต่ละพิธีหรือขั้นตอน
ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์มิใช่น้อยเพราะโดยส่วนตัวแล้วหลายสิ่งหลายอย่างในพิธีมิสซาที่เราร่วมฉลองทุกๆ
วันนั้น เราอาจจะไม่เข้าใจเพราะความไม่รู้เนื่องจากไม่มีใครสอน
ไม่เข้าใจเพราะความเคยชินและไม่เห็นเป็นประเด็นอะไรเนื่องจากเราก็ได้ร่วมพิธีมิสซาแล้ว
เราได้ทำหน้าที่ของคริสตชนที่ดีแล้วเพราะได้มามิสซามิได้ขาด
แต่เราอาจจะลืมไปว่าการร่วมมิสซาอย่างตั้งใจเพราะเราได้รู้คุณค่า
ความหมายของพิธีขั้นตอนต่างๆ จะทำให้เราได้เข้าใจความหมายที่ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
อันดับแรกพ่อจะขอนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับพิธีมิสซาเบื้องต้นเพื่อเป็นการปูพื้นฐานความเข้าใจก่อน
บูชามิสซาเป็นการเฉลิมฉลองศีลมหาสนิทของพระเยซูเจ้า คำว่า ศีลมหาสนิท
ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Eucharist ซึ่งหมายถึง การขอบพระคุณ ซึ่งประกอบด้วย การถวายบูชา
การรับศีลมหาสนิท และการประทับอยู่อย่างแท้จริงของพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิท
บูชามิสซา เป็นการรื้อฟื้นการถวายบูชาของพระเยซูเจ้าบนไม้กางเขน (การรับทรมาน
การสิ้นพระชนม์ และการกลับคืนพระชนมชีพ) บนไม้กางเขนที่เขากัลป์วารีโอ พระเยซูเจ้าทรงสิ้นพระชนม์เพื่อไถ่กู้เรา
ในบูชามิสซาที่เราถวายแด่พระบิดาบนพระแท่น
พระเยซูเจ้าได้โปรดประทานผลแห่งการกอบกู้ให้แก่เรา การถวายบูชาใดๆ
ทั้งหลายในอดีตรวมกันยังไม่เป็นการเพียงพอที่จะชดเชยบาปของเราได้
มีแต่การถวายบูชามิสซาของพระเยซูเจ้าเท่านั้นที่นำมาซึ่งความเต็มเปี่ยมของการกอบกู้
บางคนอาจจะกล่าวว่าการถวายบูชาของพระเยซูเจ้าบนไม้กางเขนก็เป็นความสมบูรณ์แล้ว
และก็เป็นการเพียงพอแล้วสำหรับการไถ่ให้รอด จึงไม่จำเป็นต้องอาศัยการถวายบูชาใดๆ
อื่นอีก ซึ่งก็ถูกเพียงบางส่วน
เพราะการถวายบูชาในมิสซานั้นเราทำการระลึกถึงการถวายของพระเยซูเจ้าบนไม้กางเขน
และทำให้เรามีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับชีวิตและการถวายของพระเยซูเจ้า
ทำให้เรามีชีวิตที่เป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์
ได้สัมผัสถึงการไถ่ให้รอดของพระองค์อย่างใกล้ชิด
ทำให้ชีวิตของเรามีความหวังในความรอดที่พระองค์ทรงนำมาให้กับเรา
ดังนั้นแล้ว จึงไม่มีการถวายบูชาใดๆ ที่จะเข้ามาเทียบได้กับการถวายบูชาของพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิทที่เราได้มีโอกาสร่วมและเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ผ่านทางศีลมหาสนิทที่เราได้รับด้วยความตั้งใจและการเตรียมตัวอย่างดีเสมอ
ซึ่งเมื่อรู้อย่างนี้แล้วเราคงมีความปรารถนาที่จะมาร่วมพิธีมิสซาทุกวันอาทิตย์และทุกโอกาสที่เราสามารถมาร่วมได้ด้วยใจที่กระตือรือร้นและเปี่ยมไปด้วยความสุขแห่งพระพรที่เราได้รับผ่านทางพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์
ซึ่งเป็นผลมาจากความรักของพระเจ้าที่ทรงมีต่อเรา
เราจึงรู้สึกขอบพระคุณต่อความรักของพระเจ้าเสมอๆ ในพิธีมิสซาอันศักดิ์สิทธิ์
ขอพระเจ้าอวยพรพี่น้อง
คพ.ศวง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น