“กำลังใจคืออะไร?”
สวัสดีครับพี่น้อง
Coeur เป็นคำในภาษาฝรั่งเศส แปลว่า “ใจ”
เมื่อเราพูดถึงกำลังใจ
เราพูดถึง “ความเข้มแข็งของใจ”
หรือ “ใจกล้า”
ครับเรากำลังพูดถึง
ใจที่เข้มแข็งในยามที่ต้องเผชิญกับสิ่งที่น่าหวาดเกรง หรือ ในภาวะที่ต้องเผชิญกับความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่
จะมีใครบ้างที่อดชื่นชมไม่ได้ เมื่อได้พบกับผู้ที่เคยผ่านความทุกข์ยากอย่างแสนสาหัส เช่นภาวะสงครามด้วยหัวใจที่เข้มแข็งไม่ย่อท้อ หรือได้พบกับคนที่ต้องเจ็บป่วยอย่างหนัก หรือ ต้องสูญเสียอวัยวะจนต้องพิการ แต่ยังคงมีจิตใจที่เข้มแข็ง หรือ พ่อแม่ที่ต้องยอมรับกับความจริงที่ลูกผู้เป็นที่รักต้องมาสูญเสียชีวิตจากไปอันเนื่องมาจากสาเหตุต่างๆ แต่ยังคงมีกำลังใจดี หรือบางคนที่เรารู้จักต้องล้มเหลวทางธุรกิจ แต่ไม่เสียอกเสียใจถึงขนาดหมดกำลังใจ หรือ บางคนที่ต้องตกงาน ไม่มีเงินเหลือเพียงพอจะอดออมไว้สำหรับอนาคต แต่ยังคงใจสู้ไม่งอมืองอเท้ากล้าที่จะเริ่มต้นกันใหม่ แม้ว่าเราไม่สามารถจะช่วยเหลืออะไรเขาเหล่านั้นได้ แต่เราก็อดชื่นชมเขาไม่ได้
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ทำให้คิดถึงน้องธันย์ หรือ ณิชชารีย์ เป็นเอกชนะศักดิ์ ที่ประสบอุบัติเหตุพลัดตกลงไปในรางรถไฟฟ้าที่ประเทศสิงคโปร์สูญเสียขาทั้งสองข้างไป แต่เธอกลับมีกำลังใจดีเยี่ยม ยิ้มสู้เสมอ ไม่ย่อท้อกับโชคชะตาของชีวิต เป็นหญิงหัวใจแกร่ง มีทัศนคติที่ผู้ใหญ่ยังยกนิ้วให้ เธอกลายเป็นแรงบันดาลใจของใครๆอีกมากมาย ใครๆที่ได้ยินเรื่องของเธอต่างก็ชื่นชมในตัวน้องธันย์ผู้นี้กันทั้งนั้น
ในอดีตคนแบบนี้แหละที่สามารถก้าวไปจนบรรลุถึงการกระทำที่เป็นขั้น “วีรกรรม” เป็น “วีรบุรุษ วีรสตรี” อย่างที่ในศาสนาคริสต์ เรายกย่องผู้ที่มีใจหาญกล้า มีความเชื่อในพระเจ้าอย่างเข้มแข็ง ไม่หวั่นแม้ว่าจะต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่จะต้องสูญเสียชีวิต
แต่ไม่ยอมสูญเสียความเชื่อ ว่า “นักบุญ” เพราะเขาเหล่านั้นสามารถเผชิญกับความทุกข์ยากใหญ่หลวงได้ถึงขั้นการพลีชีพเป็น “มรณะสักขี”
เราทั้งหลายต่างก็ดำรงชีวิตอยู่และมีประสบการณ์กับการ “สูญเสีย”
ในหลายรูปแบบ เมื่อเราหันมาคิดพิจารณากันอย่างถ่องแท้ เราพบว่าชีวิตเราต่างก็เผชิญกับการสูญเสียกันทั้งนั้น แม้แต่ “กำลังใจ”
ก็ไม่เว้น เพราะบางทีเราก็สูญเสียกำลังใจไปเหมือนกัน สำหรับพ่อ พ่อคิดว่าหลายครั้งก็ยากที่จะเข้าใจว่า สำหรับผู้ที่ไม่ได้มีความเชื่อในพระเจ้า ในยามที่เขาต้องเผชิญกับการสูญเสีย เขาแสวงหากำลังใจจากที่ไหนมาเป็นเครื่องค้ำจุนชีวิตให้ก้าวต่อไป พ่อคิดว่าสำหรับเราคริสตชนความเชื่อในพระเจ้า ความเชื่อในพระเยซูเจ้า ผู้มารับสภาพมนุษย์ เป็นเสมือนพลังพิเศษที่ช่วยให้เรามีกำลังใจมหาศาลเพื่อเราจะยืนหยัดอย่างเข้มแข็งกับเรื่องราวต่างๆที่ถาโถมผ่านเข้ามาในชีวิตของเรา
ในฐานะที่เราเป็นคริสตชน เราจำเป็นที่จะต้องมี “ความเด็ดเดี่ยวชัดเจนด้านศีลธรรม” ความใจกล้าเยี่ยงนี้แหละที่ช่วยให้เรายืนหยัดดำรงชีวิตอย่างบริสุทธิ์ในท่ามกลางกระแสสังคมที่กำลังตกต่ำทางด้านศีลธรรมอย่างน่าเป็นห่วง สำหรับพ่อคิดว่าความ “ใจกล้า” ไม่ได้เป็นสิ่งที่ได้มาแบบชิวชิว เพราะเราต้องมี หลักศีลธรรมที่แน่วแน่มั่นคงในชีวิตของเราเสียก่อน เพื่อเราจะสามารถทัดทานกับคำวิพากษ์วิจารณ์ของคนอื่นได้ ในยามที่เรามุ่งมั่นปฏิบัติตามค่านิยมที่ถูกต้อง แต่ย้อนทวนกระแสความคิดของผู้คนทั่วไป ความใจกล้าไม่ได้เป็นเพียงคุณธรรมที่น่าชื่นชมเท่านั้น
แต่ความใจกล้ายังเป็นคุณธรรมที่ขาดเสียไม่ได้ในชีวิตของเรา
เพราะถ้าไม่มีคุณธรรมประการนี้ เราจะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ และ ด้วยเหตุนี้เองที่เรามีรูปพระเยซูถูกตรึงกางเขน แขวนเด่นเป็นสง่าอยู่กลางวัดของเรา เพราะเครื่องหมายกางเขนเตือนใจเราให้เราระลึกเสมอว่า เราเป็นใคร? และ เราควรครองชีวิตของเราอย่างไร?
วันนี้เริ่มต้นด้วย “กำลังใจ” แต่ มาจบด้วย “ใจกล้า” เพราะทั้งสองคำมีความหมายในทำนองเดียวกัน ต่างกันที่ระดับความเข้มข้นเท่านั้นเอง
พ่อสุพจน์
...................................................................................................................................................................
สวัสดีครับพี่น้องที่รักทุกท่าน
อาทิตย์นี้เป็นอาทิตย์ที่เราสมโภชพระตรีเอกภาพ
หลังจากที่เราสมโภชพระจิตเจ้าเสด็จลงมา
และต่อไปในสัปดาห์หน้าเราก็จะสมโภชพระกายและพระโลหิตของพระคริสตเจ้า
(แห่ศีลมหาสนิท)
ในโอกาสที่เราสมโภชพระตรีเอกภาพ
ทำให้เราคริสตชนได้หันกลับมารื้อฟื้นความเชื่อของตนที่ได้รับมาผ่านทางศีลล้างบาปในพระนามของพระบิดา
และพระบุตร
และพระจิต
พระธรรมล้ำลึกแห่งพระตรีเอกภาพถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางแห่งความเชื่อและชีวิตของคริสตชน
เป็นต้นกำเนิดแห่งพระธรรมล้ำลึกแห่งความรอดซึ่งเกี่ยวข้องกับมนุษย์โดยตรง
แม้จะมีสามพระบุคคลแต่เพราะความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น
พระเจ้าหนึ่งเดียวจึงไม่มีการแบ่งแยกเอกภาพของพระเจ้า
ทุกสิ่งที่พระบิดาหรือพระบุตรหรือพระจิตทรงกระทำในแผนการแห่งความรอด
ก็เป็นการกระทำร่วมกันของทั้งสามพระบุคคล
ด้วยเหตุนี้
ชีวิตคริสตชนของเราจึงเป็นการร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับแต่ละพระบุคคลในพระตรีเอกภาพและเป็นหนึ่งเดียวกันกับเพื่อนพี่น้องของเราด้วย
แม้ว่าในความเป็นแต่ละบุคคลของเราแต่ละคนจะทำให้เราแต่ละคนมีความแตกต่างกัน
มีเอกลักษณ์ของแต่ละคน
ซึ่งอันนี้เราจะเห็นได้ว่าไม่มีใครมีซ้ำเหมือนใครได้
เช่น
ลายนิ้วมือ
ม่านตา
ดีเอ็นเอ
เป็นต้น
รวมไปถึงลักษณะนิสัยใจคอ
อากัปกิริยาท่าทางต่างๆ
สิ่งต่างๆ
เหล่านี้ล้วนแสดงความเป็นบุคคลของแต่ละคน
ซึ่งในความแตกต่างของแต่ละบุคคลจะต้องไม่ทำให้เกิดความแตกแยกกันขึ้นมา
เหมือนกับการสร้างบ้านที่ต้องการวัสดุอุปกรณ์ที่หลากหลายมากมายมาประกอบกัน
ไม่ว่าจะเป็นหิน
ดิน
ทราย
ไม้
เหล็ก
กระเบื้อง
ฯลฯ
วัสดุบางอย่างต้องถูกแปรรูปเปลี่ยนไปเพื่อการสร้างบ้าน
วัสดุบางอย่างถูกปิดซ่อนเอาไว้เรามองไม่เห็น
วัสดุบางอย่างมีชิ้นเล็กๆ
แต่ก็มีความสำคัญ
เช่น
ตะปูหรือนอต
วัสดุทุกอย่างมีความสำคัญตามแต่ละบทบาทหน้าที่ของตน
แต่เมื่อรวมเข้าทำงานร่วมกันก่อให้เกิดสิ่งมหัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่ได้
คือ
บ้านที่สวยงาม
น่าอยู่
และเป็นประโยชน์ใช้สอยสำหรับมนุษย์
ฉะนั้นเราจึงเห็นได้ว่ามนุษย์เราสามารถที่จะรวมเป็นหนึ่งเดียวกันได้ที่จะสร้างสรรค์โลกของเราให้น่าอยู่
ทำให้สังคมของเราเป็นสังคมที่น่ารักและน่าอยู่อาศัย
มีความสงบ
สันติ
มีความรักและเป็นหนึ่งเดียวกันได้
ถ้าหากเราใช้ความหลากหลายของเราให้เป็นประโยชน์ในการร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งดีๆ
ให้เกิดขึ้น
ไม่ใช่สังคมของต่างคนต่างอยู่
วัดของเราก็เช่นเดียวกันที่เราแต่ละคนสามารถที่จะทำให้เป็นสถานที่ที่น่าอยู่
เป็นสถานที่ของการภาวนาต่อพระเจ้า
และมีบรรยากาศของความรักความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและเป็นพี่เป็นน้องกันได้หากเราแต่ละคนรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน
คุณพ่อศวง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น