สมโภชพระนางมารีย์รับเกียรติเข้าสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ
วันนี้เป็นสัปดาห์ที่สามสำหรับการเตรียมฉลองวัด
ด้วยการสมโภชแม่รับเกียรติเข้าสู่สวรรค์ และเป็นวันรำลึกถึงพระสังฆราชมิเชลลังเยร์
เจ้าอาวาสองค์แรกของวัดเซนต์หลุยส์ตามบันทึกของหอจดหมายเหตุของสังฆมณฑลกรุงเทพฯระบุว่า
“...วันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 1957 พระสังฆราชโชแรง สร้างวัดเซนต์หลุยส์
สาทร เสร็จเรียบร้อย คุณพ่อมิเชลลังเยร์ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดเซนต์หลุยส์
สาทร เป็นองค์แรก...” จึงสมควรอย่างยิ่งในวันนี้ฉลองแม่พระอัสสัมชัญ ขอน้อมรำลึกนึกถึงพระคุณพระคุณเจ้าซึ่งเป็นเจ้าอาวาสองค์แรกและผู้เริ่มก่อตั้งสถานศึกษาเซนต์หลุยส์
ซึ่งปัจจุบันคือโรงเรียนเซนต์หลุยส์ และบางส่วนกลายเป็นวิทยาลัยเซนต์หลุยส์
การฉลองวัดในปีนี้ทำให้เรามีโอกาสนึกถึงพระคุณของบรรดามิชชันนารีผู้เริ่มต้นงานของโรงพยาบาล
วัดและโรงเรียนที่เราเห็นถึงความเจริญในวันนี้
ขอเชิญชวนพี่น้องขอบพระคุณพระเจ้าในมิสซาเพื่อระลึกถึงผู้มีพระคุณเหล่านี้
ด้วยการเป็นประจักษ์พยานรักรับใช้และเมตตา ตามเจตนารมณ์ของผู้เริ่มต้น
ทั้งนี้เพื่อให้งานประกาศข่าวดีเจริญเติบโตขยายวงออกไปในเขตปริมณฑล
กำหนดการฉลองวัดเซนต์หลุยส์วันอาทิตย์ที่
25 สิงหาคม 2019 เวลา 10.00 น.
มิสซาเช้า 06.00 น. ตามปกติ (งดรอบ 8.00 น.และ 12.00 น.)มิสซาเย็น
17.30 น. ตามปกติ
มิสซาฉลองเวลา 10.00 น.เริ่มพิธี(ประธาน คุณพ่อปีแอร์ลาบอรี่)
หมายเหตุ
มิสซาฉลองภายในและมีแห่รอบวัด วันเสาร์เวลา 17.30 น.(ประธานคุณพ่อปิยะชาติ
มกรครรภ์)
เดือนสิงหาคมเป็นเดือนล้อมรอบพระแท่นใหญ่
โอกาสเตรียมฉลองวัดในช่วงเวลาพิเศษ 350 ปีของพระศาสนจักรในประเทศไทย(มิสซังสยาม)
ทีมฉลองวัดในปีนี้คือการระลึกนึกถึงบรรดามิชชันนารี่ ผู้บุกเบิกชุมชนความเชื่อของวัดเซนต์หลุยส์
เมื่อสัปดาห์แรก 4 สิงหาคม เราได้รำลึกถึงพระสังฆราชหลุยส์เวย์ผู้ซื้อที่ดินบริเวณเซนต์หลุยส์ทั้งหมด
ขอบพระคุณพระเป็นเจ้าที่เรามีที่อยู่อาศัยในทำเลที่ดีมากและได้ใกล้ชิดพระเป็นเจ้ากับสถานที่ทำงาน
สัปดาห์ที่สอง 11 สิงหาคม เราได้รำลึกถึงพระสังฆราชหลุยส์โชแลง ผู้ก่อสร้างวัดเซนต์หลุยส์
สารวัดฉบับบนี้ได้แทรกรายละเอียดชีวิตและการเริ่มงานสำคัญของพระศาสนจักร
เป็นพิเศษคือบริเวณวัดที่มีแต่ความเจริญกายและจิตใจ
โดยเฉพาะวัดเซนต์หลุยส์กลายเป็นสถานที่รวมครอบครัวอันหลากหลายที่เจริญลูกหลานจวบจนถึงทุกวันนี้และเมื่อวันอังคารที่
13 สิงหาคม เวลา 17.30 น.เรามีมิสซาร่วมกันที่วัดอัสสัมชัญเพื่อเคารพหลุมศพพระคุณเจ้าทั้งสอง
สัปดาห์ที่สาม 18 สิงหาคม ในวันนี้เราจะรำลึกถึงพระสังฆราชมีแชลลังเยร์
เจ้าอาวาสวัดเซนต์หลุยส์องค์แรก ผู้เริ่มสถานศึกษาทั้งเด็กชายและเด็กหญิง
เพื่อเห็นแก่ความรอดทางด้านวิญญาณพร้อมๆกับความเจริญทางด้านสติปัญญา
มีหลายคนที่ได้ประสบความสำเร็จก็เพราะสถานศึกษาแห่งนี้
วันอาทิตย์หน้าเวลา 10.00 น.เรามีนัดกันเพื่อเฉลิมฉลองวัดอย่างพร้อมเพรียงกัน
คุณพ่อชาญชัย ทิวไผ่งาม
บอกกล่าว เล่าเรื่อง
“สะท้อนเขา สะท้อนเรา”
ทุกวันนี้ดูเหมือนสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งเวลาที่ขับขี่อยู่บนท้องถนน
นอกจากตัวรถยนต์ อุปกรณ์ความปลอดภัยต่างๆที่ควรมี
สิ่งที่สำคัญอีกอย่างก็คือกล้องบันทึกหน้ารถ จะสำหรับรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ก็กลายเป็นสิ่งหนึ่งที่หลาย
ๆ คนนำมาใช้ เพื่อช่วยในเรื่องความปลอดภัยเวลาขับขี่ เป็นต้นเวลาที่มีปัญหาต่าง ๆ
เวลามีอุบัติเหตุ เจ้ากล้องเหล่านี้ก็จะช่วยไขข้อข้องใจต่าง ๆ
เป็นหลักฐานสำคัญที่จะเป็นพยานให้กับเจ้าของรถนั้นได้อย่างชัดเจน เราเห็นได้จากข่าวต่าง
ๆ ทุกวันนี้ก็อาศัยเจ้ากล้องหน้ารถนี่ละเป็นแหล่งข่าวสำคัญ
เป็นต้นเรื่องเกี่ยวกับอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยได้ดีทีเดียวจากหลาย ๆกรณีที่ผ่านมา
ได้ดูข่าวเมื่อไม่นานมานี้
เป็นข่าวที่เราเห็นกันบ่อย ๆ เรื่องคนหัวร้อน ครั้งนี้เป็นเรื่องของชายขับขี่รถจักรยานยนต์แล้วเจอรถเลี้ยวตัดหน้า
แม้ไม่ได้มีอุบัติเหตุอะไรเกิดขึ้น แต่ผู้ขี่รถจักรยานยนต์คันนั้นขับตามรถยนต์คันดังกล่าวทันที
พร้อมถ้อยคำด่าสารพัดต่อผู้ขับรถยนต์คันนั้น ภาพที่เห็นคือคนขับรถยนต์ยกมือกล่าวขอโทษแต่ผู้ขี่รถจักรยานยนต์คันนั้นก็ด่าว่าอีกนิดหน่อยจนคิดว่าเพียงพอจึงแยกย้ายกันไป
ภาพทุกอย่างถูกบันทึกในกล้องตัวเล็กของผู้ขี่รถจักรยานยนต์คันนั้นและตัวเขาเองก็โพสต์คลิปนั้นเพื่อต่อว่ารถคันดังกล่าวที่เลี้ยวแบบไม่ระวัง
ผู้คนในโลกโซเชียลเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก หลายคนต่อว่าคนขี่รถจักรยานยนต์ที่ใช้ถ้อยคำที่ไม่ดี
และดูเหมือนแสดงการคุกคามกับอีกฝ่ายที่ดูเหมือนยอมรับผิด
บางคนก็ต่อว่ารถยนต์คันนั้นที่ประมาท ฯลฯ
จากคลิปวีดีโอนี้ที่น่าจะเป็นหลักฐานและเป็นประโยชน์สำหรับผู้เสียหายนั่นคือ
ผู้ขี่รถจักรยานยนต์ แต่ดูเหมือนคลิปวีดีโอกลายเป็นเครื่องประจานพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
ที่อาจดูใช้อารมณ์จนเกินไป จนมีผู้ไม่เห็นด้วยมากมายแม้เขาเองอาจไม่ได้เป็นผู้กระทำผิดในสถานการณ์นี้
แต่พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมมันสะท้อนชัดเจนผ่านวีดีโอที่ตัวเขาเองนั่นแหละเป็นผู้บันทึกจน
กระทั่งมีผู้คนมากมายไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมดังกล่าว
พ่อไม่ได้สรุปว่าใครจะผิดจะถูกในสถานการณ์นี้
แต่สิ่งนี้ที่มันเป็นความเป็นจริงประการหนึ่งก็คือ
กล้องหน้ารถมันบันทึกสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้าเราจากมุมมองที่เราเห็น แต่มันไม่ได้สะท้อนภาพตัวของเราในขณะนั้นที่หลายครั้งกลายเป็นผู้ต้องหา
ไม่ใช่จากความผิด แต่จากพฤติกรรมของเราเอง ซึ่งเรามักมองไม่เห็นตนเองในมุมนี้ แต่เป็นมุมที่คนอื่นอาจมองเห็น
ชีวิตจริงของเราก็อาจไม่ต่างกันนัก
เรามองเห็นความผิดพลาดของคนอื่นใหญ่เสมอ จากมุมมองของเรา
แต่เรามักไม่ค่อยมองสะท้อนมุมเดียวกันมาที่ตัวของเรา สิ่งที่เรานำเสนอจึงกลายเป็นหลักฐานประจานตัวของเราเอง
โดยที่เราไม่ทันรู้ตัว เป็นเรื่องดีถ้าเราจะสะท้อนตัวของเราเองในมุมมองเดียวกัน ก่อนที่เราจะตัดสินผู้อื่นจากมุมมองของเรา
ปลัดวัดสาทร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น