สารวัดวันอาทิตย์ที่
5 พฤษภาคม 2019
สัปดาห์ที่สามเทศกาลปัสกา
พี่น้องที่รัก...
ผ่านพ้นไปสำหรับการเรียนคำสอนภาคฤดูร้อน
ปีนี้มีความพร้อมและเด็กรักกันสนุกสนาน มีความเป็นครอบครัวทั้งคุณพ่อ
ครูคำสอนและเด็กทั้งเยาวชนและผู้เรียนคำสอน ปีหน้ารับรองว่าเข้มข้นมากขึ้น
ขอบรรดาพี่เลี้ยง
พ่อแม่ทูนหัวของคริสตชนใหม่
ได้เป็นผู้ส่งเสริมและสนับสนุนให้เขาได้มาวัดและปฏิบัติตนอย่างคุ้นเคยและใกล้ชิดกับคริสตชนเดิมอย่างเป็นหนึ่งเดียว
วิถีชุมชนวัดอย่าลืมนะครับเดือนพฤษภาคมเป็นเดือนของท่าน
กลุ่มวิถีชุมชนของวัดเซนต์หลุยส์โปรดสร้างความเข้าใจและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องได้เรียนรู้และมีประสบการณ์ของการศึกษาพระวาจา
การใช้ชีวิตการแบ่งปัน และการสวดภาวนาด้วยกัน หลังจากนั้นในวันอาทิตย์ที่ 19
บรรดากลุ่มเหล่านี้จะได้เริ่มปรับการเจริญชีวิตด้วยกันให้มีขอบฟ้าใหม่และออกไปที่ลึกๆให้มากขึ้นเพื่อการนำพระวาจาของพระเยซูเจ้าไปสู่บุคคลอื่นๆมากขึ้น
วันเสาร์ที่ 11 และอาทิตย์ที่ 12
พฤษภาคม บรรดาสมาชิกสภาภิบาลวัดและกลุ่มองค์ต่างๆของวัดเท่าที่สามารถไปร่วมสัมมนาประจำปีของวัด
เพื่อปรับทิศทางการทำงานให้มุ่งหน้าชัดเจนกับการเฉลิมฉลอง 350
ปีมิสซาสยามและหรือกลุ่มคริสตชนของวัดเซนต์หลุยส์ที่ยาวนานนับตั้งแต่มีโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์
120 ปี พวกเราจะเริ่มทำให้ชุมชนในละแวกนี้กลายเป็นสถานที่ประกาศความรักของพระเยซูคริสตเจ้าอย่างเป็นรูปธรรมทั้งการสุขภาพ
การศึกษาและเมตตาสงเคราะห์ ขอให้การสัมมนาครั้งนี้ได้ประสบผลสำเร็จ
วันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม
นับเป็นวันสำคัญยิ่งของพระศาสนจักรไทย เพราะการเริ่มต้นการนำข่าวดีหรือพระวาจาของพระเยซูเจ้าเข้ามาในดินแดนสยามเป็นเวลา
350 ปีมาแล้ว จึงเป็นเวลาที่ดีที่พวกเราจะไปร่วมงานที่บ้านเณรเล็ก ยอแซฟ สามพราน
ในวันดังกล่าวเพื่อขอบพระคุณพระเจ้าและภาวนาให้กับประเทศไทยเพื่อทำให้เมล็ดพันธุ์พระวาจาจากบรรดาผู้หว่านในอดีตคือมิชชันนารีที่อุทิศตนทั้งกายและใจ
บางท่านยังมีชีวิตอยู่ ได้เขามาทำงานในประเทศไทย
และบางท่านเหลือเพียงแต่ร่างที่ฝังลงในเนื้อนาบุญ
จนกลายเป็นวัดและชุมชนความเชื่อที่ยังเป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ โปรดดูตารางเวลาหน้าวัดเพื่อการร่วมฉลองงาน
ตลอดเดือนนี้นอกจากการเอาใจใส่แนวทางวิถีชุมชนวัด
เราจะสวดสายประคำด้วยกันหลังจบมิสซาเย็น 17.30 น.
ขอเชิญชวนมาสวดพร้อมกับแม่พระเพื่อทำตามพระประสงค์ของพระเป็นเจ้าด้วยกัน
การเรียนคำสอนเตรียมตัวเป็นคริสตชน
เฉพาะผู้ใหญ่ จะเริ่มเรียนตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันสมโภชพระจิตเจ้า ผู้ใดสนใจโปรดลงใบสมัครด้วย
นับตั้งบัดนี้เป็นต้นไป
ส่วนผู้เป็นคริสตชนผู้ใหญ่ที่พร้อมด้วยเวลาและคุณสมบัติของการเป็นพี่เลี้ยงผู้เรียน
โปรดแจ้งความจำนงได้ที่พระสงฆ์ของวัดเพื่อการรับสมัครท่านเข้ามาในการเรียนการสอนคำสอนในโอกาสนี้ด้วย
คุณพ่อชาญชัย
ทิวไผ่งาม
"หัวใจของพระเยซู
ผู้ที่พระบิดาทรงยกย่อง."
ข้าพเจ้าเห็นและได้ยินเสียงทูตสวรรค์ และสิ่งสร้างทั้งมวลร้องสรรเสริญเสียงดังว่า ลูกแกะที่ถูกประหารชีวิตแล้วนั้น ทรงเป็นผู้สมควรได้รับพระอานุภาพ ทรัพย์ศฤงคาร พระปรีชาญาณ พระพลานุภาพ พระเกียรติยศ พระสิริรุ่งโรจน์และคำถวายพระพร..... ผู้มีชีวิตทั้งสี่ตนพูดว่า “อาเมน” และบรรดาผู้อาวุโสก็กราบนมัสการ (วว 5:11-12,14)
ลูกแกะของพระเจ้า
ผู้ยอมพลีพระชนม์เพื่อลบล้างบาปของเรา" "ลูกแกะของพระเจ้า" ผู้นี้
คือ องค์พระเยซูคริสตเจ้าของเรา
มองดูทั่วไปพระองค์ทรงยิ่งใหญ่ถึงขั้นทั่วทั้งในสวรรค์และโลกต้องกราบไหว้นมัสการพระองค์
เพราะพระอานุภาพ เพราะพระธรรมชาติพระเจ้าของพระองค์
แต่ด้วยเนื้อแท้แล้ว
ความยิ่งใหญ่แท้จริงของพระองค์ กลับอยู่ที่ "หัวใจของพระองค์" เป็นดวงหทัยที่สุภาพน้อมรับน้ำพระทัยพระบิดา อีกทั้งเป็นดวงหทัยที่เต็มเปี่ยมด้วยความกรุณา
แม้ว่าพระองค์ทรงมีธรรมชาติพระเจ้า พระองค์ก็มิได้ทรงถือว่าศักดิ์ศรีเสมอพระเจ้านั้นเป็นสมบัติที่จะต้องหวงแหน แต่ทรงสละพระองค์จนหมดสิ้นทรงรับสภาพดุจทาส
เป็นมนุษย์ดุจเรา ทรงแสดงพระองค์ในธรรมชาติมนุษย์
ทรงถ่อมพระองค์จนถึงกับทรงยอมรับแม้ความตาย เป็นความตายบนไม้กางเขน (ฟป 2:6-8)
พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า
“มากินอาหารกันเถิด” ไม่มีศิษย์คนใดกล้าถามว่า “ท่านเป็นใคร”
เพราะรู้ว่าเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า
พระเยซูเจ้าทรงเข้ามาหยิบขนมปังแจกให้เขา
แล้วทรงแจกปลาให้เช่นเดียวกัน....
พระองค์ตรัสถามเป็นครั้งที่สามว่า “ซีโมน บุตรของยอห์น
ท่านรักเราไหม”
เปโตรรู้สึกเป็นทุกข์ที่พระองค์ตรัสถามตนถึงสามครั้งว่า “ท่านรักเราไหม”
เขาทูลตอบว่า “พระเจ้าข้า พระองค์ทรงทราบทุกสิ่ง
พระองค์ทรงทราบว่าข้าพเจ้ารักพระองค์” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า
“จงเลี้ยงดูแกะของเราเถิด”
(ยน 21:12-13,17)
หัวใจที่เปี่ยมล้นไปด้วยพระเมตตารักนี้
เอาชนะหัวใจของบรรดาศิษย์ บรรดาอัครสาวก เป็นพิเศษหัวใจของนักบุญเปโตร แม้จะมีความอ่อนแอตามประสามนุษย์
แต่พระเมตตารักก็มีพลัง มีพระอานุภาพล้นเหลือที่จะดึงหัวใจเรา เผชิญหน้า
และผ่านความมืดมิดและสิ้นหวังจากบาปร้ายไปสู่แสงสว่าง สิริรุ่งโรจน์ของพระบิดาได้
วันนี้ พระองค์ไม่ได้เพียงแค่ถามเปโตรเท่านั้น...พระองค์ตรัสถามเราด้วย
ว่า “ท่านรักเราไหม” พระองค์ถามเรา
ถามพ่อและถามพี่น้องทุกคนด้วย
แล้วเราจะตอบรับกับพระว่าอย่างไรดี อย่างที่เปโตรได้ตอบไหม เปโตรและบรรดาอัครสาวกตอบว่า
“เราต้องเชื่อฟังพระเจ้ายิ่งกว่าเชื่อฟังมนุษย์"..... บรรดาอัครสาวกออกจากสภาซันเฮดริน มีความยินดีที่ได้รับเกียรติที่ถูกสบประมาทเพราะพระนามพระเยซูเจ้า (กจ 5:29,41)
คำตอบที่ตอบรับพระเยซูได้ชัดเจนและดีเยี่ยมที่สุดคือ.... “จงเลี้ยงดูแกะของเราเถิด”
ให้เราเชื่อมั่นในพระเยซูเจ้า เชื่อฟังพระองค์ยิ่งกว่าเชื่อฟังมนุษย์ ยังคงกล้าที่จะแบ่งปันและรักดูแลพี่น้องรอบข้าง
เป็นพิเศษพี่น้องผู้ยากไร้ พี่น้องผู้ตกทุกข์ได้ยาก แม้ต้องเผชิญหน้าการถูกท้าทาย ถูกทำร้าย
ถูกเบียดเบียน หรือถูกสบประมาท เพราะเรายอมรับและเผชิญหน้า เพื่อพระนามของพระองค์.
นกขุนทอง.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น