วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2019


สารวัดวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2019
สัปดาห์ที่สามเทศกาลปัสกา

พี่น้องที่รัก...
       
        ผ่านพ้นไปสำหรับการเรียนคำสอนภาคฤดูร้อน ปีนี้มีความพร้อมและเด็กรักกันสนุกสนาน มีความเป็นครอบครัวทั้งคุณพ่อ ครูคำสอนและเด็กทั้งเยาวชนและผู้เรียนคำสอน ปีหน้ารับรองว่าเข้มข้นมากขึ้น
       ขอบรรดาพี่เลี้ยง พ่อแม่ทูนหัวของคริสตชนใหม่ ได้เป็นผู้ส่งเสริมและสนับสนุนให้เขาได้มาวัดและปฏิบัติตนอย่างคุ้นเคยและใกล้ชิดกับคริสตชนเดิมอย่างเป็นหนึ่งเดียว
        วิถีชุมชนวัดอย่าลืมนะครับเดือนพฤษภาคมเป็นเดือนของท่าน กลุ่มวิถีชุมชนของวัดเซนต์หลุยส์โปรดสร้างความเข้าใจและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องได้เรียนรู้และมีประสบการณ์ของการศึกษาพระวาจา การใช้ชีวิตการแบ่งปัน และการสวดภาวนาด้วยกัน หลังจากนั้นในวันอาทิตย์ที่ 19 บรรดากลุ่มเหล่านี้จะได้เริ่มปรับการเจริญชีวิตด้วยกันให้มีขอบฟ้าใหม่และออกไปที่ลึกๆให้มากขึ้นเพื่อการนำพระวาจาของพระเยซูเจ้าไปสู่บุคคลอื่นๆมากขึ้น
        วันเสาร์ที่ 11 และอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม บรรดาสมาชิกสภาภิบาลวัดและกลุ่มองค์ต่างๆของวัดเท่าที่สามารถไปร่วมสัมมนาประจำปีของวัด เพื่อปรับทิศทางการทำงานให้มุ่งหน้าชัดเจนกับการเฉลิมฉลอง 350 ปีมิสซาสยามและหรือกลุ่มคริสตชนของวัดเซนต์หลุยส์ที่ยาวนานนับตั้งแต่มีโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ 120 ปี พวกเราจะเริ่มทำให้ชุมชนในละแวกนี้กลายเป็นสถานที่ประกาศความรักของพระเยซูคริสตเจ้าอย่างเป็นรูปธรรมทั้งการสุขภาพ การศึกษาและเมตตาสงเคราะห์ ขอให้การสัมมนาครั้งนี้ได้ประสบผลสำเร็จ
        วันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม นับเป็นวันสำคัญยิ่งของพระศาสนจักรไทย เพราะการเริ่มต้นการนำข่าวดีหรือพระวาจาของพระเยซูเจ้าเข้ามาในดินแดนสยามเป็นเวลา 350 ปีมาแล้ว จึงเป็นเวลาที่ดีที่พวกเราจะไปร่วมงานที่บ้านเณรเล็ก ยอแซฟ สามพราน ในวันดังกล่าวเพื่อขอบพระคุณพระเจ้าและภาวนาให้กับประเทศไทยเพื่อทำให้เมล็ดพันธุ์พระวาจาจากบรรดาผู้หว่านในอดีตคือมิชชันนารีที่อุทิศตนทั้งกายและใจ บางท่านยังมีชีวิตอยู่ ได้เขามาทำงานในประเทศไทย และบางท่านเหลือเพียงแต่ร่างที่ฝังลงในเนื้อนาบุญ จนกลายเป็นวัดและชุมชนความเชื่อที่ยังเป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ โปรดดูตารางเวลาหน้าวัดเพื่อการร่วมฉลองงาน
        ตลอดเดือนนี้นอกจากการเอาใจใส่แนวทางวิถีชุมชนวัด เราจะสวดสายประคำด้วยกันหลังจบมิสซาเย็น 17.30 น. ขอเชิญชวนมาสวดพร้อมกับแม่พระเพื่อทำตามพระประสงค์ของพระเป็นเจ้าด้วยกัน
        การเรียนคำสอนเตรียมตัวเป็นคริสตชน เฉพาะผู้ใหญ่ จะเริ่มเรียนตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันสมโภชพระจิตเจ้า ผู้ใดสนใจโปรดลงใบสมัครด้วย นับตั้งบัดนี้เป็นต้นไป  ส่วนผู้เป็นคริสตชนผู้ใหญ่ที่พร้อมด้วยเวลาและคุณสมบัติของการเป็นพี่เลี้ยงผู้เรียน โปรดแจ้งความจำนงได้ที่พระสงฆ์ของวัดเพื่อการรับสมัครท่านเข้ามาในการเรียนการสอนคำสอนในโอกาสนี้ด้วย

คุณพ่อชาญชัย  ทิวไผ่งาม


"หัวใจของพระเยซู ผู้ที่พระบิดาทรงยกย่อง."

            ข้าพเจ้าเห็นและได้ยินเสียงทูตสวรรค์ และสิ่งสร้างทั้งมวลร้องสรรเสริญเสียงดังว่า ลูกแกะที่ถูกประหารชีวิตแล้วนั้น ทรงเป็นผู้สมควรได้รับพระอานุภาพ ทรัพย์ศฤงคาร พระปรีชาญาณ พระพลานุภาพ พระเกียรติยศ พระสิริรุ่งโรจน์และคำถวายพระพร..... ผู้มีชีวิตทั้งสี่ตนพูดว่า “อาเมน” และบรรดาผู้อาวุโสก็กราบนมัสการ (วว 5:11-12,14)
          ลูกแกะของพระเจ้า ผู้ยอมพลีพระชนม์เพื่อลบล้างบาปของเรา" "ลูกแกะของพระเจ้า" ผู้นี้ คือ องค์พระเยซูคริสตเจ้าของเรา  มองดูทั่วไปพระองค์ทรงยิ่งใหญ่ถึงขั้นทั่วทั้งในสวรรค์และโลกต้องกราบไหว้นมัสการพระองค์ เพราะพระอานุภาพ เพราะพระธรรมชาติพระเจ้าของพระองค์
          แต่ด้วยเนื้อแท้แล้ว ความยิ่งใหญ่แท้จริงของพระองค์ กลับอยู่ที่ "หัวใจของพระองค์" เป็นดวงหทัยที่สุภาพน้อมรับน้ำพระทัยพระบิดา  อีกทั้งเป็นดวงหทัยที่เต็มเปี่ยมด้วยความกรุณา
          แม้ว่าพระองค์ทรงมีธรรมชาติพระเจ้า พระองค์ก็มิได้ทรงถือว่าศักดิ์ศรีเสมอพระเจ้านั้นเป็นสมบัติที่จะต้องหวงแหน  แต่ทรงสละพระองค์จนหมดสิ้นทรงรับสภาพดุจทาส เป็นมนุษย์ดุจเรา ทรงแสดงพระองค์ในธรรมชาติมนุษย์  ทรงถ่อมพระองค์จนถึงกับทรงยอมรับแม้ความตาย เป็นความตายบนไม้กางเขน (ฟป 2:6-8)
พระ​เยซู​เจ้า​ตรัส​กับ​เขา​ว่า “​มา​กิน​อาหาร​กัน​เถิด” ไม่​มี​ศิษย์​คน​ใด​กล้า​ถาม​ว่า “​ท่าน​เป็น​ใคร” เพราะ​รู้​ว่า​เป็น​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า  พระ​เยซู​เจ้า​ทรง​เข้า​มา​หยิบ​ขนม​ปัง​แจก​ให้​เขา แล้ว​ทรง​แจก​ปลา​ให้​เช่นเดียวกัน....   พระองค์​ตรัส​ถาม​เป็น​ครั้ง​ที่​สาม​ว่า “​ซี​โมน บุตร​ของ​ยอห์น ท่าน​รัก​เรา​ไหม” เปโตร​รู้สึก​เป็น​ทุกข์​ที่​พระองค์​ตรัส​ถาม​ตน​ถึง​สาม​ครั้งว่า “​ท่าน​รัก​เรา​ไหม” เขา​ทูล​ตอบ​ว่า “​พระ​เจ้า​ข้า พระองค์​ทรง​ทราบ​ทุก​สิ่ง พระองค์​ทรง​ทราบ​ว่า​ข้าพเจ้า​รัก​พระองค์” พระ​เยซู​เจ้า​ตรัส​กับ​เขา​ว่า “​จง​เลี้ยง​ดู​แกะ​ของ​เรา​เถิด”
(ยน 21:12-13,17)
          หัวใจที่เปี่ยมล้นไปด้วยพระเมตตารักนี้ เอาชนะหัวใจของบรรดาศิษย์ บรรดาอัครสาวก เป็นพิเศษหัวใจของนักบุญเปโตร  แม้จะมีความอ่อนแอตามประสามนุษย์ แต่พระเมตตารักก็มีพลัง มีพระอานุภาพล้นเหลือที่จะดึงหัวใจเรา เผชิญหน้า และผ่านความมืดมิดและสิ้นหวังจากบาปร้ายไปสู่แสงสว่าง สิริรุ่งโรจน์ของพระบิดาได้
          วันนี้ พระองค์ไม่ได้เพียงแค่ถามเปโตรเท่านั้น...พระองค์ตรัสถามเราด้วย ว่า “ท่านรักเราไหม”  พระองค์ถามเรา ถามพ่อและถามพี่น้องทุกคนด้วย  แล้วเราจะตอบรับกับพระว่าอย่างไรดี อย่างที่เปโตรได้ตอบไหม เปโตร​และ​บรรดา​อัคร​สาวก​ตอบ​ว่า “​เรา​ต้อง​เชื่อ​ฟัง​พระ​เจ้า​ยิ่ง​กว่า​เชื่อ​ฟัง​มนุษย์".....  บรรดา​อัครสาวกออกจากสภาซันเฮดริน มีความยินดีที่ได้รับเกียรติที่ถูกสบประมาทเพราะพระนามพระเยซูเจ้า (กจ 5:29,41)
          คำตอบที่ตอบรับพระเยซูได้ชัดเจนและดีเยี่ยมที่สุดคือ.... “จงเลี้ยงดูแกะของเราเถิด”
         ให้เราเชื่อมั่นในพระเยซูเจ้า เชื่อฟังพระองค์ยิ่งกว่าเชื่อฟังมนุษย์  ยังคงกล้าที่จะแบ่งปันและรักดูแลพี่น้องรอบข้าง เป็นพิเศษพี่น้องผู้ยากไร้ พี่น้องผู้ตกทุกข์ได้ยาก  แม้ต้องเผชิญหน้าการถูกท้าทาย ถูกทำร้าย ถูกเบียดเบียน หรือถูกสบประมาท เพราะเรายอมรับและเผชิญหน้า เพื่อพระนามของพระองค์.

  นกขุนทอง.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น