วันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม 2019


สารวัดวันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม2019
สัปดาห์ที่สี่เทศกาลปัสกา

พี่น้องที่รัก...
        อาทิตย์นี้มิสซาพิเศษรอบ 10.00 น.ชาววัดเซนต์หลุยส์ร่วมมิสซาถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีวชิราลงกรณพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๒ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
       วันเสาร์นี้ที่ 11 และอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม บรรดาสมาชิกสภาภิบาลวัดและกลุ่มองค์ต่างๆของวัดเท่าที่สามารถไปร่วมสัมมนาประจำปีของวัด เพื่อปรับทิศทางการทำงานให้มุ่งหน้าชัดเจนกับการเฉลิมฉลอง 350 ปีมิสซาสยามและหรือกลุ่มคริสตชนของวัดเซนต์หลุยส์
        วันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม นับเป็นวันสำคัญยิ่งของพระศาสนจักรไทย เพราะการเริ่มต้นการนำข่าวดีหรือพระวาจาของพระเยซูเจ้าเข้ามาในดินแดนสยามเป็นเวลา 350 ปีมาแล้ว พิธีเปิดอย่างเป็นทางการเวลา 09.00 น.ที่หอประชุมใหญ่ของโรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์ สามพราน นครปฐมเป็นต้นไป โดยพระคาร์ดินัลแฟร์นันโด ฟิโลนีสมณมนตรีแห่งสมณกระทรวงประกาศพระวรสารสู่ปวงชน ประธานในพิธี มีอาหารเช้าบริการและเที่ยง พิธีต่างๆจะมีถึงเวลา 12.30 น.ขอเชิญชวนพี่น้องร่วมพิธีดังกล่าวด้วย ดูโปสเตอร์หน้าวัด
        การเรียนคำสอนเตรียมตัวเป็นคริสตชน เฉพาะผู้ใหญ่ จะเริ่มเรียนตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันสมโภชพระจิตเจ้าผู้ใดสนใจโปรดลงใบสมัครด้วย นับตั้งบัดนี้เป็นต้นไป 
        เด็กๆที่เรียนในโรงเรียนภาคภาษาต่างประเทศ ปิดเทอมราวเดือนกรกฎาคม วัดเซนต์หลุยส์เริ่มสอนคำสอนเตรียมรับศีลมหาสนิทครั้งแรกและกำลัง โปรดแจ้งชื่อและเบอร์โทรศัพท์เพื่อการติดต่อกลับด้วย เริ่มสอนตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป
       ขอความร่วมมือจากพี่น้อง เมื่อจบมิสซาแล้วอย่าเปิดประตูวัดค้างไว้ เพราะอากาศร้อนเข้ามาในวัด จะทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักมากขึ้น และกว่าอุณหภูมิจะเข้าที่ก็ใช้เวลานานพอสมควร เปิดแล้วปิดอาจไม่คล่องตัวแต่ค่อยๆเดินออก เปิดแล้วปิดก็ช่วยให้เกิดความพอดี
คุณพ่อชาญชัย  ทิวไผ่งาม



"ธรรมชาติชีวิตคริสตชน ผู้เป็นแสงสว่างส่องนานาชาติ"
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้ามีพระบัญชาแก่เราดังนี้ว่า “เราแต่งตั้งท่านให้เป็นแสงสว่างส่องนานาชาติ เพื่อท่านจะได้นำความรอดพ้นไปจนสุดปลายแผ่นดิน” (กจ 13:47)
           เรารู้ตัวดี ว่าเราเป็น "แสงสว่างส่องนานาชาติ"  เราทราบดีว่านี่เป็นคำสั่งของพระเยซูเจ้าต่อเรา นี่เป็นธรรมชาติของเราคริสตชน ที่จะเป็นแสงสว่างให้ผู้อยู่ในความมืด ท้อ หรืออ่อนแอ เป็นแสงอบอุ่นให้ผู้เจ็บปวด โดดเดี่ยว เหน็บหนาว  เป็นแสงอ่อนโยน ร่มเย็นให้ผู้ที่กำลังเผชิญหน้ากับไฟที่ร้อนแรงและแผดเผา
          และเมื่อเรารู้จักธรรมชาติที่แท้จริงของชีวิตเรา เราจะได้ศึกษาฝึกฝนให้ได้รู้จักแนวทางชีวิตของเรา  จนที่สุดเราจะสามารถออกแบบและแบ่งปันให้พี่น้องรอบข้างเราได้จริง
ข้าพเจ้าเห็นนิมิต ประชาชนมากมายเหลือคณานับจากทุกชาติ ทุกเผ่า ทุกประเทศและทุกภาษา  กำลังยืนอยู่เฉพาะพระบัลลังก์และเฉพาะพระพักตร์ลูกแกะ ทุกคนสวมเสื้อขาว ถือใบปาล์ม.....   คนเหล่านี้คือผู้ที่มาจากการเบียดเบียนครั้งใหญ่  เขาซักเสื้อของเขาจนขาวในพระโลหิตของลูกแกะ.....พระเจ้าจะทรงเลี้ยงดูเขา .....และจะทรงเช็ดน้ำตาทุกหยดจากดวงตาของเขา” (วว 7:9,14,16)
          เราคริสตชน จึงพร้อมที่จะแสดงความเชื่อของตนที่มีต่อพระเป็นเจ้า เราจึงพร้อมจะแบ่งปัน เมตตา มอบความอ่อนโยน เผชิญกับทุกเรื่องและทุกคนด้วยความถ่อมตน รักรับใช้ ตามแบบอย่างชีวิตของพระเยซูเจ้า
          เราคริสตชน เชื่อมั่นว่า แม้การดำเนินชีวิตเช่นนี้ แม้จะยุ่งยาก ยากลำบาก หรืออาจถูกเบียดเบียนทำร้าย แต่จะมีพระญาณสอดส่อง มีพระพรของพระสำหรับเราเสมอ  เราเชื่อมั่นเปี่ยมล้นว่า “พระเจ้าจะทรงเลี้ยงดูเขา .....และจะทรงเช็ดน้ำตาทุกหยดจากดวงตาของเขา” (วว 7:14,16)
“แกะของเราย่อมฟังเสียงของเรา เรารู้จักมัน และมันก็ตามเรา  เราให้ชีวิตนิรันดรแก่แกะเหล่านั้น และมันจะไม่พินาศเลยตลอดนิรันดร ไม่มีใครแย่งชิงแกะเหล่านั้นไปจากมือเราได้” (ยน 10:27-28)
          เมื่อเรารู้จักธรรมชาติชีวิตคริสตชนที่แท้จริงของเรา  เมื่อเรารู้ว่า เราเป็นแสงสว่างที่อบอุ่น ร่มเย็น และอ่อนโยน เมื่อเรากล้า และยอมแบ่งปันออกไปด้วยกิจการในชีวิต ตามแบบชีวิตของพระเยซู พระอาจารย์เจ้าของเรา  เรากำลังติดตามพระองค์ พระจะดูแลเรา อวยพรเรา เราจะไม่พินาศ เราจะรักษาชีวิตนิรันดรของพระได้ ที่สำคัญพระเยซูเจ้าทรงยืนยันหนักแน่นว่า จะไม่มีใครแยก หรือแย่งชิงเราจากพระองค์ได้เลย
  นกขุนทอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น