วันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2019


สารวัดวันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2019
สัปดาห์ที่ห้าเทศกาลธรรมดา

พี่น้องที่รัก
กิจกรรม 365 วันเตรียม 350 ปีมิสซังสยามในเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะเป็นเดือนของเด็กและเยาวชน เพื่อให้เป็นผู้ช่วยพระเยซูประกาศข่าวดี ขอผู้ใหญ่สนับสนุนส่งเสริมและผลักดันให้เด็กๆเดินตามแบบอย่างที่ดีในการช่วยพระเยซูประกาศข่าวดี ในสถานการณ์ปัจจุบันนี้
        เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เครื่องอิเลคโทนเกิดขัดข้องทางระบบไฟฟ้า ทำให้ต้องใช้เครื่องเล็กจากศาลาหลุยส์ หากไม่สังเกตอะไรก็ไม่รู้ ขอบคุณที่ผู้อุปถัมภ์เครื่องเล็กกลายเป็นเครื่องใหญ่ในสถานการณ์จำเป็นเร่งด่วนได้ดี หวังว่าคงใช้เวลาซ่อมแซมอีกสักระยะหนึ่ง  เครื่องยังดีแต่ขัดข้องเรื่องไฟฟ้าที่กระชากกับเทกนิคบางอย่าง
        ควันหลงวันตรุษจีน มิสซาประจำวันมีตามปกติ เพิ่มรอบพิเศษคือ 9.00 น.ดูเหมือนหลายคนทำงานตามปกติ แต่คนมาวัดร่วมมิสซาเหมือนวันอาทิตย์รอบ 10.00 น.ส้มเตรียมไว้ 1,000 ชุด เหลือเผื่อไว้คนมาวัดรอบเย็น 17.30 น.และมีบางท่านมาขอฝากคนที่บ้าน เอาเป็นว่าจำนวนกำลังพอดี ส่วนเด็กมีของแถมคือน้ำส้มที่รอคอย หวานชุ่มฉ่ำ จนผู้อาวุโสทนไม่ไหวขอชิมบ้าง สรุปสุดท้ายเตรียมมา 170 ขวดหมดเหลี้ยง ยิ้มหวานกันถ้วนหน้า เพราะบอกว่ารออยู่หมือนกัน ขอให้วันปีใหม่มีอะไรที่สดชื่นและยิ้มแย้มแจ่มใสเสมอๆ
        ปีนี้เลือกเอาบทพระวาจาเกี่ยวกับฉลองการถวายพระกุมารในพระวิหาร เพื่อนำเราทุกคนให้ถวายตัวเราเองเหมือนแม่พระถวายพระกุมารในพระวิหาร ขอให้เราทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มความสามารถ เพื่อรักและรับใช้เพื่อนพี่น้องผู้อื่นต่อๆไป โดยเฉพาะบุคคลในครอบครัวที่บ้านของเรา
เนื่องจากฝุ่นละออกเล็กเป็นพิษกำลังโจมตีบริเวณกรุงเทพมหานคร ถึงแม้ว่าได้ลดลงจนอากาศในที่โล่งแจ้งสามารถสูดหายใจเข้าออกได้ตามปกติ แต่ภายในวัดเมื่อเปิดวัดแล้วต้องปิดอย่าเปิดค้างไว้ เพราะฝุ่นจะสะสมไม่ไปไหน และวนเวียนอยู่ในวัด ดังนั้นขอให้มิสซาทุกรอบ เมื่อจบแล้ว อย่าเปิดประตูค้างไว้ พ่อกำลังปรึกษาหารือผู้ชำนาญการฟอกอากาศ  ใครที่มีความรู้หรือชำนาญการโปรดชี้แนะ เพื่อหามาตราการทั้งทำและป้องกันฝุ่นเล็กพิษร้ายต่อสุขภาพลมหายใจของชีวิตทุกคน
        เพื่อความเป็นระเบียบการใช้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ผู้เข้ามาในวัดควรสำรวมตน การแต่งกายอย่างสุภาพชน และจัดเก็บหนังสือหรืออุปกรณ์เข้าที่เดิมเพื่อให้การใช้วัดจะได้สะอาดตาสะอาดใจ
                                     
ขอพระเจ้าอวยพร
พ่อชาญชัย ทิวไผ่งาม



บอกกล่าว เล่าเรื่อง
          อย่าให้รักกลายเป็นฝุ่น
            ช่วงเวลาที่ผ่านมาจนถึงเวลานี้กรุงเทพมหานครของเราก็เจอกับสภาวะมลพิษทางอากาศที่เข้าขั้นไม่ดีเท่าไหร่นัก ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 อย่างที่เราได้ยินบ่อยจากสื่อต่างๆ ส่งผลต่อสภาพร่างกายของคนเรา เป็นต้นผู้ที่มีปัญหาทางเดินหายใจ สตรีมีครรภ์ เด็กๆ หรือแม้แต่เราที่ไม่ได้มีโรคประจำตัวหรืออยู่ในกลุ่มที่น่าเป็นห่วงก็ล้วนได้รับผลกระทบ ถ้าอยู่ในสภาวะเช่นนี้นานๆ ก็ส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาว หรืออาจจะระยะสั้นก็ได้ขึ้นกับสภาพร่างกายของแต่ละคน ฝุ่นละอองเล็กๆ ที่ไม่น่าจะทำอะไรเราได้แต่เมื่อมันมีจำนวนมากมันก็ส่งผลกระทบต่อเราได้อย่างไม่คาดคิด
            ในสถานการณ์ที่กล่าวมาทำให้ มีคำถามเกิดขึ้นและเป็นคำถามที่เด็กๆส่งมาถามพ่อ คุณพ่อรู้หรือไม่ว่าทำไมกรุงเทพมหานครของเราจึงมีฝุ่นมาก? เป็นคำถามโปรยหัวสำหรับบทสนทนาที่เด็กเยาวชนคนหนึ่งส่งมาถามพ่อ และคำตอบที่พ่อมีในหัวก็คงไม่พ้นข่าวที่ได้ยินมา คงเพราะรถเยอะควันเสียมาก โรงงานอุตสาหกรรมเยอะ ก็น่าจะเป็นคำตอบที่เรารู้ๆกันตามสื่อต่างๆ (ซึ่งก็รู้ว่าไม่ใช่คำตอบหรอกถ้าใช่คงไม่ถาม)เด็กคนนี้ก็บอกกับพ่อว่า เพราะกรุงเทพฯมีคนอกหักอยู่เยอะฝุ่นเลยเยอะ พ่อไม่เคยได้ยินเพลงที่เขาร้องว่า คำว่ารักมันกลายเป็นฝุ่นไปแล้ว ฝุ่นเลยเต็มกรุงเทพฯไปหมด ??????
            ถ้ามันเป็นแบบเพลงที่เด็กคนนี้บอกกับพ่อสังคมคงน่ากลัวเลยทีเดียว ไม่ใช่เพราะฝุ่นมันเยอะแต่เพราะความรักมันกำลังหายไปจากสังคมของเรา อย่าให้ความรักในสังคม ในชุมชน ในครอบครัว มันกลายเป็นฝุ่น เพราะความสวยงามมันจะกลายเป็นพิษภัยทันที ความรักช่วยจรรโลงสังคม ช่วยจรรโลงครอบครัว เมื่อไหร่ที่ความรักหายไป ปัญหาจะตามมาในไม่ช้า
            ในสัปดาห์นี้จะถึงวันวาเลนไทน์ในความเป็นจริงคงไม่ใช่วันสำคัญอะไรในพระศาสนจักรคาทอลิกอาจจะเกี่ยวข้องกับนักบุญองค์หนึ่งแต่คงไม่ได้เกี่ยวข้องแบบวันที่คนทั่วไปฉลองกัน เพียงแต่พ่อก็คิดว่าสัปดาห์นี้น่าจะเป็นสัปดาห์แห่งความรักสำหรับเราแต่ละคนเป็นพิเศษ ที่จะให้ความสำคัญกับคนที่เรารักไม่ว่าสถานะไหน พ่อแม่ ลูก สามีภรรยา เพื่อนๆ หรือใครก็ตาม น่าจะเป็นสัปดาห์ที่เราจะมีเวลาแสดงความรักต่อกันบ้างในครอบครัวก็ดี ในที่ทำงานก็ดี ในกลุ่มเพื่อนๆของเรา  บางทีความเคยชินประจำๆ เจอกันทุกวัน มันก็ทำให้การแสดงความรักต่อกันมันน้อยลงไป อย่าลืมว่าในความเป็นจริงทุกๆคนก็ต้องการความรักที่เป็นรูปธรรมที่สัมผัสจับต้องได้ ผ่านทางคำพูด ผ่านทางการเอาใจใส่ ผ่านทางการปฏิบัติ อย่าละเลยที่จะแสดงความรักที่เป็นรูปธรรมต่อกันบ้างเมื่อมีโอกาสเหมือนกับปัญหาฝุ่นละอองที่เกิดขึ้น เรารู้ปัญหากันหมดแต่ถ้าไม่หันมาทำอะไรบ้างเพื่อแก้ปัญหา ลดการเผาไหม้ ปลูกต้นไม้ ทำความสะอาดหรือขจัดฝุ่นในบ้าน ฯลฯ ฝุ่นก็ยังอยู่แบบนี้แต่ถ้าลงมือทำอะไรบ้างที่เป็นภาคปฏิบัติอย่างน้อยมันก็อาจช่วยให้อะไรดีขึ้นบ้าง
อย่าให้ความรักมันกลายเป็นฝุ่นเพราะมันจะเป็นมลพิษต่อร่างกาย คนรอบตัว แต่ให้ความรักมันเป็นยาบำรุงที่ทำให้ชีวิตของเราและคนรอบข้างเราเต็มไปด้วยชีวิตชีวา 

                                                                                                                                                                ปลัดวัดสาทร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น