สารวัดวันอาทิตย์ที่
10 กุมภาพันธ์ 2019
สัปดาห์ที่ห้าเทศกาลธรรมดา
พี่น้องที่รัก
กิจกรรม
365 วันเตรียม 350 ปีมิสซังสยามในเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะเป็นเดือนของเด็กและเยาวชน
เพื่อให้เป็นผู้ช่วยพระเยซูประกาศข่าวดี
ขอผู้ใหญ่สนับสนุนส่งเสริมและผลักดันให้เด็กๆเดินตามแบบอย่างที่ดีในการช่วยพระเยซูประกาศข่าวดี
ในสถานการณ์ปัจจุบันนี้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เครื่องอิเลคโทนเกิดขัดข้องทางระบบไฟฟ้า ทำให้ต้องใช้เครื่องเล็กจากศาลาหลุยส์
หากไม่สังเกตอะไรก็ไม่รู้
ขอบคุณที่ผู้อุปถัมภ์เครื่องเล็กกลายเป็นเครื่องใหญ่ในสถานการณ์จำเป็นเร่งด่วนได้ดี
หวังว่าคงใช้เวลาซ่อมแซมอีกสักระยะหนึ่ง
เครื่องยังดีแต่ขัดข้องเรื่องไฟฟ้าที่กระชากกับเทกนิคบางอย่าง
ควันหลงวันตรุษจีน มิสซาประจำวันมีตามปกติ
เพิ่มรอบพิเศษคือ 9.00 น.ดูเหมือนหลายคนทำงานตามปกติ
แต่คนมาวัดร่วมมิสซาเหมือนวันอาทิตย์รอบ 10.00 น.ส้มเตรียมไว้ 1,000 ชุด เหลือเผื่อไว้คนมาวัดรอบเย็น
17.30 น.และมีบางท่านมาขอฝากคนที่บ้าน เอาเป็นว่าจำนวนกำลังพอดี
ส่วนเด็กมีของแถมคือน้ำส้มที่รอคอย หวานชุ่มฉ่ำ จนผู้อาวุโสทนไม่ไหวขอชิมบ้าง
สรุปสุดท้ายเตรียมมา 170 ขวดหมดเหลี้ยง ยิ้มหวานกันถ้วนหน้า
เพราะบอกว่ารออยู่หมือนกัน ขอให้วันปีใหม่มีอะไรที่สดชื่นและยิ้มแย้มแจ่มใสเสมอๆ
ปีนี้เลือกเอาบทพระวาจาเกี่ยวกับฉลองการถวายพระกุมารในพระวิหาร
เพื่อนำเราทุกคนให้ถวายตัวเราเองเหมือนแม่พระถวายพระกุมารในพระวิหาร
ขอให้เราทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มความสามารถ
เพื่อรักและรับใช้เพื่อนพี่น้องผู้อื่นต่อๆไป
โดยเฉพาะบุคคลในครอบครัวที่บ้านของเรา
เนื่องจากฝุ่นละออกเล็กเป็นพิษกำลังโจมตีบริเวณกรุงเทพมหานคร
ถึงแม้ว่าได้ลดลงจนอากาศในที่โล่งแจ้งสามารถสูดหายใจเข้าออกได้ตามปกติ
แต่ภายในวัดเมื่อเปิดวัดแล้วต้องปิดอย่าเปิดค้างไว้ เพราะฝุ่นจะสะสมไม่ไปไหน
และวนเวียนอยู่ในวัด ดังนั้นขอให้มิสซาทุกรอบ เมื่อจบแล้ว อย่าเปิดประตูค้างไว้
พ่อกำลังปรึกษาหารือผู้ชำนาญการฟอกอากาศ
ใครที่มีความรู้หรือชำนาญการโปรดชี้แนะ
เพื่อหามาตราการทั้งทำและป้องกันฝุ่นเล็กพิษร้ายต่อสุขภาพลมหายใจของชีวิตทุกคน
เพื่อความเป็นระเบียบการใช้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์
ผู้เข้ามาในวัดควรสำรวมตน การแต่งกายอย่างสุภาพชน
และจัดเก็บหนังสือหรืออุปกรณ์เข้าที่เดิมเพื่อให้การใช้วัดจะได้สะอาดตาสะอาดใจ
ขอพระเจ้าอวยพร
พ่อชาญชัย
ทิวไผ่งาม
บอกกล่าว เล่าเรื่อง
“อย่าให้รักกลายเป็นฝุ่น”
ช่วงเวลาที่ผ่านมาจนถึงเวลานี้กรุงเทพมหานครของเราก็เจอกับสภาวะมลพิษทางอากาศที่เข้าขั้นไม่ดีเท่าไหร่นัก
ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM
2.5 อย่างที่เราได้ยินบ่อยจากสื่อต่างๆ ส่งผลต่อสภาพร่างกายของคนเรา
เป็นต้นผู้ที่มีปัญหาทางเดินหายใจ สตรีมีครรภ์ เด็กๆ หรือแม้แต่เราที่ไม่ได้มีโรคประจำตัวหรืออยู่ในกลุ่มที่น่าเป็นห่วงก็ล้วนได้รับผลกระทบ
ถ้าอยู่ในสภาวะเช่นนี้นานๆ ก็ส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาว
หรืออาจจะระยะสั้นก็ได้ขึ้นกับสภาพร่างกายของแต่ละคน ฝุ่นละอองเล็กๆ
ที่ไม่น่าจะทำอะไรเราได้แต่เมื่อมันมีจำนวนมากมันก็ส่งผลกระทบต่อเราได้อย่างไม่คาดคิด
ในสถานการณ์ที่กล่าวมาทำให้
มีคำถามเกิดขึ้นและเป็นคำถามที่เด็กๆส่งมาถามพ่อ
คุณพ่อรู้หรือไม่ว่าทำไมกรุงเทพมหานครของเราจึงมีฝุ่นมาก?
เป็นคำถามโปรยหัวสำหรับบทสนทนาที่เด็กเยาวชนคนหนึ่งส่งมาถามพ่อ
และคำตอบที่พ่อมีในหัวก็คงไม่พ้นข่าวที่ได้ยินมา คงเพราะรถเยอะควันเสียมาก
โรงงานอุตสาหกรรมเยอะ ก็น่าจะเป็นคำตอบที่เรารู้ๆกันตามสื่อต่างๆ
(ซึ่งก็รู้ว่าไม่ใช่คำตอบหรอกถ้าใช่คงไม่ถาม)เด็กคนนี้ก็บอกกับพ่อว่า
เพราะกรุงเทพฯมีคนอกหักอยู่เยอะฝุ่นเลยเยอะ พ่อไม่เคยได้ยินเพลงที่เขาร้องว่า
คำว่ารักมันกลายเป็นฝุ่นไปแล้ว ฝุ่นเลยเต็มกรุงเทพฯไปหมด ??????
ถ้ามันเป็นแบบเพลงที่เด็กคนนี้บอกกับพ่อสังคมคงน่ากลัวเลยทีเดียว
ไม่ใช่เพราะฝุ่นมันเยอะแต่เพราะความรักมันกำลังหายไปจากสังคมของเรา
อย่าให้ความรักในสังคม ในชุมชน ในครอบครัว มันกลายเป็นฝุ่น
เพราะความสวยงามมันจะกลายเป็นพิษภัยทันที ความรักช่วยจรรโลงสังคม
ช่วยจรรโลงครอบครัว เมื่อไหร่ที่ความรักหายไป ปัญหาจะตามมาในไม่ช้า
ในสัปดาห์นี้จะถึงวันวาเลนไทน์ในความเป็นจริงคงไม่ใช่วันสำคัญอะไรในพระศาสนจักรคาทอลิกอาจจะเกี่ยวข้องกับนักบุญองค์หนึ่งแต่คงไม่ได้เกี่ยวข้องแบบวันที่คนทั่วไปฉลองกัน
เพียงแต่พ่อก็คิดว่าสัปดาห์นี้น่าจะเป็นสัปดาห์แห่งความรักสำหรับเราแต่ละคนเป็นพิเศษ
ที่จะให้ความสำคัญกับคนที่เรารักไม่ว่าสถานะไหน พ่อแม่ ลูก สามีภรรยา เพื่อนๆ
หรือใครก็ตาม น่าจะเป็นสัปดาห์ที่เราจะมีเวลาแสดงความรักต่อกันบ้างในครอบครัวก็ดี
ในที่ทำงานก็ดี ในกลุ่มเพื่อนๆของเรา
บางทีความเคยชินประจำๆ เจอกันทุกวัน
มันก็ทำให้การแสดงความรักต่อกันมันน้อยลงไป
อย่าลืมว่าในความเป็นจริงทุกๆคนก็ต้องการความรักที่เป็นรูปธรรมที่สัมผัสจับต้องได้
ผ่านทางคำพูด ผ่านทางการเอาใจใส่ ผ่านทางการปฏิบัติ
อย่าละเลยที่จะแสดงความรักที่เป็นรูปธรรมต่อกันบ้างเมื่อมีโอกาสเหมือนกับปัญหาฝุ่นละอองที่เกิดขึ้น
เรารู้ปัญหากันหมดแต่ถ้าไม่หันมาทำอะไรบ้างเพื่อแก้ปัญหา ลดการเผาไหม้ ปลูกต้นไม้
ทำความสะอาดหรือขจัดฝุ่นในบ้าน ฯลฯ
ฝุ่นก็ยังอยู่แบบนี้แต่ถ้าลงมือทำอะไรบ้างที่เป็นภาคปฏิบัติอย่างน้อยมันก็อาจช่วยให้อะไรดีขึ้นบ้าง
อย่าให้ความรักมันกลายเป็นฝุ่นเพราะมันจะเป็นมลพิษต่อร่างกาย
คนรอบตัว
แต่ให้ความรักมันเป็นยาบำรุงที่ทำให้ชีวิตของเราและคนรอบข้างเราเต็มไปด้วยชีวิตชีวา
ปลัดวัดสาทร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น