พี่น้องที่รัก
ลมหนาวเริ่ม
ฝนอำลา เข้าสู่ปลายฝนต้นหนาว สุขภาพต้องแข็งแรงและเอาใจใส่ให้สดชื่นเสมอๆ
สัปดาห์ภาวนาเพื่อการทำพระคุณการุณย์เพื่อผู้ล่วงลับจบไปเมื่อวันที่
8 นี้ แต่คำภาวนาเพื่อวิญญาณในไฟชำระยังคงทำต่อไปได้ทั้งเดือนนี้
โปรดภาวนาอุทิศแก่เขาเถิด
เราเข้าสู่โค้งท้ายๆของพิธีกรรมพระศาสนจักร
สัปดาห์ที่ จบลงในต้นเดือนธันวาคมและเริ่มเข้าสู่การเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า
พ่อได้เกริ่นนำไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในงานของพระศาสนจักร
งานของฝ่ายและแผนก
ทั้งหมดจำเป็นต้องใช้งบประมาณจากการทำบุญและการสนับสนุนจากองค์กรการกุศลของต่างประเทศ จึงใช้ซองทำบุญจะสะดวกและติดตามได้ง่ายกว่าจึงขออนุญาตใช้สารวัดหน้านี้บอกบุญให้กับทุกท่านทราบเพื่อจะได้ช่วยกันเต็มกำลังความสามารถ
สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย
ได้ประกาศรณรงค์ “กองทุนน้ำใจคาทอลิก”
ในระหว่างเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตสมภพ 4 สัปดาห์ ก่อนสมโภชพระคริสตสมภพ เพื่อเชิญชวนคริสตชนให้ร่วมกันทำนุบำรุงพระศาสนจักร
เพื่อช่วยโครงการและกิจการต่างๆ ของทุกแผนกในสภาฯ ในแต่ละปี
สภาพระสังฆราชฯ มีสำนักงานสภากรรมาธิการ 4 ฝ่าย (27 แผนก) คือ
1.
กรรมมาธิการฝ่ายอภิบาลคริสตชน มี 11 แผนก
พิธีกรรม ดนตรีศักดิ์สิทธิ์ ศิลปะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์พระคัมภีร์คริสตศาสนธรรม พระสงฆ์และผู้ถวายตัวสามเณราลัย ฆราวาส
ครอบครัว เยาวชน
2.
กรรมาธิการฝ่ายธรรมทูตและการศึกษาคาทอลิก มี 4 แผนก
การธรรมทูต ศาสนสัมพันธ์-คริสตสัมพันธ์ การศึกษาคาทอลิก
มรดกและวัฒนธรรม
3.
กรรมาธิการฝ่ายสังคม มี 8 แผนก
พัฒนาสังคม ความยุติธรรมและสันติ สุขภาพอนามัย
กลุ่มชาติพันธ์ สตรี ผู้อพยพย้ายถิ่นและผู้ถูกคุมขัง ผู้ท่องเที่ยวและเดินทะเล
ผู้ประสบภัยและผู้ลี้ภัย
4.
กรรมาธิการฝ่ายสื่อสารสังคม มี 4 แผนก
การพิมพ์ วิทยุและโทรทัศน์ การแปลและบัญญัติศัพท์
เทคโนโลยีสารสนเทศ
สภาพระสังฆราชจึงได้บอกบุญเพื่อให้สัตบุรุษแต่ละคนมีส่วนร่วม
ในการทำงาน “ประกาศข่าวดี” ของพระเยซูเจ้าตามจิตตารมย์
“รักและรับใช้”ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการรณรงค์ “ทุนน้ำใจคาทอลิก”
คือการเตรียมฉลองพระทรงบังเกิดประจำปี
นับตั้งแต่สัปดาห์แรกของเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าถึงสัปดาห์ที่สี่
ซึ่งเป็นสัปดาห์สุดท้ายของการเตรียมฉลองดังกล่าว
ดังนั้น พี่น้องแต่ละคน
สามารถเป็นส่วนหนึ่งของ “น้ำใจคาทอลิก” ที่ยิ่งใหญ่ เพื่อช่วยพระเยซูเจ้าประกาศข่าวดีได้
โดยช่วยกันทำบุญตามพันธะกิจดังปรากฏในงานของแต่ละฝ่ายและแผนกของสภาพระสังฆราช
โปรดทำบุญใส่ซองนี้คืนกลับที่พระสงฆ์ของวัดหรือในถุงทานมิสซา
ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
พ่อเจ้าวัดเซนต์หลุยส์
........................................................................................................................
สวัสดีครับพี่น้อง
หญิงโง่นำตะเกียงไป
แต่มิได้นำน้ำมันไปด้วย น้ำมันคืออะไร พระเมตตาของพระเจ้าที่เราจะต้องรีบตักตวงและเก็บรักษาไว้เมื่อยังมีโอกาส
ก่อนจะถึงเวลาแห่งการพิพากษา น้ำมันคือความรอด หรือ พระคำจากพระเจ้า น้ำมันคือการเฝ้าวอนอธิษฐาน
อย่าให้มารมีโอกาส จงเตรียมและระวัง จงฟังคำจากพระคัมภีร์ แผ่นดินสวรรค์เปรียบหญิงพรหมจรรย์
คนมีปัญญาห้าคนที่มีน้ำมัน คนโง่ห้าคน มีตะเกียงบ่มีน้ำมัน ในใจพร้อมแต่กายอ่อนแอ
อย่ายอมแพ้การทดลอง จงมองพระเยซู อธิษฐานอ้อนวอนพระองค์ จงเฝ้าวอนอธิษฐาน จนมารซาตานยืนตัวสั่น
จงเตรียมและระวัง อธิษฐานอ้อนวอนพระองค์อย่างสม่ำเสมอ พระเยซูเจ้าเป็นดังเจ้าบ่าว
ทรงเสเด็จมาเพื่อพบปะกับประชากรของพระองค์ ทรงต้องการนำเราเข้าไปในบ้านแท้นิรันดร คืออาณาจักรสวรรค์
เพื่ออยู่กับพระองค์ผู้เป็นเจ้าบ่าวตลอดไปอันแสดงถึงความรักของพระเจ้าที่มีต่อมนุษยชาติ
และปรารถนาให้ทุกคนได้เป็นหนึ่งเดียวและอยู่กับพระองค์
แต่การมาของพระองค์มิได้กำหนดเวลาล่วงหน้า ทุกคนต้องตื่นเฝ้าอยู่เสมอและรอคอยด้วยความรอบคอบ
น้ำมันที่พระเยซูเจ้าตรัสถึง ได้แก่ ความรัก ความดีงาม
หรือบุญกุศล ที่ทุกคนต้องมีและเตรียมให้พร้อมอยู่เสมอ ประการสำคัญ
น้ำมันแห่งความรักและความดีงามเป็นสิ่งที่ขอกันไม่ได้ เข้าทำนอง “ความดีไม่มีขาย
อยากได้ต้องทำเอง” ต้องลงมือกระทำ ต้องออกแรงด้วยตนเอง
ต้องสั่งสมตลอดชีวิต
เพื่อมีน้ำมันเพียงพอจุดตะเกียงแห่งชีวิตของเราให้ลุกโชนด้วยความเชื่ออยู่เสมอ
จนถึงเวลาที่พระคริสตเจ้าเสด็จมา เราจะได้พบและอยู่กับพระองค์ตลอดไป
ศิษย์พระคริสต์ต้องเป็นตะเกียงที่มีน้ำมัน
เป็นตะเกียงที่จุดอยู่เสมอและตั้งไว้บนเชิงตะเกียงเพื่อส่องสว่างแก่ทุกคน
เราต้องหมั่นเตรียมน้ำมันให้พร้อมและเพียงพอ ด้วยการกระทำแต่สิ่งดีงาม
ดำเนินชีวิตในความรักต่อพระเจ้าและเพื่อนพี่น้อง เป็นเครื่องหมายแห่งพระพรและแบบอย่างที่ดีงามสำหรับผู้อื่น
มีแต่ความรักและความดีงามเท่านั้น ที่จะทำให้ตะเกียงของเราลุกอยู่เสมอ และพร้อมที่จะต้อนรับการเสด็จมาของพระคริสตเจ้าในวาระสุดท้าย
ชีวิตที่ต้องตายกระทันหันอะไรก็ฉุดไว้ไม่ได้
ทรัพย์สมบัติมากมาย ร่ำรวยสะสมไว้เพียงใด ที่ดินกี่ร้อยแปลง เงินทองกี่ร้อยพันล้าน
ฉุดชีวิตเราไว้ไม่ได้เลย และเมื่อเวลามาถึง ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเราได้เลยยามเจ็บป่วย
คนเราจะอยากได้อะไรเมื่อไข้ขึ้นสูง ทรมาน นอนไม่ได้คนเราจะมีความสุขไหมเมื่อป่วยยิ่งวาระสุดท้ายมาถึงแล้ว
ต่อให้ห้องนอนเป็นทองคำก็ต้องกรีดร้องดิ้นจนสิ้นใจคว้าอะไรไปไม่ได้
เตียงนอนทองคำล้อมเพชรหรือจะสู้ที่นอนบางๆหรือที่นอนเสื่อผืนเดียวที่ล้อมด้วยลูกหลานที่รักมาร่วมกันสวดภาวนา
ห่วงใย และบรรเทาใจ ไม่หวังอะไรนอกจากรักถ้าเตียงทองล้อมเพชร คงมีคนล้อมเหมือนกัน
รอให้ตายไปจะได้แย่งชิงเตียงนอนนั้นกันต่อไป แต่คุณความดีที่เราหมั่นสะสมในชีวิตไม่มีใครจะมาแย่งชิงไปได้เลย
คพ. พงษ์เกษม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น