พี่น้องที่รัก
ขอต้อนรับพระสงฆ์ใหม่ของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯทั้งสาม
วานนี้ได้รับศีลบวชจากพระคาร์ดินัลฟรังซิสเกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช ท่ามกลางพระสงฆ์
นักบวชชายหญิงและสัตบุรุษมากมายที่บ้านเณรยอแซฟ สามพราน คุณพ่อวิทยา เขียวประไพ
คุณพ่อวรัญญู นางาม และคุณพ่อเทวฤทธิ์ สุขเกษม
หลายท่านคงได้คุ้นเคยกับพระสงฆ์ใหม่แล้ว เนื่องจากเป็นเณร เคยมาฝึกงานที่วัดและโรงพยาบาล
บางคนก็เป็นญาติพี่น้อง และบางคนก็เคยทำงานด้วยกัน
เป็นข้อดีของพระสงฆ์แบบไทยที่สามารถรู้จักกันโดยไม่ต้องใช้เวลามากมาย ผิดกับสมัยก่อนบางท่านไปเรียนที่ต่างประเทศกว่าจะกลับมาก็แทบไม่รู้จักกันเลย
หรือบางคนก็ไม่เคยเห็นหน้าเห็นตากันเลย
จึงนับว่าเป็นความลงตัวของครอบครัวไทยที่มีลูกหลานอยู่ใกล้ตัวเราตั้งแต่เป็นเณรเล็ก
เณรใหญ่และบวชเป็นพระสงฆ์ ให้เราขอบพระคุณพระเป็นเจ้าด้วยกัน คุณพ่อทั้งสามจะถวายมิสซาสามรอบ
ฉลองพระตรีเอกภาพ สลับหมุนเวียนกันเป็นประธาน และอวยพรพี่น้อง แบบทีละคนเพื่อการรับพรจากพระสงฆ์ใหม่
นับว่าเป็นวัดแรกที่เราได้พระสงฆ์บวชใหม่จากเตาอบด้วยพระพรยิ่งใหญ่มาสู่บ้านของเรา
เป็นการประเดิม ถือเป็นสิริมงคลชีวิตคริสตชน คำแนะนำเพื่อร่วมความยินดีกับพระสงฆ์ ทั้งคำภาวนาและการถวายปัจจัยเพื่อการดำเนินชีวิตที่พร้อมทั้งฝ่ายกาย
และจิตใจ ขอพี่น้องสนับสนุนให้กับพ่อทั้งสามโดยตรงกับท่านได้
เนื่องจากอาทิตย์ที่ 18 เป็นวันแห่ศีลมหาสนิท สมโภชพระคริสตวรกาย
วัดเซนต์หลุยส์จะแห่ศีลในมิสซารอบ 10.00 น. ดังนั้นมิสซารอบ 12.00
น.ของดเพื่อให้เวลากับการแห่และเคารพศีลมหาสนิทประจำปีของวัด สำหรับพลับพลาต้อนรับศีลมหาสนิทมี
2 แห่งคือ
หน้าวัดน้อยของโรงพยาบาล(วัดพระจิตเจ้า)บริเวณโถงสโมสรผู้สูงอายุ
และอีกแห่งหนึ่งคือโถงใหญ่หน้าศาลาหลุยส์มารีของวัด นับเป็นสถานที่ใหม่ ที่ได้รับการปรับปรุงและเหมาะสมสำหรับงานนี้โดยเฉพาะ
จึงขอประชาสัมพันธ์ ให้กับพี่น้อง เพื่อร่วมเคารพศีลมหาสนิทโดยพร้อมเพรียงกันด้วย พ่อต้องขอขอบคุณพี่น้องในความร่วมมือเป็นอย่างดี
ทุกคนต่างก็เข้าใจดีว่าสถานที่ของวัดมีข้อจำกัดทั้งที่จอดรถ ห้องประชุมใช้สอย
รวมทั้งห้องรองรับทำกิจกรรมขององค์กรต่างๆของวัดและของสังฆมณฑล
ซึ่งวันเสาร์อาทิตย์จะเป็นวันที่มีงานมากมายมาประชันกัน พ่อถือหลักว่ามีก็ให้
และให้กับองค์กรที่พระศาสนจักรรับรองไว้
เพื่อสถานที่ของวัดจะได้ใช้อย่างถูกต้องตามวัตถุประสงค์
นอกจากวัดและยังมีโรงเรียนซึ่งทั้งสองแห่งนี้ คือสถาบันเซนต์หลุยส์เดียวกัน
รวมทั้งโรงพยาบาลด้วย ดังนั้นทางวัดสนับสนุนอย่างเต็มที่ แต่ในเวลาเดียวกัน ก็ต้องขออภัยแบบออกตัวว่าให้เท่าที่มี
เกินมีขอเพียงเข้าใจและเห็นใจกันและกัน
วัดเป็นของทุกคนที่มีพ่อเจ้าวัดเป็นผู้ปกครองอภิบาลอย่างมีเมตตาธรรมและยุติธรรม บ้านที่ดีคือบ้านที่อยู่ด้วยกันแบบรักกัน
โดยมีหัวหน้าบ้านรับผิดชอบ ทั้งต่อหน้าพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์.
พ่อชาญชัย ทิวไผ่งาม
..........................................................................................................
สวัสดีครับพี่น้อง
“ครอบครัวที่ดีเป็นบ่อเกิดความเชื่อความศรัทธาและกระแสเรียก”เป็นคำกล่าวที่พ่อคิดว่าเป็นจริงอยู่เสมอ ครอบครัวใดที่พยายามส่งเสริมให้ลูกๆหลานๆได้มีโอกาส
เข้าวัดเข้าวา สวดภาวนา มีกิจกรรมครอบครัวร่วมกัน ลูก ๆ หลาน ๆ มักอยู่ในทางที่ถูกที่ควร
ในช่วงเวลาที่มาอยู่ที่วัดเซนต์หลุยส์แห่งนี้ สิ่งที่พบทุกอาทิตย์และเห็นเป็นประจำ
และรู้สึกชื่นชมซึ่งได้กล่าวไปเมื่อฉบับที่แล้ว นั่นก็คือ ภาพของพ่อแม่
ปู่ย่าตายาย พาลูก ๆ หลาน ๆ มาร่วมมิสซา เห็นภาพของลูกเล็กเด็กแดงในวัด เป็นภาพแห่งความเชื่อที่น่าชื่นชมและทำให้ชุมชนความเชื่อแห่งนี้มีชีวิตชีวา
และต้องบอกว่าวัดของเราเป็นวัดที่มีเด็กมาวัดมากจริง ๆ เป็นเรื่องที่น่ายินดีและน่าส่งเสริมสนับสนุนกันต่อไป
พ่อเห็นภาพนี้และก็คิดต่อไปว่า ถ้าเด็ก ๆ ที่มาวัดทุกอาทิตย์ ได้มีโอกาสมีบทบาทในมิสซา
ในพิธีกรรมที่เขามาร่วมก็จะทำให้เขามีความใกล้ชิดกับพระมากขึ้น เหมือนกับเด็กหลาย ๆ
คนที่มาช่วยมิสซาทุก ๆ อาทิตย์ที่วัดของเราแต่ก็เห็นว่ายังมีเด็กอีกหลาย ๆ คนที่อาจจะยังไม่ได้มีโอกาสใกล้ชิดพระแท่นในบทบาทของเด็กช่วยมิสซา
ในโอกาสนี้จึงอยากเชิญชวนผู้ปกครองได้ช่วยกันสนับสนุนในเรื่องนี้ให้เด็ก ๆ ได้มีโอกาสมาใกล้ชิดพระแท่น
ใกล้ชิดวัด และเชิญชวนเด็ก ๆ ที่มีความสนใจช่วยเหลือกิจกรรมของวัดในบทบาทของเด็กช่วยมิสซาสามารถกรอกใบสมัคร
เพื่อเข้าเป็นกลุ่มเด็กช่วยมิสซาของวัดเซนต์หลุยส์ โดยพ่อได้กำหนดคุณสมบัติบางประการดังนี้
1. เด็กผู้ชายตั้งแต่ชั้นป.2-ม.3 (หรือถ้าโตกว่านี้ปรารถนาจะช่วยมิสซาก็ยังสามารถทำหน้าที่นี้ได้)
2. เด็กผู้หญิงตั้งแต่ชั้นป.2-ป.6
3. สามารถมาช่วยมิสซาวันอาทิตย์ในรอบใดรอบหนึ่งได้
4.สามารถร่วมกิจกรรมของกลุ่มเด็กช่วยมิสซาที่ทางวัดจัดขึ้น (อบรมเด็กช่วยมิสซา/สัมมนาเด็ก ช่วยมิสซา เป็นต้น)
5. ผู้ปกครองอนุญาตและให้การสนับสนุนในการร่วมกิจกรรมของวัด
จงฝึกเด็กในทางที่เขาควรจะเดินไป
และเมื่อเขาเติบใหญ่เขาจะไม่พรากจากทางนั้น (สภษ
22:6)พ่อมั่นใจว่าถ้าเราได้ส่งเสริมสนับสนุนบุตรหลานของเรา ในหนทางแห่งความเชื่อ เขาจะเติบโตในหนทางแห่งความเชื่อนั้น
เหมือนกับที่หนังสือสุภาษิตได้บอกเราเอาไว้
และการที่บุตรหลานของท่านมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ของวัด ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยหล่อหลอมและส่งเสริมความเชื่อคริสตชนในตัวของเขาให้เติบโต
ขอท่านผู้ปกครองได้ช่วยกันสนับสนุนลูกหลานของท่านในเรื่องนี้ เพื่อลูกหลานของเราจะได้เติบโตในความเชื่ออย่างเข้มแข็งมั่นคงเสมอไป
ปลัดวัดสาทร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น