วันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม 2014

พี่น้องที่รัก
            สำนักวาติกันประกาศว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีหมายกำหนดการเสด็จเยือนแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ในระหว่างวันที่ 24-26 พฤษภาคมนี้ เพื่อจะไปร่วมรำลึกถึง เหตุการณ์สำคัญของพระศาสนจักรคาทอลิกกับพระศาสนจักรออร์โทดอกซ์ที่สมเด็จพระสันตะปาปาเปาโลที่ 6 เป็นผู้สานสัมพันธไมตรีระหว่างสองพระศาสนจักรที่เคยแตกแยกกันมาเนิ่นนานถึง 9 ศตวรรษ ด้วยการเสด็จไปพบปะกับพระอัยกา อเธนากอรัสที่ 1 ประมุขของพระศาสนจักรออร์โทดอกซ์ เมื่อปี ค.. 1964 การเดินทางไปแสวงบุญยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้ เป็นการก้าวตามรอยเท้าของนักบุญ ยอห์นปอลที่สอง พระสันตะปาปา ที่เสด็จเยือนแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ เมื่อปี ค.. 2000 และ สมเด็จพระสันตะปาปา กิตติคุณ เบเนดิกต์ที่ 16 ที่เสด็จเยือนแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ ในปีค.. 2009
            วันนี้พ่อเลยขอกล่าวถึงเรื่องของการแสวงบุญสักหน่อย ความหมายของการแสวงบุญตามคำอธิบายของเราคือ การเดินทางเพื่อมุ่งไปยังสถานที่ที่มีความหมายทางด้านจิตวิญญาณ เป็นบุญยาตราไปสู่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง  ดังนั้น การแสวงบุญจึงมีเป้าหมายอยู่ที่ สักการะสถาน หรือ สถานที่สำคัญทางความเชื่อ เช่นสถานที่ที่เป็นที่เกิด หรือ ที่ตายของนักบุญ หรือสถานที่ที่เป็นจุดหักเหสำคัญเช่นการสอนสัจธรรม หรือ สถานที่ที่นักบุญ หรือ บุคคลบางคนได้พบกับการประจักษ์มาของแม่พระ หรือ พระเยซูเจ้าเป็นต้น ส่วนผู้เดินทางไปแสวงบุญก็เรียกกันง่ายๆว่าผู้แสวงบุญนั่นเอง
            ความหมายของการเดินทางแสวงบุญในใจความที่กว้างกว่าประเด็นข้างต้นก็คือ ชีวิตของเรามนุษย์ทุกคนที่ดำรงชีวิตอยู่ในโลกนี้ เป็นประดุจการแสวงบุญมุ่งหน้าไปยังเมืองสวรรค์ ดังนั้นการแสวงบุญไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆบนโลกนี้ เป็นเพียงเป้าหมายชั่วคราวที่เราคริสตชนต่างซักซ้อมเอาไว้ ทั้งนี้เพื่อเตือนใจของเราให้คงมั่นในบุญยาตราอันศักดิ์สิทธิ์ที่เราทุกคนกำลังมุ่งหน้าไปสู่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดนั่นคือสวรรค์นิรันดรนั่นเอง

คุณพ่อสุพจน์
......................................................................................................................
วันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 6
เทศกาลปัสกา
“ถ้าท่านทั้งหลายรักเรา ท่านจะปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา”

เป็นที่น่าเสียดาย สำหรับเราหลายๆ คน ที่ปากบอกว่ารัก แต่กลับไม่เคยได้สัมผัสความรักจริงๆ หรือเราอาจจะพูดเสมอเลยว่า “เรารักพระเจ้า” แต่เรายังไม่ได้รักพระเจ้าจริงๆ เพราะอะไรหรือ?? 
เพราะหัวใจของเรายังไม่เปิดพอ เพราะหัวใจของเรายังมีความเกลียดชังคนรอบข้าง  เรายังไม่ชอบคนรอบข้างของเรา  เรายังไม่พร้อมที่จะยอมรับนิสัยหรือพฤติกรรมบางอย่างของคนรอบข้าง  ทำให้ยังมีความคิด อคติ ที่ไม่ดีต่อเขา จนนำไปสู่ความเกลียดชัง และยากที่จะให้อภัยได้

พี่น้องครับ  อาทิตย์สัปดาห์ที่ 6 ในเทศกาลปัสกาแล้ว  อาทิตย์หน้าก็จะฉลองใหญ่ สมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์  ปัสกากำลังจะผ่านไป แล้วชีวิตของเราได้เปลี่ยนแปลงให้ความสุข ความสงบสันติ เกิดขึ้นกับชีวิตเราอย่างแท้จริงเพียงใด.. เพราะวันนี้พระเยซูเจ้าบอกกับเราว่า “ถ้าท่านทั้งหลายรักเรา ท่านจะปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา” ซึ่งคำสอนที่สำคัญขององค์พระเยซูเจ้าก็คือ “พระองค์สอนให้เรารักกันและกัน”
สำหรับพระเยซูเจ้าแล้ว สิ่งเดียวที่พิสูจน์ความรักแท้ได้ คือ การเชื่อฟัง แล้วเราเชื่อฟังพระองค์ ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระองค์มากน้อยแค่ไหน  เพราะความรักไม่ใช่เรื่องของอารมณ์ ความรู้สึกเพียงอย่างเดียว  แต่เป็นเรื่องของศีลธรรมที่แสดงออกมาด้วยความเชื่อฟังด้วย
หาไม่แล้ว เราจะพบเด็กจำนวนมากที่ปากบอกว่ารักพ่อรักแม่ แต่ในเวลาเดียวกันก็ทำให้พ่อแม่ต้องกระวนกระวายใจหรือเสียใจอยู่บ่อยๆ  หรือไม่..เราก็จะพบว่า สามีภรรยามากมายหลายคู่ที่ต่างก็บอกว่ารักกัน แต่ในเวลาเดียวกันกลับทำให้อีกฝ่ายหนึ่งเจ็บช้ำน้ำใจ ด้วยการฉุนเฉียวกันบ้าง โมโห โหดร้ายต่อกันบ้าง หรือไม่รู้จักเกรงอกเกรงใจกันบ้าง หรือนำไปสู่ความไม่ซื่อสัตย์ต่อกัน  สิ่งเหล่านี้ เราเรียกมันว่าเป็น “ความรัก” หรือ  ดังนั้น ความรักที่เป็นความรักแท้จริง ให้เราดูแบบอย่างขององค์พระเยซูเจ้า พระองค์รักเราโดยปราศจากเงื่อนไข รักโดยไม่ต้องเรียกร้องสิ่งใด เพราะความรักที่แท้จริง คือ รักที่ปรารถนาให้เขามีความสุข 

ดังนั้น...คำสอนของพระวันนี้ท้าทายเรา มันอาจทำยาก แต่ไม่ยากเกินกว่าจะลงมือทำ ขอเพียงเราเริ่มต้นที่จะทำ และภาวนาขอพระได้ช่วยเหลือ เราก็จะทำได้โดยไม่ยากจนเกินไป

คพ.วิทยา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น