..........................................................................................................................................
๑ ปี วิถีชุมชนวัด ซอยประจักษ์สิน
สวัสดีพี่น้องที่รัก วิถีชุมชนวัด (BEC) ที่ได้เริ่มต้นขึ้นที่วัดของเรา
(ที่ซอยประจักษ์สิน) ก็ได้บรรจบครบรอบ 1 ปีที่ร่วมเดินทางกันมาแล้ว
ผลงานจากพระวาจาที่ได้เปลี่ยนแปลงสมาชิกก็เริ่มเห็นผลบ้างแล้ว
มีกิจการร่วมกันของชุมชน เช่น การออกเยี่ยมผู้ป่วย การพูดคุยทักทาย แม้แต่เรื่องพื้นฐานคือการยิ้มให้กันก็มีมากขึ้น
ยังมีการสร้างสรรค์บอร์ดประชาสัมพันธ์ข่าวสารของกลุ่มและคนในซอยให้ทราบกันอีกด้วย
ที่เห็นชัดก็คือได้นำการสวดภาวนาด้วยกันของคนในซอยเข้ามาอีกครั้ง พี่น้องครับ
พระวาจาของพระเจ้านี้จะคงดำรงอยู่ในชีวิตคริสตชนของพี่น้องทุกคนต่อไปเช่นนี้เสมอ
แล้วเราจะร่วมกันสร้างวิถีชุมชนวัดไปด้วยกัน
การฉลองวันพระเจ้าคือหัวข้อที่เราพูดคุยกันประจำเดือนนี้
โดยนำเรื่องของแบบอย่างมรณสักขีในอดีตที่ยอมตาย
ดีกว่ายอมขาดการร่วมการฉลองพิธีมิสซา ประโยคเด็ดที่พวกมรณสักขีกล่าวก็คือ “พวกเราคริสตชนไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยปราศจากการฉลองพิธีมิสซา”
นั่นเอง
แล้วพวกเราล่ะ???
สิ่งนี้กลายมาเป็นข้อรำพึงแบ่งปัน และพูดคุยกันในที่ชุมนุม
พ่อถามกับสมาชิกจากประโยคที่มาจากพระวรสารนักบุญยอห์น (ยน 20:19-23) ว่า
“เมื่อเขาเหล่านั้นเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้า ก็มีความยินดี” แล้วเมื่อเราไปร่วมฉลองวันพระเจ้า
หรือมิสซาวันอาทิตย์นั้น เรามีความยินดีหรือไม่?
คำตอบของพี่น้องนั้น
พ่อเชื่อมั่นว่าคงไม่ต่างจากสมาชิกกลุ่มนี้มากนัก “มีความสุข” “อยากไปวัด เพราะจะได้ขอบคุณพระเจ้า”
“ไปมิสซาแล้วเหมือนได้เติมแบตเตอรี่” “ยินดีทุกครั้งที่ได้ไปมิสซา
เพราะยิ่งมีความทุกข์ก็ลืมความทุกข์ไป” “แม้ในยามเจ็บป่วย เหมือนพระทอดทิ้ง
แต่เมื่ออ่านพระคัมภีร์ ได้ฟังพระวาจาแล้วก็มีสันติสุข และสามารถอดทนได้”
ยังมีคำตอบอีกมากมาย.....
พ่อขอท้าทายให้พี่น้องทุกคนได้ค้นหาคำตอบสำหรับตัวเองนะครับ “เรามีความยินดี
มีสันติสุขไหม เมื่อได้มาวัด ร่วมมิสซาทุกวันอาทิตย์?”
จะสามารถบอกได้ไหมว่า
“ชีวิตคริสตชนของเราขาดมิสซาวันอาทิตย์ไม่ได้” “คิดถึงพระ อยากมาหาพระองค์”
เพราะนั่นจะทำให้เราหันมามองตัวเองมากขึ้น
โดยเฉพาะในเทศกาลมหาพรตที่เริ่มต้นอาทิตย์แรกนี้ ว่าเราให้ความสำคัญกับวันพระเจ้ามากเพียงใด?
พี่น้องได้ต่อสู้เต็มกำลังความสามารถหรือยังเพื่อจะได้มาวัดวันอาทิตย์
เหมือนกรณีของมรณสักขีแห่งเมืองอาบิทาเนีย?
สิ่งสำคัญตามมาคือ
เราจะทำอย่างไรให้การมาร่วมมิสซาในวันพระเจ้ามีคุณค่าและความหมายสำหรับชีวิตและชุมชนของเรา?
ขอทุกท่านจงมีความสุขสันติ มีความยินดีที่ได้พบพระองค์
รู้จัก และรักพระองค์ เพราะนี่เป็นบ่อเกิดแห่งความรักในครอบครัว ในชุมชน
และสังคมที่เราอาศัยอยู่
และมหาพรตนี้จะกลายเป็นเทศกาลแห่งความรักโดยแท้สำหรับเราคริสตชนทุกคน
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าได้สละชีวิตของพระองค์เพื่อกอบกู้เราไว้แล้ว
คุณพ่อปลัดองค์เล็ก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น