“การไม่รู้จักพระคัมภีร์
คือการไม่รู้จักพระคริสตเจ้า” (นักบุญเยโรม)
พี่น้องที่รัก
เป็นอาทิตย์ที่สองของเดือนที่สองปี
2020รวดเร็วดีจริง ท่ามกลางโรคภัยไข้เจ็บ
ไวรัสวัยร้ายมากมาย
ล้วนแล้วเป็นข่าวร้ายที่เข้ามากลบเกลื่อนข่าวดีให้หมดหายไปจากจิตใจของชาวเรา แต่โลกนี้เต็มไปด้วยความหวังหลังจากพระเยซูเจ้ามาประกาศข่าวดี
ธรรมย่อมชนะอธรรมและอยู่เหนือความชั่วร้ายทั้งปวง
คริสตชนเราต้องเข้มแข็งด้วยความเข้มข้นในการนำสาระคำสอนเรื่องความรักที่รู้จักมอบให้
อดทนไม่บ่นว่า และพยายามก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง “เราเป็นหนทาง ความจริง
และชีวิต” “ใครเดินตามเรา ไม่หลงทาง” “เสียสละตนเองแบกไม้กางเขนและติดตามทุกวัน”
พระวาจาของพระเจ้าเป็นพระวาจาทรงชีวิต
หากใช้เวลาสักนิดเปิดหนังสือไบเบิ้ลไดอารี่ อ่านพระวาจาประจำวัน
กุญแจไขปัญหาชีวิตและช่วยทำให้เรามั่นใจในเส้นทางประจำวันว่าไม่ผิดและไม่มีหลงทาง...ช้าเร็วไม่สำคัญ
แต่ชัวร์ดีกว่า
สัปดาห์นี้ขอให้เราเป็นแสงสว่าง ฉายแสงความดีให้กับกันและกัน
และช่วยกันเป็นเกลือรักษาคุณงามความความดีเพื่อจรรโลงความเชื่อมั่นในพระวาจาของพระเยซูเจ้าสู่เพื่อนพี่น้อง
กันและกัน ตามที่พระองค์ทรงสั่งสอน...
ขอแจ้งข่าวสารให้พี่น้องทราบวันเสาร์
15 และอาทิตย์ที่ 16 นี้ ตัวพ่อจะไปกับกลุ่มครอบครัวที่ผ่านพิธีสมรสในวัด 1-
10 ปีที่บ้านผู้หว่าน สามพราน
จะใช้เวลาเพื่อการร่วมอภิบาลเพิ่มเติมพร้อมกับคณะวิทยากร 3 ชุด ชุดจิตวิทยา
ชุดเสริมพลัง และชุดการดูแลลูกในระบบป้องกัน
พร้อมมีนักกฎหมายคาทอลิกช่วยแนะนำให้ถูกทิศถูกทาง
วันพุธที่
26 นี้เราจะเริ่มเข้าทางมหาพรต มาหาพระ แล้วนะครับ มหาพรตปีนี้
วัดเซนต์หลุยส์จะมีกิจกรรมหลายอย่างเข้ามาเพื่อช่วยให้การเจริญชีวิตคริสตชนได้กระตือรือร้นมากขึ้น
มี 24 ชั่วโมงเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าในช่วงท้ายสัปดาห์ที่ 3
เพื่อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 4 ของมหาพรตการอยู่กับพระเยซูเจ้าต่อหน้าศีลมหาสนิทส่วนตัวบ้าง
ได้คืนดีกับพระเจ้าในศีลอภัยบาปบ้าง
จะเป็นเวลาที่ดีมากสำหรับการเดินทางไม้กางเขนในเวลาพิเศษของมหาพรต
บรรดาเยาวชนของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯเตรียมตัวมาใช้ชีวิตในบรรยากาศของวัดเซนต์หลุยส์
ตั้งแต่วันพฤหัสที่ 19 มีนาคม ถึงวันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม
โดยสร้างบรรยากาศเป็นเหมือนตรีวารปัสกา ก่อนถึงเหตุการณ์จริงในสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์
น่าจะเป็นกิจกรรมที่ดีสำหรับเด็กเยาวชนได้สัมผัสกิจเมตตาทั้งฝ่ายกายและวิญญาณ
การช่วยเหลือผู้ยากไร้ การเยี่ยมเยียนผู้เจ็บป่วย ผู้สูงอายุ อารามนักบวช การสัมผัสชีวิตของคนเมือง
และการร่วมทำกิจกรรมกับชุมชนละแวกวัดใกล้ไกล
ขอพวกเราต้อนรับพวกเขาเหมือนลูกหลานของเรา
คุณพ่อชาญชัย ทิวไผ่งาม
“ทำสัปดาห์นี้ให้เป็นสัปดาห์แห่งความรัก”
จำได้ว่าเวลาเป็นเด็ก ๆ ช่วงสัปดาห์ที่จะถึงวันวาเลนไทน์หรือวันแห่งความรัก
สิ่งหนึ่งที่เด็กๆนักเรียนจะทำกันในโรงเรียนในสมัยนั้นก็คือซื้อสติกเกอร์รูปหัวใจ
มาแปะให้กัน แปะให้เพื่อนๆ แปะให้คุณครู แปะให้ใครก็ตามที่เราปรารถนาอยากจะแปะให้เขา
ด้วยมิตรภาพหรือด้วยความรู้สึกดีๆ มันเป็นรูปธรรมของการแสดงออกที่จับต้องได้
แม้ไม่ใช่เรื่องอะไรใหญ่โต ไม่ได้มีมูลค่าอะไร แต่รับรู้ได้ถึงความรู้สึก
และความปรารถนาดีที่มีให้กันทั้งผู้รับและผู้ให้
สัปดาห์นี้มีวันที่คนทั่วไปฉลองกันนั่นคือวันแห่งความรัก
หรือวันวาเลนไทน์ที่เราเรียกกันติดปากแม้ว่าอาจจะไม่ใช่วันสำคัญทางศาสนาโดยตรงนัก
แม้อาจจะเกี่ยวข้องกับนักบุญบางท่านในพระศาสนจักรของเรา จนเป็นที่มาของวันนี้ แต่ความหมายของวันแห่งความรักนี้ก็อาจจะถูกให้ความหมายไปในทางโลกมากกว่าจะเป็นแง่มุมทางศาสนา
ก็คงไม่ใช่เรื่องที่สำคัญเท่าไหร่นักว่า จะมอง จะให้ความหมายอย่างไร
แต่พ่อมาคิดว่าการมีวันแห่งความรัก
มีสัปดาห์แห่งความรักให้เราได้คิดถึงบ้างก็เป็นเรื่องดีและไม่เสียหาย
และไม่จำเป็นต้องเป็นมุมมองความรักแบบ หนุ่มสาว คู่รักเท่านั้น
แต่เป็นความรักสำหรับทุก ๆ คน ความรักที่เรามีต่อพระ ความรักในครอบครัว
ความรักในมิตรภาพเพื่อนฝูง ความรักในบทบาทหน้าที่ที่มี ฯลฯ
เป็นโอกาสที่เราจะได้หวนคิดถึงและให้ความสำคัญเป็นพิเศษในสัปดาห์แห่งความรักนี้
การแปะสติกเกอร์รูปหัวใจเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึง
ความรู้สึกดี ๆ ความปรารถนาดีที่มอบให้กัน แบบเห็นเป็นรูปธรรม
การมีภาคปฏิบัติที่เราแสดงต่อกันในสัปดาห์นี้เป็นพิเศษก็เป็นเครื่องบ่งแสดงถึงความรักที่เรามีต่อบุคคลต่าง
ๆ ที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้
บุคคลเหล่านี้อาจจะไม่ได้อยากให้เราแปะสติกเกอร์รูปหัวใจ ให้ช่อดอกไม้ช่อโตๆ
แต่เขาอาจจะรอเพียงแค่คำพูดดี ๆ จากเรามากขึ้น เวลาที่เราให้กับเขามากขึ้น
เรื่องดี ๆ ที่เราจะทำให้เขามากขึ้น
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่เราน่าจะทำเป็นพิเศษและทำให้สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์แห่งความรัก
สุขสันต์สัปดาห์แห่งความรัก
ปลัดวัดสาทร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น