วันเสาร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2563

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2020


สัปดาห์ที่สองเทศกาลธรรมดา วันสันติภาพสากล
        พี่น้องที่รักเรากำลังออกเดินทางไปกับพระเยซูเจ้า เพื่อประกาศข่าวดีเรื่องความรอดพ้นด้วยความรัก เป็นทั้งสะพานเชื่อมโยงเรากันเองกับพระเจ้าให้เป็นเส้นทางเดียวกัน ทั้งนี้จะได้สมตามพระวาจาของพระเยซูเจ้าว่า “เราเป็นหนทาง ความจริงและชีวิต”สัปดาห์หนึ่งผ่านพ้นไป และต่อจากนี้อีก 6 สัปดาห์เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่มหาพรตอันยิ่งใหญ่และจะได้เฉลิมฉลองพระองค์ผู้ทรงเอาชนะความตายต่อบาปเพื่อความรอดพ้นนิรันดรยอห์นผู้ทำพิธีล้างย้ำกับเราทุกคนอีกครั้งหนึ่ง เมื่อแลเห็นพระองค์กำลังเสด็จผ่านมาหาท่าน กล่าวว่า “นี้คือบุตรของพระเจ้า”
พ่อขอแสดงความยินดีกับเด็กนักเรียนที่เริ่มเจริญเติบโตและได้เข้ารับพิธีศีลกำลังพร้อมกับเด็กๆทั่วไปที่อาสนวิหารอัสสัมชัญ เกือบสองร้อยคนจากพระคาร์ดินัลฟรังซิสเซเวียร์เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช เมื่อวันเสาร์ที่ 18 นี้เอง
มิสซาวันตรุษจีนเสาร์ที่ 25 มกราคม มี 3 รอบ เสกส้มเฉพาะเวลา 09.00 น. เช้าเย็น 6.00 น. และ 17.30 น.มีมิสซาตามปกติ
อบรมครอบครัวเฉพาะคู่แต่งงานมาแล้ว 1-10 ปี15-16 กุมภาพันธ์นี้ ที่บ้านผู้หว่าน สมัครได้ที่พระสงฆ์ทุกองค์ของวัด เพื่อขอใบลงทะเบียนรับของที่ระลึกด้วย จุดประสงค์เพื่อให้คำแนะนำเรื่องที่ควรรู้และเสริมระบบป้องกันเด็กให้ปลอดภัยจากอันตรายใกล้ตัว จากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ไม่มีค่าใช้จ่ายรายการนี้น่าสนใจเพราะเป็นประโยชน์สำหรับชีวิตครอบครัว
เรียนคำสอนภาคปิดเทอมใหญ่สำหรับเด็กๆ เริ่มวันจันทร์ 23 มีนาคม และรับศีลมหาสนิทครั้งแรก 19 เมษายนในระหว่างเรียนมีกิจกรรมเข้าค่ายคำสอนพร้อมกับเยาวชน
วันที่ 19-22 มีนาคม มีค่ายเยาวชนของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพเตรียมฉลองปัสกา จัดที่วัดและโรงเรียนเซนต์หลุยส์ศึกษา เป็นการสัมผัสชีวิตกลุ่มคริสตชนในกรุงเทพฯจะเป็นประโยชน์สำหรับการใช้ชีวิตของพวกเขาในวันข้างหน้า“ต่อไป”ในความเป็นศิษย์ธรรมทูต
ขอแจ้งให้ทราบว่า บัดนี้ทางวัดของดรับของบริจาคสิ่งของใช้แล้วมา “กองทิ้ง” ที่หน้าบ้านพักพระสงฆ์ เนื่องจากไม่ผ่านการคัดกรองเรื่องการนำเอาไปใช้ได้จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ใครต้องการโละทิ้งโปรดจัดการขยะของท่านกับผู้มาซื้อของเก่าเองหรือลงถังขยะหน้าบ้านอนึ่ง หากต้องการบริจาคโปรดนำของที่ยังไม่ได้ใช้ แต่ใช้ได้ มาจะเป็นสิ่งที่แสดงออก “กิจเมตตา”อย่างมีความหมายที่มีประโยชน์ต่อผู้รับมอบดีกว่า

คุณพ่อชาญชัย  ทิวไผ่งาม


"พยานถึงพระเยซู...เรายิ่งจางลง พระองค์ยิ่งชัดเจนขึ้น"

"ขอพระหรรษทานและสันติสุขจากพระเจ้าพระบิดาของเรา และจากพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับท่านทั้งหลายเถิด"  (1คร 1:1-3)
           คำทักทายที่เราตั้งใจมอบสันติสุขให้แก่กัน ล้วนมาจากความจริงใจ  ความจริงใจล้วนมาจากหัวใจของเราที่เต็มเปี่ยมด้วยความรักที่มีต่อพระ  ความรักที่มีต่อพระนั้นมีได้ก็เพราะเราได้พบได้มีประสบการณ์ความรักที่พระทรงมอบให้กับเรา เราจึงขอบพระคุณความรักของพระ เราจึงเชื่อมั่นวางใจในพระ เราจึงยอมมอบความรักสันติสุขให้กับพี่น้องคนอื่นตามที่พระเยซูทรงทำเป็นต้นแบบและเรียกร้องให้เราดำเนินชีวิต และแสดงความรักความใจกว้างออกมาผ่านทางกิจเมตตาที่มีต่อกัน ผ่านทางสันติสุขจริงใจที่มอบให้กัน
พระองค์ตรัสว่า “เป็นการน้อยไปที่ท่านจะเป็นผู้รับใช้ของเรา เพื่อสถาปนาเผ่าพันธุ์ยาโคบขึ้นใหม่ และรวบรวมอิสราเอลที่เหลืออยู่อีกครั้งหนึ่ง เราจะให้ท่านเป็นแสงสว่างส่องนานาชาติ เพื่อความรอดพ้นที่เรานำมาให้จะได้แผ่ไปจนสุดปลายแผ่นดินบัดนี้" .....พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้า และข้าพเจ้าได้รับเกียรติเฉพาะพระพักตร์พระองค์ พระเจ้าของข้าพเจ้าทรงเป็นพละกำลังของข้าพเจ้า (อสย 49:6,5ข)
           ด้วยมิตรภาพ ด้วยความใจกว้าง ด้วยสันติสุขที่มอบให้ เหล่านี้แหละ คือ "แสงสว่างส่องนานาชาติ" คือ "การร่วมแผนการสร้างกับพระเจ้า" เรามีพลัง และทำได้เพราะ "พระเจ้าของข้าพเจ้าทรงเป็นพละกำลังของข้าพเจ้า"
ยอห์นยังยืนยันอีกว่า “ข้าพเจ้าเห็นพระจิตเจ้าเสด็จลงมาจากสวรรค์เหมือนนกพิราบ และทรงอยู่เหนือพระองค์ข้าพเจ้าเห็นและเป็นพยานยืนยันว่าท่านผู้นี้เป็นพระบุตรของพระเจ้า”  (ยน 1:29-34)
          ทุกครั้งที่เรามอบสันติสุขให้แก่กัน ทุกครั้งที่เราดูแลกันและกัน ทุกครั้งที่เราใจกว้างด้วยเมตตาจิตต่อกัน  เรากำลังเป็นพยานถึงองค์พระเยซูเจ้า เป็นพยานถึงความรักของพระบิดา  เรากำลังร่วมมือกับพระและทำให้ความรักของพระบิดาในตัวพระเยซูเจ้าเกิดขึ้นจริงซ้ำแล้วซ้ำอีก และยิ่งทียิ่งปรากฎชัดเจนขึ้น

                                                                                                                                    นกขุนทอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น