วันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2562

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน 2019


สารวัดวันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน 2019
สมโภชพระจิตเจ้า


พี่น้องที่รัก...
        เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ค.ศ. 2019 นับเป็นวันครบรอบ 350 ปีของมิสซังสยาม (1669-2019) สมเด็จพระสันตะปาปาเคลเมนต์ที่ 9 แต่งตั้งให้ดินแดนของเรามีสถานะ “มิสซัง”(MISSION หรืออาจจะเขียนทับศัพท์ว่ามิซซัง)หมายถึงการมีผู้แทนของพระสันตะปาปา และสืบต่อเนื่องจนมีพระสังฆราชเป็นหัวหน้ามิสซังและยกระดับให้มีฐานะเป็นสองอัครสังฆมณฑลและเก้าสังฆมณฑลจนสืบต่อเนื่องจนมาถึงทุกวันนี้ ขอบพระคุณพระเป็นเจ้า  ถึงแม้ว่าจำนวนคริสตชนเป็นส่วนน้อยของประเทศ เพียงแค่ครึ่งเปอร์เซ็นต์ แต่ทุกคนต่างยังมีความเชื่อที่เข้มแข็งและยังคงเป็นเกลือ แสงสว่างและเชื้อแป้งที่ยังคงนำพระวรสารสู่ปวงชนต่อไป
        วันวานเมื่อก่อนโน้น บรรดามิชชันนารีเดินทางมากรุงศรีอยุธยาพบคริสตชนจำนวนหลักพัน แต่วันนี้ได้เติบโตใหญ่นับได้เรือนแสน จากวัดนักบุญยอแซฟ อยุธยา กลายเป็นพระศาสนจักรคาทอลิกแห่งประเทศไทย ประกอบด้วยอัครสังฆมณฑล 2 แห่ง สังฆมณฑล 9 แห่ง วัด 526 แห่ง จำนวนพระสงฆ์ 442 องค์ นักบวชชาย 118 คน นักบวชหญิง 1,480 คน ฆราวาสทั่วไปอีก 388,468 คน (ใครสนใจรายละเอียดต้องหาอ่านจากหนังสือที่จัดจำหน่ายข้างวัด)
        เมื่อการเริ่มต้นฉลอง 350 ปีมิสซังสยาม บัดนี้พ่อขอเชิญชวนทุกท่านที่สามารถจัดซื้อหนังสืออ่านเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และรายละเอียด จะเป็นประโยชน์และทำให้เรามีความกระตือรือร้นในการช่วยพระพระเยซูประกาศพระวรสารสู่ปวงชนต่อไป ณ บริเวณสนามหญ้าเขียวข้างวัด เฉพาะอาทิตย์นี้เท่านั้น
        วันนี้เองจึงถือเป็นการเริ่มต้นการประกาศพระวรสารต่อไป โดยเริ่มต้นเรียนพระธรรมคำสอนกลุ่มผู้ใหญ่ตั้งแต่วันนี้เพื่อเตรียมตัวรับศีลล้างบาปในวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ปี 2020ตั้งแต่เวลา 15.00-17.00 น. ส่วนเด็กๆที่ไม่สะดวกในช่วงเดือนกรกฎาคมจะเริ่มสอนให้ในวันอาทิตย์นี้เช่นกัน เรียนครั้งละประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง 9.00-10.30 น.เพื่อการเตรียมและปรับตัวให้พร้อมเพื่อรับศีลศักดิ์สิทธิ์ต่อไป ทั้งสองกลุ่มนี้ใช้ห้องคำสอนของวัดและโรงเรียน
        เดือนมิถุนายน ชาวเรายังคงช่วยกันนำความรักและเมตตากรุณาของพระเจ้ามอบให้กับเพื่อนพี่น้องสามกลุ่มคือเด็กนักเรียนที่วัดนักบุญอันนา ท่าจีน และแม่แจ่มเชียงใหม่ กับศูนย์คราลาเพื่อผู้ติดเชื้อHIV โดยรวบรวมสิ่งของและปัจจัย และจะส่งมอบให้ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ความรักความเมตตาอยู่ที่ใด พระเจ้าประทับอยู่ที่นั่น
        วันอาทิตย์ที่ 23 เป็นวันอาทิตย์สมโภชพระกายและพระโลหิตของพระคริสตเจ้า ดังนั้นมิสซา รอบ 10.00 น.เป็นมิสซาอัญเชิญศีลมหาสนิทรอบวัด(แห่)และอวยพรศีลมหาสนิท ทั้งหน้าวัดพระจิตเจ้า หน้าศาลาหลุยส์มารีย์ และพระแท่นใหญ่ของวัดเซนต์หลุยส์ ขอเชิญชวนพี่น้องทุกคน ในมิสซานี่เอง บรรดาเด็กและเยาวชนจะช่วยกันช่วยพิธีกรรม เพื่อการเป็นศิษย์พระคริสตเจริญชีวิตประกาศพระวรสารสู่ปวงชน
       
       
คุณพ่อชาญชัย  ทิวไผ่งาม

บอกกล่าว เล่าเรื่อง
เราอาจกำลังทิ้งพระไว้ข้างหลัง
            ครั้งหนึ่งขณะที่โดยสารด้วยสายการบินระหว่างประเทศสายการบินหนึ่ง ซึ่งเป็นสายการบินที่ไม่ได้มีความประหลาดหรือพิเศษกว่าสายการบินอื่นๆที่เคยมีโอกาสได้นั่งมา แต่ในความปกติธรรมดา พ่อพบว่ามันมีความไม่ธรรมดา มีความพิเศษอยู่ ในขณะที่เครื่องบินกำลังจะบินลงแตะรันเวย์ ที่หน้าจอมอนิเตอร์ทุกหน้าจอขึ้นข้อความ เตือนให้ผู้โดยสารรัดเข็มขัด(ซึ่งเป็นปกติของคำเตือนในทุกสายการบิน) แต่ในข้อความนี้เองก็มีข้อความต่อท้ายที่พ่อไม่เคยพบเห็นในสายการบินอื่นๆ นั่นคือ ขอให้ทุกท่านสวดภาวนาเพื่อให้การลงจอดปลอดภัยและได้รับความคุ้มครองจากพระเจ้า พ่ออ่านแล้วก็รู้สึกแปลกเพราะไม่เคยเห็นข้อความเหล่านี้ในสายการบินอื่นๆ แต่ในความแปลกก็รู้สึกประทับใจในถ้อยคำที่สายการบินนี้ได้เขียนและสื่อสารออกมา     
ในโลกของเทคโนโลยี การสื่อสาร นวัตกรรมที่ทันสมัย เป็นต้นในการเดินทาง ทางอากาศที่มีเทคโนโลยีทันสมัย และค่อนข้างปลอดภัยที่สุด(เทียบจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการเดินทางในแบบอื่นๆ) และค่อนข้างมั่นใจได้ ทั้งในตัวเทคโนโลยีและความสามารถของนักบินที่ได้รับการฝึกฝนมาจากประสบการณ์บิน แต่ในความมั่นใจก็ยังมีความเชื่อที่แทรกซึมอยู่ในความมั่นใจที่มีนั้น เพียงความสามารถของมนุษย์อย่างเดียวคงไม่เพียงพอ  ถ้าไม่ได้พึ่งพาพระเจ้า ไม่ได้พึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่แต่ละศาสนาเชื่อ เรื่องนี้ทำให้พ่อเองได้กลับมาคิด หลายครั้งในความเป็นมนุษย์เราอาจมั่นใจในความสามารถ ในเรื่องต่างๆที่คิดว่า เราแน่ เราเก่ง เราเจ๋ง จนเราลืมทิ้งพระเจ้าไว้ข้างหลัง จนเราลืมไปว่าคนที่ส่งเสริม คนที่สนับสนุน คอยนำทางเรา และคอยผลักดันเราเสมอ คือพระ เพียงแค่ความสามารถประสามนุษย์คงไม่เพียงพอถ้าไม่พึ่งพระเจ้าเลย
            ในวันสมโภชพระจิตเจ้า ซึ่งเราถือว่าเป็นวันเริ่มต้นเป็นวันกำเนิดของพระศาสนจักร หลังจากบรรดาอัครสาวกได้รับพระจิต พวกเขามีความกล้าหาญและออกไปประกาศข่าวดีเรื่องพระเยซูเจ้าให้แก่คนทุกเชื้อชาติ เป็นการเริ่มต้นงานประกาศข่าวดีอย่างเป็นทางการของบรรดาอัครสาวก
            พี่น้องที่รัก ในวันเริ่มต้นในวันกำเนิดของพระศาสนจักร เป็นโอกาสที่เราแต่ละคนจะได้กลับมาทบทวนความเชื่อในชีวิตคริสตชนของเราแต่ละคน เรายังมีพระควบคู่ไปในชีวิตประจำวันของเราอยู่เสมอหรือเปล่า ในครอบครัว ในที่ทำงาน ในชุมชนละแวกบ้านที่เราอยู่ หรือเรากำลังมั่นใจในตัวของเราในความสามารถแบบมนุษย์ของเราจนเรากำลังดันพระไปอยู่ข้างหลังของเรา ประโยคสั้นๆในเครื่องบินโดยสารที่พ่อได้แบ่งปันให้กับพี่น้องมันดังก้องขึ้นมาในความคิดขึ้นมา ในความก้าวหน้า ในยุคเทคโนโลยี ที่ดูเหมือนจะทำให้ความเชื่อเป็นเรื่องสวนทางกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี แต่จากเรื่องราวนี้กลับบอกเราว่า เทคโนโลยีที่ปราศจากความเชื่อในพระเจ้าต่างหากที่เป็นเรื่องน่ากลัว จะดีกว่าไหมถ้าเทคโนโลยี ความก้าวหน้าทันสมัยจะมีพระเคียงข้างไปอย่างน้อยก็ทำให้เรามั่นใจขึ้นว่า เราไม่ได้เดินอยู่คนเดียวแต่มีอีกคนที่คอยประคับประคองและเดินไปกับเรา                   
ปลัดวัดสาทร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น