วันศุกร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2562

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม 2019


สารวัดวันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม2019

ฉลองพระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้าง  “ศีลล้างบาป คือ ประกาศข่าวดี”
พี่น้องที่รัก
        หลังจากการสมโภชพระคริสตเจ้าแสดงองค์มีคำประกาศของพระศาสนจักรประเทศไทยเรื่องการฉลองวันสำคัญของปีพิธีกรรมของพระศาสนจักร ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับชีวิตคริสตชนของเราทุกคนดังนี้   

กำหนดวันฉลองสำคัญของพระศาสนจักรคาทอลิกปีคริสตศักราช 2019

นับตั้งแต่ที่เราได้เข้าสู่ปีพิธีกรรมใหม่ เริ่มด้วยเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า ต่อเนื่องด้วยการเฉลิมฉลองพระคริสตสมภพ และสมโภชพระคริสตเจ้าแสดงองค์  มวลหมู่คริสตชนมีโอกาสได้ไตร่ตรองถึงแผนการไถ่กู้ของพระเจ้าผ่านทางการฉลองต่างๆ   ซึ่งล้วนนำพาเราให้มุ่งสู่การฉลองที่สำคัญยิ่ง นั่นคือ การฉลองธรรมล้ำลึกปัสกา  อันหมายถึง การรับทรมาน  สิ้นพระชนม์ และกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูคริสตเจ้า
เพื่อให้ชีวิตความเชื่อของเราก้าวเดินอย่างสอดคล้องกับจังหวะของการฉลองต่าง ๆ ที่ระบุไว้ในรอบปีพิธีกรรม จึงขอประกาศกำหนดวันฉลองสำคัญของพระศาสนจักรคาทอลิกปีคริสตศักราช 2019ดังต่อไปนี้
ตรีวารปัสกา
วันระลึกถึงการเลี้ยงขององค์พระผู้เป็นเจ้า (พฤหัสศักดิ์สิทธิ์)          พฤหัสที่ 18เมษายน 2019
วันระลึกถึงพระทรมานขององค์พระผู้เป็นเจ้า (ศุกร์ศักดิ์สิทธิ์) ศุกร์ที่ 19เมษายน 2019
คืนตื่นเฝ้าปัสกา  (ค่ำวันเสาร์)                                เสาร์ที่ 20เมษายน 2019
วันอาทิตย์สมโภชปัสกา                       อาทิตย์ที่ 21เมษายน 2019
วันสำคัญอื่น
    วันเริ่มต้นเทศกาลมหาพรต (พุธรับเถ้า)                               พุธที่ 6มีนาคม 2019
    วันอาทิตย์ใบลาน (เริ่มสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์)                     อาทิตย์ที่ 14เมษายน 2019
    วันสมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์                           อาทิตย์ที่ 2มิถุนายน 2019
    วันสมโภชพระจิตเจ้า                                               อาทิตย์ที่ 9มิถุนายน 2019
วันเริ่มต้นปีพิธีกรรมใหม่ ปี A (เริ่มเทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ)            อาทิตย์ที่ 1ธันวาคม 2019


จึงขอให้พี่น้องได้ติดตามและร่วมพิธีกรรมซึ่งสำคัญต่อชีวิตหมู่คณะชุมชนความเชื่อของชาวเรา
                                       
ขอพระเจ้าอวยพร
พ่อชาญชัย ทิวไผ่งาม

                    

ฉลองพระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้าง 
            "สิ่งแรกที่พระองค์ทรงทำ คือ ยอม...ยอมด้วยใจถ่อมตน และให้ชีวิตของพระองค์แก่เรา"
พระเจ้าตรัสว่า “นี่คือผู้รับใช้ของเรา ซึ่งเราเชิดชู เราเลือกเขาเพราะเราพอใจเขา เราให้จิตของเราแก่เขา  เขาจะนำความยุติธรรมไปให้แก่นานาชาติ ไม้อ้อที่ช้ำแล้ว เขาจะไม่หัก และไส้ตะเกียงที่ริบหรี่อยู่ เขาจะไม่ดับ เขาจะประกาศความยุติธรรมด้วยความสัตย์จริง   เขาจะไม่หมดหวังหรือท้อใจ จนกว่าจะได้สถาปนาความยุติธรรมไว้บนแผ่นดิน ดินแดนชายทะเลจะรอคอยคำสอนของเขา”  (อสย 42:1,3-4)
          นี่คือภาพ นี่คือคุณสมบัติของผู้ที่พระเจ้าพอพระทัย  เขายอม...ยอมด้วยใจถ่อมตน ยอมตัดสละน้ำใจตน และยอมให้พระจิตของพระเจ้านำทาง
          นี่คือภาพ นี่คือคุณสมบัติของผู้ที่พระเจ้าพอพระทัย  เขายอม...ยอมด้วยใจถ่อมตน กล้าเผชิญหน้ากับความต้องการของตน และยอมรับที่จะวางความต้องการนี้ เพื่อจะมีที่ว่างฟังความต้องการ ความทุกข์-เจ็บปวดของเพื่อนพี่น้องรอบตัว ที่สำคัญยอมให้พระนำทางนำชีวิตจิตใจ
            ขณะนั้น ประชาชนกำลังรอคอย ทุกคนต่างคิดในใจว่า ยอห์นเป็นพระคริสต์หรือ......  ขณะนั้นประชาชนทั้งหมดกำลังรับพิธีล้าง พระเยซูเจ้าก็ทรงรับพิธีล้างด้วย และขณะที่ทรงอธิษฐานภาวนาอยู่นั้น ท้องฟ้าก็เปิดออก  และพระจิตเจ้าเสด็จลงมาเหนือพระองค์ มีรูปร่างที่เห็นได้ดุจนกพิราบ แล้วมีเสียงจากสวรรค์ว่า “ท่านเป็นบุตรที่รักของเรา เป็นที่โปรดปรานของเรา“ (ลก 3:15,21-22)
          งานแรก...สิ่งแรกที่พระเยซูเจ้าได้เริ่มงานของพระองค์ คือ ยอม ยอมด้วยความถ่อมตน...ให้พระจิตเจ้านำทางพระองค์  "ขณะที่เรากำลังรอคอยความหวังที่ให้ความสุข.....  พระองค์ทรงมอบพระองค์เพื่อเรา เพื่อไถ่กู้เราจากอธรรมทั้งหลาย  เพื่อ​พระ​หรรษ​ทาน​ของ​พระองค์​จะ​บันดาล​ให้​เรา​กลับ​เป็น​ผู้​ชอบ​ธรรม​และ​เป็น​ทายาท​ใน​ความหวัง​ว่า​จะ​ได้​ชีวิต​นิรันดร" (เทียบ ทต 2:13-14, 3:7)
         และ "การถ่อมตน ยอมให้พระจิตเจ้านำทาง" ได้กลับกลายเป็นพลังสำหรับพระองค์ตลอดการเดินทาง จนถึง ณ ไม้กางเขน ณ เขากัลวาริโอ 
          แน่นอน "การถ่อมตน ยอมให้พระจิตเจ้านำทาง"  และ "การยอมรับที่จะวางความต้องการของตน เพื่อจะมีที่ว่างฟังความต้องการ ความทุกข์-เจ็บปวดของเพื่อนพี่น้องรอบข้าง" จะเป็นพลังสำหรับเราเช่นกัน  "ผู้ที่พระเจ้า พอพระทัย".
                                                  นกขุนทอง.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น