วันศุกร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2561

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน 2018



สัปดาห์ที่ 26 เทศกาลธรรมดา

วันจันทร์นี้เราเข้าสู่กิจกรรมเตรียมเฉลิมฉลอง 350 ปีมิสซังสยามด้วยความศรัทธาต่อการสวดลูกประคำตลอดเดือนตุลาคม โดยเริ่มต้นเย็นวันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม มิสซารอบ 17.30 น. แล้วต่อด้วยสวดลูกประคำในวัด บ้านหรือครอบครัวหรือหมู่คณะนัดกันมาสวดด้วยกัน ตามเจตนาของแม่พระ บางบ้านยังคงมีธรรมเนียมสวดที่บ้านและยังเชิญแม่พระไปสวดกันเอง ขอให้รักษาบรรยากาศนี้ไว้ ส่วนใครไม่สะดวกก็มาที่วัด ทุกอย่างพร้อมเพรียงสวดสายประคำ ขอให้เป็นไปตามจุดประสงค์ครบเครื่องเรื่องการสวดครบแต่ละสายและรำพึงพระวาจา
1.เพื่อการเตรียม 350 ปีมิสซังสยามกับงานประกาศข่าวดี 
2.เพื่อส่งเสริมสิทธิของเด็กในครรภ์ 
3.เพื่อครอบครัว
4.เพื่อพระกระแสเรียกพระสงฆ์และนักบวช และ
5.เพื่อการสร้างยุวชนและเยาวชนเติบโตให้เป็นศิษย์พระคริสต์
ใครสวดครบหนึ่งสายแล้ว ขอให้นำเหรียญใส่ลงในกล่องใสที่รูปแม่พระบริเวณหน้าพระแท่นเพื่อรวมพลัง หนึ่งสายหนึ่งเหรียญ มากสายก็มากเหรียญ จะใส่เมื่อไรก็ได้ เพื่อรวบรวมกับวัดอื่นทั่วประเทศให้ครบ 350,000 สาย
ในวันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม จะเป็นวันรวมพลังสวดสายประคำพร้อมเพรียงจากวัดต่างๆในเขตหนึ่งมาที่วัดเซนต์หลุยส์ เริ่มลงทะเบียนรับของที่ระลึกตั้งแต่เวลา 8.00 น.เป็นต้นไป จบลงด้วยมิสซาและถวายช่อดอกไม้แด่แม่พระ เวลา 13.30 น. มีอาหารบริการเช้าและเที่ยง
ขอเชิญสมาชิกขององค์กรวัดหรือกลุ่มงานทุกคนรักการอ่านพระคัมภีร์อย่างไรให้มีชีวิตชีวา คุณพ่อ สหพล ตั้งถาวร จะใช้เวลาเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนประมาณครั้งละชั่วโมงครึ่งในวันอาทิตย์อธิบายการเข้าใจพระวาจาของพระเจ้าเพิ่มเติมให้ ถ้าทำได้ก็ครบเครื่องเรื่องการประกาศข่าวดี(อาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม เวลา 10.00-11.30 น.)ใช้ห้องประชุมของโรงเรียนด้านหลังบ้านพักพระสงฆ์ บางคนมาวัดร่วมมิสซา 08.00 น.แล้วก็พักทานอาหารเช้ากลับมาเรียนรู้พระวาจาต่อ  หรืออาจจะมาตอนสายๆเรียนก่อนต่อด้วยมิสซาตอนเที่ยงก็แล้วแต่สะดวก ใช้เวลาประมาณครั้งละ 90 นาที
บุคคลที่ควรมาเพิ่มเติมคือผู้ที่เคยเรียนคำสอนผู้ใหญ่ปีก่อนๆ บรรดาสมาชิกสภาภิบาลวัดหรือผู้ที่ต้องการเรียนรู้จริงๆ มาเพิ่มความรู้และความเข้าใจจะทำให้การอ่านและฟังพระวาจาของพระเจ้ามีคุณค่ามากขึ้น
ขอพระเจ้าอวยพร

พ่อเจ้าวัดเซนต์หลุยส์
............................................................................................

         
“ชีวิตเป็นพระพรของพระ....ชีวิตที่เคร่งครัดกับตนเองแต่ใจกว้างกับผู้อื่น”

“ผู้​มั่ง​มี​ทั้งหลาย จง​ร้องไห้​คร่ำ​ครวญ​เพราะ​ความ​ทุกข์​ยาก​กำลัง​จะ​มาถึง​ท่าน​แล้ว.... เงิน​ทอง​ของ​ท่าน​ก็​เป็น​สนิม และ​สนิม​นั้น​จะ​เป็น​พยาน​กล่าวโทษ​ท่าน มัน​จะ​กัด​กิน​เนื้อ​ของ​ท่าน​ประดุจ​ไฟ​ซึ่ง​ท่าน​สะสม​ไว้​สำหรับ​วัน​สุดท้าย  ท่าน​คด​โกง .... ท่าน​มี​ชีวิต​อย่าง​หรูหรา​ฟุ่มเฟือย​ใน​โลก​นี้ และ​กิน​เลี้ยง​อย่าง​สนุกสนาน....ท่าน​ตัดสิน​ลงโทษ​และ​ฆ่า​ผู้​ชอบ​ธรรม เขา​ก็​มิได้​ขัด​ขืน​ท่าน”(เทียบ ยก 5:1-6)
          ไม่มากก็น้อยพี่น้องคงพอจะรู้จัก นางเอกสาวชื่อดังของเมืองจีน  เธอโด่งดังไปทั่วแม้แต่ในภาพยนตร์ระดับสากล-ฮอลลีวู้ด  ชื่อของเธอคือ "ฟานปิงปิง"  
          ด้วยความเคารพ...ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรยังไม่มีบทสรุป  เพียงแต่ข่าวเบื้องหน้าถูกลือออกมาว่าเธอถูกทางการจีนตั้งข้อกล่าวหาว่าโกง-เลี่ยงภาษี เป็นความผิดร้ายแรง  ชีวิตที่เคยหรูหราของเธอ จึงถูกยึดและยุติลง  ข่าวว่าเธอถูกทางการจับและกักตัวในสถานที่หนึ่งซึ่งเราก็ไม่อาจรู้ได้ว่าเป็นที่ใด
          พี่น้องที่รักหากเป็นชีวิตของเราบ้างสิ่งที่เรามีสิ่งที่เราตั้งใจสะสม เมื่อถึงวันจบของเราเอง เราจะได้ใช้จริง เราจะใช้ได้อย่างที่เราตั้งใจไว้จริงๆหรือ  ที่สุดเราก็จำเป็นต้องปล่อยมันไปแม้ไม่อยากแต่เราก็หยุดอะไรไม่ได้
โมเสส​ตอบ​ว่า “....เรา​ปรารถนา​จะ​ให้​พระ​ยาห์​เวห์​ประทาน​พระ​จิต​ของ​พระองค์​แก่​ประชากร​ทั้ง​ปวงและ​ให้​เขา​ทุก​คน​เป็น​ประกาศก​ด้วย” (กดว 11:25-29)
          พระพรของพระ ของประทานจากพระมีอยู่ในชีวิตของเราแต่ละคนทุกคน    พระองค์ปรารถนาให้เราแบ่งปันให้แก่กันและกัน  พระพรของพระจะทวีคุณค่าอย่างที่เราเองก็คาดคิดไม่ถึง เมื่อเราไม่หวงเมื่อแบ่งปันให้ ให้ด้วยใจกว้าง
พระ​เยซู​เจ้า​ตรัส​ตอบ​ว่า “​อย่า​ห้าม​เขา​เลย.... ผู้ใด​ไม่​ต่อต้าน​เรา ก็​เป็น​ฝ่าย​เรา  ผู้ใด​ให้​น้ำ​ท่าน​ดื่ม​เพียง​แก้ว​หนึ่ง​เพราะ​ท่าน​เป็น​คน​ของ​พระ​คริสต​เจ้า เรา​บอก​ความ​จริง​กับ​ท่าน​ว่า เขา​จะ​ได้​บำเหน็จ​รางวัล​อย่าง​แน่นอน...”  (มก 9:39-41)
            น้ำธรรมดาธรรมดาแก้วน้อยน้อยแก้วหนึ่ง เป็นสัญลักษณ์เป็นภาพหมายความถึงพระพรของพระที่ตามสายตามนุษย์ดูไม่ใหญ่โตอะไรกลับกลายเป็นพระพรอันบริสุทธิ์ เป็นของประทานอันยิ่งใหญ่ ที่เรานำพระพรของพระนี้แบ่งปันให้กับเพื่อนพี่น้องด้วยใจกว้าง
          การกระทำเช่นนี้ดูเหมือนเป็นการกระทำอันเล็กน้อยแต่กลับเป็นที่พอพระทัยของพระเป็นอย่างยิ่ง  เป็นพระพรของพระที่เรายอมอดออมเคร่งครัดกับตนเอง จนมีพระพรของพระ อยู่ในชีวิตและแบ่งปันกันและกันด้วยใจกว้าง.
                                                                                    นกขุนทอง.

วันศุกร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2561

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 23 กันยายน 2018


สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา
            วันเสาร์ที่ 22 กันยายน เริ่มมีชีวิตชีวาด้วยกิจกรรมการฝึกฝนเด็กๆช่วยมิสซาให้เข้ารูปเข้ารอยตามรูปแบบของ
พิธีกรรมเพื่อให้เด็กคุ้นเคยกับการรับใช้พระเยซูเจ้ารอบๆพระแท่น และบรรดาผู้อ่านพระพระวาจาในมิสซาก็ได้รับการอบรม
เพิ่มเติมส่วนที่สำคัญในการทำหน้าที่อย่างถูกต้อง ไม่ขาดและไม่เกิน พอดีๆ หวังว่าจากบุคคลที่ใกล้ชิดพระแท่นจะทำให้พวกเราได้สัมผัสกับพระเยซูเจ้าผู้เป็นจุดรวมของเราในวันพระเจ้าอย่างมีชีวิตชีวาด้วยกันเสมอไป
                กันยายนยังคงเป็นการอ่านพระวาจาสู่สัปดาห์ที่สี่ของการอ่านพระวาจาและหนังสือศรัทธา ศูนย์คำสอนนำหนังสือ
พระคัมภีร์และศรัทธาต่างๆมาเป็นสัปดาห์สุดท้าย เพื่อบริการประทับใจให้ถึงมือถึงวัด เหลืออย่างเดียวถึงบ้าน แต่ใครที่ซื้อ
และเอาไปใช้ที่บ้านก็ถึงบ้านใช่เลย โครงการอ่านพระวาจานักบุญมาร์โกชุดละ 20 บาทน่าสนใจเหมาะกับครอบครัวมาก
                ขอเชิญสมาชิกขององค์กรวัดหรือกลุ่มงานทุกคนรักการอ่านพระคัมภีร์อย่างไรให้มีชีวิตชีวา น่าจะเป็นอีกหนึ่งวิธีการ
โดยเชิญคุณพ่อ สหพล ตั้งถาวร มาช่วยแนะนำใช้เวลาเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนประมาณครั้งละชั่วโมงครึ่งในวันอาทิตย์
ถ้าทำได้ก็ครบเครื่องเรื่องการประกาศข่าวดี ( อาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม เวลา 10.00-11.30 น.)
                เดือนหน้าเราเข้าสู่กิจกรรมเตรียมเฉลิมฉลอง 350 ปีมิสซังสยามด้วยความศรัทธาต่อการสวดลูกประคำตลอด
เดือนตุลาคม โดยเริ่มต้นเย็นวันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม มิสซารอบ 17.30 น.แล้วต่อด้วยสวดลูกประคำในวัด บ้านหรือครอบครัว
หรือหมู่คณะนัดกันมาสวดด้วยกัน ตามเจตนาของแม่พระ บางบ้านยังคงมีธรรมเนียมสวดที่บ้านและยังเชิญแม่พระไปสวด
กันเอง ขอให้รักษาบรรยากาศนี้ไว้ ส่วนใครไม่สะดวกก็มาที่วัด ทุกอย่างพร้อมเพรียงสวดสายประคำ ประมาณวันอาทิตย์หน้า
จะมีเครื่องมือช่วยการสวดให้เป็นไปตามจุดประสงค์ครบเครื่องเรื่องการสวด
                1.เพื่อการเตรียม 350 ปีมิสซังสยามกับงานประกาศข่าวดี  2.เพื่อส่งเสริมสิทธิของเด็กในครรภ์  3.เพื่อครอบครัว
4.เพื่อพระกระแสเรียกพระสงฆ์และนักบวช และ 5.เพื่อการสร้างยุวชนและเยาวชนเติบโตให้เป็นศิษย์พระคริสต์
                ในวันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม จะเป็นวันรวมพลังสวดสายประคำพร้อมเพรียงจากวัดต่างๆในเขตหนึ่งมาที่วัดเซนต์หลุยส์
เริ่มลงทะเบียนรับของที่ระลึกตั้งแต่เวลา 8.00 น.เป็นต้นไป จบลงด้วยมิสซาและถวายช่อดอกไม้แด่แม่พระ
                ขอบคุณทุกท่านและขอพระเจ้าอวยพร

                                                                                                พ่อเจ้าวัดเซนต์หลุยส์
........................................................................................................................

 “ผู้ยากไร้ของพระเจ้า ผู้เดินตามพระองค์เสมอ”
“เราจงดักซุ่มทำร้ายผู้ชอบธรรม เพราะเขาทำให้เรารำคาญใจ  เขาตำหนิต่อต้านกิจการของเรา.....เราจงดูเถิดว่าคำพูดของเขาจะจริงหรือไม่  เราจงพิสูจน์ว่าอะไรจะเกิดขึ้นแก่เขาในวาระสุดท้าย เราจงสาปแช่งและทรมานลองใจเขา ให้รู้ว่าเขาอ่อนโยนเพียงใด และจงทดสอบว่าเขาอดทนเพียงใด  เราจงตัดสินลงโทษให้เขาตายอย่างอัปยศ  ถ้าเป็นจริงอย่างที่เขาพูด พระเจ้าจะทรงคอยดูแลเขา” 
                                                            (ปชญ 2:12,17,19-20)
ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมเป็นพิเศษในช่วงเวลาที่ชาวอิสราแอลถูกจับและถูกเนรเทศหลายต่อหลายคนพบเห็นเหตุการณ์เลวร้าย ตัวเองก็ยากไร้ยากจน บ้านเมืองก็ถูกตีแตก ถูกทำลายจนไม่เหลือชิ้นดี พวกเขาก็หมดความหวังไม่เชื่อมั่นและละทิ้งองค์พระผู้เป็นเจ้าของพวกเขา
แม้มีประชากรของพระเจ้าที่สิ้นหวังและละทิ้งพระองค์ไปเป็นจำนวนมากมาย แต่ก็ยังมีประชากรของพระเจ้าส่วนหนึ่งที่ยังคงรักษาความเชื่อ ยังคงวางใจเฝ้ารอคอยพระสัญญาและความช่วยเหลือจากพระเจ้า  พวกเขาถูกเรียกว่า “ผู้ยากไร้ของพระเจ้า”
พวกเขาก็ยังเฝ้ารอคอยพระเจ้า แม้จะถูกท้าทายและดูถูกเหยียดหยาม "เราจงตัดสินลงโทษให้เขาตายอย่างอัปยศ  ถ้าเป็นจริงอย่างที่เขาพูด พระเจ้าจะทรงคอยดูแลเขา”  (ปชญ 2:20) พวกเขาเฝ้ารอคอยการปกป้องคุ้มครองดูแลจากพระองค์ อย่างที่ไม่มีวันหมดความเชื่อวางใจไปจากพระองค์
“บุตร​แห่ง​มนุษย์​จะ​ถูก​มอบ​ใน​เงื้อม​มือ​ของ​คน​ทั้งหลาย เขา​จะ​ประหาร​ชีวิต​พระองค์ แต่​เมื่อ​ถูก​ประหาร​แล้ว ใน​วันที่​สาม​พระองค์​จะ​กลับคืน​ชีพ”  บรรดา​ศิษย์​ไม่​เข้าใจ​พระ​วาจา​นี้ แต่​ก็​ไม่​กล้า​ทูล​ถาม.....เขา​ก็​นิ่ง เพราะ​ระหว่าง​ทาง​เขา​ถกเถียง​กัน​ว่า ผู้ใด​ยิ่งใหญ่​กว่า​กัน  พระองค์​จึง​ประทับ​นั่ง แล้ว​ทรง​เรียก​อัคร​สาวก​สิบ​สอง​คน​เข้า​มา ตรัส​ว่า “​ถ้า​ผู้ใด​อยาก​เป็น​คน​ที่​หนึ่ง ก็​ให้​ผู้​นั้น​ทำ​ตน​เป็น​คน​สุดท้าย และ​เป็น​ผู้รับ​ใช้​ของ​ทุก​คน”  (มก 9:31-32,34-35)
               ผู้คนในทุกๆวันนี้ถูกโลกในปัจจุบันหล่อหลอมให้สู้รบปรบมือ ให้แก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ให้ได้เป็นที่หนึ่งไม่ยอมเป็นที่สองต้องมีต้องได้ ได้มากๆมากที่สุดแล้วก็ยังไม่พอ เพราะยังมีมากกว่า “มากที่สุดอีก” ให้ได้แย่งได้เช่นกัน
               ตัวอย่างของบรรดาอัครสาวกที่ถกเถียงกันเพื่อแย่งกันเป็นที่หนึ่ง ก็เป็นตัวอย่างที่เราได้เห็นเกิดขึ้นได้แม้ในศิษย์ของพระเยซู แต่พระเยซูเจ้าสอนเขาและสอนเราด้วยว่าศิษย์ของพระองค์จำเป็นที่จะต้องมีชีวิตเช่นนี้   “​ถ้า​ผู้ใด​อยาก​เป็น​คน​ที่​หนึ่ง ก็​ให้​ผู้​นั้น​ทำ​ตน​เป็น​คน​สุดท้าย และ​เป็น​ผู้รับ​ใช้​ของ​ทุก​คน”  (มก 9:31-32,34-35)  และนักบุญยากอบได้เพิ่มได้ขยายความที่ทำให้เราเห็นชีวิตติดตามพระเยซูคริสตเจ้าที่ชัดเจนว่า
"ที่​ใด​มี​ความ​อิจฉา​ริษยา​และ​ความ​ทะเยอทะยาน ที่​นั่น​ย่อม​มี​แต่​ความ​วุ่นวาย​และ​ความ​ชั่ว​ร้าย​นานา​ชนิด  ส่วน​ปรีชา​ญาณ​ที่มา​จาก​เบื้อง​บน ประการ​แรก​เป็น​สิ่ง​บริสุทธิ์ แล้ว​จึง​ก่อให้เกิด​สันติ เห็น​อก​เห็น​ใจ อ่อน​น้อม เปี่ยม​ด้วย​ความ​เมตตา​กรุณา บังเกิด​ผล​ที่​ดี​งาม ไม่​ลำเอียง ไม่​เส​แสร้ง"  (ยก 3:16-17)

                                                                                                            นกขุนทอง.

วันศุกร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2561

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน 2018


สัปดาห์ที่ 24 เทศกาลธรรมดา
            วันเสาร์ที่ 15 กันยายนมิสซาขอบพระคุณพระเจ้าฉลอง 120 ปีโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ พี่น้องสามารถร่วมกิจกรรมหลากหลายทั้งการกุศลและการสนับสนุนส่งเสริมร้านค้าเพื่อให้มีรายได้นำไปช่วยเหลือทำกิจเมตตาต่อผู้ป่วยต่อไป กันยายนเป็นการอ่านพระวาจา เข้าสู่สัปดาห์ที่สามการอ่านพระวาจาและหนังสือศรัทธา พ่อไม่ได้มีการติดตามไปถึงบ้าน แต่เห็นการซื้อหาและนำโครงการอ่านพระวาจากลับบ้าน เชื่อว่าอย่างน้อยเริ่มมีผู้ติดตามพระเยซูเจ้าผ่านพระวาจาเพิ่มขึ้น หลายบ้านมีแล้วให้จัดเวลานั่งอ่านให้กันฟัง เด็กๆอาจต้องมีพ่อแม่ผู้ใหญ่ช่วย พ่ออยากให้ลองซื้อโครงการรักการอ่านพระวาจาไปอ่านกัน เริ่มลงมืออ่านและนัดแนะมาช่วยกันตรวจคำถามคำตอบและสรรหาข้อคิดแต่ละสัปดาห์ ต้องขออภัยไม่ได้แจก แต่อยากให้ซื้อเพื่อเพิ่มคุณค่าในการมีพระวาจาลงในจิตใจ เพียงชุดละ 20 บาท บางองค์กรซื้อไปหลายชุด เพื่อไปอ่านด้วยกัน ขอแนะนำให้เก็บเงินจากสมาชิกจะทำให้การอ่านพระวาจามีค่าอย่างลงทุนลงแรง ทางวัดยังส่งเสริมเพิ่มเติมให้ความรู้จึงเสนอให้สมาชิกขององค์กรวัดหรือกลุ่มงานทุกคนรักการอ่านพระคัมภีร์อย่างไรให้มีชีวิตชีวา น่าจะเป็นอีกหนึ่งวิธีการ โดยเชิญคุณพ่อสหพล ตั้งถาวร มาช่วยแนะนำใช้เวลาเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนประมาณครั้งละชั่วโมงครึ่งในวันอาทิตย์ ถ้าทำได้ก็ครบเครื่องเรื่องการประกาศข่าวดี เดือนหน้าเราเข้าสู่กิจกรรมเตรียมเฉลิมฉลอง 350 ปีมิสซังสยามด้วยความศรัทธาต่อการสวดลูกประคำตลอดเดือนตุลาคม โดยเริ่มต้นเย็นวันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม มิสซารอบ 17.30 น.แล้วต่อด้วยสวดลูกประคำในวัด บ้านหรือครอบครัว หรือหมู่คณะนัดกันมาสวดด้วยกัน ตามเจตนาของแม่พระ ในวันเสาร์ที่ 6 ตุลาคมจะเป็นการรวมพลังสวดสายประคำพร้อม เพรียงวัดต่างๆในเขตหนึ่งมาที่วัดเซนต์หลุยส์ เริ่มลงทะเบียนรับของที่ระลึกตั้งแต่เวลา 8.00 น.เป็นต้นไป จบลงด้วยมิสซา และถวายช่อดอกไม้แด่แม่พระ สุดท้ายเย็นวันเสาร์ที่ 31 ตุลาคมมิสซาเวลา 17.30 น.ส่งท้ายเดือนแม่พระลูกประคำ พระคุณเจ้าวีระฝากขอบคุณพี่น้องที่ช่วยได้สร้างวัดนักบุญเปโตร ขุนแม่ลา จ.แม่ฮ่องสอน(4,421,570.00 บาท)เพื่อสังฆมณฑลเชียงใหม่ ยังติดต่อกับพระสงฆ์ที่วัดเซนต์หลุยส์โดยตรงหลังมิสซาได้เสมอ สองสัปดาห์รวม 7 ซองได้ 540,000.00 บาท ขอบคุณพี่น้องทุกท่านด้วย สัปดาห์หน้าจะมอบให้พระคุณเจ้าเมื่อลงมาที่กรุงเทพฯ ขอบคุณทุกท่านและขอพระเจ้าอวยพร

                                                                                                                        พ่อเจ้าวัดเซนต์หลุยส์
......................................................................................................

“ใจกว้างเหมือนพระเยซู!!
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเปิดหูให้ข้าพเจ้า และข้าพเจ้าก็ไม่ต่อต้าน ไม่หันหลังหนีไป  ข้าพเจ้าหันหลังให้แก่ผู้โบยตีข้าพเจ้า และหันแก้มให้แก่ผู้ที่ดึงเคราข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่ซ่อนหน้าแก่ผู้สบประมาทและถ่มน้ำลายรด  ..... ดูซิ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยข้าพเจ้า ใครจะกล่าวโทษข้าพเจ้า”(อสย 50:5-6,9)
           เรื่องที่ทำให้พ่อสนใจคือหัวใจของคนคนนี้ทำไมถึงแข็งแกร่งมากยิ่งนัก  มีอะไรเป็นพลังพื้นฐานที่ช่วยให้เขามีหัวใจที่แข็งแกร่งได้เช่นนี้
          พระเป็นเจ้าเป็นพลังพื้นฐานให้กับเขา  เขายอมให้พระจิตเจ้านำทางชีวิตตนเอง แม้เขาจะเผชิญกับความทุกข์ความเจ็บปวดการถูกเบียดเบียนการถูกทำร้ายอย่างอยุติธรรม  เขาก็ยังคงยืนหยัดมั่นคงอยู่บนความเชื่อ เขากล้ายอมรับการถูกทำร้ายโดยยังคงมั่นคงในความเชื่อต่อพระเป็นเจ้า วางใจว่าพระองค์จะเป็นพลังสำหรับเขา
พระเยซูตรัสถามบรรดาศิษย์ว่า “คนทั้งหลายว่าเราเป็นใคร” .....  พระองค์ตรัสถามอีกว่า “ท่านล่ะ ว่าเราเป็นใคร”  ....พระเยซู​​ทรงเริ่มสอนบรรดาศิษย์ว่า “บุตรแห่งมนุษย์จะต้องรับการทรมานอย่างมาก .....และจะถูกประหารชีวิต แต่สามวันต่อมา จะกลับคืนชีพ....ถ้าผู้ใดอยากติดตามเรา ก็ให้เขาเลิกนึกถึงตนเอง ให้แบกไม้กางเขนของตน และติดตามเรา..... ก็จะรักษาชีวิตได้"  (เทียบ มก 8:27-35)
          พระเยซูเจ้าทำให้เราเห็นชัดเจนมากขึ้น เห็นถึงหัวใจของคนคนนี้ที่เชื่อมั่นในพระเจ้า  เขายอมฟังเสียงของพระจิตเจ้า  ให้พระจิตเจ้านำทาง นำเขาให้ยื่นมือแบ่งปันออกไปด้วยความใจกว้าง
“ความเชื่อนั้น หากไม่มีการกระทำ ก็เป็นความเชื่อที่ตายแล้ว .....จงแสดงความเชื่อของท่านให้เห็นด้วยการกระทำเถิด.”(เทียบ ยก 2:17-18)
          ชีวิตคริสตชนจึงเป็นชีวิตที่มีพระเป็นเจ้าเป็นพลังขับเคลื่อนชีวิตของตน ยอมมอบความวางใจให้พระจิตเจ้านำทางชีวิต ติดตามพระเยซูคริสต์เจ้าและแบกกางเขนในชีวิตของตน กล้าจะก้าวเดินออกไปแบ่งปันความรักด้วยใจกว้างต่อเพื่อนพี่น้อง
          ชีวิตเช่นนี้เป็นเครื่องพิสูจน์“ชีวิตคริสชนของตนเอง”ว่า “ชีวิตของฉันมีความเชื่อ เป็นความเชื่อที่ยังมีชีวิตอยู่ไม่ได้ตายหรือสูญหายไป ฉันจึงแสดงความเชื่อของตนเองออกมาด้วยการกระทำ ด้วยความรักเมตตา ด้วยใจกว้าง”  ใจกว้างเหมือนพระเยซู.


                                                                                                            นกขุนทอง.

วันศุกร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2561

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน 2018


สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา
เดือนกันยายนเป็นการอ่านพระวาจา หนังสือศรัทธาและไตร่ตรองอ่านกันในครอบครัว เพื่อทำให้พระวาจาเป็นชีวิตติดตามพระคริสต์อย่างแท้จริง  ทางวัดยังคงนำเสนอแผนกพระคัมภีร์และคำสอนของสังฆมณฑลมาเปิดบริการถึงที่วัด บริเวณสนามหญ้าตั้งแต่ 08.00 -12.00 น. หลายอย่างที่เหมาะสมกับลูกหลาน หลายท่านสนใจเมื่อสัปดาห์ที่แล้วแต่ไม่ได้นำเงินมา  มีหนังสือใหม่ที่เป็นพระสมณลิขิตของพระสันตะปาปาฟรังซิสเรื่อง “จงชื่นชมยินดี” (GAUDETE ET EXSULTATE) มี 5 บทคือ 1.การเรียกไปสู่ความศักดิ์สิทธิ์ 2.สองศัตรูตัวฉกาจของความศักดิ์สิทธิ์ 3.ในแสงสว่างของพระอาจารย์เจ้า 4.เครื่องหมายของความศักดิ์สิทธิ์ และ 5.การต่อสู้ด้านชีวิตจิต การเฝ้าระวัง และการรู้จักไตร่ตรองแยกแยะ
ในเวลาเดียวกันมีโครงการรณรงค์ให้อ่านพระคัมภีร์ในครอบครัว ชุดละ 20 บาท มีพระคัมภีร์และสมุดคู่มือ ใครสนใจเชิญซื้อได้ในวันนี้เลยครับ แต่ละคนอ่านไปจดไปตอบคำถามและที่สำคัญเท่ากับสนทนากับพระเยซูเจ้าไปในตัว เป็นวิธีการง่ายๆไม่ซับซ้อน สับสน วอกแวกและสามารถร่วมด้วยช่วยกันทำในครอบครัวแบบทีมเวิร์คทำงานด้วยกันระดับ อ่านพระคัมภีร์วันละนิดจิตใจเบิกบานชื่นชมอภิรมย์ยินดีมาก....ถึงดีที่สุด
พระคุณเจ้าวีระได้มอบซอง 12 ใบให้กับพ่อเพื่อขอพี่น้องที่สามารถช่วยได้เพื่อสังฆมณฑลเชียงใหม่สร้างวัดนักบุญเปโตร ขุนแม่ลา จ.แม่ฮ่องสอน (4,421,570.00 บาท)โปรดติดต่อกับพระสงฆ์ที่วัดเซนต์หลุยส์โดยตรง สัปดาห์ที่ผ่านพ้นรวม 3 ซองได้ 510,000.00 บาท ขอบคุณพี่น้องทั้งสามท่านด้วย ได้แจ้งให้พระคุณเจ้าได้ทราบแล้ว
วันเสาร์ที่ 15 กันยายนนี้ทางสังฆมณฑลได้จัดงานชุมนุมบรรดาสภาภิบาลวัดชุดใหม่ทุกวัด รวมตัวกันที่บ้านผู้หว่าน สามพราน นครปฐม เพื่อปฐมนิเทศงานของสภาภิบาลวัดและการประกาศข่าวดีในโอกาสพระศาสนจักรไทยกำลังเฉลิมฉลอง 350 ปีมิสซังสยาม “ศิษย์พระคริสต์เจริญชีวิตประกาศข่าวดีใหม่”หวังว่าบรรดากรรมการวัดที่ได้ร่วมงานครั้งนี้ กลับมาเพื่อช่วยกันทำให้กิจกรรมของวัดเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
ในวันเสาร์เดียวนี้เอง ณ วัดพระจิตเจ้าของโรงพยาบาล พระคุณเจ้าพระคาร์ดินัลมีชัย กิจบุญชูมาเป็นประธานมิสซาเฉลิมฉลอง 120 ปีของโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ สานพันธะกิจของพระสังฆราชหลุยส์เวย์ผู้ก่อร่างสร้างโรงพยาบาลและเริ่มกิจเมตตารักษาสุขภาพกายใจให้ผู้ป่วยได้รับการรักษา  เป็นการทำให้การประกาศพระวาจาข่าวดีอันสัมผัสได้ ขอบพระคุณพระเจ้าและขอพระเมตตาของพระเจ้าต่อๆไปให้ชุมชนแห่งความเชื่อที่พระสังฆราชหลุยส์โชแรงสร้างวัดเซนต์หลุยส์กับพระสังฆราชมิเชลลังเยร์ได้สร้างสถานศึกษา ทำให้เซนต์หลุยส์เป็นสนามประกาศพระธรรมคำสอนครบถ้วนเรื่องกิจเมตตาต่อเพื่อนพี่น้องทุกคน
เนื่องจากหนังสือเพลงของวัดกับม้านั่งไม่สอดคล้องกัน จึงทำให้การบำรุงรักษาหนังสืออายุไม่ยืนยาว จึงขอความร่วมมือจากทุกท่านเมื่อใช้หนังสือเพลงแล้ว โปรดวางหนังสือในที่เก็บเพื่อจะได้ไม่ตกหล่นจนทำให้ของเสียหาย
ขอบคุณทุกท่านและขอพระเจ้าอวยพร
                                                                                                                        พ่อเจ้าวัดเซนต์หลุยส์
.......................................................................................................


"พระเยซูและฉันทำสิ่งดีๆร่วมกัน.....ต้อนรับผู้ยากไร้ ไร้ที่พึ่งพา"

            “พระเยซูเจ้าทรง​เงย​พระ​พักตร์​ขึ้น​เบื้อง​บน ถอน​พระทัย แล้ว​ตรัส​ว่า “​เอฟ​ฟาธา” แปลว่า “​จง​เปิด​เถิด”  ทันใด​นั้น​หู​ของ​เขา​กลับ​ได้​ยิน สิ่ง​ที่​ขัด​ลิ้น​อยู่​ก็​หลุด เขา​พูด​ได้​ชัดเจน.....​ประชาชน​ต่าง​ก็​ประหลาด​ใจ​มาก กล่าว​ว่า “​คน​คน​นี้​ทำ​สิ่ง​ใด​ดี​ทั้งนั้น เขา​ทำ​ให้​คน​หู​หนวก​กลับ​ได้​ยิน และ​คน​ใบ้​กลับ​พูด​ได้” (มก 7: 34-35, 37)
            คนหูหนวกเป็นใบ้ เข้าใจว่า เขาเป็นทุกข์เจ็บปวด คงเป็นทุกข์เจ็บปวดมานาน นานมาก ความทุกข์ยิ่งมากขึ้น หากยิ่งมองว่า “ฉันจะเป็นทุกข์ไปอีกนานเท่าไร ฉันจะสามารถออกจากความเจ็บปวดนี้ได้อย่างไร” นี่เป็นความรู้สึก ของคนหูหนวกเป็นใบ้ที่เข้ามาร้องขอพระเมตตาและความช่วยเหลือจากพระเยซูเจ้า เขาไร้ที่พึ่งพาแล้วจริงๆ
          เราพบพระเยซูเจ้าตอบเสียงร้องขอของคนหูหนวกเป็นใบ้ไร้ที่พึ่งพา ด้วยพระเมตตารักอันเต็มเปี่ยมของพระองค์ เสียงของผู้คนเมื่อได้เห็นเหตุการณ์นี้เป็นการยืนยัน พวกเขายืนยันว่าพระองค์ทำอะไรก็ดีทั้งนั้น แสดงว่าพระองค์ทำทุกอย่างเต็มไปด้วยความรักความเมตตา คอยเยียวยารักษาและบรรเทา
            จง​กล่าว​กับ​คน​ที่​ท้อแท้​ว่า “​จง​มานะ​เถิดอย่า​กลัว​เลย” ดูซิพระ​เจ้าของ​ท่าน​ทั้งหลาย​จะ​เสด็จ​มา​เพื่อ​ช่วย​ท่าน​ให้​รอด​พ้นและ​จะ​ทรง​ลงโทษ​ศัตรู​ของ​ท่าน​อย่าง​สา​สม" (อสย 4:4)
            เราก็จงทำให้ทุกคนได้พบเห็นว่า พระเยซูคริสตเจ้า พระองค์ทรงประทับอยู่กับเขา ให้เขาจงมานะอย่ากลัว ให้เขาได้มั่นใจในพระเมตตารักและความช่วยเหลือบรรเทาที่พระเยซูเจ้าจะมอบให้กับพวกเขาอย่างแน่นอน
          สิ่งที่เราจะทำให้เขาได้พบกับพระเยซูเจ้าได้ นั่นก็คือ เท้าของเราจงเป็นเท้าของพระเยซูที่กล้าเดินก้าวออกไปเดินไปหาเขา เดินไปอยู่เคียงข้างเพื่อนพี่น้องที่ยากไร้ ไร้ที่พึ่งพา มือของเราจงเป็นมือของพระเยซูที่ยื่นออกไป แบ่งปันบรรเทา มอบมิตรภาพและความรักให้แก่กันและกัน ตาของเราจงเป็นตาของพระเยซูเจ้า ที่มองเขาด้วยความรักด้วยความเมตตาสงสาร ริมฝีปากของเราขอให้เป็นริมฝีปากของพระเยซู ที่มอบแต่รอยยิ้มให้แก่กันและกัน หัวใจของเราจงเป็นหัวใจของพระเยซู ที่มอบความรักและความอบอุ่น
          "พี่​น้อง​ทั้งหลาย ขอ​ให้​ความ​เชื่อ​ของ​ท่าน​ใน​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้าของ​เรา คือ​พระ​เยซู​คริสต์ นำท่านให้ไม่ละเลย แต่จงต้อนรับพี่น้องผู้ยากไร้  ไร้ที่พึ่งพา"  (เทียบ ยก 2:1,3)

                                                                                                            นกขุนทอง.