พี่น้องที่รัก
สัปดาห์ที่สองของเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า
เทียนเล่มที่สองหมายถึงความรัก
เป็นความรักของพระประทานให้กับมนุษย์ ผ่านทางบุคคลสำคัญมากมาย สองท่านที่สำคัญมากๆ
ทำให้เราเข้าใกล้ความรัก คือพระแม่มารีและนักบุญยอห์นบัปติสต์
ผู้รับใช้ของพระเป็นเจ้าที่มาเตรียมทางเดินของพระองค์และทำทางเดินของพระองค์ให้ตรงด้วย
ถนนสายนี้อาจไม่ทันสมัยเหมือนสาทร แต่ใครก็ตามที่เดินทางสายนี้สะอาดกาย
สว่างใจ และสงบสุขในพระองค์ เพราะถนนสายนี้ท่านยอห์นได้สะสางและปราบให้ราบเรียบ
เหมาะสำหรับพวกเราทุกคนจะได้เดินทางมาหาองค์พระผู้ไถ่
เดือนธันวาคม เป็นเดือนที่เวลามีเท่าเดิม 31 วัน แต่การใช้เวลาดูเหมือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว
นี่ก็ 10 วันแล้ว เป็นเวลาที่ใกล้คริสต์มาสเข้ามาแล้ว อีก 15 วันเท่านั้นเอง
พ่อขอประชาสัมพันธ์เรื่องจิตใจ เราจะเริ่มทำ 9 วันเพื่อการรอคอยฉลองพระทรงบังเกิด โดยใช้วัดใหญ่และพระแท่นใหญ่ด้วย
วันเสาร์และอาทิตย์ จะเชิญศีลมหาสนิทมาที่พระแท่นและทำวจนะพิธีกรรมพร้อมอวยศีลมหาสนิทก่อนมิสซา
เริ่มเวลา 17.00 น. ส่วนวันธรรมดาจันทร์ถึงศุกร์ทำหลังมิสซา
จะทำที่พระแท่นใหญ่ทั้งหมด จะทำในรูปแบบเดียวกัน
ดังนั้นในปีนี้พ่อขอเชิญชวนเตรียมความพร้อมด้วย 9 วันก่อนฉลองคริสต์มาส
ใครต้องการคืนดีกับพระเป็นเจ้าผ่านทางศีลอภัยบาป
โปรดใช้เวลา 9 วันนี้ เพื่อเปิดพื้นที่ให้สัตบุรุษท่านอื่น
จะได้ไม่ต้องต่อแถวยาวเหยียดมากมาย 9 วันถ้าสลับหมุนเวียนสัก 50 – 100 คน
ก็ทำให้วันคริสต์มาสคล่องตัวมากขึ้น พระสงฆ์ที่วัด 4
ท่านบริการในวันคริสต์มาสก็ถือว่ามากแล้ว วัดอื่นๆก็ต้องใช้พระสงฆ์ด้วยเหมือนกัน
ขอความร่วมมือจากทุกท่านด้วย
การแบ่งปันน้ำใจคาทอลิก
ขอพี่น้องหยิบซอง(ยาวขาว)หน้าประตูวัดและอ่านในรายละเอียดเพื่อจะได้มีส่วนร่วมกับงานของพระศาสนจักรตลอดปี
ส่วนถุงทานพิเศษหน้าวัดวันนี้ อาทิตย์ 10 ธันวาคม
เพื่องานพิมพ์หนังสือพระคัมภีร์คาทอลิกไทยและกิจกรรมส่งเสริมการอ่านพระคัมภีร์ทุกรูปแบบ
อาทิตย์นี้บัตรสอยดาวจำหน่ายให้กับพี่น้องที่มาวัดเป็นสัปดาห์สุดท้าย
เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับท่าน เพื่อจะได้ไม่ต้องวุ่นวายในวันที่ 24 ธันวาคม
เพราะว่าวันนั้นคงมีผู้คนมากมาย จำหน่ายเพียงจำนวนจำกัด เพื่อเผื่อให้กับพี่น้องที่มาร่วมงานในวันคริสต์มาสด้วย
“การบำรุงพระศาสนจักรคือการมีส่วนร่วมและสนับสนุนในงานประกาศข่าวดีของพระเยซูเจ้าทุกรูปแบบ”
พ่อเจ้าวัดเซนต์หลุยส์
...............................................................................................
บอกกล่าว
เล่าเรื่อง
พระเยซู ตัวเป็นๆ
ที่เห็นได้ สัมผัสได้
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาพ่อเองได้มีโอกาสเดินทางไปร่วมรับเสด็จสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสที่ประเทศเมียนมาร์
ก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้วางแผนว่าจะไป แต่แล้วก็มีเหตุผลบางประการจึงได้มีโอกาสร่วมเดินทางไปกับทัวร์ตามเสด็จพระสันตะปาปา
ซึ่งจัดโดยสื่อมวลชนคาทอลิกแห่งประเทศไทย ก่อนที่จะเดินทางก็คิดว่าการไปครั้งนี้ก็คงไม่ได้สะดวกนักในการที่จะรับเสด็จพระสันตะปาปาด้วยความจำกัดของสถานที่
ด้วยความจำกัดของจำนวนคนที่มีนับแสนคน ทั้งจากประเทศเมียนมาร์เอง
ทั้งจากประเทศเพื่อนบ้างใกล้เคียง รวมทั้งพวกเราชาวไทย
มีความคิดว่าอย่างน้อยได้เห็นพระสันตะปาปาไกลๆ ได้ร่วมมิสซาที่ประกอบโดยพระสันตะปาปาก็พอแล้ว
และเมื่อได้เดินทางไปถึงและมีโอกาสร่วมมิสซากับพระสันตะปาปาฟรังซิส
ก็เป็นไปอย่างที่คาดการณ์ไว้นั่นคือ กลุ่มทั้งหมดของเราต้องตื่นกันตั้งแต่ตี 3 เพื่อจะออกเดินทางไปถึงสถานที่ประกอบพิธีให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้มีพื้นที่
สำหรับกลุ่มของเรา เมื่อเดินทางไปถึง
การเดินทางเพื่อเข้าไปก็ไม่ใช่เรื่องง่ายทั้งกลุ่มทัวร์ที่มีจำนวนมาก
ก็จำเป็นต้องใช้เวลาทั้งผ่านจุดตรวจ
ทั้งผ่านฝูงชนที่มาตั้งหลักกันตั้งแต่เมื่อกลางดึกของวันก่อนงาน
จึงไม่ใช่เรื่องง่ายนักกว่าจะผ่านเข้าไป แต่ทุกคนก็ยังคงยิ้มได้ ยังคงมีความหวัง
เพราะความตั้งใจเดียวของทุกคนก็คือ
การได้พบองค์สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสสักครั้งหนึ่ง
แม้ไกลๆแต่ก็ขอให้อยู่ในบรรยากาศนั้น
ก่อนถึงงานก็ได้อ่านบทสัมภาษณ์หนึ่งที่นักข่าวต่างประเทศได้สัมภาษณ์เยาวชน
ที่มาเฝ้าพระสันตะปาปา คำถามหนึ่งนักข่าวถามเยาวชนว่า
ดีใจไหมที่จะได้พบพระสันตะปาปาฟรังซิส และทำไมเธอถึงอยากมาพบพระสันตะปาปา
คำตอบของเยาวชนคนนั้นเธอตอบเพียงสั้นๆว่า เธอไม่ได้อยากมาพบพระสันตะปาปา
แต่เธออยากมาพบพระเยซูเจ้าที่เห็นได้และสัมผัสได้จริงๆในโลกนี้ นี่เป็นคำตอบว่า
ทุกคนปรารถนาจะพบพระสันตะปาปาฟรังซิส
เพราะพระองค์เป็นภาพลักษณ์ที่ชัดเจนของพระเยซูเจ้าบนโลกนี้ เป็นพระเยซูตัวเป็นๆ
ที่เห็นได้ สัมผัสได้
พวกเรากลุ่มชาวไทยที่มีโอกาสไปที่นั่น
แม้ว่าจะต้องนั่งรอกัน 4-5 ชั่วโมงก่อนที่พระสันตะปาปาจะเสด็จมาแต่ทุกคน
ยังคงยิ้มได้ ทุกคนยังมีความหวัง และตั้งตารอช่วงเวลาที่มีค่าครั้งหนึ่งในชีวิต
และเวลาก็มาถึง ทันทีที่รถที่ประทับออกมาพร้อมสมเด็จพระสันตะปาปา
เสียงกึกก้องดังไปทั้งสนาม Papa Francis พระสันตะปาปาเสด็จไปทั่วทั้งสนามเพื่ออวยพรทุกคนในสนาม
พ่อเห็นภาพรอยยิ้มของหลายๆคนในสนาม ผ่านจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ เป็นรอยยิ้มปนน้ำตา
เหมือนจะบอกว่า การมาครั้งนี้คุ้มแล้ว
เพราะได้พบพระเยซูที่อยู่ท่ามกลางโลกนี้และดูเหมือนว่าการได้เห็นพระสันตะปาปาฟรังซิสครั้งนี้
จะเป็นไฟความเชื่อที่ลุกโชนขึ้นในใจของใครอีกหลายๆคน เป็นต้นความเชื่อในประเทศเมียนมาร์
หลังจากจบพิธีมิสซาได้ถามหลายๆคนในรถบัสเดียวกันว่า
ประทับใจอะไรที่สุดในทริปนี้คำตอบเกือบทั้งหมดก็คือ การได้เห็นพระสันตะปาปาฟรังซิส
แม้เพียงช่วงเวลาสั้น แม้เพียงไกลๆ แต่เป็นความประทับใจที่ทุกคนสัมผัสได้
คำตอบของเยาวชนคนนั้น
น่าจะเป็นคำถามที่ดังขึ้นในใจของเราแต่ละคนด้วยเช่นกัน เราทุกคนเป็นภาพลักษณ์ของพระเยซูท่ามกลางกันและกัน
สำคัญคือเราทำให้ภาพพระเยซูชัดไหมในชีวิตคริสตชนของเรา สัปดาห์ที่2
ในเทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ น่าจะเป็นช่วงเวลาที่เราจะเริ่มต้น
ทำให้ภาพของพระเยซูชัดเจนขึ้นในชีวิต ด้วยการเป็นคริสตชนที่ ใจดี มีเมตตา แบ่งปัน
คิดดี พูดดี ทำดีต่อกัน ฯลฯ
สิ่งนี้น่าจะเป็นอีกข้อตั้งใจหนึ่งในเทศกาลนี้เพื่อเป็นของขวัญในวันที่พระเยซูจะบังเกิดมา
ปลัดวัดสาทร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น