สารวัดวันอาทิตย์ที่ 31 ธันวาคม 2017

พี่น้องที่รัก

                สุขสันต์วันครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ พระกุมารเยซู แม่พระและนักบุญโยเซฟ...ช่วยวิงวอนเทอญ

                ขอให้ทุกครอบครัวมีความสุขและเต็มเปี่ยมด้วยพระหรรษทานของพระกุมารเยซูเจ้า

                วันนี้ขอส่งท้ายปี 2017 เตรียมตัวและเตรียมใจเข้าสู่ปี 2018 เพื่อขอพระเมตตาและขอพรพระ สำหรับทุกครอบครัว โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการพระพรแห่งองค์พระกุมารเยซู ผู้นำสันติสุขมาสู่ชาวเรา อาศัยความช่วยเหลือนักบุญหลุยส์ องค์อุปถัมภ์ของชาวเราทุกคน

                ขอบคุณพระองค์ที่วัดเซนต์หลุยส์ผ่านพ้นอายุ 60 ปี อย่างสง่างาม

                ขอบคุณพระองค์ผ่านทางสังฆมณฑล ท่านพระคาร์ดินัลคณะพระสงฆ์ผู้ใหญ่ที่มอบสถานที่สวยงามน่าชวนศรัทธา

                ขอบคุณพระสงฆ์เจ้าวัดและพระสงฆ์ทุกองค์ที่ผ่านมา รักษาวิญญาณสัตบุรุษด้วยจิตใจของการอภิบาล

                ขอบคุณสัตบุรุษทุกองค์กรและผู้มีน้ำใจดี ได้ช่วยกันเป็นก้อนอิฐที่ค้ำพยุงวัดให้เป็นอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้และต่อๆไป

                ขอโทษพระองค์ที่ขาดหายไปบ้าง 6 วัน 6 เดือน 6 ปี หรือมากน้อยกว่านี้

ขอโทษพระองค์ที่ยังไม่เต็มที่กับสิ่งที่ได้มาจากพระองค์10 เท่าบ้าง 30 เท่าบ้าง หรือ 60 เท่าบ้าง

ขอโทษพระองค์ที่ให้เวลากับพระองค์เหมือนอย่างที่พระองค์ค้ำชูเราตลอดมา 100 เปอร์เซ็นต์ มากน้อยกว่านี้

และขอโทษพระองค์ที่ยังขาด “จิตใจมุ่งมั่น” เพื่อการช่วยประกาศข่าวดีให้กับพระองค์

ขอให้ปีใหม่ 2018 เป็นปีที่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตาของพระเจ้า เพื่อพวกลูกจะได้มีความเมตตาต่อกัน

ขอยืมคำพูด ของตูน “อย่าเสียเวลากับคำพูดมากมายที่เต็มไปด้วยข้อแก้ตัว แต่ให้เริ่มลงมือทำจากก้าวเล็กๆทันที”

ขอขอบพระคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมทำให้ ปี 2017 จบลงอย่างงดงามและประทับใจ ทั้งในหมู่คณะใหญ่ ประเทศ สังฆมณฑล วัด หมู่คณะ และทุกครอบครัว ให้พวกเราช่วยกัน ช่วยพระเยซูเจ้าประกาศข่าวดีอย่างมีชีวิตชีวาและมีจิตใจที่เมตตาต่อกัน เพื่อสันติสุขจะได้เกิดกับทุกคน ทุกบ้านและประเทศไทย

“จงขอบพระคุณพระเป็นเจ้า เพราะพระองค์พระทัยดี”

“ความรักมั่นคงของพระองค์ ดำรงนิจนิรันดร์”

“จงลิ้มชิมและดูว่าพระเจ้านั้นประเสริฐ คนที่ลี้ภัยอยู่ในพระองค์ก็เป็นสุข”

ขอทุกคนได้รับพระพรจากพระกุมารเยซูเจ้า

สวัสดีปีใหม่ ปีจอโฮ่งโฮ่งโฮ่ง...(กรุณาใส่ทำนองแบบ จิงเกิลเบลหน่อยนะ)

           

พ่อเจ้าวัดเซนต์หลุยส์

.......................................................................................................

                    

บอกกล่าว เล่าเรื่อง

“ปีใหม่เป็นพร และพรปีใหม่”

เราผ่านวันเฉลิมฉลองคริสต์มาสกันไปด้วยความสุข ความชื่นชมยินดี และเรียบร้อย ทั้งกิจกรรมรื่นเริง พิธีกรรม ฯลฯ  ต้องขอบคุณทุกๆ คนทุกๆ ฝ่าย ที่มีส่วนร่วมในการทำให้กิจกรรมต่างๆนี้สำเร็จไปด้วยดี ด้วยความร่วมมือร่วมใจ อาจจะมีขลุกขลักบ้าง มีอุปสรรคบ้าง แต่ก็สามารถช่วยกันแก้ไขและผ่านไปได้ด้วยดี แม้จะเหนื่อยกัน จะต้องเสียสละ แต่ทุกคนก็ยังมีความสุขและช่วยกันด้วยรอยยิ้ม แสดงถึงพลังของชาววัดเซนต์หลุยส์อย่างแท้จริง พ่อจึงต้องขอบคุณทุกๆท่านที่ช่วยเหลือกิจกรรมต่างๆ ทั้งผู้ที่มาลงมือลงแรงในการจัดเตรียมในการช่วยเหลือทุกๆคน ทั้งอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลัง ซึ่งล้วนมีความสำคัญทั้งสิ้น พ่อจึงขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ 

จะไปไหนช่วงนี้ เพลงที่มักได้ยินเสมอๆ ก็คือ เพลงพรปีใหม่ ธรรมเนียมปฏิบัติที่เราทำเสมอๆเมื่อปีใหม่มาถึงก็คือ เราส่งคำพูดดีๆ ความปรารถนาดีๆ ให้กัน ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเรียกว่า พรปีใหม่ ปีใหม่เป็นช่วงเวลาที่เราจะให้พรกัน ในขณะเดียวกันสำหรับเราคริสตชน ปีใหม่นี่แหละเป็นพระพรที่เราแต่ละคนได้รับ เป็นของขวัญที่ล้ำค่าที่พระประทานให้เราแต่ละคน เป็นพระพรที่ทำให้เราสามารถก้าวผ่านอีก 1ปี ที่บางทีเราอาจจะบอกว่าปีที่ผ่านมามันหนักสำหรับเราจริงๆ มันนั่นนี่สารพัด แต่เราก็ผ่านสิ่งต่างๆมาได้ นี่แหละเป็นพระพรที่เราได้รับ เราเข้ามาสู่ช่วงวันสุดท้ายของปี 2017 และกำลังจะนับถอยหลังเพื่อเข้าสู่ปี 2018 วันเวลาหนึ่งปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในหนึ่งปีที่กำลังผ่านไป พ่อเชื่อว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างผ่านเข้ามาในชีวิตของพวกเราแต่ละคน บางเรื่องดีน่าจดจำ บางเรื่องอาจไม่น่าจดจำ บางเรื่องทำให้เรามีความสุข มีรอยยิ้ม บางเรื่องทำให้เรามีน้ำตามีถ้อยคำที่เขาบอกว่า อดีตเป็นบทเรียนสำหรับอนาคต พ่อเชื่อว่า ทุกๆ เรื่องที่ผ่านชีวิตของเราไป กลับกลายเป็นบทเรียนสำหรับชีวิตเรา ที่ทำให้เราเติบโตและเข้มแข็งขึ้น เรื่องดีๆที่ผ่านมากลับกลายเป็นพลังใจที่จะทำให้เราเดินหน้าต่อไป เรื่องเศร้าเรื่องที่ไม่อยากจดจำ กลับกลายเป็นพลังให้เราสู้ให้เราเดินต่อไปอย่างเข้มแข็งและมีภูมิคุ้มกันมากขึ้น พ่อมั่นใจว่าถ้าเราตั้งเป้าทุกๆปีว่า ปีนี้จะต้องดีกว่าปีที่ผ่านมา จะทำให้เรามีแรงขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายที่ดีขึ้น

ขอให้ปีใหม่ 2018 ที่กำลังจะมาถึงนี้เป็นปีที่เราทุกคน จะมีความสุข มีรอยยิ้ม มีเสียงหัวเราะอยู่เสมอ ในทุกๆ สถานการณ์ของชีวิต เพราะถ้ามีความสุขแม้เพียงเล็กๆ อยู่ในชีวิต ความสุขนี่แหละจะทำให้เราสามารถผ่านความทุกข์ ผ่านปัญหาผ่านอุปสรรคไปได้ ไม่ใช่เพราะความสุขทำให้ปัญหาหมดไป แต่เพราะความสุขแม้เพียงเล็กๆ ที่มีจะทำให้เราสามารถข้ามปัญหา ข้ามอุปสรรคที่ผ่านเข้ามาไปได้ คงไม่ขอให้ปีนี้ทุกคนมีแต่ความสุขเพราะคงเป็นไปไม่ได้ แต่ขอให้ทุกคนมีความสุขอยู่เสมอในชีวิต มีความสุขได้ในทุกๆสถานการณ์ของชีวิต เพราะถ้าชีวิตมีความสุข ปัญหาอุปสรรคก็ทำลาย ความสุขที่มีไม่ได้ ขอให้ปีใหม่นี้ทำให้ตัวเราเป็นพรสำหรับทุกคนที่พบเจอ และให้ปีใหม่นี้เป็นพระพรสำหรับตัวของเราแต่ละคนด้วย

Happy New Year 2018

                                                                                                                                           ปลัดวัดสาทร

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 24 ธันวาคม 2017

พี่น้องที่รัก

           

                สัปดาห์ที่สี่ของเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า เทียนเล่มที่สี่ เป็นความหมายถึงความมีสันติกับเพื่อนพี่น้องผ่านทางการทำกิจเมตตากับเพื่อนพี่น้องโดยเฉพาะคนยากจน

วันอาทิตย์ที่ 24 มิสซาค่ำคืนคริสต์มาสเวลา 22.00 น. ฟังแก้บาป 2 รอบ คือ 19.00 น. และ 21.00 น.พระสงฆ์ฟังแก้บาป 2 องค์ ใครสะดวกเวลาไหนก็หมุนเวียนสลับเปลี่ยนกันมา อย่ารอวินาทีสุดท้าย

งานรื่นเริงอยู่ในเวลา 18.45 – 21.00 น.ก่อนงานมีอาหารจำหน่ายบริเวณทางเดินหน้าวัด แต่หลังมิสซามีบริการข้าวต้มด้านหลังศาลา  งานสนุกสนานสอยดาวที่บริเวณศาลาเอนกประสงค์ เกมต่างๆที่บริเวณสนามหญ้าเขียว BINGO บริเวณที่จอดรถกลางแจ้ง และบ้านลมยางของเด็กเล่นบริเวณหน้าสโมสรผู้สูงอายุ

สถานที่เพื่อแสดงความเคารพรูปพระกุมาร มี 3 แห่ง ในวัด สนามหญ้าเขียว และโถงเอนกประสงค์หน้าศาลาหลุยส์มารี สะดวกที่ไหนได้หมด สามารถแสดงความเคารพได้โดยไม่รบกวนการร่วมพิธีกรรม

เพื่อให้งานคล่องตัวควรบริหารเวลาและการเดินทาง เพราะวันอาทิตย์ยามค่ำคืนอาจมีการจราจรหนาแน่นรถมิสซารอบเย็นคงต้องหาที่จอดรถเพื่อให้สถานที่รอบวัดสามารถรองรับสัตบุรุษจำนวนมากที่มาคริสต์มาส

โรงเรียนเซนต์หลุยส์จัดให้มีอาหารจำหน่ายก่อนมิสซา และบริการฟรีหลังมิสซา พร้อมน้ำดื่ม

การรับศีลมหาสนิท ขอให้รับด้วยความสำรวมทั้งด้านนอกวัดและในวัด

การแสดงความเคารพ(จูบ)พระกุมาร พร้อมการถวายเงิน มี 3 แห่ง ให้กระทำอย่างดีและมีระเบียบเรียบร้อย ไม่ควรทำขณะกำลังร่วมมิสซาโดยเฉพาะภาคถวายเครื่องบูชาและรับศีลมหาสนิท มีเจ้าหน้าที่ช่วยแนะนำ

ส่วนยามเช้ามิสซาคริสต์มาสรุ่งอรุณเวลา 10.00 น. และ 17.30 น. (ไม่มีมิสซารอบ 06.00 น.)

อนึ่งมิสซาวันอาทิตย์ที่ 31 ธันวาคม มิสซามีตามปกติและมิสซารอบ 17.30 น. หลังมิสซามีแห่รูปนักบุญหลุยส์ส่งท้ายปีเก่ารอบวัดพร้อมกัน มีอาหารบริการหลังจบพิธี  และในวันปีใหม่จันทร์ที่ 1 มกราคม 2018  มีมิสซาขอพรพระเวลา 09.00 น. เพียงรอบเดียวเท่านั้น

พ่อเจ้าวัดเซนต์หลุยส์

..............................................................................................

                    

บอกกล่าว เล่าเรื่อง

Merry Christmas 2017

สุขสันต์วันพระคริสตสมภพแด่พี่น้องทุกท่านครับ วันนี้เป็นวันแห่งความชื่นชมยินดี ที่เราจะเฉลิมฉลองการบังเกิดของพระเยซูท่ามกลางเราอีกครั้งหนึ่ง ในค่ำคืนนี้ ที่วัดของเราก็จะมีกิจกรรมต่างๆมากมาย กิจกรรมสอยดาว เกม บิงโก และความสนุกสนานรื่นเริงอื่นๆ แต่อย่าลืมจุดประสงค์ของเทศกาลคริสตสมภพนี้ นั่นคือ เทศกาลแห่งการแบ่งปัน ช่วยเหลือ มีน้ำใจ พ่อคิดว่าขอให้ทุกท่านได้สนุกสนานกับกิจกรรม แต่ก็อย่าลืมความรัก ความมีน้ำใจ มิตรไมตรีต่อกัน เวลาที่มีคนเยอะๆ ก็อาจจะมีความล่าช้า ไม่ทันใจ ต้องรอบ้าง หรือไม่เป็นไปดั่งที่ใจต้องการบ้าง ก็ขอให้รักษาน้ำใจต่อกัน เข้าใจกัน เห็นอกเห็นใจกัน ทั้งผู้มาเล่นกิจกรรม และผู้เสียสละมาช่วยงานครั้งนี้ ซึ่งพ่อคิดว่าสิ่งนี้สำคัญมากกว่า อย่าให้อารมณ์ของเราทำให้เกิดความขุ่นเคืองใจ และทำให้บรรยากาศของคริสต์มาสเสียไป ร่วมกิจกรรมอย่างมีความสุข  ใจเย็นๆ เห็นใจกัน คริสต์มาสปีนี้ก็จะเป็นคริสต์มาสที่มีความสุขแล้ว บางทีการให้ก็ไม่ต้องลงทุนอะไรมาก แค่ให้คำพูดดีๆ ต่อกัน เห็นใจกันหน่อย ยิ้มให้กันหน่อย ก็เป็นการมอบความสุขให้คนรอบข้างแล้ว

นอกจากนั้น คริสต์มาสปีนี้คงจะมีความหมายมากขึ้น ไม่เหมือนคริสต์มาสเดิมๆที่ผ่านๆมา อย่างที่เคยๆ ทุกๆปี ถ้าปีนี้เราแต่ละคนได้เริ่มต้นที่จะเป็นผู้นำความชื่นชมยินดี ไปสู่เพื่อนพี่น้องรอบข้างมากขึ้น โดยเริ่มจากครอบครัวของเรา ในชุมชนในที่ทำงาน ด้วยการให้ ด้วยการแบ่งปันต่อกัน เหมือนอย่างที่พระเยซูเจ้าทรงให้ชีวิตทั้งชีวิตเพื่อเรา คริสต์มาสเป็นช่วงเวลาที่เราจะให้ความรัก ให้ความช่วยเหลือ ให้มิตรไมตรีและมากกว่านั้น ให้โอกาสกันและกันมากขึ้น พ่อเชื่อว่าถ้าเราทำเช่นนี้ คริสต์มาสปีนี้จะเกิดคุณค่า คริสต์มาสปีนี้จะมีความหมาย จะไม่ใช่คริสต์มาสเดิมๆที่เคยเป็น ที่เคยชินเหมือนที่ผ่านๆมา และผ่านไป โดยลืมคุณค่าและความหมายที่แท้จริงไป แต่ตรงข้ามจะเป็นคริสต์มาสที่จะนำความสุข ความชื่นชมยินดีมาสู่ตัวเราแต่ละคน และมากกว่านั้นความสุข ความชื่นชมยินดีนี้ จะไปสู่บุคคลรอบข้างเราด้วยเช่นกัน

ขอให้คริสตสมภพปีนี้เป็นอีกหนึ่งปีที่จะมีคุณค่าและมีความหมายสำหรับชีวิตของเราทุกๆคน                “พระกุมารบังเกิดเพื่อเราแล้ว จงชื่นชมยินดีกันเถิด”                                                

                                                                                                                                                            ปลัดวัดสาทร

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 17 ธันวาคม 2017

พี่น้องที่รัก

            สัปดาห์ที่สามของเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า เทียนเล่มที่สามเป็นความหมายถึงความชื่นชมยินดี ท่านยอห์น ย้ำถึงสิ่งที่กำลังทำด้วยความเชื่อมั่นถึงองค์พระผู้ไถ่กำลังจะเสด็จมาว่า ท่านเป็นพยานถึงแสงสว่าง ชีวิตของท่านพร้อมและชื่นชมยินดีในการเป็นเสียงร้องในถิ่นทุรกันดาร และเตรียมทางขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้ตรง

มิสซาวันอาทิตย์หน้ามีทุกรอบตามปกติ เพราะเป็นวันพระเจ้า และมิสซารอบ 22.00 น.เป็นมิสซาค่ำคืนคริสต์มาส พ่อจึงขอย้ำเตือน เพื่อเราจะได้ครบมิสซาวันอาทิตย์และวันคริสต์มาส พูดแบบบ้านๆ คือวันเดียวกันแต่คนละมิสซากัน

9 วันก่อนคริสต์มาสมีตั้งศีลมหาสนิท วจนะพิธีกรรมพิเศษ และจบลงด้วยอวยพรศีลมหาสนิท วันเสาร์อาทิตย์ เฉพาะเวลา 17.00 น.คือก่อนมิสซา ส่วนวันธรรมดา หลังมิสซา 17.30 น.จะตั้งศีลมหาสนิท วจนะพิธีกรรมและอวยพรเหมือนกัน  จะมีพระสงฆ์นั่งฟังแก้บาปให้  เว้นวันเสาร์และอาทิตย์ เพราะมิสซา 5 รอบมีโปรดศีลอภัยบาปอยู่แล้ว

วันที่ 24 มิสซาค่ำคืนคริสต์มาสเวลา 22.00 น. ฟังแก้บาป 2 รอบ คือ 19.00 น. และ 21.00 น.พระสงฆ์ฟังแก้บาป 2 องค์ ใครสะดวกเวลาไหนก็หมุนเวียนสลับเปลี่ยนกันมา อย่ารอวินาทีสุดท้าย

งานรื่นเริงอยู่ในเวลา 18.45 – 21.00 น.ก่อนงานมีอาหารจำหน่ายบริเวณทางเดินหน้าวัด แต่หลังมิสซามีบริการข้าวต้มด้านหลังศาลา  งานสนุกสนานสอยดาวที่บริเวณศาลาเอนกประสงค์ เกมต่างๆที่บริเวณสนามหญ้าเขียว  BINGO บริเวณที่จอดรถกลางแจ้ง และบ้านลมยางของเด็กเล่นบริเวณหน้าสโมสรผู้สูงอายุ

สถานที่เพื่อแสดงความเคารพรูปพระกุมาร มี 3 แห่ง ในวัด สนามหญ้าเขียว และโถงเอนกประสงค์หน้าศาลาหลุยส์มารี สะดวกที่ไหนได้หมด สามารถแสดงความเคารพได้โดยไม่รบกวนการร่วมพิธีกรรม

เพื่อให้งานคล่องตัวควรบริหารเวลาและการเดินทาง เพราะวันอาทิตย์ยามค่ำคืนอาจมีการจราจรหนาแน่น

ส่วนยามเช้ามิสซาคริสต์มาสรุ่งอรุณเวลา 10.00 น. และ 17.30 น. (ไม่มีมิสซารอบ 6.00 น.)

อนึ่งมิสซาวันอาทิตย์ที่ 31 ธันวาคม มิสซามีตามปกติและมิสซารอบ 17.30 น. หลังมิสซามีแห่รูปนักบุญหลุยส์ส่งท้ายปีเก่ารอบวัดพร้อมกัน  และในวันปีใหม่จันทร์ที่ 1 มกราคม 2018  มีมิสซาขอพรพระเวลา 09.00 น. เพียงรอบเดียวเท่านั้น

พ่อเจ้าวัดเซนต์หลุยส์

..................................................................................................

                     

บอกกล่าว เล่าเรื่อง

 คริสตมาส เทศกาลแห่งความชื่นชมยินดี

จงชื่นชมยินดี พระเจ้าอยู่ใกล้เราแล้ว เราเข้าสู่บรรยากาศของเทศกาลคริสตมาสแบบกลายๆ แม้ว่าจะยังไม่ถึงวันคริสตมาสจริงๆ ก็ตาม ไม่ว่าจะไปตามท้องถนน ตามห้างสรรพสินค้าหรือสถานที่สำคัญทั่วๆไป ก็มีบรรยากาศของวันคริสตมาสกันทั่วไปหมด ในช่วงเวลานี้ พ่อจึงขอนำเกร็ดความรู้เกี่ยวกับเทศกาลคริสตมาสในประเด็นต่างๆ  เพื่อเป็นการเตรียมและนำพี่น้องทุกท่านเข้าสู่บรรยากาศของคริสตมาสที่กำลังจะมาถึง

ถ้าพูดถึงคริสตมาสและถามเด็ก ๆ ทั่วไป ว่านึกถึงอะไรในเทศกาลคริสตมาส คำตอบเกือบจะ 80 เปอร์เซนต์ที่เด็กจะตอบก็คือ ซานตาครอส ซึ่งบางคนก็รู้ว่าความเป็นมาเป็นอย่างไร บางคนก็อาจจะยังไม่รู้หรือไม่แน่ใจ พ่อจึงขอพูดถึงซานตาครอสกับเทศกาลคริสตมาสในฉบับนี้

ซานตาคลอส คือ นักบุญ  นิโคลัสผู้เป็นสังฆราชแห่งเมืองไมรา ในประเทศตุรกีในปัจจุบัน มีชีวิตอยู่ในศตวรรษที่ 4 และเหตุที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นซานตาครอส เพราะมีตำนานเล่าว่า ท่านนักบุญเป็นคนใจดี ชอบช่วยเหลือคน วันหนึ่งท่านปีนขึ้นไปบนหลังคาบ้านของเด็กหญิงยากจนคนหนึ่งเพื่อทิ้งถุงเงินลงไปทางปล่องไฟบังเอิญถุงเงินหล่นไปทางถุงเท้าที่เด็กหญิงแขวนตากไว้ข้างเตาผิงพอดี ซึ่งเป็นตำนานของซานตาครอสที่นำของขวัญมาหย่อนลงทางปล่องไฟ และยังมีตำนานอื่นๆอีกมากมายที่เกี่ยวกับท่าน

นักบุญนิโคลัสนั้นเป็นนักบุญที่ชาวฮอลแลนด์นับถือว่าเป็นนักบุญผู้อุปถัมภ์ของเด็กๆ เมื่อชาวฮอลแลนด์กลุ่มหนึ่งอพยพไปอยู่ในสหรัฐอเมริกา ก็ยังรักษาประเพณีนี้อยู่ ประเพณีนี้จึงเริ่มเป็นที่รู้จักและแพร่หลายในที่นั่นโดยมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง คือ ชื่อนักบุญนิโคลัสก็เปลี่ยนเป็นซานตาคลอส และแทนที่จะเป็นสังฆราชก็กลายเป็นชายแก่ที่อ้วนและใส่ชุดสีแดงอาศัยอยู่ที่ขั้วโลกเหนือ มีเลื่อนเป็นยานพาหนะ ที่มีกวางเรนเดียร์ลากและจะมาเยี่ยมเด็กทุกคนในโลกนี้ในโอกาสคริสต์มาส โดยลงมาทางปล่องไฟของบ้านเพื่อเอาของขวัญมาให้เด็กเหล่านั้นตามความประพฤติของเขา

ถึงแม้ซานตาคลอสจะเป็นเพียงตำนานที่เกิดขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสก็ตาม แต่ก็เป็นสัญลักษณ์ที่รวมเอาความหมายของคริสต์มาสไว้อย่างมากมาย นั่นคือ ความปิติยินดี ความชื่นชม ความโอบอ้อมอารี ความรัก และความมีเมตตาไม่ว่าคนจะรู้จักคริสตมาสในภาพอย่างไร แต่คริสตมาสสำหรับทุกคน คือ ความสุข ความยินดี การแบ่งปัน ยิ่งสำหรับเราคริสตชน ยิ่งมีความหมายมากขึ้น เพราะเป็นช่วงเวลาแห่งความยินดี เพราะพระเจ้าอยู่ใกล้เรา คริสตมาสใกล้เข้ามาแล้ว ความชื่นชมยินดีใกล้เข้ามา เป็นต้นในสัปดาห์ที่ 3 ซึ่งเป็นสัปดาห์แห่งความชื่นชมยินดี ขอให้สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่เราจะนำความยินดี ความสุข ความชื่นชม ความมีชีวิตชีวา ไปสู่ทุกคนที่เราพบเจอ เพราะพระเจ้าเสด็จมาใกล้เราแล้ว เราจงชื่นชมยินดีเถิด                    

                                                                                                                                                                ปลัดวัดสาทร

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 10 ธันวาคม 2017

พี่น้องที่รัก

            สัปดาห์ที่สองของเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า เทียนเล่มที่สองหมายถึงความรัก เป็นความรักของพระประทานให้กับมนุษย์ ผ่านทางบุคคลสำคัญมากมาย สองท่านที่สำคัญมากๆ ทำให้เราเข้าใกล้ความรัก คือพระแม่มารีและนักบุญยอห์นบัปติสต์ ผู้รับใช้ของพระเป็นเจ้าที่มาเตรียมทางเดินของพระองค์และทำทางเดินของพระองค์ให้ตรงด้วย

ถนนสายนี้อาจไม่ทันสมัยเหมือนสาทร แต่ใครก็ตามที่เดินทางสายนี้สะอาดกาย สว่างใจ และสงบสุขในพระองค์ เพราะถนนสายนี้ท่านยอห์นได้สะสางและปราบให้ราบเรียบ เหมาะสำหรับพวกเราทุกคนจะได้เดินทางมาหาองค์พระผู้ไถ่

            เดือนธันวาคม เป็นเดือนที่เวลามีเท่าเดิม 31 วัน แต่การใช้เวลาดูเหมือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว นี่ก็ 10 วันแล้ว เป็นเวลาที่ใกล้คริสต์มาสเข้ามาแล้ว อีก 15 วันเท่านั้นเอง พ่อขอประชาสัมพันธ์เรื่องจิตใจ เราจะเริ่มทำ 9 วันเพื่อการรอคอยฉลองพระทรงบังเกิด โดยใช้วัดใหญ่และพระแท่นใหญ่ด้วย วันเสาร์และอาทิตย์ จะเชิญศีลมหาสนิทมาที่พระแท่นและทำวจนะพิธีกรรมพร้อมอวยศีลมหาสนิทก่อนมิสซา เริ่มเวลา 17.00 น. ส่วนวันธรรมดาจันทร์ถึงศุกร์ทำหลังมิสซา จะทำที่พระแท่นใหญ่ทั้งหมด จะทำในรูปแบบเดียวกัน ดังนั้นในปีนี้พ่อขอเชิญชวนเตรียมความพร้อมด้วย 9 วันก่อนฉลองคริสต์มาส

                ใครต้องการคืนดีกับพระเป็นเจ้าผ่านทางศีลอภัยบาป โปรดใช้เวลา 9 วันนี้ เพื่อเปิดพื้นที่ให้สัตบุรุษท่านอื่น จะได้ไม่ต้องต่อแถวยาวเหยียดมากมาย 9 วันถ้าสลับหมุนเวียนสัก 50 – 100 คน ก็ทำให้วันคริสต์มาสคล่องตัวมากขึ้น พระสงฆ์ที่วัด 4 ท่านบริการในวันคริสต์มาสก็ถือว่ามากแล้ว วัดอื่นๆก็ต้องใช้พระสงฆ์ด้วยเหมือนกัน ขอความร่วมมือจากทุกท่านด้วย

                การแบ่งปันน้ำใจคาทอลิก ขอพี่น้องหยิบซอง(ยาวขาว)หน้าประตูวัดและอ่านในรายละเอียดเพื่อจะได้มีส่วนร่วมกับงานของพระศาสนจักรตลอดปี ส่วนถุงทานพิเศษหน้าวัดวันนี้ อาทิตย์ 10 ธันวาคม เพื่องานพิมพ์หนังสือพระคัมภีร์คาทอลิกไทยและกิจกรรมส่งเสริมการอ่านพระคัมภีร์ทุกรูปแบบ

                อาทิตย์นี้บัตรสอยดาวจำหน่ายให้กับพี่น้องที่มาวัดเป็นสัปดาห์สุดท้าย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับท่าน เพื่อจะได้ไม่ต้องวุ่นวายในวันที่ 24 ธันวาคม เพราะว่าวันนั้นคงมีผู้คนมากมาย จำหน่ายเพียงจำนวนจำกัด เพื่อเผื่อให้กับพี่น้องที่มาร่วมงานในวันคริสต์มาสด้วย

“การบำรุงพระศาสนจักรคือการมีส่วนร่วมและสนับสนุนในงานประกาศข่าวดีของพระเยซูเจ้าทุกรูปแบบ”

พ่อเจ้าวัดเซนต์หลุยส์

...............................................................................................

                    

บอกกล่าว เล่าเรื่อง

            พระเยซู ตัวเป็นๆ ที่เห็นได้ สัมผัสได้

            เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาพ่อเองได้มีโอกาสเดินทางไปร่วมรับเสด็จสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสที่ประเทศเมียนมาร์ ก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้วางแผนว่าจะไป แต่แล้วก็มีเหตุผลบางประการจึงได้มีโอกาสร่วมเดินทางไปกับทัวร์ตามเสด็จพระสันตะปาปา ซึ่งจัดโดยสื่อมวลชนคาทอลิกแห่งประเทศไทย ก่อนที่จะเดินทางก็คิดว่าการไปครั้งนี้ก็คงไม่ได้สะดวกนักในการที่จะรับเสด็จพระสันตะปาปาด้วยความจำกัดของสถานที่ ด้วยความจำกัดของจำนวนคนที่มีนับแสนคน ทั้งจากประเทศเมียนมาร์เอง ทั้งจากประเทศเพื่อนบ้างใกล้เคียง รวมทั้งพวกเราชาวไทย มีความคิดว่าอย่างน้อยได้เห็นพระสันตะปาปาไกลๆ ได้ร่วมมิสซาที่ประกอบโดยพระสันตะปาปาก็พอแล้ว และเมื่อได้เดินทางไปถึงและมีโอกาสร่วมมิสซากับพระสันตะปาปาฟรังซิส ก็เป็นไปอย่างที่คาดการณ์ไว้นั่นคือ กลุ่มทั้งหมดของเราต้องตื่นกันตั้งแต่ตี 3 เพื่อจะออกเดินทางไปถึงสถานที่ประกอบพิธีให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้มีพื้นที่ สำหรับกลุ่มของเรา เมื่อเดินทางไปถึง การเดินทางเพื่อเข้าไปก็ไม่ใช่เรื่องง่ายทั้งกลุ่มทัวร์ที่มีจำนวนมาก ก็จำเป็นต้องใช้เวลาทั้งผ่านจุดตรวจ ทั้งผ่านฝูงชนที่มาตั้งหลักกันตั้งแต่เมื่อกลางดึกของวันก่อนงาน จึงไม่ใช่เรื่องง่ายนักกว่าจะผ่านเข้าไป แต่ทุกคนก็ยังคงยิ้มได้ ยังคงมีความหวัง เพราะความตั้งใจเดียวของทุกคนก็คือ การได้พบองค์สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสสักครั้งหนึ่ง แม้ไกลๆแต่ก็ขอให้อยู่ในบรรยากาศนั้น

            ก่อนถึงงานก็ได้อ่านบทสัมภาษณ์หนึ่งที่นักข่าวต่างประเทศได้สัมภาษณ์เยาวชน ที่มาเฝ้าพระสันตะปาปา คำถามหนึ่งนักข่าวถามเยาวชนว่า ดีใจไหมที่จะได้พบพระสันตะปาปาฟรังซิส และทำไมเธอถึงอยากมาพบพระสันตะปาปา คำตอบของเยาวชนคนนั้นเธอตอบเพียงสั้นๆว่า เธอไม่ได้อยากมาพบพระสันตะปาปา แต่เธออยากมาพบพระเยซูเจ้าที่เห็นได้และสัมผัสได้จริงๆในโลกนี้ นี่เป็นคำตอบว่า ทุกคนปรารถนาจะพบพระสันตะปาปาฟรังซิส เพราะพระองค์เป็นภาพลักษณ์ที่ชัดเจนของพระเยซูเจ้าบนโลกนี้ เป็นพระเยซูตัวเป็นๆ ที่เห็นได้ สัมผัสได้ 

            พวกเรากลุ่มชาวไทยที่มีโอกาสไปที่นั่น แม้ว่าจะต้องนั่งรอกัน 4-5 ชั่วโมงก่อนที่พระสันตะปาปาจะเสด็จมาแต่ทุกคน ยังคงยิ้มได้ ทุกคนยังมีความหวัง และตั้งตารอช่วงเวลาที่มีค่าครั้งหนึ่งในชีวิต และเวลาก็มาถึง ทันทีที่รถที่ประทับออกมาพร้อมสมเด็จพระสันตะปาปา เสียงกึกก้องดังไปทั้งสนาม Papa Francis พระสันตะปาปาเสด็จไปทั่วทั้งสนามเพื่ออวยพรทุกคนในสนาม พ่อเห็นภาพรอยยิ้มของหลายๆคนในสนาม ผ่านจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ เป็นรอยยิ้มปนน้ำตา เหมือนจะบอกว่า การมาครั้งนี้คุ้มแล้ว เพราะได้พบพระเยซูที่อยู่ท่ามกลางโลกนี้และดูเหมือนว่าการได้เห็นพระสันตะปาปาฟรังซิสครั้งนี้ จะเป็นไฟความเชื่อที่ลุกโชนขึ้นในใจของใครอีกหลายๆคน  เป็นต้นความเชื่อในประเทศเมียนมาร์

            หลังจากจบพิธีมิสซาได้ถามหลายๆคนในรถบัสเดียวกันว่า ประทับใจอะไรที่สุดในทริปนี้คำตอบเกือบทั้งหมดก็คือ การได้เห็นพระสันตะปาปาฟรังซิส แม้เพียงช่วงเวลาสั้น แม้เพียงไกลๆ แต่เป็นความประทับใจที่ทุกคนสัมผัสได้

            คำตอบของเยาวชนคนนั้น น่าจะเป็นคำถามที่ดังขึ้นในใจของเราแต่ละคนด้วยเช่นกัน เราทุกคนเป็นภาพลักษณ์ของพระเยซูท่ามกลางกันและกัน สำคัญคือเราทำให้ภาพพระเยซูชัดไหมในชีวิตคริสตชนของเรา สัปดาห์ที่2 ในเทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ น่าจะเป็นช่วงเวลาที่เราจะเริ่มต้น ทำให้ภาพของพระเยซูชัดเจนขึ้นในชีวิต ด้วยการเป็นคริสตชนที่ ใจดี มีเมตตา แบ่งปัน คิดดี พูดดี ทำดีต่อกัน ฯลฯ สิ่งนี้น่าจะเป็นอีกข้อตั้งใจหนึ่งในเทศกาลนี้เพื่อเป็นของขวัญในวันที่พระเยซูจะบังเกิดมา

                                                                                                                                                                ปลัดวัดสาทร

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคม 2017

พี่น้องที่รัก

            เริ่มแล้ว! สัปดาห์แรกของเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า เป็นการเริ่มต้นปีปฏิทินพิธีกรรมใหม่ บี และอาศัยพระวรสารของมาร์โกนำทางชีวิตให้ติดตามพระคริสต์เจริญชีวิตช่วยพระองค์ประกาศข่าวดี

วันอาทิตย์ที่แล้วมีพิธีโปรดศีลมหาสนิทครั้งแรก เด็กๆแสดงความพร้อมและเตรียมตัวอย่างดี ขอผู้ใหญ่ได้ช่วยกันสนับสนุนให้เด็กเหล่านี้ได้เจริญเติบโตทั้งกายและจิตใจเพื่อจะได้ใกล้ชิดพระและช่วยพระองค์ทำงานในชีวิตประจำวัน

            ขอบคุณบ้านเณรเล็กยอแซฟ สามพราน ทั้งมาช่วยมิสซาวันอาทิตย์และขอบคุณสัตบุรุษในการสนับสนุนพวกเขาทั้งคำภาวนาและปัจจัย จึงหวังในพระกระแสเรียกจากหมู่คณะวัดเซนต์หลุยส์ของเรา

            เอาใจช่วยทุกฝ่าย งานคริสต์มาสเริ่มแล้วตั้งแต่วันนี้ วัดเปิดจำหน่ายบัตรการกุศลเพียงสองสัปดาห์เท่านั้นและเฉพาะมิสซาเสาร์อาทิตย์ เพื่อบริการให้พี่น้องที่มาวัดได้ร่วมสนุก ทางคณะกรรมการให้โควต้า 6,000 ใบ จากทั้งหมด 16,000 ใบ เพื่อแบ่งปันให้พี่น้องที่มาร่วมงานในค่ำคืนคริสต์มาส (24 ธันวาคม)ได้มีโอกาสร่วมงานสนุกสนานด้วย ปีนี้เพิ่มรางวัลพิเศษ 30 รางวัล เพื่อปลอบใจและสร้างความสุขให้ทั่วๆกันไป โดยเฉพาะผู้มาวัดก็ยังได้รับความสะดวกในการรับรางวัลด้วย

            พ่อขอบคุณน้ำใจดีของพี่น้องทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง ถือเป็นผู้มีส่วนสำคัญทั้งสิ้น ในการเตรียมงานคริสต์มาส งานที่ทำให้เราสัมผัสได้กับการให้ อะไรที่พอช่วยกันได้ สร้างบรรยากาศทั้งภายในภายนอกขอให้ทำได้เลย อย่าผลัดวันผลัดเวลาเพราะการเตรียมพร้อมดีที่สุด สัปดาห์แรกของการเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าก็ระบุไว้ให้เราทุกคน ตื่นเฝ้าและพร้อมไว้ด้วยความหวังอย่างเปี่ยมล้นเพื่อการเสด็จมาของพระผู้ไถ่ของชาวเรา

            สี่สัปดาห์เพื่อการแบ่งปันน้ำใจคาทอลิก ขอพี่น้องหยิบซอง(ยาวขาว)หน้าประตูวัดและอ่านในรายละเอียดเพื่อจะได้มีส่วนร่วมกับงานของพระศาสนจักรตลอดปีส่วนในวันนี้วันอาทิตย์ 3 ธันวาคม พิเศษเพื่อช่วยการกุศลองค์กรดูแลโรคเอดส์ วันอาทิตย์หน้าที่ 17 ธันวาคม เพื่องานพิมพ์หนังสือพระคัมภีร์คาทอลิกไทย

“การบำรุงพระศาสนจักรคือการมีส่วนร่วมและสนับสนุนในงานประกาศข่าวดีของพระเยซูเจ้าทุกรูปแบบ”

พ่อเจ้าวัดเซนต์หลุยส์

.................................................................................................................

                    

บอกกล่าว เล่าเรื่อง

“เวลาเตรียมตัวมีไม่มาก และมันผ่านไปไวจริงๆ”

เรากำลังเข้าสู่เดือนสุดท้ายของปีค.ศ.2016 เวลาใกล้ๆสิ้นปี สิ่งหนึ่งที่เรามักพูดกันเสมอก็คือ เวลาผ่านไปไวจริงๆ เผลอแป๊ปๆ จะสิ้นปีอีกแล้ว จะเข้าปีใหม่อีกแล้ว ยังไม่ได้ทำอะไรอีกตั้งหลายอย่างจะจบปีแล้ว ฯลฯ พอมาคิดเรื่องเหล่านี้อีกทีก็จะสิ้นปีแล้ว มีนักคิดบางคนบอกว่า คนไทยกับคนต่างชาติ เป็นต้นคนทางยุโรปมองเรื่องเวลาแตกต่างกัน คนไทยเรามองเวลาเป็นลักษณะวงกลม นั่นคือเวลาวนเวียนไป ผ่านไปเดี๋ยวก็กลับมาใหม่ คนไทยจึงมักไม่ค่อยซีเรียสกับเรื่องเวลา เพราะมีความคิดว่า เวลาก็หมุนเวียนเปลี่ยนไปตามกาลเวลาและก็วนกลับมา หลายคนจึงมีความคิดว่า ยังไม่ต้องรีบยังมีเวลา เดี๋ยวค่อยทำเรื่องนี้ เรื่องนั้นก็ได้ เวลาเป็นของเรา ไม่ทันก็ยังรอได้ เพราะเดี๋ยวเวลามันก็วนมาใหม่ ในขณะที่คนยุโรปมองเวลาเป็นเส้นตรง นั่นคือผ่านมาแล้วผ่านไปเลย เพราะฉะนั้นเขาจะให้เวลากับทุกสิ่งอย่างเต็มที่เพราะถ้ามันผ่านไปแล้วมันจะไม่ย้อนกลับมาอีก แล้วพวกเราคิดว่าเรามองเวลาอย่างไร เขาจึงบอกว่าเรามีทัศนะอย่างไรกับเวลา เราก็จะดำเนินชีวิตแบบนั้น

สัปดาห์นี้เราเข้าสู่สัปดาห์ที่1ในเทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ นั่นหมายความว่าอีก4สัปดาห์ข้างหน้า เราจะสมโภชพระคริสตสมภพ ฉลองคริสตมาสฉลองการบังเกิดของพระเยซูเจ้าอีกครั้งหนึ่ง เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วถ้าเราไปตามห้างสรรพสินค้า เราก็จะเห็นการประดับตกแต่งมากมาย สวยงาม หรือแม้กระทั่งที่วัดของเราก็เริ่มมีบรรยากาศ คริสตมาสให้เราได้เห็นบ้าง ถ้ำพระกุมาร ต้นคริสตมาส หรือกิจกรรมการละเล่นต่างๆที่จะเกิดขึ้นในค่ำวันคริสตมาส กิจกรรมสอยดาวก็ดี บิงโก หรือเกมก็ดี ก็เป็นบรรยากาศและเป็นเครื่องหมายภายนอกของความสุข ความยินดีที่เกิดขึ้น และเป็นสัญญานบอกเราว่า คริสตมาสมาแล้ว พระกุมารมาบังเกิดท่ามกลางเราแล้ว ภายนอกเตรียมแล้ว แล้วเรื่องชีวิตภายในของเราแต่ละคนเริ่มเตรียมกันหรือยัง? สำหรับการบังเกิดมาของพระเยซู

คริสตมาสกำลังจะผ่านมาและผ่านไป ถ้าถามพวกเราแต่ละคนว่า เราผ่านการฉลองคริสตมาสกันมากี่ครั้งแล้วในชีวิต บางคนอาจจะสิบครั้ง ยี่สิบครั้ง สามสิบ สี่สิบ ห้าสิบ หรือมากกว่านั้น คริสตมาสสำคัญอย่างไรสำหรับเรา สำคัญที่เราได้มาร่วมมิสซา ได้สนุกสนานและก็กลับบ้าน และคริสตมาสก็ผ่านไปอีกหนึ่งปีแบบนี้หรือเปล่า พ่อคิดว่าคริสตมาสจะมีความหมายสำหรับเราเป็นพิเศษในปีนี้ ถ้าเราได้เตรียมบางสิ่งอย่างเป็นพิเศษในปีนี้ เตรียมอะไรได้บ้าง พ่อคิดว่าเราน่าจะเตรียมของขวัญสำหรับพระกุมารในปีนี้ และของขวัญที่ดีที่สุดก็คือ ชีวิตของเรา เป็นโอกาสที่จะหาข้อตั้งใจดีสักอย่างและเริ่มทำตั้งแต่สัปดาห์แรกในการเตรียมรับเสด็จนี้ พ่อคิดว่าถ้าเราได้เตรียมทำอะไรสักอย่างหรือมากกว่านั้น วันคริสตมาสปีนี้จะมีความหมายเป็นพิเศษเมื่อเราได้คุกเข่าจูบเท้าพระกุมารและวางข้อตั้งใจดี ที่เราทำมาตลอดการเตรียมรับเสด็จ คริสตมาสปีนี้จะเป็นคริสตมาสที่มีคุณค่าและมีความหมายสำหรับเราแต่ละคนจริงๆ เป็นคริสตมาสแท้จริงสำหรับเรา เวลาเตรียมตัวมีไม่มาก และมันผ่านไปเร็วจริงๆ

              ปลัดวัดสาทร