วันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2560

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม 2017

พี่น้องที่รัก
                วันที่ 31 ตุลาคม ส่งท้ายเดือนแม่พระ มิสซารอบ 17.30 เลื่อนไปเป็นเวลา 19.00 น.เพื่อเปิดโอกาสมาร่วมมิสซาโมทนาคุณแม่พระด้วยกัน มาสวดสายประคำก่อนมิสซา เวลา 18.30 น. และต่อด้วยมิสซาเวลา 19.00 น.ส่งท้ายด้วยการแห่แม่พระหลังจบมิสซาแล้ว (คงไม่มีใครถามว่ามิสซาแห่แม่พระกี่โมง มีสวดสายประคำก่อนหรือหลังและมีแห่แม่พระไหม ชัดเจนแล้วนะครับ)
วันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นวันสมโภชนักบุญทั้งหลาย สำหรับเมืองไทยเลื่อนไปฉลองในวันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน
วันที่ 2 พฤศจิกายน วันภาวนาเพื่อผู้ล่วงลับ ที่วัดเซนต์หลุยส์มีมิสซาตามปกติคือ รอบเช้า 06.00 น. และ 17.30 น. และเพิ่มรอบพิเศษเพื่อให้ทุกคนที่ทำงานสามารถทันร่วมมิสซาในเวลา 19.00 น.ได้ ในรอบหนึ่งทุ่ม เชิญชวนนำรูปหรือชื่อผู้ล่วงลับมาวางไว้ที่ขอบพื้นพระแท่นและจุดเทียน(ไฟฟ้า)แทนการไปเยี่ยมที่สุสาน และภาวนาในมิสซาผู้ล่วงลับด้วยกัน หลังมิสซาแล้วจะพรมน้ำเสกและถวายกำยานที่รูปให้(เหมือนไปเสกสุสาน)
ตลอดสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 2 ถึง 8 พฤศจิกายน พี่น้องสามารถมาสวดที่วัดเพื่อการรับพระคุณฯให้ผู้ล่วงลับได้วันละครั้ง  หรือไปเยี่ยมที่สุสานของพี่น้องผู้ล่วงลับเช่นเดียวกัน
มีคำแนะนำและคำท้วงติงเกี่ยวกับการตั้งศีลมหาสนิทว่าสวดสายประคำหรือภาวนาแบบทำวัตร อันไหนจะดีหรือเหมาะสมกว่ากัน เกี่ยวกับการตั้งศีลและมีอวยพร ปกติแล้วจะมีบททำวัตรหรือบทคัดเลือกมาจากพระคัมภีร์และต้องอยู่เฝ้าอย่างมีความสำรวม และใช้เวลาตั้งแต่น้อยไปหามาก โดยเฉพาะทุกวันศุกร์ต้นเดือนที่วัดจะมีการตั้งศีลก่อนมิสซาครึ่งชั่วโมง ปัจจุบันนี้เริ่มตั้งศีลเวลา 17.00 น.และสวดสายประคำ 20 เม็ด และอวยพรศีลมหาสนิท เพื่อให้เวลาพอดีกับการเริ่มมิสซาเวลา 17.30 น.และจบลงหลัง 18.00 น.และช่วยให้ผู้มาสวดให้ผู้ล่วงลับที่ศาลาเวลา 19.00 น. ซึ่งมักจะมีเสมอๆ ขอให้ใช้วิธีการแบบนี้ไปก่อน ส่วนการสวดสายประคำขณะตั้งศีลในเดือนตุลาคมก็เช่นเดียวกัน พ่อจะพิจารณาเพื่อความเหมาะสมต่อๆไป อีกข้อหนึ่งที่เสนอมาแบบเล็กน้อยคือเวลา 19.00 น.ให้สวดสายประคำ ซึ่งเวลาที่ปรับเปลี่ยนคงมีเหตุผลแบบคนส่วนมากที่มีเวลาพอดีและช่วยให้สวดให้กับผู้ล่วงลับต่อเนื่องกันไป คือมิสซา 17.30 น.สวดสายประคำอีกครึ่งชั่วโมง 18.30 น. มีเวลาได้พักสักนิดและ 19.00 น.ก็เข้าไปสวดที่ศาลา จบเห่พอดี! จึงเหมาะสมแล้ว ขอขอบคุณในคำแนะนำและทักท้วง ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้เราทุกคนมีเวลาทำกิจศรัทธาอย่าดีและเหมาะสม

“เดือนพฤศจิกายน โปรดภาวนาเพื่อผู้ล่วงลับ โดยเฉพาะวิญญานในไฟชำระ”
พ่อเจ้าวัดเซนต์หลุยส์
...................................................................................................................

บอกกล่าวเล่าเรื่อง

ความสุขอยู่ใกล้เราแค่เอื้อม
            พี่น้องครับ สัปดาห์นี้พ่อและคุณพ่อเจ้าวัด ได้นำครอบครัวที่ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม “เติมรักในครอบครัว” ไปที่พัทยา เพื่อฟื้นฟูชีวิตครอบครัว เพื่อใช้เวลาสร้างความสัมพันธ์กลมเกลียวในครอบครัว และในชุมชนวัด แม้จะเป็นกลุ่มเล็กๆไม่กี่สิบครอบครัว แต่ก็เป็นเหมือนเชื้อแป้งที่จะฟูขึ้นในความรักความผูกพัน เป็นต้นในครอบครัวของพวกเขา และพ่อเชื่อว่ากิจกรรมที่ได้ทำร่วมกัน การเยี่ยมเด็กๆ ด้อยโอกาสที่ศูนย์สงเคราะห์เด็กพัทยา กิจกรรมสัมพันธ์ร่วมกัน การแบ่งปันประสบการณ์ดีๆ ของกันและกัน สิ่งเหล่านี้เป็นพลัง สิ่งเหล่านี้เป็นความสุขเล็กๆ ที่เกิดขึ้นและจะเป็นพลังขับเคลื่อนในครอบครัวต่อไป พ่อเชื่อว่าความสุขเล็กๆที่พบได้ บางทีเราเองไม่ได้คาดคิดว่ามันอยู่ใกล้ๆ ตัวเรา มีคำพูดหนึ่งที่บอกว่า “บางทีเรามัวมองหาสิ่งที่ขาด จนพลาดสิ่งที่มี” กว่าคนเราจะเห็นคุณค่าของบางสิ่งบางอย่าง ของใครบางคน บางทีคนคนนั้นก็ไม่อยู่แล้ว หรือไม่เราก็ไม่มีสิ่งนั้นแล้ว มีเรื่องเล่า ของกวีชายคนหนึ่งที่รู้สึกว่าชีวิตไม่ค่อยจะมีความสุขเลย วันหนึ่งเทวดาปรากฏมาต่อหน้าเขา เทวดาถามกวีคนนั้นว่า  ท่านมีความสุขหรือไม่? เขาตอบว่า ผมมีทุกอย่าง ขาดอย่างเดียว “ผมต้องการความสุข ผมไม่มีความสุขเลย” เทวดาเริ่มนำเอาสิ่งของที่เขามีออกไป เอาความสามารถในการเป็นกวีออกไป ทำลายรูปลักษณ์ของเขา เอาความร่ำรวยออกไป พรากภรรยาและลูกๆของเขาไปด้วย แล้วก็กลับสวรรค์ไป หนึ่งเดือนต่อมาเทวดากลับมาหาเขา ก็พบเขาในสภาพกำลังนอนบนพื้นดินปางตาย ทั้งหิวและดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด เทวดาสงสารจึงจัดการคืนทุกสิ่งที่เขาเคยมีทั้งหมดให้ สองอาทิตย์ต่อมาเทวดากลับมาหาเขาอีก คราวนี้กวี ภรรยาและลูกๆ ของเขา มาขอบคุณเทวดาอย่างสุดใจบอกว่า ที่สุดผมก็พบกับความสุขแล้ว"
บทเรียนจากเรื่องเล่านี้ก็คือ พวกเราส่วนใหญ่มีสิ่งที่จำเป็นเพื่อมีความสุขอยู่แล้ว เมื่อใดที่เราขาดสิ่งเหล่านี้ เราจึงจะรู้ว่าทุกสิ่งที่เรามีอยู่นี้นำความสุขมาให้เราอยู่แล้ว บางทีเราก็พลาดความสุขเล็กๆที่อยู่รอบตัวเรา เพราะมัวแต่มองหา มองแต่เรื่องไกลตัวของเรา จนพลาดที่จะพบความสุขกับคนใกล้ตัว คนในครอบครัว สามี ภรรยา ลูก เพื่อนร่วมงาน คนข้างบ้าน คนรอบตัว ฯลฯ บางทีความสุขก็ไม่ได้อยู่ไกลเราเลย ขอเพียงแต่มองให้เห็นและทำให้ทุกที่ที่เราอยู่มีความสุข ความสุขก็เกิดขึ้น
พี่น้องครับ อย่าลืมที่จะให้เวลากับคนใกล้ตัว ให้ความรัก ให้ความสุขกับคนใกล้ตัว ในขณะที่ยังมีเวลา เป็นความสุขที่เราสามารถพบได้ในทุกๆ วัน บางทีไม่ต้องไปหาจากที่ไหน แต่อยู่ใกล้เราแค่เอื้อมจริงๆ
                                                                                                                        ปลัดวัดสาทร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น