เมื่อวันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พ่อกับสภาภิบาลและผู้ติดตามบางส่วนจำนวน 34 ท่านได้เดินทางไปแสวงบุญที่วัดนักบุญยอแซฟอยุธยา โอกาสปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม ช่วงนั้นเป็นช่วงที่อากาศร้อนอบอ้าวมากทั้งวันติดต่อกันมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ปรากฏว่าเช้าวันเดินทางอากาศเย็นสบาย อุณหภูมิในเช้าวันนั้นเวลา 9 นาฬิกา วัดได้ 28 องศาเซลเซียสถือว่าเป็นวันที่พระโปรดสำหรับเราจริงๆ ในท่ามกลางฤดูร้อน ซึ่งปีนี้ความร้อนอยู่ในระดับทำลายสถิติในรอบหลายสิบปีเลยก็ว่าได้ เราออกเดินทางด้วยรถบัสไปยังวัดนักบุญยอห์นบัปติสตา เจ้าเจ็ด ซึ่งเป็นบ้านเกิดของพ่อเอง พ่อเจ้าวัดคือคุณพ่อสุรนันท์ กวยมงคล ได้ออกมาต้อนรับเราอย่างเป็นกันเองพร้อมกับเล่าความเป็นมาของวัดเจ้าเจ็ด นำสวดภาวนา จากนั้นคณะของเราได้เข้าไปเยี่ยมเยียนบิดามารดาของพ่อ ซึ่งอยู่ในวัยสูงอายุแล้วที่บ้านของพ่ออยู่ใกล้ๆ กับวัด พ่อได้มีโอกาสต้อนรับทุกท่านด้วยข้าวต้มร้อนๆ เป็นอาหารเช้า จากนั้นเราจึงออกเดินทางไปยังวัดนักบุญยอแซฟอยุธยา คุณพ่อทวีศักดิ์ กิจเจริญ เจ้าอาวาสมาเป็นประธานในพิธีบูชาขอบพระคุณ คุณพ่อได้เล่าประวัติการเข้ามาของมิสชันนารีที่เข้ามาเผยแผ่ศาสนา ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีมีใจความพอสังเขปว่า คณะบาทหลวงยุคแรกที่เข้ามาเป็นบาทหลวงคณะดอมินิกันชาวโปรตุเกส เข้ามาพร้อมกับชาวโปรตุเกสที่มาติดต่อค้าขายในสมัยอยุธยา ต่อมาได้มีการสร้างวัดขึ้น 3 แห่ง บริเวณหมู่บ้านโปรตุเกส ดูแลโดยนักบวชคณะดอมินิกัน คณะเยสุอิต และคณะฟรังซิสกัน มิชชันนารียุคแรกเน้นที่จะให้การอภิบาลต่อชาวต่างชาติที่นับถือศาสนาคาทอลิกอยู่แล้ว ต่อมาในปี ค.ศ. 1662 คณะมิชชันนารีต่างประเทศแห่งกรุงปารีส ได้เดินทางมาถึงอยุธยาในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยมีเป้าหมายจะเดินทางต่อไปยังประเทศญี่ปุ่นและจีน แต่ในที่สุดก็ปักหลักอยู่ที่อยุธยาเพื่อจะทำการเผยแผ่ศาสนา และได้สร้างวัดขึ้นที่บริเวณวัดนักบุญยอแซฟอยุธยาแห่งนี้ วัดหลังปัจจุบันนับเป็นวัดหลังที่ 4 แล้ว วัดนักบุญยอแซฟอยุธยาแห่งนี้ จึงเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของการทำงานของธรรมทูตที่ยังคงปรากฏเป็นประจักษ์พยานสืบเนื่องมาจากสมัยอยุธยา และความสำคัญอีกประการหนึ่งคือ เป็นวัดที่สังฆมณฑลกรุงเทพ กำหนดให้เป็นวัดแสวงบุญในปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม เมื่อเสร็จพิธีมิสซาแล้ว เรารับประทานอาหารเที่ยงที่ทางวัดจัดเตรียมไว้ให้ ทุกคนอิ่มบุญและอิ่มท้องกันทั่วหน้า ต้องแสดงความขอบคุณอย่างสูงมายังคุณพ่อทวีศักดิ์มา ณ ที่นี่ด้วย เมื่อทานอาหารเสร็จ คณะของเราเดินทางต่อไปยังโบราณสถานหมู่บ้านโปรตุเกส ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากวัดนักบุญยอแซฟอยุธยามากนัก ที่นั่นเราได้เยี่ยมเยียนสักการสถานนักบุญเปโตรและเปาโล ที่ได้รับการขุดแต่งบูรณะสักการสถานโดยกรมศิลปากรและการสนับสนุนจากมูลนิธิกุลเบงเกียนประเทศโปรตุเกส ตามประวัติกล่าวว่าชุมชนโปรตุเกสแห่งนี้ในยามที่มีผู้คนอาศัยสูงสุดนับจำนวนคนได้ถึง สองถึงสามพันคนเลยทีเดียวคงเป็นชุมชนชาวตะวันตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกรุงศรีอยุธยา ชาวโปรตุเกสได้อาศัยอยู่ในบริเวณนี้จนถึง พ.ศ. 2310 และทิ้งร้างไปภายหลังการเสียกรุงศรีอยุธยา รวมอายุของชุมชนยาวนาน 217 ปี หลังจากนั้น คณะของเราได้ออกเดินทางไปยังหมู่บ้านญี่ปุ่น ซึ่งตั้งอยู่บริเวณตรงข้ามฝั่งแม่น้ำ ทำให้เราทราบว่า บริเวณตรงข้ามฝั่งแม่น้ำนั้น เป็นสถานที่อยู่อาศัยของชุมชนชาวญี่ปุ่นขนาดใหญ่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ประมาณว่ามีคนอาศัยที่นี่ 1,500 คน ในจำนวนนี้เป็นชาวญี่ปุ่นที่นับถือศาสนาคาทอลิกประมาณ 700 คน เนื่องด้วยชาวคริสต์ในญี่ปุ่นถูกเบียดเบียนเป็นเวลานานในช่วงประมาณปลายศตวรรษที่ 16 ชาวญี่ปุ่นที่นับถือศาสนาคริสต์จำต้องลี้ภัยเบียดเบียนออกไปอาศัยอยู่ต่างประเทศ และที่กรุงศรีอยุธยาก็มีชาวญี่ปุ่นที่นับถือศาสนาคริสต์มาอาศัยอยู่ที่บริเวณหมู่บ้านญี่ปุ่นแห่งนี้เป็นจำนวนมากด้วย
จากการเดินทางไปแสวงบุญครั้งนี้ คณะของเราได้รับทั้งพระพรโอกาสปีศักดิ์สิทธิ์ และยังได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมาแรกเริ่มของการเผยแผ่ศาสนาคริสต์ในดินแดนแหลมทองของเราแห่งนี้ด้วย ทำให้ทุกคนต่างภาคภูมิใจในความพากเพียรพยายามของบรรดามิชชันนารีในยุคสมัยนั้น ที่เห็นว่านี่เป็นมรดกฝ่ายจิตใจที่มีคุณค่าสูงสุดที่พึงได้รับการสืบสานต่อเนื่องไปจนชั่วฟ้าดินสลาย
พ่อสุพจน์
.........................................................................................
ข้างบัลลังก์นักบุญหลุยส์ : UNLIMITED BEING
อาทิตย์นี้ สมโภชพระตรีเอกภาพ พระเจ้าของเรา
พระบิดา และพระบุตร และพระจิต
#พระเจ้าหนึ่งเดียวสามพระบุคคล
ความเชื่อในพระเจ้าเป็นเรื่องยากเกินเข้าใจ
สติปัญญาแบบมนุษย์ เรารู้ได้แบบจำกัด
สิ่งจำกัด(Limited being) ย่อมเข้าใจสิ่งไม่จำกัด(Unlimited Being) อย่างจำกัด
แต่เพราะพระผู้ไม่จำกัด ทรงเปิดเผยพระองค์ให้เราทราบ
ความเชื่อจึงเป็นของประทาน การรู้จักพระเจ้าจึงเป็นพระพร
พระบิดาเจ้าทรงเปิดเผยพระองค์เองให้เราได้รู้จักกับพระองค์
พระเยซูเจ้าทรงเปิดเผยถ้อยคำของพระเจ้าทางการประกาศของพระองค์
พระจิตเจ้าทรงทำให้เราเข้าใจในคำประกาศของพระองค์
สิ่งของมีค่าในโลกหลายสิ่ง มีค่าเพราะมันถูกจำกัด
เสื้อผ้าลิมิตเต็ดอิดิเชิ่น กระเป๋าลิมิตเต็ดอิดิเชิ่น
สินค้าลิมิตเต็ดอิดิเชิ่น ข้าวของลิมิตเต็ดอิดิเชิ่น
ความจำกัด ทำให้สิ่งของในโลก เป็นของหายาก
ของหายาก ทำให้ราคาเพิ่มขึ้น ทำให้มีมูลค่ามากขึ้น
บางที โลก ทัศนคติ อุดมคติแบบโลก ก็สอนเราว่า
ถ้าอยากมีตัวตน อยากมีที่ยืน อยากมีคุณค่า
ให้เราแสวงหาหลายสิ่งที่จำกัด เพื่อจะได้ทะลุความจำกัดที่เรามีและเป็น
การได้เป็นเจ้าของและครอบครองสิ่งจำกัดฝ่ายโลก
ทำให้เรารู้สึกว่า ได้มีตัวตน ได้มีที่ยืน ได้มีคุณค่า
ทั้งทั้งที่หากเราคิด ตริตรอง และพิจารณาอย่างดีแล้ว
เพื่อ Limited being จะเป็น Unlimited Being ได้
แท้จริง ไม่ใช่การได้แสวงหา การได้ครอบครอง การได้เป็นเจ้าของ สิ่งที่จำกัด
แต่เป็นการแสวงหา ปรารถนา ได้สัมผัส และอยู่ในสิ่งที่ไม่จำกัดต่างหาก
บาทหลวงบางกอก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น