พี่น้องที่รัก
เราเข้าสู่ช่วงเวลาที่เรียกว่า
"สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์" อันเป็นช่วงสุดท้ายของเทศกาลมหาพรต
ซึ่งนำเราไปสู่จุดสูงสุดของภารกิจของการมาบังเกิดเป็นมนุษย์ของพระเยซูเจ้า
นั่นคือการรับทนทรมานและความตายบนไม้กางเขน เพื่อถวายองค์เป็นเครื่องบูชาไถ่บาป
หรือ ชดเชยบาปของเรามนุษย์ทั้งหลาย
ดังนั้นพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ในช่วงสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์นี้จึงนำพาเราไปสู่เหตุการณ์สำคัญในช่วงสุดท้ายของพระชนม์ชีพของพระเยซูนั่นคือ
การที่พระองค์เสด็จเข้าสู่กรุงเยรูซาเล็มอย่างเปิดเผย
มีผู้คนซึ่งชื่นชอบในตัวพระเยซูเป็นจำนวนมากพากันมาต้อนรับพระองค์ด้วยการโบกกิ่งไม้
ซึ่งได้แก่กิ่งมะกอก ใบปาล์ม โห่ร้องด้วยความยินดีว่า "โฮซานนา"
ซึ่งเป็นภาษาอารามาอิก มีความหมายว่า "ช่วยเราให้รอดพ้นด้วยเถิด"
ซึ่งในที่นี้หมายถึงบุคคลนี้เป็นผู้นำความหวังที่ยิ่งใหญ่มาให้กับทุกคน
ดังนั้นการเปล่งคำว่า "โฮซานนา" จึงเป็นการโห่ร้องด้วยความยินดีที่เปี่ยมล้นในดวงใจ
เราระลึกถึงเหตุการณ์นี้ในวันอาทิตย์ใบลาน และในช่วงกลางอาทิตย์พิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ยังนำพาเราไปสู่ช่วงวิกฤติสูงสุดของเส้นทางชีวิตของพระเยซู
ด้วยการนำเราให้ระลึกถึง การรับประทานอาหารค่ำครั้งสุดท้ายกับบรรดาศิษย์
ซึ่งในเหตุการณ์นี้เราพบว่าพระเยซูทรงถ่อมพระองค์ลงรับใช้ทุกคนด้วยการแสดงความสุภาพอย่างสูงสุด
คุกเข่าลงเบื้องหน้าศิษย์ของพระองค์แล้วล้างเท้าบรรดาศิษย์เป็นการแสดงออกว่า
ความเป็นผู้นำต้องพร้อมที่จะทำทุกอย่างสำหรับทุกคนได้
แล้วพระเยซูทรงออกไปภาวนาในสวนมะกอก
เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมเผชิญกับบททดสอบสุดท้ายที่พระองค์จะต้องผ่านไปให้ได้
เราระลึกถึงเหตุการณ์นี้ในวันพฤหัสศักดิ์สิทธิ์ ต่อมาในวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์
เราระลึกถึงเหตุการณ์ที่พระเยซูเจ้าทรงถูกพิพากษาลงโทษ
ด้วยการตัดสินประหารชีวิตด้วยการตรึงบนไม้กางเขน
แต่ก่อนหน้านั้นพระองค์ถูกเย้ยหยัน
ถูกเฆี่ยนโบยตีและถูกทรมานทั้งด้วยถ้อยคำที่ประชดประชัน เหยียดหยาม ถูกถ่มน้ำลายรด
และสุดท้ายถูกตรึงบนไม้กางเขนสิ้นพระชนม์ วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์
เป็นช่วงเวลาที่เราระลึกถึง แผนการช่วยกู้ให้รอดที่พระเจ้าพระบิดาทรงมีต่อมนุษยชาติที่พระองค์ทรงรัก
เราหันไปพิจารณาถึงสิ่งที่พระองค์ทรงทำในอดีตกับประชากรที่เลือกสรรของพระองค์
คือชนชาติอิสราเอล และ ที่สุดพระองค์ทรงส่งพระบุตรแต่เพียงพระองค์เดียวของพระองค์ลงมา
เพื่อทำให้เป้าหมายสูงสุดของพระองค์สำเร็จไป
ในค่ำวันเสาร์จึงเป็นช่วงเวลาตื่นเฝ้าสำหรับเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดคือการรอคอยการกลับคืนชีพของพระเยซู
เราร้องเพลงอัลเลลูยาด้วยความชื่นชมยินดี ซ้ำหลายครั้ง เป็นการย้ำเตือนเราว่า
บัดนี้แสงสว่างแห่งความรอดของพระเจ้าได้ฉายแสงมาถึงเราแล้ว
เราทุกคนมีความหวังที่จะได้รับชีวิตนิรันดรแล้ว
ในวันนี้จึงมีพิธีโปรดศีลล้างบาปของผู้เรียนคำสอนซึ่งได้เตรียมตัวด้วยการเรียนคำสอนมาตลอดหนึ่งปี
และ ผ่านกระบวนการต่างๆมาจนถึงวันเวลาที่พร้อมจะเข้ามาเป็นคริสตชนเป็นลูกของพระเจ้าอย่างเต็มตัว
พี่น้องครับ
พ่อเชิญชวนพี่น้องทุกท่านทำสัปดาห์นี้ให้เป็นสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์สำหรับเราแต่ละคนจริงๆ
ให้เราใช้เวลารำลึกเสมอๆ ถึงความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อเราทุกคน
ให้เราใช้ชีวิตอย่างศักดิ์สิทธิ์ และฟื้นฟูความเชื่อความศรัทธาของเราให้เจิดจ้าแรงกล้ายิ่งขึ้น
เพื่อย้ำเตือนใจเราไม่ให้หลงลืมพระคุณของพระองค์
เพื่อเราจะผูกพันชีวิตอยู่กับธรรมล้ำลึกแห่งการไถ่กู้ของพระองค์เสมอ
คพ.สุพจน์
..................................................................................................................
ข้างบัลลังก์นักบุญหลุยส์ :อาทิตย์นี้...พระทรมาน
ยากที่จะหาคนตายแทนคนชอบธรรมได้
ยากยิ่งกว่าที่จะหาคนตายแทนคนบาปได้
แต่ทรงรักเรามนุษย์แม้ยังเป็นคนบาปอยู่
และยอมตายแทนเราเพื่อให้เราประจักษ์แจ้ง
ในความรักที่ทรงมีต่อเรามนุษย์
กลับเป็นเราเองที่หลายครั้งหลงลืมไปว่าเราก็ยังเป็นคนบาป
กลับเป็นเราเองที่จับดาบฟาดฟันเพื่อนพี่น้อง
#ไม่ตายแทนไม่ว่าหนำซ้ำยังประสงค์ให้ต้องมีคนตายด้วย
คนจะดีได้หาใช่ด้วยการกดผู้อื่นให้ต่ำลง
แต่คือการถ่อมตนลงรับสภาพที่เป็นอยู่
เปลี่ยนแปลงและแก้ไขรักและรับใช้อย่างที่พระทำต่างหาก
AGNUS
DEI
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น