วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2559

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม 2016

พี่น้องที่รัก
            สุขสันต์วันปัสกา แด่พี่น้องทุกๆท่าน
            สุขสันต์วันแห่งความชื่นชมยินดีสูงสุดของเราคริสตชนทุกคน
            สุขสันต์วันพระเยซูกลับฟื้นคืนชีพชนม์
            สุขสันต์วันแห่งชีวิตใหม่ที่พระเจ้าพระบิดาทรงประทานให้กับพระบุตรของพระองค์
            สุขสันต์วันที่พระเยซูมีชัยชนะเหนือความตาย
            สุขสันต์วันแห่งแสงสว่าง ที่เข้ามาขับไล่ความมืดมน

            พี่น้องครับวันคือวันเฉลิมฉลองที่สำคัญที่สุดของชาวเรา เพราะ
            วันนี้เป็นวันแห่งชัยชนะ
            วันแห่งความยินดี
            วันแห่งความหวัง
            วันแห่งการหลุดพ้นจากความมืดมนที่ครอบคลุมเราอยู่
            วันแห่งชีวิตของเรามนุษย์ที่มีศักดิ์ศรีแห่งการเป็นบุตรของพระเจ้า
            เราคริสตชนจึงมีความยินดีอย่างบริบูรณ์ เพราะพระเจ้าทรงมีแผนการณ์แห่งความรอดเพื่อช่วยเรา และบัดนี้แผนการณ์แห่งความรอดของพระองค์สำเร็จสมบูรณ์ตามพระประสงค์ของพระองค์โดยทางองค์พระเยซูคริสต์พระเจ้าของชาวเราแล้ว
            ให้เราดำเนินชีวิตอย่างผู้ที่ดำรงอยู่ในความสว่างเถิด
            ให้เรายึดมั่นในครรลองแห่งความดีงามเสมอไปเถิด
            ให้เราครองตนอยู่ในธรรมะที่พระเจ้าประทานให้เถิด
            ให้เราพบสันติสุขที่เที่ยงแท้ในการเป็นบุตรของพระเจ้าเถิด
            โอกาสนี้พ่อขอต้อนรับคริสตชนใหม่ทุกท่านด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง พวกท่านได้รับศักดิ์ศรีแห่งการเป็นบุตรบุญธรรมของพระเจ้าแล้ว ขอให้ท่านได้รักษาศักดิ์ศรีนี้ไว้มิให้ด่างพร้อย จนกว่าจะถึงวันที่องค์พระคริสตเจ้าจะเสด็จกลับมา ขอให้พี่น้องได้โอบอุ้ม อุปถัมภ์ค้ำชูผู้ที่มีความเชื่อในพระเจ้าเหล่านี้ไว้ เพื่อให้ความเชื่อของเขาเจริญเติบโต เข้มแข็ง และ หยั่งรากลึกลงในจิตใจของพวกเขาทุกคน เพื่อพวกเขาจะมีความมั่นคงในแนวทางชีวิตที่อาศัยพระวรสารของพระเยซูเป็นแสงสว่างส่องนำทางเสมอไป
            ขอพระเจ้าโปรดประทานพระพรอันอุดมบริบูรณ์แด่พี่น้องทุกท่านในโอกาสสมโภชปัสกาอีกครั้งในปีนี้
            สุขสันต์วันปัสกาแด่พี่น้องทุกท่านอีกครั้งครับ

พ่อสุพจน์
............................................................................................................................................
ข้างบัลลังก์นักบุญหลุยส์ : อาทิตย์นี้...วันที่แปด

สุขสันต์วันปัสกา ชโย อัลเลลูยา
แด่คุณพ่อ พี่น้องนักบวช และพี่น้องสัตบุรุษ หญิง-ชายทุกท่าน
พระวาจาอาทิตย์นี้ เป็นเรื่องของความเชื่อและความรัก
เมื่อมารีย์ ชาวมักดาลา เห็นพระคูหาว่างเปล่า นางวิ่งจึงไปบอก
บอก เปโตร = ความเชื่อ”, บอก ศิษย์ที่พระเยซูเจ้าทรงรัก = ความรัก

ทั้งศิษย์ทั้งสองจึงออกวิ่ง...
-ศิษย์ที่ทรงรักวิ่งเร็วกว่า จึงไปถึงก่อน แต่อยู่นอกคูหา
ความรักรวดเร็วว่องไวเสมอ แต่บางที ก็ดั่งเรือไร้หางเสือ
-เปโตรไปถึงทีหลัง แต่เข้าไปในคูหาว่างเปล่านั้นก่อน
ความเชื่อเหมือนจะเชื่องช้า แต่หนักแน่มันคง จึงพิสูจน์
ความรักจึงมิอาจไร้ซึ่งความเชื่อ ฉันใด
ความเชื่อจึงมิอาจไร้ซึ่งความรัก ฉันนั้น
รักไร้ความเชื่อ จึงเป็นรักไม่หนักแน่น โลเล ดุจไม้หลักปลักขี้เลน
เชื่อไร้ความรัก จึงเป็นเชื่อไร้หัวใจ เชื่องช้า ดุจสลอทหัวใจเป็นตะคริว
ความรักความเชื่อจึงคู่กัน
ความรักความเชื่อจึงเสริมสร้างกัน
อย่างไรก็ตาม เราได้ยินว่า คนที่ถึงก่อนหมด คือ มารีย์
มารีย์ ผู้ที่รักพระเจ้าจนหมดหัวใจ
เพราะรักที่มี นางจึงวิ่งไปถึงเป็นคนแรก


Agnus Dei

วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2559

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม 2016

พี่น้องที่รัก
            เราเข้าสู่ช่วงเวลาที่เรียกว่า "สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์" อันเป็นช่วงสุดท้ายของเทศกาลมหาพรต ซึ่งนำเราไปสู่จุดสูงสุดของภารกิจของการมาบังเกิดเป็นมนุษย์ของพระเยซูเจ้า นั่นคือการรับทนทรมานและความตายบนไม้กางเขน เพื่อถวายองค์เป็นเครื่องบูชาไถ่บาป หรือ ชดเชยบาปของเรามนุษย์ทั้งหลาย ดังนั้นพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ในช่วงสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์นี้จึงนำพาเราไปสู่เหตุการณ์สำคัญในช่วงสุดท้ายของพระชนม์ชีพของพระเยซูนั่นคือ การที่พระองค์เสด็จเข้าสู่กรุงเยรูซาเล็มอย่างเปิดเผย มีผู้คนซึ่งชื่นชอบในตัวพระเยซูเป็นจำนวนมากพากันมาต้อนรับพระองค์ด้วยการโบกกิ่งไม้ ซึ่งได้แก่กิ่งมะกอก ใบปาล์ม โห่ร้องด้วยความยินดีว่า "โฮซานนา" ซึ่งเป็นภาษาอารามาอิก มีความหมายว่า "ช่วยเราให้รอดพ้นด้วยเถิด" ซึ่งในที่นี้หมายถึงบุคคลนี้เป็นผู้นำความหวังที่ยิ่งใหญ่มาให้กับทุกคน ดังนั้นการเปล่งคำว่า "โฮซานนา" จึงเป็นการโห่ร้องด้วยความยินดีที่เปี่ยมล้นในดวงใจ เราระลึกถึงเหตุการณ์นี้ในวันอาทิตย์ใบลาน และในช่วงกลางอาทิตย์พิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ยังนำพาเราไปสู่ช่วงวิกฤติสูงสุดของเส้นทางชีวิตของพระเยซู ด้วยการนำเราให้ระลึกถึง การรับประทานอาหารค่ำครั้งสุดท้ายกับบรรดาศิษย์ ซึ่งในเหตุการณ์นี้เราพบว่าพระเยซูทรงถ่อมพระองค์ลงรับใช้ทุกคนด้วยการแสดงความสุภาพอย่างสูงสุด คุกเข่าลงเบื้องหน้าศิษย์ของพระองค์แล้วล้างเท้าบรรดาศิษย์เป็นการแสดงออกว่า ความเป็นผู้นำต้องพร้อมที่จะทำทุกอย่างสำหรับทุกคนได้ แล้วพระเยซูทรงออกไปภาวนาในสวนมะกอก เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมเผชิญกับบททดสอบสุดท้ายที่พระองค์จะต้องผ่านไปให้ได้ เราระลึกถึงเหตุการณ์นี้ในวันพฤหัสศักดิ์สิทธิ์ ต่อมาในวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ เราระลึกถึงเหตุการณ์ที่พระเยซูเจ้าทรงถูกพิพากษาลงโทษ ด้วยการตัดสินประหารชีวิตด้วยการตรึงบนไม้กางเขน แต่ก่อนหน้านั้นพระองค์ถูกเย้ยหยัน ถูกเฆี่ยนโบยตีและถูกทรมานทั้งด้วยถ้อยคำที่ประชดประชัน เหยียดหยาม ถูกถ่มน้ำลายรด และสุดท้ายถูกตรึงบนไม้กางเขนสิ้นพระชนม์ วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นช่วงเวลาที่เราระลึกถึง แผนการช่วยกู้ให้รอดที่พระเจ้าพระบิดาทรงมีต่อมนุษยชาติที่พระองค์ทรงรัก เราหันไปพิจารณาถึงสิ่งที่พระองค์ทรงทำในอดีตกับประชากรที่เลือกสรรของพระองค์ คือชนชาติอิสราเอล และ ที่สุดพระองค์ทรงส่งพระบุตรแต่เพียงพระองค์เดียวของพระองค์ลงมา เพื่อทำให้เป้าหมายสูงสุดของพระองค์สำเร็จไป ในค่ำวันเสาร์จึงเป็นช่วงเวลาตื่นเฝ้าสำหรับเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดคือการรอคอยการกลับคืนชีพของพระเยซู เราร้องเพลงอัลเลลูยาด้วยความชื่นชมยินดี ซ้ำหลายครั้ง เป็นการย้ำเตือนเราว่า บัดนี้แสงสว่างแห่งความรอดของพระเจ้าได้ฉายแสงมาถึงเราแล้ว เราทุกคนมีความหวังที่จะได้รับชีวิตนิรันดรแล้ว ในวันนี้จึงมีพิธีโปรดศีลล้างบาปของผู้เรียนคำสอนซึ่งได้เตรียมตัวด้วยการเรียนคำสอนมาตลอดหนึ่งปี และ ผ่านกระบวนการต่างๆมาจนถึงวันเวลาที่พร้อมจะเข้ามาเป็นคริสตชนเป็นลูกของพระเจ้าอย่างเต็มตัว
            พี่น้องครับ พ่อเชิญชวนพี่น้องทุกท่านทำสัปดาห์นี้ให้เป็นสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์สำหรับเราแต่ละคนจริงๆ ให้เราใช้เวลารำลึกเสมอๆ ถึงความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อเราทุกคน ให้เราใช้ชีวิตอย่างศักดิ์สิทธิ์ และฟื้นฟูความเชื่อความศรัทธาของเราให้เจิดจ้าแรงกล้ายิ่งขึ้น เพื่อย้ำเตือนใจเราไม่ให้หลงลืมพระคุณของพระองค์ เพื่อเราจะผูกพันชีวิตอยู่กับธรรมล้ำลึกแห่งการไถ่กู้ของพระองค์เสมอ
คพ.สุพจน์
..................................................................................................................

ข้างบัลลังก์นักบุญหลุยส์ :อาทิตย์นี้...พระทรมาน

ยากที่จะหาคนตายแทนคนชอบธรรมได้
ยากยิ่งกว่าที่จะหาคนตายแทนคนบาปได้

แต่ทรงรักเรามนุษย์แม้ยังเป็นคนบาปอยู่
และยอมตายแทนเราเพื่อให้เราประจักษ์แจ้ง
ในความรักที่ทรงมีต่อเรามนุษย์

กลับเป็นเราเองที่หลายครั้งหลงลืมไปว่าเราก็ยังเป็นคนบาป
กลับเป็นเราเองที่จับดาบฟาดฟันเพื่อนพี่น้อง
#ไม่ตายแทนไม่ว่าหนำซ้ำยังประสงค์ให้ต้องมีคนตายด้วย

คนจะดีได้หาใช่ด้วยการกดผู้อื่นให้ต่ำลง
แต่คือการถ่อมตนลงรับสภาพที่เป็นอยู่
เปลี่ยนแปลงและแก้ไขรักและรับใช้อย่างที่พระทำต่างหาก


AGNUS DEI

วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2559

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2016

พี่น้องที่รัก
                ตั้งแต่ช่วงปีแรกของการที่พ่อได้รับมอบหมายให้มาทำหน้าที่เจ้าอาวาสที่วัดเซนต์หลุยส์แห่งนี้ พ่อพบว่าวัดของเราเป็นสถานที่ ที่พี่น้องคริสตชนมาใช้บริการศาลาหลุยส์มารี เพื่อสวดภาวนาอุทิศให้กับผู้ล่วงลับเป็นจำนวนมากบ้างน้อยบ้าง บางปีมีจำนวนถึง 120 ศพ การจัดงานสวดอุทิศแด่ผู้ล่วงลับ ในแง่หนึ่งก็เป็นมิติทางสังคมด้วย หลายครั้งผู้มาร่วมไว้อาลัยกับเจ้าภาพก็เป็นบุคคลสำคัญในแวดวงสังคม บางครั้งมีผู้มาร่วมพิธีสวดเป็นจำนวนมากจนล้นออกไปถึงลานหน้าบ้านพักพระสงฆ์ ถ้าไม่มีฝนตกก็โชคดีไป ถ้าเกิดฝนฟ้าไม่เป็นใจก็ขาดความสะดวก ในแง่ของการต้อนรับแขกผู้มาร่วมงานก็ไม่ค่อยจะสะดวกมากนัก เพราะสถานที่จำกัด และ อากาศที่ร้อนอบอ้าวซึ่งเป็นปกติของกรุงเทพก็เป็นอุปสรรคของสมาธิในการร่วมใจภาวนา พ่อจึงตัดสินใจเสนอขออนุญาตจากทางผู้ใหญ่ของสังฆมณฑลเพื่อพิจารณาปรับปรุงสถานที่ให้เหมาะสมกับจุดประสงค์ในการใช้งานมากขึ้น บัดนี้หลังจากที่ผ่านการพิจารณาจากผู้ใหญ่แล้ว จึงได้มีการจัดเตรียมการเรื่องการออกแบบหลังคาคลุมลานเอนกประสงค์หน้าบ้านพักพระสงฆ์ และ การออกแบบปรับปรุงศาลาหลุยส์มารี ด้วยการตกแต่งภายในเพิ่มเติม แยกส่วนของบริเวณตั้งศพ กับบริเวณผู้มาร่วมพิธีด้วยห้องกระจก ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ทำทางลาดสำหรับขึ้นลงของรถเข็นผู้พิการ ผู้สูงอายุ จัดทำหลังคาคลุมทางเดินจากบริเวณทางเข้าวัดฝั่งตู้ศีลจนถึงทางเดินไปห้องสุขา และทางเดินริมรั้วข้างบ้านสมณทูตถึงถนนใหญ่สำหรับการสัญจรของนักเรียน รวมไปถึงการจัดภูมิทัศน์ โดยรอบบริเวณวัด ติดตั้งไฟส่องสว่างบริเวณรอบวัดเพิ่มเติม  การออกแบบได้สำเร็จเสร็จสิ้นแล้ว ได้รับการอนุญาตก่อสร้างจากสำนักงานเขตเรียบร้อยแล้ว รวมถึงมีการจัดจ้างบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างแล้ว
                พ่อจึงอยากเรียนพี่น้องว่า นับจากนี้ไปเป็นเวลาประมาณ 8 เดือนจะมีการก่อสร้างปรับปรุงสถานที่ดังกล่าวคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณก่อนการฉลองคริสต์มาสในปีนี้ สิ่งที่จะขาดหายไปบ้างในระหว่างนี้คือ สถานที่จอดรถจะลดน้อยลงไปกว่าที่เคยประมาณ 30 คัน และ ความไม่สะดวกในบางด้านอาจเกิดขึ้นบ้าง อันเนื่องมาจากการก่อสร้าง นอกจากนี้บริเวณด้านหน้าของบ้านพักพระสงฆ์จะถูกปิดกั้นเนื่องจากเป็นพื้นที่ก่อสร้าง พี่น้องที่จะติดต่อสำนักงานวัด ต้องเข้าจากบริเวณทางด้านข้างคือเดินเข้ามาทางด้านห้องสุขาแล้วเลี้ยวไปทางด้านข้างบ้านพักพระสงฆ์ได้ และ การให้บริการสถานที่ตั้งศพสำหรับการสวดภาวนาอุทิศแด่ผู้ล่วงลับคงต้องหยุดไปชั่วคราว ซึ่งพี่น้องสามารถติดต่อขอใช้บริการได้จากวัดใกล้เคียง อาทิ วัดกาลหว่าร์ วัดพระมหาไถ่ ฯลฯ ดังนั้นจึงเรียนประชาสัมพันธ์มายังพี่น้องได้ทราบทั่วกัน พ่อหวังว่าเมื่อโครงการแล้วเสร็จวัดเซนต์หลุยส์จะสามารถให้การบริการพี่น้องได้ดียิ่งๆขึ้น ขอคำภาวนาจากพี่น้องทุกท่านเพื่อให้ทุกอย่างสำเร็จ ปลอดภัย ตามเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ครับ

พ่อสุพจน์
............................................................................................
ข้างบัลลังก์นักบุญหลุยส์ : กลอนพาไป
               
อยากจะสูง            เปี่ยมล้น                คุณธรรม
                จงหมั่นทำ            ความดี                   ชีวีประจักษ์
                อยากจะสูง            ดั่งพระสอน         ก็ต้องรัก
                ดีแค่มัก                 ทำแต่ปาก              สูงไม่จริง
                                พระวาจา               ของพระเจ้า          ในวันนี้
                                สอนเราดี               จงมองตน             ให้ดีก่อน
                                ก่อนจะเริ่ม            เปิดปาก                 ว่าคนจร
                                มองเราก่อน          ว่าเพียบพร้อม      ดีหรือยัง
                เป็นมนุษย์             เหมือนเหมือนกัน               ล้วนบุตรพระ
                พระสละ               เราจึงได้                                 มีวันนี้
                วันที่ไร้                   บาปร้ายต้อง                          สิ้นชีวี
                เพราะความดี        ที่พระพลี                               ชีพเพื่อเรา
                                เราจึงควร              ใจกว้าง                  ทำอย่างพระ
                                เลิกกล่าวประ        นามคน                  ให้ขมขื่น
                                วิจารณ์ไว               ตัดสินจน               ไร้ที่ยืน
                                ด่าคนอื่น               ปากไวจน              คนต้องตาย
                คำพระสอน          ให้เราสูง                ด้วยปฏิบัติ
                ทั้งความรัก            ความเมตตา          มหาศาล
                แล้วเราจะ              รอดพ้น                  จากบ่วงมาร
                จะพบพาน            พบความสุข          ในพระองค์

AGNUS DEI

วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2559

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม 2016

พี่น้องที่รัก
                ช่วงเวลามหาพรตล่วงเข้ามาถึงสัปดาห์ที่ 4 แล้ว พ่อหวังว่าพี่น้องคงได้ใช้เวลามหาพรตนี้มีข้อตั้งใจที่จะฝึกจิตใจของเราให้เข้มแข็งในหลายๆด้านนะครับ หลายคนมีข้อตั้งใจที่ดีที่ได้ปฏิบัติอย่างต่อเนื่องมาในเทศกาลมหาพรตนี้แล้ว น่าชื่นชมความพยายามที่จะ ลด ละ เลิก จากความต้องการฝ่ายโลกียวิสัยของเรา ขอพระเจ้าโปรดประทานพระพรค้ำจุนพี่น้อง ที่จะปฏิบัติตามความตั้งใจนั้นจนสำเร็จตลอดช่วงเทศกาลมหาพรตนะครับ วันนี้พ่อขอนำบทรำพึงเกี่ยวกับมหาพรตมาฝากครับ อ่านแล้วได้ข้อคิด ช่วยเราไตร่ตรองชีวิตได้ละเอียดยิ่งขึ้นครับ

พ่อสุพจน์

มหาพรต เสียสละ สมถะ ทั้งกายใจ

มหาพรต มาหาพระ อย่าเลยละ ทำความดี

มหาพรต งดราคี ความไม่ดี เห็นแก่ตัว

มหาพรต อดอาหาร นำวิญญาณ พ้นเมามัว

มหาพรต ละความชั่ว จงกลับตัว และกลับใจ

มหาพรต ให้อภัย พลาดพลั้งไป จงคืนดี

มหาพรต จงให้ทาน ละสนุกสนาน ฝ่ายโลกีย์

มหาพรต งดราวี เลิกต่อตี เบียดเบียนกัน

มหาพรต งดสุรา ลดวาจา ที่เดียดฉันท์

มหาพรต เลิกพนัน หวยเบอร์นั้น ไม่นำพา

มหาพรต จงพลีกรรม สวดประคำ ทุกเวลา

มหาพรต ลดโทสา ไปมิสซา ฟังคำสอน

มหาพรต 40วัน จงแบ่งปัน ด้วยอาทร

มหาพรต ไม่สร้าง ความเดือดร้อน นำพระพร สู่มวลชน
(ขอบคุณที่มา : นิตยสารแม่พระยุคใหม่)

 ........................................................................................
ข้างบัลลังก์นักบุญหลุยส์ :วันอาทิตย์นี้...สีชมพู

ความละโมบที่อยากจะได้ อยากจะมี และอยากจะเป็น
ทำให้ลูกทรพีเอ่ยปากแช่งบิดาด้วยการขอให้แบ่งแบ่งสมบัติ

ลูกอีกคนดูเหมือนต่าง แต่ก็ไม่ต่าง
ไม่ใช่ว่าไม่อยากได้ อยากมี หรืออยากเป็น
แต่อาจเพราะกลัวว่าจะดูอกตัญญู กลัวจะเสียหน้า กลัวจะดูไม่ดี
เลยเลือกอมพะนำความในใจเอาไว้ แต่แล้วก็เปิดเผยมาในที่สุด

จะลูกคนโต หรือ ลูกคนเล็ก ก็ไม่ต่าง
มันมีอยู่ในธรรมชาติ มันเป็นกันได้ทุกคน

เราอาจเคยเสเพล เกกมะเหรกเกเร คิดน้อย หรือไม่ค่อยคิด แบบลูกคนเล็ก
เราอาจเคยบ่นพร่ำโยเย ใจแคบ เพราะอิจฉากับโอกาสที่น้องได้รับ แบบลูกคนโต
ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ไม่ว่าจะเป็นนานแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นบ้างไม่เป็นบ้าง
ในชีวิตจริง เราล้วนเคยผ่านการเป็นลูกแบบนี้มาบ้างไม่มากก็น้อย

แต่ที่เรารู้ แม้บางที ไม่อยากรับรู้ เลยทำเหมือนไม่รู้
คือ พระรักเรามาก รักเรามากจริงจริง รักเรามากจริงจัง
ไม่ว่าเราจะเป็นแบบไหน เป็นอะไร เป็นอย่างไร ทรงรักเราในแบบที่เราเป็น

อาทิตย์นี้เราจึงเห็น อาทิตย์นี้เราจึงเข้าใจ ว่า พระเจ้าใจดี
ความรอดพ้น พระเมตตา และความรักของพระเพื่อเราทุกคน
ไม่ว่าจะวัดวาไม่เคยมา จะมาบ้างไม่มาบ้าง จะมาช้าและกลับก่อน จะมาประจำ
จะสำนึกไม่สำนึก จะใส่ใจหรือละเลย จะคุ้นเคยหรือเคยชิน จะดีล้นหรือบาปหนา

บางทีสิ่งที่อยู่ในคำพระ ก็ไม่ได้อยู่แค่ในคำที่ ได้ยิน
ใช้หูฟัง ก็นึกได้แต่ว่า นี่มันเรื่องของเขา ลองใช้ใจฟังบ้าง จะรู้ได้ว่านี่ก็เรื่องของเรา
บทเรียนที่ได้ฟังในวันนี้ จึงไม่ใช่แค่เรื่องเขา แต่เป็นเรื่องการดำเนินชีวิตของเราด้วย


FB: AGNUS DEI