พี่น้องที่รัก
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
พระสงฆ์ไปร่วมสัมมนาประจำปี ที่บ้านผู้หว่านในหัวข้อ “350 ปี
รากฐานพระศาสนจักรคาทอลิกไทย : เปิดประตูสู่มิติใหม่งานประกาศข่าวดีของสงฆ์ไทย”
เราได้มีโอกาสไตร่ตรองประวัติความเป็นมาของการทำงานของมิสชันนารีในอดีต
ทั้งในแง่รูปแบบ และ วิธีการประกาศข่าวดีที่ใช้ในอดีตซึ่งเกิดผลดีสู่ปัจจุบัน
จากวิทยากรที่มีคุณวุฒิ และประสบการณ์ที่พอกพูนหลาย ๆ ท่าน ทั้งจากพระสังฆราช
พระสงฆ์ และ ฆราวาส ทำให้ได้รับแง่คิดที่ดีที่สามารถนำไปปฏิบัติเป็นรูปธรรมได้มากมาย
เดี๋ยวนี้พระศาสนจักรคาทอลิกไทยไม่ได้มีเพียงมิชชันนารีชาวต่างประเทศที่มาช่วยทำงานประกาศข่าวดีเพียงอย่างเดียวเหมือนแต่ก่อนแล้ว
พระศาสนจักรคาทอลิกไทยมีมิสชันนารีชาวไทยที่ไปทำงานในเขตที่ยังไม่เคยได้รับการเผยแผ่ข่าวดีมาก่อน
รวมไปถึงการออกไปทำงานเผยแผ่ข่าวดีของพระเจ้าในดินแดนประเทศอื่นอีกด้วย
สิ่งที่พระศาสนจักรคาทอลิกไทยในปัจจุบันได้มีแนวทางในการเผยแผ่ข่าวดีสำหรับคริสตชนคาทอลิกที่เป็นคาทอลิกมานานแล้วเพื่อฟื้นฟูความเชื่อ
ความรักในพระเจ้าให้กลับมากระชุ่มกระชวย มีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
โดยใช้รูปแบบ และ วิธีการของ วิถีชุมชนวัด ซึ่งบัดนี้ได้มีการนำ วิถีชุมชนวัด
มาแนะนำและเริ่มเพาะหว่านพระวาจาของพระเจ้าผ่านกระบวนการวิถีชุมชนวัดไปทุกวัดทั่วประเทศไทยแล้ว
สิ่งที่พระสมณทูต พอล ชาง อินนัม
ได้นำมาปาฐกถาและให้ข้อคิดที่มีประโยชน์ที่พ่ออยากนำมาเสนอให้กับพี่น้องในประเด็นสำคัญคือ
พระคุณเจ้าได้แบ่งปันเรื่องของการประกาศข่าวดีของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส
ให้กับที่ประชุมสงฆ์ได้ฟังว่า ตั้งแต่พระองค์ได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปา
พระองค์ก็มีแนวทางชัดเจนในการ นำพระเยซูไปสู่มวลมนุษย์ และ
นำมวลมนุษย์ไปเป็นหนึ่งเดียวกับพระคริสตเจ้า ผู้เป็นหนทาง ความจริง และชีวิต เพื่อให้ผู้ที่ได้รับข่าวดีพระวรสาร
จะได้มีหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความชื่นชมยินดี พระคุณเจ้ากล่าวว่า
ผู้ที่น้อมรับความรอดพ้นที่พระเยซูเจ้าทรงนำมาให้
จะได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระจากบาป ความเศร้าโศก ความเดียวดาย และ ชีวิตภายในที่ขาดแก่นแท้ของชีวิต
เพราะความชื่นชมยินดีในองค์พระคริสตเจ้านั้นจะบังเกิดขึ้นในชีวิตของเขาอย่างสม่ำเสมอ
ไม่จางหายไปเลย
พ่อก็นำเอาเกร็ดเล็ก
เกร็ดน้อยจากการประชุมสัมมนาพระสงฆ์ทั่วถิ่นไทยประจำปี
มาเล่าแบ่งปันกับพี่น้องบ้างตามเนื้อที่ที่เอื้ออำนวยในวันนี้เพียงแค่นี้นะครับ
พ่อสุพจน์
....................................................................................
ข้างบัลลังก์นักบุญหลุยส์ : Shine Your Light, Bright Your Day
สารัตถะของดวงไฟ
คือให้ความสว่าง
เมื่อเปิดมัน
ไม่ว่าจะกลางวัน หรือกลางคืน
มันก็จะให้ความสว่าง
ในสถานที่ที่สว่างกว่าความสว่างของมัน
อาจเห็นไม่ชัด แต่มันก็คงให้ความสว่าง
ในสถานที่ที่มืดกว่าความสว่างของมัน
มันก็ชัดเจนขึ้น มันก็ให้ความสว่าง
ในสถานที่ที่สว่างมันอาจดูไร้ค่า ไร้ประโยชน์
แต่คราที่มืด แม้มันอาจสว่างเพียงน้อยนิด
มันก็จำเป็น และมันก็ทำหน้าที่ของมัน
#คนดีก็เช่นกัน
#ความรักก็เช่นกัน
จงอย่าท้อถอยในการทำดีเลย
จงอย่าท้อถอยในความรักเลย
Shutter Lover : เรื่องและภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น