พี่น้องที่รัก
วันอาทิตย์นี้วัดเซนต์หลุยส์ได้รับเกียรติอย่างยิ่งที่มีโอกาสได้ต้อนรับพระธาตุนักบุญยอห์นที่
23 และ พระธาตุนักบุญยอห์นปอลที่2 พระสันตะปาปา
ในวัดของเรา
นามของพระสันตะปาปาผู้ล่วงลับทั้งสองพึ่งจะได้รับการประกาศจากพระศาสนจักรสากลให้จารึกอยู่ในสารบบของนักบุญโดยพระสันตะปาปาฟรังซิสที่กรุงโรมเมื่อเร็วๆนี้
ดังนั้นวันนี้พี่น้องจะมีโอกาสได้ถวายสักการะ ภาวนาวอนขอ และ
มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับพระธาตุของท่านนักบุญทั้งสองอย่างใกล้ชิด
ซึ่งน่าจะเตือนใจเราทุกคนให้หันมามองเป้าหมายสูงสุดของการเกิดมาของเราคริสตชนแต่ละคน
นั่นคือการก้าวเดินมุ่งหน้าไปยังเมืองสวรรค์ ขอท่านนักบุญทั้งสองโปรดอ้อนวอนพระเจ้า
เพื่อเราแต่ละคนจะได้บรรลุถึงเป้าหมายนี้ในที่สุด
เพื่อเราจะเป็นหนึ่งในบรรดาผู้รับเลือกสรรของพระเจ้าที่มีโอกาสได้ชื่นชมพระสิริมงคลอันรุ่งเรืองของพระองค์ตลอดนิรันดรพร้อมกับบรรดานักบุญทั้งหลายด้วย
พ่อสุพจน์
ความมหัศจรรย์ของพิธีบูชาขอบพระคุณ
(ต่อจากคราวที่แล้ว)
นักบุญทั้งหลายยกย่องพิธีบูชาขอบพระคุณอย่างสูงส่ง
ข้อความต่อไปนี้เป็นการรวบรวม
คำยกย่องสรรเสริญของบรรดานักบุญทั้งหลายที่มีต่อพิธีบูชาขอบพระคุณ
นักบุญ ลอเรนซ์ จัสติเนียน
"ถ้อยคำภาษามนุษย์ไม่สามารถกล่าวถึงคุณประโยชน์ยิ่งใหญ่และพระพรมากมายที่เราได้รับจากพิธีบูชาขอบพระคุณได้หมดสิ้น
คนบาปได้รับการอภัย คนดีบรรลุถึงคุณความดีที่สูงส่งยิ่งขึ้น
ความขาดตกบกพร่องของเราได้รับการปรับปรุงแก้ไข
ปมแห่งพฤติกรรมของเรามนุษย์ที่ผิดหลงไปจากความดีงามได้รับการขุดรากถอนโคนออกเสีย"
ฟอร์เนรีอุส
"การไปร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณด้วยความศรัทธา และ อยู่ในฐานะพระหรรษทาน
ทำให้เรามนุษย์ได้รับประโยชน์และความโปรดปรานจากพระเจ้ามากกว่า
การออกเดินทางไปแสวงบุญเป็นระยะทางไกลๆและใช้เวลายาวนานเสียอีก"
นักบุญ อัลฟองโซ
"เหตุผลที่ว่าทำไมพิธีบูชาขอบพระคุณถึงมีคุณค่าสูงส่งยิ่งนักนั้น
เพราะพิธีบูชาขอบพระคุณมีคุณค่าเอนกอนันต์ เหลือคณานับ ในขณะที่ คำภาวนา
คุณความดีทั้งหมดของเหล่าเทวดา และ นักบุญทั้งหลาย แม้ว่าจะมีคุณค่าสูงส่ง และ เสริมพระสิริมงคลของพระเจ้าอย่างมากมายก็ตาม
แต่คุณงามความดีเหล่านั้นก็ยังมีขอบเขตจำกัด
ด้วยเหตุนี้สิ่งเหล่านั้นจึงไม่สามารถเปรียบเทียบได้กับพิธีบูชาขอบพระคุณที่มีพระคุณเอนกอนันต์เพียงพิธีเดียวเลย
ถ้าจะเปรียบเทียบแล้วก็เหมือนกับว่า สิ่งสร้างของพระเจ้าทั้งมวล
ทั้งในสวรรค์และบนแผ่นดิน ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว ภูเขา ทะเล มวลมนุษย์ เทวดา
ไม่มีสิ่งใดที่จะมาเทียบเทียมกับพระเจ้าได้ ดังนั้นเราจึงกล่าวได้ว่า
คุณความดีใดๆที่ว่าศักดิ์สิทธิ์สูงส่งแค่ไหน
ก็ไม่เทียบเทียมเท่ากับพิธีบูชาขอบพระคุณได้ เพราะ
พิธีบูชาขอบพระคุณนั้นคือองค์พระผู้ทรงเป็นเจ้าเอง"
(ยังมีต่อ)
.................................................................................................
สวัสดีพี่น้องที่รัก
อาทิตย์ที่ 19 เทศกาลธรรมดา
“ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าและพระเจ้าของเรา
พระองค์ทรงสมควรที่จะได้รับพระสิริพระเกียรติและเดชานุภาพ
เพราะพระองค์ได้ทรงสร้างสรรพสิ่ง และโดยพระดำริสิ่งเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นและเป็นอยู่ตามชอบพระทัยของพระองค์”(วว.4:11) ข้าแต่พระเจ้า
ขอได้ทรงโปรดทวีความเชื่อแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายด้วยเถิด
ชีวิตของเราที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคนานาชนิด สิ่งที่สำคัญคือความเชื่อในชีวิตของเรา
“คนที่ใจเย็น” จะมีลักษณะอย่างหนึ่งคือ “นิ่ง” การนิ่งไม่ใช่การอยู่เฉย
แต่เป็นการนิ่งสงบและอธิษฐานกับพระเจ้า ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าที่เพียรรอคอย
การนิ่งและอธิษฐานและไว้วางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้าจึงเป็นคุณสมบัติที่ยิ่งใหญ่และทรงพลังมากกว่าการพูดมากๆเสียอีก
ขอย้ำว่า มิใช่เป็นคุณสมบัติธรรมดา แต่เป็นคุณสมบัติที่ยิ่งใหญ่ ตอนที่ถูกทำร้าย
ถูกเขากดขี่ข่มเหง เฆี่ยนตีและทรมาน แต่ไม่เคยทรงปริปากบ่นเลย
เขาถูกนำตัวไปเหมือนลูกแกะที่ถูกนำไปฆ่า เหมือนแกะที่เงียบอยู่ต่อหน้าคนตัดขน
โดยที่เขาไม่เคยปริปากบ่นเลย คุณสมบัติของคนที่มีความเชื่อ นิ่งเมื่อไม่เข้าใจกัน
เพราะความวุ่นวาย การปรักปรำ กล่าวโทษ จากคนที่มีนิสัยที่ชอบเข้าใจผิด คิดเล็กคิดน้อย
ชวนทะเลาะ ใส่ร้ายป้ายสี เป็นกิจการของมาร (รม. 1:29-31)การต่อสู้กับกิจการของมาร
เราต้องใช้ความดีของพระเจ้าต่อสู้ อย่าพ่ายแพ้แก่ความชั่ว
แต่จงชนะความชั่วด้วยความดี บางครั้งเราต้องปล่อยให้เขาปรักปรำ ใส่ร้าย
ปล่อยให้เขาข่มเหง ปล่อยให้เขาทำร้าย โดยใช้ความนิ่งเข้าต่อสู้
ใช้ความอ่อนโยนเข้าต่อสู้ความก้าวร้าว สิ่งที่อ่อนโยนสามารถบดขยี้กระดูกได้
ใช้ความไว้วางใจสยบความวิตกกังวล ใช้การไว้วางใจในพระสัญญาของพระเจ้าปราบสงสัย
เพราะตามปกติของมนุษย์ในเนื้อหนัง เมื่อถูกทำร้าย ก็มักจะหาทางแก้แค้น
และสาปแช่งคนที่ทำร้าย และเมื่อถูกใส่ร้ายป้ายสี ถูกเขาดูถูกเหยียดหยาม
ก็จะรู้สึกโกรธและพูดถึงข้อเสียของอีกฝ่ายเพื่อเป็นการทำลายเขาหรือเอาคืน
จงอย่าตอบแทนการร้ายด้วยการร้าย แต่ให้เราตอบแทนการร้ายด้วยความดี
ชนะกิจการของมารด้วยกิจการของพระจิตเจ้า ชนะความเกลียดด้วยความรัก ชนะความสงสัยด้วยความเชื่อ
จงระลึกเสมอว่า "มีอะไรที่ให้ผมรับใช้อีกไหมครับ"
ชีวิตเป็นของมีค่าเพราะพระองค์ทรงรักเรามนุษย์ ไม่ใช่เราเพราะมนุษย์รักพระ
ชีวิตของเราแขวนอยู่กับพระเจ้า ฉะนั้นจงมั่นใจในความรักของพระองค์
ชีวิตของเราจะมีค่าหรือไม่มีค่าขึ้นอยู่กับการยอมรับของตน
พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยและเป็นพละกำลังของข้าพเจ้า
ทรงเป็นความช่วยเหลือในยามยากลำบากเสมอ ความกลัวคือศัตรูที่บ่อนทำลายความเชื่อ
ดุจพายุซัด คลื่นลมแรง โคลงเคลง “ทำใจให้ดีไว้ เป็นเราเอง อย่ากลัวเลย”
หรืออีกนัยหนึ่ง “จงนิ่ง และรู้เสียเถอะว่า เราคือพระเจ้า อย่ากลัวเลย”
ไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงความเชื่อได้ เราจึงต้องวิงวอนขอความเชื่อทุกวันเวลา
เพื่อจะได้มีชีวิตเหมือนพระองค์ ไม่หวั่นไหวเลย
คพ.พงษ์เกษม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น